Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อ่านแล้วก็งงๆ ใครมีคำอธิบายดีดี ช่วยหน่อยนะ(กรณีศึกษา)
ปกติบริษัทจดทะเบียนจะปรับลดราคาพาร แต่กรณีนี้ปรับราคาเพิ่มขึ้น
จากทุนที่จดทะเบียนเดิม หุ้นคงต้องลดสัดส่วน ลดลง (ไปห้าหมื่นเจ็ดพันกว่าล้านหุ้น)

วันที่/เวลา 14 มิ.ย. 2555 09:29:41
หัวข้อข่าว เงินปันผล, ปรับราคาแปลงหุ้นกู้, เพิ่มทุน, เปลี่ยน Par, ออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้พนักงาน, และเรียกประชุมผู้ถือหุ้นปี 2555
หลักทรัพย์ BTS
แหล่งข่าว BTS
รายละเอียดแบบเต็ม

การเพิ่มทุน

เรื่อง : การเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 13 มิ.ย. 2555
รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้กับ : บุคคลในวงจำกัด
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
ชื่อบุคคลในวงจำกัดที่ได้รับจัดสรร :
นางสาวสุภาวดี สกุลชื่นเจริญ
ราคาจองซื้อ (บาทต่อหุ้น) : 1.00
จัดสรรให้กับ : เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 24
จำนวนหุ้นสามัญที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 24
จำนวนรวมของหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 24
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) : 0.64
หมายเหตุ :
(1) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามหุ้นกู้แปลงสภาพที่บริษัทฯ
เป็นผู้ออกตามที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 16
พฤศจิกายน 2553 เพิ่มเติมอีกจำนวนไม่เกิน 24 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.64 บาท
(2) ในกรณีที่มีหุ้นเหลือจากการจัดสรรหุ้นตามข้อ (1) ให้จัดสรรหุ้นที่เหลือดังกล่าว ให้แก่
นางสาวสุภาวดี สกุลชื่นเจริญ ซึ่งเป็นพนักงานที่ไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ ในราคาหุ้นละ 1
บาท โดยราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ดังกล่าว
เป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ และไม่ต่ำกว่าราคาตลาด

เป็นไปเพื่อไม่ให้เกิดเศษหุ้นภายหลังการคำนวณเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น
อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ
ซึ่งจะได้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 เพื่อพิจารณาอนุมัติ
______________________________________________________________________

การเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (PAR)

เรื่อง : การรวมมูลค่าที่ตราไว้ (รวม par)
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 13 มิ.ย. 2555
มูลค่าที่ตราไว้(Par) เดิม(บาท/หุ้น) : 0.64
มูลค่าที่ตราไว้(Par) ใหม่(บาท/หุ้น) : 4.00
หมายเหตุ :
ในการคำนวณเพื่อเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ ตามอัตราการคำนวณดังกล่าว (6.25 หุ้นเดิม ต่อ
1 หุ้นใหม่) ให้แก่ผู้ถือหุ้นแต่ละราย หากมีเศษหุ้นเดิมเหลือจากการคำนวณ
ซึ่งจำนวนเศษหุ้นเดิมดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะแปลงเป็นหุ้นใหม่ บริษัทฯ
จะตัดเศษหุ้นเดิมนั้นทิ้งทั้งจำนวน โดยผู้ถือหุ้นแต่ละรายที่ถูกตัดเศษหุ้นเดิมทิ้ง
จะได้รับชดใช้ค่าเศษหุ้นเดิมที่ถูกตัดทิ้งในราคาเท่ากับราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯ
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555
ตามสัดส่วนเศษหุ้นเดิมที่ถูกตัดทิ้ง ผ่านทางบริการของบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ภายในกำหนด 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ แล้วเสร็จ
______________________________________________________________________

การออกหลักทรัพย์แปลงสภาพ

เรื่อง : ออกหลักทรัพย์แปลงสภาพ
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 13 มิ.ย. 2555
จัดสรรให้กับ : กรรมการและพนักงาน(ESOP)
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : ใบสำคัญแสดงสิทธิ
จำนวนหลักทรัพย์ที่จัดสรร (หน่วย) : 16,000,000
: หุ้นสามัญ
หุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลัก
ทรัพย์แปลงสภาพ
จำนวนหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 16,000,000
ราคาเสนอขาย (บาทต่อหน่วย) : 0.00
ลักษณะของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ชื่อใบสำคัญแสดงสิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท บีทีเอส
กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่ออกให้แก่พนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ครั้งที่ 2 (BTS-WB)
อัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น) : 1 : 1

อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ :
5 ปี






หมายเหตุ :
บริษัทฯ ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
ที่ออกให้แก่พนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ครั้งที่ 2 (BTS-WB) ภายใต้โครงการ BTS Group ESOP 2012
จำนวนไม่เกิน 16,000,000 หน่วย โดยบริษัทฯ จะจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่พนักงานของบริษัทฯ
และบริษัทย่อย ที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการ โดยไม่คิดมูลค่า
และกำหนดอัตราการใช้สิทธิที่ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ต่อหุ้นสามัญของบริษัทฯ 1 หุ้น
โดยราคาการใช้สิทธิจะเท่ากับราคาที่สูงกว่าระหว่างราคาตาม (ก) และ 0.79 บาท คูณด้วย 6.25 และบวกด้วย 1
สตางค์ ทั้งนี้ ราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว
เป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นและไม่ต่ำกว่าราคาตลาด
โดยที่:
(ก) หมายถึง ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลัง 7
วันทำการติดต่อกันก่อนวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 ของบริษัทฯ เพื่อขออนุมัติให้บริษัทฯ
ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ
0.79 บาท เป็นราคาที่คำนวณจากราคาปิดเฉลี่ยในช่วงระยะเวลา 30 วันทำการติดต่อกันของหุ้นสามัญของบริษัทฯ
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติให้เสนอวาระต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555
เพื่อขออนุมัติให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ คือ ระหว่างวันที่ 27 เมษายน 2555 และ 12
มิถุนายน 2555 (ข้อมูลจาก SETSMART ใน www.setsmart.com ของตลาดหลักทรัพย์ฯ)
"ราคาตลาด" หมายถึง ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลัง 7
วันทำการติดต่อกันก่อนวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 ของบริษัทฯ เพื่อขออนุมัติให้บริษัทฯ
ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะได้แจ้งให้ทราบราคาการใช้สิทธิตามสูตรการคำนวณดังกล่าวข้างต้น ภายในเวลา 9.00 น.
ของวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2555
ผ่านช่องทางเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ
______________________________________________________________________

การเพิ่มทุน

เรื่อง : การเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 13 มิ.ย. 2555
รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้กับ : การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการและพนักงาน(ESOP)
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 16,000,000
จำนวนหุ้นสามัญที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 16,000,000
จำนวนรวมของหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 16,000,000
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) : 4.00
______________________________________________________________________

การพิจารณาปันผล

เรื่อง : จ่ายปันผลเป็นเงินสด
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 13 มิ.ย. 2555
ชนิดการปันผล : จ่ายปันผลเป็นเงินสด
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) : 28 มิ.ย. 2555

วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รั : 29 มิ.ย. 2555
บปันผล ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์
วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 26 มิ.ย. 2555
จ่ายให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญ
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาท) : 0.64
วันที่จ่ายปันผล : 09 ส.ค. 2555
จ่ายปันผลจาก :
งวดดำเนินงานวันที่ 01 เม.ย. 2554 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2555
หมายเหตุ :
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2555 ในส่วนที่เหลืออีกเป็นจำนวนเงินไม่เกิน
1,379.8ล้านบาท ดังนั้น อัตราเงินปันผลต่อหุ้นจะขึ้นอยู่กับสมมุติฐาน ดังนี้
(1) หากไม่มีการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพในช่วงระหว่างวันที่ 13 - 22 มิถุนายน 2555
จะทำให้หุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดคงเดิมที่ 57,252,980,553 หุ้น
(2) หากมีการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพที่คงเหลือทั้งจำนวน 9,945.0 ล้านบาท
จะทำให้หุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 68,952,980,553 หุ้น
ซึ่งจากสมมุติฐานดังกล่าวข้างต้น จะทำให้อัตราเงินปันผลต่อหุ้นอยู่ในช่วงระหว่าง 0.02001 - 0.02410
บาทต่อหุ้น (2.001 - 2.410 สตางค์ต่อหุ้น) ทั้งนี้ บริษัทฯ
จะแจ้งให้ทราบอัตราเงินปันผลต่อหุ้นที่แน่นอนอีกครั้ง ภายในเวลา 9.00 น. ของวันที่ 25 มิถุนายน 2555
(ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 มิถุนายน 2555) ผ่านช่องทางเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
______________________________________________________________________

