R37: CASINO กับ ตลาดหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2012 12:07 pm
มือใหม่หัดเขียนครับ ถ้าสนใจอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ http://randomwalk.bloggang.com
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้มีโอกาสไปเที่ยวมาเก๊าซึ่งเป็นเมืองคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย (และอีกไม่ช้าคงใหญ่สุดในโลก) เพราะนักท่องเที่ยวที่ไปนั้นส่วนใหญ่จะมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งผมเชื่อว่าในที่สุดแล้วคนจีนจะต้องรวยขึ้นกว่านี้อีกหลายเท่า สำหรับเมืองมาเก๊านั้นเป็นเมืองที่เล็กมากแต่อัดแน่นไปด้วยโรงแรมมากมายและภายใต้ชั้นล่างของโรงแรมนั้นก็จะมีคาสิโนให้นักท่องเที่ยวเล่น บางคนมาที่มาเก๊าเล่นคาสิโนอยู่ในโรงแรมอย่างเดียวโดยไม่ออกไปไหนก็มี โรงแรมที่นี่หลายแห่งจะถูกตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่สวยงามเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า และสำหรับที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คงจะเป็นโรงแรมที่ชื่อ Venetian ซึ่งจำลองบรรยากาศในเมืองเวนิสในประเทศอิตาลีมาไว้ในโรงแรม เรียกได้ว่าถ้าไปมาเก๊าแล้วยังไม่ได้ไปถ่ายรูปที่โรงแรมนี้ก็ถือว่ายังไปไม่ถึงมาเก๊า
ผมได้ลองสำรวจเกมการเล่นในคาสิโน ซึ่งจะมีโต๊ะเกมต่างๆให้เล่นมากมาย เช่น บาคาร่า แบลคแจ๊ค รูเล็ต ลูกเต๋าไฮโล และตู้เกมสลอตแมชชีน อย่างที่เราคงได้ทราบกันว่ากติกาขของเกมในคาสิโนทั้งหมดจะถูกออกแบบมาให้เจ้ามือมีความน่าจะเป็นในการชนะมากกว่าผู้เล่นอยู่เสมอ ในระยะสั้นผู้เล่นอาจจะสามารถเอาชนะเจ้ามือได้ แต่ในระยะยาวถ้าเราเล่นไปเรื่อยๆแบบไม่เลิกแล้วในที่สุดเจ้ามือก็จะชนะเรามากกว่าอยู่ดี สำหรับเกมที่ผมคิดว่ามีโอกาสมากที่สุดที่จะชนะเจ้ามือก็คือเกมที่มีความน่าจะเป็นใกล้เคียง 50:50 มากที่สุด ซึ่งนั่นก็คือการทายสูงต่ำ หรือ แดงดำ หรือ คู่คี่ หรือ หัวก้อย
สำหรับเกมที่มีความน่าจะเป็น 50:50 นั้นจะมีบางคนเชื่อว่าการออกหน้าใดหน้าหนึ่งติดกันหลายๆครั้ง แล้วครั้งหน้ามีโอกาสที่จะเป็นหน้าตรงข้ามมากกว่า เช่น ออกหัวติดกัน 5 ครั้ง แล้วครั้งหน้าความน่าจะเป็นของก้อยมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วความน่าจะเป็นของการเกิดหัวก้อยจะเป็น 50:50 ทุกครั้ง เพราะการออกแต่ละครั้งเป็นอิสระต่อกัน ซึ่งหมายความว่าครั้งต่อไปความน่าจะเป็นของหัวและก้อยก็คือ 50:50 เหมือนเดิม
การเล่นแบบ martingel หรือว่าทบต้นไปเรื่อยๆถ้าผิด ก็เป็นอีกวิธีการเล่นที่ค่อนข้างจะอันตราย เพราะจำนวนเงินจะเพิ่มเป็นอัตราเร่งที่สูงมาก กล่าวคือจาก 1 2 4 8 16 32 64 128 256 512 หมายความว่าจำนวนเงินจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และในบ่อนจะมีกติกาที่มีจำกัดการเดิมพันสูงสุดเอาไว้ซึ่งจะทำให้เราเพิ่มเงินไม่ได้ถ้าเราผิดติดต่อกันหลายครั้ง สมมติว่าเราเริ่มต้นที่เงิน 1,000 บาท เราจะต้องมีเงินทุนทั้งหมด 1,023,000 บาทถ้าผิดติดต่อกัน 10 ครั้ง และบ่อนก็มีการจำกัดการเดิมพันไม่ให้ลงถึงเงินจำนวนนั้นอยู่ดี