กำหนดการประชุมผู้ถือหลักทรัพย์

เรื่อง : กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 13 มิ.ย. 2555
วันประชุม : 26 ก.ค. 2555
เวลาเริ่มประชุม (h:mm) : 15 : 00
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record : 28 มิ.ย. 2555
date)
วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร : 29 มิ.ย. 2555
่วมประชุมตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์
วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม : 26 มิ.ย. 2555
วาระการประชุมที่สำคัญ :
- การจ่ายปันผล
- การเพิ่มทุน
- การออกหลักทรัพย์แปลงสภาพ
- การเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (par)
สถานที่ประชุม : โรงแรมอิสติน มักกะสัน กรุงเทพฯ ห้องบอลรูม 1 ชั้น 8
เลขที่ 1091/343 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
______________________________________________________________________

การเพิ่มทุน

เรื่อง : การเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 13 มิ.ย. 2555
รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้กับ : เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) : 0.64
หมายเหตุ :
เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 (BTS-W2)

เพื่อไม่ให้เกิดเศษหุ้นภายหลังการคำนวณเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น
อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ
ซึ่งจะได้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 เพื่อพิจารณาอนุมัติ
______________________________________________________________________

การเพิ่มทุน

เรื่อง : การเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 13 มิ.ย. 2555
รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้กับ : เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 2
จำนวนหุ้นสามัญที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 2
จำนวนรวมของหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 2
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) : 0.64
______________________________________________________________________
สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์
ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ
ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้
และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย
หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ
และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้

บริษัทยังมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์)จากหุ้นละ 0.64บาท
เป็น 4 บาทต่อหรือเปลี่ยนแปลงสัดส่วนหุ้นจาก6.25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่

1. หุ้นเยอะ มันหนักหนะ
2. par 0.64 ความน่าเชื่อถือ < par 4 หนะ
3. ครั้งก่อนลด par เพราะต้องการกวาดขยะ แต่บัดนี้ไม่ต้องแล้ว ต้องแต่งตัวให้สมฐานะเสี่ยหนะ

สมองอันน้อยนิด คิดได้เพียงเท่านี้หนะ

Is there any benefit to the current share holders?

ข้อดีอีกอย่างน่าจะทำให้ กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นด้วยครับ

firstee เขียน:ข้อดีอีกอย่างน่าจะทำให้ กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นด้วยครับ

ถึง EPS เพิ่มแต่ PE ไม่ได้ลดลงครับ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีผลกับการประเมินมูลค่าบริษัท

eps จริงเพิ่มไม่เพิ่มอยู่ที่กำไรเพิ่มหรือไม่ ที่แน่ ๆ หลังปรับ par การเพิ่มแต่ละ step เท่ากับเพิ่มทีเดียว 5 ช่องเชียวนะ

พิมพ์ผิดครับ เพิ่มทีละ 2 ช่อง ไม่ใช่ 5 ช่องครับ ขออภัย

ลองลำดับเหตุการณ์ที่จะทำ
- ปันผลออก 0.02001 - 0.02410 บาทต่อหุ้น (ตัวเลขจริง รอดูหลังแปลงหุ้นกู้ที่เหลือ คือ Dividend Payout Ratio ที่มาจาก Earning คงที่ แต่ที่แปรไปคือถ้าแปลงหุ้นกู้มาก ก็จะได้ปันผลน้อย) จำนวนหุ้นคำนวณที่ี par เก่า มองภาพรวม เอาเงินสดออกราว 1,380ล.
ถ้าหุ้นกู้ที่เหลือไม่แปลงเลย ก็ใช้เงินแจก 0.0241* 57,252,980,553 = 1,379,796,831.33
ถ้าหุ้นกู้ที่เหลือแปลงหมด ก็ใช้เงินแจก 0.02001* 68,952,980,553 = 1,379,749,140.87

- เปลี่ยนพาร์ 0.64 -> 4
=> 4/0.64 = สัดส่วนเป็น 625% หรือที่บอกว่า "6.25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่"
............สภาพคล่องของหุ้นในตลาด เปลี่ยนเป็น 6.25 เท่า
- แล้วออก BTS-WB ESOP (สิทธิ์ 5ปี) 0บ. 16 ล.หุ้น


(ยังคำนวณไม่เจอ ว่า 24 หุ้น บอกว่าเพื่อไม่ให้เกิดเศษหุ้นหลัง par ใหม่ แต่ขี้เกียจหา เพราะไม่มีนัยสำคัญอะไรมาก)




ถือโอกาสโมเมเอาเอง ตีความคำถามพี่ปรัชญา
"เปลี่ยนพาร์ เพื่อจะพางง พาไปกินตับ ... ตับ ตับ .... รึว่า พาไปไหน...."

ตาม "ทฤษฎี" เปลี่ยนพาร์ เพื่อเปลี่ยนสภาพคล่อง มีเรื่องเดียว เรื่องอื่นไม่มี
ปกติที่เห็น แตกพาร์ เพราะอยากให้คนมาเทรดเยอะ สภาพคล่องแบบไหลท้องเสีย
แต่กรณีรวมพาร์ คนมาเทรดน้อยลง สภาพคล่องแบบท้องผูก ลมเย็น ถือยาวแบบปู่บัฟฟ์เยอะ... => BTS อยากได้นลท. VI เยอะอย่่างทฤษฎีจริงหรอ?
"TYONG".... เอ๊ย!... นั่นมัน "อดีต" เอาใหม่ ... "รถไฟฟ้า BTS" น่ารักขนาดนั้น.... จริงหรอ....?



สรุปคำถามไปอีกแนว
"BTS กำลังเล่นอะไรอยู่ ปรับพาร์ แจกปันผลก็แค่้นั้น รึทั่นมีอะไรซ่อนอยู่เปล่าด้วย (ฟะ) "



ปล. หลังออกข่าว วันนี้ราคาขึ้นไป 4% สวนกัับตลาด แต่ซื้อวันนี้ Dividend yield นิดเดียวแค่นี้เอง!
2.001 - 2.41 สตางค์ " => ถ้าคิดราคาเย็นวันนี้ 80สตางค์ ก็จะคิด yield ได้แค่ 2.5%-3%.
ใครจะซื้อ เผื่อ dilute กันยัง?...

มองภาพรวม เอาเงินสดออกราว 1,380พัีนล.

พิมพ์ตก ขออภัยครับ

ภาพคือ จำนวนหุ้นที่ Par 0.64 บาทต่อหุ้น มันมากเกินไป บ้างที่เห็นช่องละ 100 ล้านหุ้น
ถ้าหากลดจำนวนหุ้น มีวิธีการทำอยู่ไม่กี่ทาง คือ เพิ่ม PAR และ จัดการทำให้หุ้นหายไป
เลือกการ เพิ่ม PAR เหมือน TKS ที่ทำ ทำให้จำนวนหุ้นลดลง ลดสภาพคล่องของหุ้นลด
ทำให้ควบคุมปริมาณหุ้นในระบบได้มากขึ้นกว่ามีจำนวนหุ้นที่มากมายมหาศาล
อีกอย่างคือ PAR ที่ 0.64 บาทนั้น ในอนาคตหากเกิดการลด PAR ลงอีกครั้งทำให้ มีจำนวน PAR ที่น้อยมากเกินไป
ที่ทำเหตุการณ์นั้นได้อีก เจ้าของเลยต้องการหลักประกันว่า หากมีการขาดทุนครั้งใหญ่มากๆ ก็ยังมี SAFE CUT คือสามารถดำเนินท่าไม้ตายคือ ลด PAR เพื่อ ล้างขาดทุนสะสมอีก

ออกเหตุการณ์นี้เป็นการพยุงราคาหุ้นทำให้ BTS-w2 และหุ้นกู้แปลงสภาพ สามารถแปลงร่างได้
เพราะราคามันสูงขึ้น ในระยะสั้น เพราะตลาดเริ่มตอบสนองต่อข่าวสาร