ถ้าถามว่าการผิดติดต่อกัน 10 ครั้งเป็นโอกาสที่น้อยใช่หรือไม่ ที่จริงแล้วถึงจะน้อยแต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ คำนวณความน่าจะเป็นได้จาก 0.5^10 คือประมาณ 1 ใน 1,000 ซึ่งผมมั่นใจว่าถ้านั่งอยู่ในบ่อนไปเรื่อยๆต้องเล่นเกินกว่า 1,000 ตาอยู่แล้ว และก็จะต้องมีสักครั้งที่พบกับการหมดตัว วิธีที่น่าจะประสบความสำเร็จก็คือการเลิกเล่นในขณะที่ได้กำไรอยู่ ถ้าฝืนเล่นไปเรื่อยๆโอกาสที่เราจะหมดตัวก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้นเพราะคนส่วนใหญ่เวลาได้กำไรก็มักจะไม่เลิกเล่นเพราะคิดว่าน่าจะได้เพิ่มขึ้นอีก อย่างครั้งนี้ผมไปก็เจอเหตุการณ์ที่รูเล็ตออกแดงติดต่อกัน 12 ครั้งเช่นกัน ถ้าคนเล่นวิธี martingel ก็คงจะหมดตัวเป็นแน่
สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นจะแตกต่างจากการเล่นในคาสิโน ผมคิดว่าความน่าจะเป็นในการชนะจะขึ้นอยู่กับวิธีการลงทุนของเรา ถ้าเราลงทุนโดยคิดว่าจะมีขึ้นหรือลงโดยอาศัยดวงอย่างเดียวแบบการพนัน ความน่าจะเป็นในการชนะก็คงเป็น 50:50 แต่ถ้าเราลงทุนโดยใช้เหตุผลหรือเห็นคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในตัวบริษัท ความน่าจะเป็นในการชนะก็คงมากกว่า 50:50 อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่ว่ามีโอกาสชนะ 100% อยู่ดี ถึงเราจะมีเหตุผลมากมายมารองรับในการลงทุนเราก็ควรเผื่อใจไว้เสมอว่าเรามีโอกาสที่จะผิดในครั้งนั้นได้
ในอีกมุมมองหนึ่งถึงแม้ว่าเราจะมีความน่าจะเป็นในการชนะเพียงแค่ 50:50 หรือน้อยกว่านั้นเราก็อาจจะมีโอกาสได้กำไรในระยะยาวได้ถ้าเรามีความได้เปรียบในเชิงขนาดของรางวัล การเล่นพนันเมื่อแทงถูกจะได้เท่าตัว และเมื่อผิดก็เสียเท่าตัว คือได้ 1 เสีย 1 แต่สำหรับการลงทุนนั้นถ้าเราสามารถทำให้ครั้งที่ผิดเสียน้อยจากการ cut loss และครั้งที่ถูกได้มากจากการ let profit run ก็น่าจะสามารถทำให้เราได้เปรียบเชิงขนาดของรางวัล และทำให้เราได้กำไรในระยะยาวในที่สุดถึงแม้ว่าเราจะมีความน่าจะเป็นในการชนะเพียง 50:50
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้มีโอกาสไปเที่ยวมาเก๊าซึ่งเป็นเมืองคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย (และอีกไม่ช้าคงใหญ่สุดในโลก) เพราะนักท่องเที่ยวที่ไปนั้นส่วนใหญ่จะมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งผมเชื่อว่าในที่สุดแล้วคนจีนจะต้องรวยขึ้นกว่านี้อีกหลายเท่า สำหรับเมืองมาเก๊านั้นเป็นเมืองที่เล็กมากแต่อัดแน่นไปด้วยโรงแรมมากมายและภายใต้ชั้นล่างของโรงแรมนั้นก็จะมีคาสิโนให้นักท่องเที่ยวเล่น บางคนมาที่มาเก๊าเล่นคาสิโนอยู่ในโรงแรมอย่างเดียวโดยไม่ออกไปไหนก็มี โรงแรมที่นี่หลายแห่งจะถูกตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่สวยงามเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า และสำหรับที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คงจะเป็นโรงแรมที่ชื่อ Venetian ซึ่งจำลองบรรยากาศในเมืองเวนิสในประเทศอิตาลีมาไว้ในโรงแรม เรียกได้ว่าถ้าไปมาเก๊าแล้วยังไม่ได้ไปถ่ายรูปที่โรงแรมนี้ก็ถือว่ายังไปไม่ถึงมาเก๊า
ผมได้ลองสำรวจเกมการเล่นในคาสิโน ซึ่งจะมีโต๊ะเกมต่างๆให้เล่นมากมาย เช่น บาคาร่า แบลคแจ๊ค รูเล็ต ลูกเต๋าไฮโล และตู้เกมสลอตแมชชีน อย่างที่เราคงได้ทราบกันว่ากติกาขของเกมในคาสิโนทั้งหมดจะถูกออกแบบมาให้เจ้ามือมีความน่าจะเป็นในการชนะมากกว่าผู้เล่นอยู่เสมอ ในระยะสั้นผู้เล่นอาจจะสามารถเอาชนะเจ้ามือได้ แต่ในระยะยาวถ้าเราเล่นไปเรื่อยๆแบบไม่เลิกแล้วในที่สุดเจ้ามือก็จะชนะเรามากกว่าอยู่ดี สำหรับเกมที่ผมคิดว่ามีโอกาสมากที่สุดที่จะชนะเจ้ามือก็คือเกมที่มีความน่าจะเป็นใกล้เคียง 50:50 มากที่สุด ซึ่งนั่นก็คือการทายสูงต่ำ หรือ แดงดำ หรือ คู่คี่ หรือ หัวก้อย