ผลที่ตามมาคือ
1. BTS-w2 ต้องปรับอัตราส่วนการใช้สิทธิ์
2. หุ้นกู้แปลงสภาพ ปรับสัดส่วนในการใช้สิทธิ์ใหม่
3. ผลกระทบต่อเนื่องจากการลด PAR

ภาพรวม เปิดไพ่ใบนี้ เป็นใบประเภท มาเหนือความคาดหมายของตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ว่า BTS ยอมลด PAR

หุ้นเยอะครับเวลาลาก ช่องนึงซื้อ-ขายหลายร้อยล้านหุ้น

สู้กันทั้งวัน เป็นพันล้าน ราคาขยับนิดเดียว วัยรุ่นเบื่ออะ

เพิ่มพาร์ หุ้นลด จะได้ขึ้นลงเร็ว เขาเอาใจคนรุ่นใหม่ ชอบแรง ๆ

พาร์ 4 พอคนเห็นมูลค่าเยอะๆมั้ง (มาร์เชียร์ นักวิเคราะห์แนะนำ นสพ.ลงข่าว เซียนแนะนำตามเว็ปบอร์ด)

ราคาขึ้น -> ลดพาร์เหลือ 1 บาท วิ่งต่อ

เท่าที่อ่านดู การลดพาร์ ก็เป็นแค่การเปลี่ยนแปลงรายการทางบัญชีในส่วนผู้ถือหุ้นเท่านั้น พาร์เพิ่มก็ทำให้จำนวนหุ้นลดลง

แต่แน่นอนว่าอย่างที่ทุกท่านคิดก็คือ จำนวนหุ้นลดลง ราคาต่อหุ้นเพิ่มทันที จากตอนนี้ 0.8 ถ้าเพิ่มตรงๆก็ คูณ 6.25 ได้เป็น 5 บาท

ส่วนการเพิ่มทุนเพื่อรองรับนู่นนี่ ก็ต้องดูสัดส่วนว่าจะทำให้โดยรวมไดลูทแค่ไหน แต่โดยพื้นฐานธุรกิจ ผมว่ายังดีอยู่ เพราะเห็นคนนั่งรถไฟฟ้าแน่นทุกวัน โครงการคอนโด ก็ยังโฆษณาว่าสะดวกกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส

พี่ BHT ดูแต่รถไฟฟ้า นั้นเป็นบริษัทลูกของ BTS อีกทีหนึ่ง
ลูกคนนี้รักดี เหมือน ของ kye ที่มีบริษัีทลูกดี

แต่อย่างไงก็ตาม BTS ไม่ได้มีธุรกิจแค่ BTSC อย่างเดียว
มีธุรกิจที่เป็นขาการโรงแรม ,ก่อสร้าง และ คอนโดมิเนี่ยม

ดังนั้น ดูจากรถไฟฟ้าอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะส่วนอื่นๆอาจจะมีเป็นตัวฉุดรั้ง

ลองเข้าไปดู ndvr ครับ ตั้งแต่วันที่ 12/05 - 15/05 โดยเฉพาะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

miracle เขียน:พี่ BHT ดูแต่รถไฟฟ้า นั้นเป็นบริษัทลูกของ BTS อีกทีหนึ่ง
ลูกคนนี้รักดี เหมือน ของ kye ที่มีบริษัีทลูกดี

แต่อย่างไงก็ตาม BTS ไม่ได้มีธุรกิจแค่ BTSC อย่างเดียว
มีธุรกิจที่เป็นขาการโรงแรม ,ก่อสร้าง และ คอนโดมิเนี่ยม

ดังนั้น ดูจากรถไฟฟ้าอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะส่วนอื่นๆอาจจะมีเป็นตัวฉุดรั้ง

ถ้าจำไม่ผิด ธุรกิจรถไฟฟ้าจะมีสัดส่วนทั้งยอดขายและกำไรประมาณ 60% ผมคิดว่าถ้าเค้าจะทำราคาหุ้น ก็คงต้องปล่อยของแย่ๆออกไปเหมือนอย่าง cpall แน่นอน แล้วเวลาผมประเมิน ผมจึงเลือกดูแต่รถไฟฟ้าเป็นหลัก แล้วให้ส่วนเผื่อไปตามสมควร

ตอนนี้ BTSC กับ กทม ก็โดนเรื่องการต่ออายุสัมปทานอยู่
ดังนั้น จุดนี้ก็อาจจะมีอาการได้ในอนาคตเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับการเมืองระหว่าง ปชป กับ พท

ประเด็นต่อมาคือ สิ้นปีนี้ เปิดเส้นทางวงเวียนใหญ่เพิ่มเติมจากเดิม อีก 2 สถานี
เมื่อเปิดเสร็จแล้ว ก็ไม่มีการขยายสถานีอีกนานเลย เพราะ ด้านนี้ติดปัญหากับรถไฟฟ้าสายทางอื่นที่บางหว้า
ต้องดูแผนต่อไปว่า ขยายที่ไหนต่อ และเรื่องที่สำคัญคือ กทม คิดค่าบริการอย่างไงสำหรับ 4 สถานทีที่ต่อจากสถานีสะพานตากสิน เพราะ ถ้าเป็นส่วนต่อขยายจากอ่อนนุชไป เก็บเพิ่มเติมเลย งานนี้กทพ คงเก็บเพิ่มเติมซ้ำรอยสถานีส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทนั้นแหละ

ต่อมาคือ แผนในการจัดทำรางคู่ของสถานีสะพานตากสิน ว่า กรมทางหลวงชนบท สามารถให้พื้นที่สะพานตากสินได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องรื้อสถานีทิ้งแล้วสร้าง Sky Walk เชื่อมต่อไปยังสถานสุรศักดิ์ต่อไป จุดนี้มีปัญหาจากสมัยท่านสมัคร
ในสมัยนั้น ท่านสมัครได้ทำประชาวิจารณ์ไว้ว่า ปชช ต้องการสถานีสะพานตากสินให้คงไว้ เลยไม่สามารถรื้อถอนได้ หากใครต้องการรื้อถอน คงมีเรื่องว่า ผิดการทำประชาวิจารณ์ตอนนั้น ต้องรื้อกันยาวนานเป็นมหากาพย์อีกหรือไม่ (ท่าทางสุดท้ายก็เรื่องของการเมืองอีกเหมือนเดิม ไว้หาเสียง)

ส่วนเรื่องโรงแรม ก็โดนผลกระทบด้านการเมืองและ Over supply ในกรุงเทพชั้นใน เพราะเปิดกันหลายแห่ง ต้องดูว่ามีการเพิ่มอัตราค่าห้องพักได้หรือไม่ และการเพิ่มขึ้นของโรงแรม
ส่วนเรื่องคอนโมนิเนี่ยมที่เปิดไป ขายได้หมดแล้วหรือยัง และมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ไหนบ้างไหม เห็นเงียบไปตั้งนานแล้ว
ส่วนเรื่องก่อสร้าง มีโครงการในเส้นทางสาธรเสร็จแล้ว ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มีงานในมือแค่ไหน

สรุป
ส่วนใหญ่ก็มาจาก BTSC ที่ให้ข่าวมากที่สุด ส่วนอื่นๆไม่ค่อยมีข่าวเท่าไร ติดตามให้ดีละกัน
เพราะส่วนใหญ่ การเมืองทั้งนั้น

ถ้าประเทศนี้นักการเมือง ไม่เอาผลประโยชน์ส่วนตัวมาเบียดบังผลประโยชน์ส่วนรวม
ประเทศมันเจริญกว่านี้อีกหลายขุม

miracle เขียน:ตอนนี้ BTSC กับ กทม ก็โดนเรื่องการต่ออายุสัมปทานอยู่
ดังนั้น จุดนี้ก็อาจจะมีอาการได้ในอนาคตเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับการเมืองระหว่าง ปชป กับ พท