สำหรับเกมที่มีความน่าจะเป็น 50:50 นั้นจะมีบางคนเชื่อว่าการออกหน้าใดหน้าหนึ่งติดกันหลายๆครั้ง แล้วครั้งหน้ามีโอกาสที่จะเป็นหน้าตรงข้ามมากกว่า เช่น ออกหัวติดกัน 5 ครั้ง แล้วครั้งหน้าความน่าจะเป็นของก้อยมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วความน่าจะเป็นของการเกิดหัวก้อยจะเป็น 50:50 ทุกครั้ง เพราะการออกแต่ละครั้งเป็นอิสระต่อกัน ซึ่งหมายความว่าครั้งต่อไปความน่าจะเป็นของหัวและก้อยก็คือ 50:50 เหมือนเดิม
การเล่นแบบ martingel หรือว่าทบต้นไปเรื่อยๆถ้าผิด ก็เป็นอีกวิธีการเล่นที่ค่อนข้างจะอันตราย เพราะจำนวนเงินจะเพิ่มเป็นอัตราเร่งที่สูงมาก กล่าวคือจาก 1 2 4 8 16 32 64 128 256 512 หมายความว่าจำนวนเงินจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และในบ่อนจะมีกติกาที่มีจำกัดการเดิมพันสูงสุดเอาไว้ซึ่งจะทำให้เราเพิ่มเงินไม่ได้ถ้าเราผิดติดต่อกันหลายครั้ง สมมติว่าเราเริ่มต้นที่เงิน 1,000 บาท เราจะต้องมีเงินทุนทั้งหมด 1,023,000 บาทถ้าผิดติดต่อกัน 10 ครั้ง และบ่อนก็มีการจำกัดการเดิมพันไม่ให้ลงถึงเงินจำนวนนั้นอยู่ดี
ถ้าถามว่าการผิดติดต่อกัน 10 ครั้งเป็นโอกาสที่น้อยใช่หรือไม่ ที่จริงแล้วถึงจะน้อยแต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ คำนวณความน่าจะเป็นได้จาก 0.5^10 คือประมาณ 1 ใน 1,000 ซึ่งผมมั่นใจว่าถ้านั่งอยู่ในบ่อนไปเรื่อยๆต้องเล่นเกินกว่า 1,000 ตาอยู่แล้ว และก็จะต้องมีสักครั้งที่พบกับการหมดตัว วิธีที่น่าจะประสบความสำเร็จก็คือการเลิกเล่นในขณะที่ได้กำไรอยู่ ถ้าฝืนเล่นไปเรื่อยๆโอกาสที่เราจะหมดตัวก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้นเพราะคนส่วนใหญ่เวลาได้กำไรก็มักจะไม่เลิกเล่นเพราะคิดว่าน่าจะได้เพิ่มขึ้นอีก อย่างครั้งนี้ผมไปก็เจอเหตุการณ์ที่รูเล็ตออกแดงติดต่อกัน 12 ครั้งเช่นกัน ถ้าคนเล่นวิธี martingel ก็คงจะหมดตัวเป็นแน่
สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นจะแตกต่างจากการเล่นในคาสิโน ผมคิดว่าความน่าจะเป็นในการชนะจะขึ้นอยู่กับวิธีการลงทุนของเรา ถ้าเราลงทุนโดยคิดว่าจะมีขึ้นหรือลงโดยอาศัยดวงอย่างเดียวแบบการพนัน ความน่าจะเป็นในการชนะก็คงเป็น 50:50 แต่ถ้าเราลงทุนโดยใช้เหตุผลหรือเห็นคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในตัวบริษัท ความน่าจะเป็นในการชนะก็คงมากกว่า 50:50 อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่ว่ามีโอกาสชนะ 100% อยู่ดี ถึงเราจะมีเหตุผลมากมายมารองรับในการลงทุนเราก็ควรเผื่อใจไว้เสมอว่าเรามีโอกาสที่จะผิดในครั้งนั้นได้
ในอีกมุมมองหนึ่งถึงแม้ว่าเราจะมีความน่าจะเป็นในการชนะเพียงแค่ 50:50 หรือน้อยกว่านั้นเราก็อาจจะมีโอกาสได้กำไรในระยะยาวได้ถ้าเรามีความได้เปรียบในเชิงขนาดของรางวัล การเล่นพนันเมื่อแทงถูกจะได้เท่าตัว และเมื่อผิดก็เสียเท่าตัว คือได้ 1 เสีย 1 แต่สำหรับการลงทุนนั้นถ้าเราสามารถทำให้ครั้งที่ผิดเสียน้อยจากการ cut loss และครั้งที่ถูกได้มากจากการ let profit run ก็น่าจะสามารถทำให้เราได้เปรียบเชิงขนาดของรางวัล และทำให้เราได้กำไรในระยะยาวในที่สุดถึงแม้ว่าเราจะมีความน่าจะเป็นในการชนะเพียง 50:50