ประเด็นต่อมาคือ สิ้นปีนี้ เปิดเส้นทางวงเวียนใหญ่เพิ่มเติมจากเดิม อีก 2 สถานี
เมื่อเปิดเสร็จแล้ว ก็ไม่มีการขยายสถานีอีกนานเลย เพราะ ด้านนี้ติดปัญหากับรถไฟฟ้าสายทางอื่นที่บางหว้า
ต้องดูแผนต่อไปว่า ขยายที่ไหนต่อ และเรื่องที่สำคัญคือ กทม คิดค่าบริการอย่างไงสำหรับ 4 สถานทีที่ต่อจากสถานีสะพานตากสิน เพราะ ถ้าเป็นส่วนต่อขยายจากอ่อนนุชไป เก็บเพิ่มเติมเลย งานนี้กทพ คงเก็บเพิ่มเติมซ้ำรอยสถานีส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทนั้นแหละ

ต่อมาคือ แผนในการจัดทำรางคู่ของสถานีสะพานตากสิน ว่า กรมทางหลวงชนบท สามารถให้พื้นที่สะพานตากสินได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องรื้อสถานีทิ้งแล้วสร้าง Sky Walk เชื่อมต่อไปยังสถานสุรศักดิ์ต่อไป จุดนี้มีปัญหาจากสมัยท่านสมัคร
ในสมัยนั้น ท่านสมัครได้ทำประชาวิจารณ์ไว้ว่า ปชช ต้องการสถานีสะพานตากสินให้คงไว้ เลยไม่สามารถรื้อถอนได้ หากใครต้องการรื้อถอน คงมีเรื่องว่า ผิดการทำประชาวิจารณ์ตอนนั้น ต้องรื้อกันยาวนานเป็นมหากาพย์อีกหรือไม่ (ท่าทางสุดท้ายก็เรื่องของการเมืองอีกเหมือนเดิม ไว้หาเสียง)

ส่วนเรื่องโรงแรม ก็โดนผลกระทบด้านการเมืองและ Over supply ในกรุงเทพชั้นใน เพราะเปิดกันหลายแห่ง ต้องดูว่ามีการเพิ่มอัตราค่าห้องพักได้หรือไม่ และการเพิ่มขึ้นของโรงแรม
ส่วนเรื่องคอนโมนิเนี่ยมที่เปิดไป ขายได้หมดแล้วหรือยัง และมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ไหนบ้างไหม เห็นเงียบไปตั้งนานแล้ว
ส่วนเรื่องก่อสร้าง มีโครงการในเส้นทางสาธรเสร็จแล้ว ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มีงานในมือแค่ไหน

สรุป
ส่วนใหญ่ก็มาจาก BTSC ที่ให้ข่าวมากที่สุด ส่วนอื่นๆไม่ค่อยมีข่าวเท่าไร ติดตามให้ดีละกัน
เพราะส่วนใหญ่ การเมืองทั้งนั้น

ถ้าประเทศนี้นักการเมือง ไม่เอาผลประโยชน์ส่วนตัวมาเบียดบังผลประโยชน์ส่วนรวม
ประเทศมันเจริญกว่านี้อีกหลายขุม

รับทราบครับ

ผมว่าแล้วแต่คนวิเคราะห์ ว่าลงท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร แต่โดยภาพรวมแล้วก็ยังมั่นใจพอสมควร

รายย่อยเยอะมั้ง ขี้เกียจแจก รายงานประจำปี

น่าจะเป็นเกมส์ราคาหุ้น ราคาปัจจุบัน 0.82 บาท ขยับได้ทีละ 1 สตางค์
ถ้ารวมพาร์ ราคาจะอยู่ประมาณ 5 บาท ขยับได้ทีละ 5 สตางค์
จะเห็นได้ว่าขยับขึ้นลง 1 ช่องเหมือนกัน แต่แตกต่างกัน 5 เท่า
อีกอย่างคือ จำนวนหุ้นจะลดลงไปมาก เวลาตั้ง bid-offer จะน้อยลง
ทำให้ดูจำนวนไม่เยอะมาก เป็นผลจิตวิทยาทางอ้อม ทั้งที่มูลค่าเท่าเดิม
ผู้บริหารเคยประกาศจะปั้นมาร์เก็ตแคปให้ติดอันดับท็อปเท็น

สุภาวดี สกุลชื่นเจริญ เป็นใครไม่รู้แต่คาดว่าได้เงินจากเศษหุ้นไม่น้อยเลยทีเดียว

อยากลืมว่า BTS
มีหุ้นกู้แปลงสภาพและ BTS-W2
เมื่อมีการรับพาร์เกิดขึ้น ต้องไปอ่านในหนังสือชี้ชวนครั้งแรกว่า
ถ้าหากมีการปรับพาร์ของหุ้น ในกรณีที่แตกพาร์และรวมพาร์มีผลกระทบต่อการแปลงสภาพของ Warrant หรือหุ้นกู้แปลงสภาพอย่างไงด้วย

ข่าวที่ออกมา ไม่มีมติในการจัดการเรื่องนี้เลย แสดงว่า คณะกรรมการพิจารณาแล้วไม่มีผลกระทบ
การใช้สิทธิ์ในอัตราเดิม และได้สิทธิ์ในอัตราเดิมใช่หรือไม่ครับ

งานนี้คณะกรรมการบริษัทพิจารณารอบคอบหรือยังครับ
แล้วคณะกรรมการตรวจสอบที่ร่วมพิจารณาทำงานของท่านแล้วหรือยัง

อ่านเจอการปรับสิทธิ์แล้วล่ะ
1 Warrant : 0.16 หุ้นใหม่ที่พาร์ 4 บาท
ค่าแปลงร่าง 4.375 บาทต่อหุ้น (ราคายังไม่รวมผลกระทบจากการปันผลหรือเปล่า)


อีกประเด็นเรื่องหุ้นไม่ครบ
มีคำตอบ
-----------------------
ทั้งนี้ ในการคำนวณเพื่อเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ ตามอัตราการ
คำนวณดังกล่าว (6.25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่) ให้แก่ผู้ถือหุ้นแต่ละราย หากมีเศษหุ้นเดิมเหลือจาก
การคำนวณ ซึ่งจำนวนเศษหุ้นเดิมดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะแปลงเป็นหุ้นใหม่ บริษัทฯ จะตัดเศษหุ้น
เดิมนั้นทิ้งทั้งจำนวน โดยผู้ถือหุ้นแต่ละรายที่ถูกตัดเศษหุ้นเดิมทิ้ง จะได้รับชดใช้ค่าเศษหุ้นเดิมที่ถูก
ตัดทิ้งในราคาเท่ากับราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 ตามสัดส่วนเศษหุ้นเดิม
ที่ถูกตัดทิ้ง ผ่านทางบริการของบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายในกำหนด 1
เดือน นับตั้งแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ แล้วเสร็จ
ตัวอย่างการคำนวณ ผู้ถือหุ้นถือหุ้นเดิม 35 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.64 บาท
ทั้งนี้ บนสมมุติฐานว่าราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อน
วันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 อยู่ที่ราคา 0.76 บาทต่อหุ้น เมื่อบริษัทฯ ได้ดำเนินการรวมหุ้นโดยเปลี่ยน
มูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากหุ้นละ 0.64 เป็นหุ้นละ 4 บาท แล้วเสร็จ ผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะได้รับหุ้นใหม่ 5 หุ้น มูลค่าหุ้นที่
ตราไว้หุ้นละ 4 บาท ส่วน 3.75 หุ้นเดิมซึ่งเป็นเศษหุ้นเดิม จะถูกตัดทิ้งทั้งจำนวน และผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะได้รับเงิน
ชดใช้ค่าหุ้นเดิมตามสัดส่วนราคาเศษหุ้นเดิมที่ถูกตัดทิ้งเป็นจำนวนเท่ากับ 2.85 บาท (3.75 หุ้นเดิมที่ถูกตัดทิ้ง x
ราคา 0.76 บาทต่อหุ้น )
----------------------------------------------------------------------------------------

อธิบายในเอกสาร 34 หน้า
ว่างต้องพิมพ์มานั่งอ่านแล้วล่ะ
เพราะ ไม่มีบริษัทไหนออกข่าวได้ยาวขนาดนี้นอกจากการ Take Over หรือ Tender offer
หรือซื้อสินทรัพย์ แล การขายสินทรัพย์ออกไป

เจอBTS ตัวนี้ตัวเดียวเท่านั้นที่เป็นแบบนี้
ซ่อนสุดๆยอดมาก

มองโลกในแง่ดี ชีวิตจะเป็นสุข