หน้า 1 จากทั้งหมด 3

สอบถามคุณนริศ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 10:51 am
โดย tamarine199
ทราบว่าคุณนริสจะไม่ค่อยเข้ามาตอบในThaiviแล้ว รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะว่าอยากให้คนที่มีอิสระทางการเงินแล้วมาเล่าประสพการณ์ให้ฟัง อยากเรียนถามคุณนริสว่าหลังจากที่มีอิสระทางการเงินแล้ว แนวทางในการบริหารพอร์ตเป็นอย่างไร ยังเหมือนเมื่อยังไม่มีอิสระทางการเงินหรือไม่ อีกประเด็นหนึ่งก็คือวันๆทำอะไรบ้าง ขอบคุณครับ

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 11:05 am
โดย nasmok
เป็นคนนึงที่อยากทราบเหมือนกัน ถ้ามีเวลาช่วยตอบหน่อย
เซียนไม่ยอมพูด แล้วพวกเราจะเอาความรู้จากใคร

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 11:11 am
โดย nut776
เหมือนไม่ใช่ไม่มาตอบ
คือ ไม่เข้ามาดูเลยคับ
last visit คือปีที่แล้ว

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 3:08 pm
โดย เด็กใหม่ไฟแรง
ลองหาสาเหตุดูครับว่าทำไมหลายคนจึงไม่ตอบคำถามหรือ post ความเห็น
ภาษิตไทย เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่งกระดูกแขวนคอ มีอยู่มานานแล้วครับ

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 4:25 pm
โดย Nevercry.boy
เป็นผู้ให้กันเถอะครับ ให้เกียรติ ให้ความรู้ ให้ความเคารพ ให้น้ำใจ

แต่บางครั้งเราลืมไป เราขอหุ้นที่ดี เราขอวิธีการสุดยอด เราขอรู้จักเซียนเพื่อที่จะเรียนรู้ เราขอนู่น ขอนี่ ขอนั่น เราอยากให้พอร์ตเราโตสูงสุด เราอยากเป็นอิสระทางการเงิน แปลว่ามีเงินเยอะ ๆ ในความรู้สึกของเรา เราอยากรวย

จนแม้กระทั่งคำว่า "ขอบคุณ" บางครั้งเราก็ลืมพิมพ์

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 4:44 pm
โดย f.escape
ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนเราหรือเปล่า ไม่อยากพิมพ์ขอบคุณเพราะส่วนตัวเห็นว่ามันเปลืองหน้า
เลยใช้วิธีกด + แทน

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 5:06 pm
โดย เด็กใหม่ไฟแรง
ลองไปอ่านสืบดูนะครับว่าคุณนริศโดนอะไรบ้าง
โดยเฉพาะเวปดังบางเวปบางlogin ซึ่งทุกวันนี้ยังจิกไม่เลิกเลยครับ

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 5:18 pm
โดย Guiman
เด็กใหม่ไฟแรง เขียน:ลองไปอ่านสืบดูนะครับว่าคุณนริศโดนอะไรบ้าง
โดยเฉพาะเวปดังบางเวปบางlogin ซึ่งทุกวันนี้ยังจิกไม่เลิกเลยครับ
สืบที่ไหนอะครับ
ผมไม่รู้เรื่องเลย โดนอะไรบ้าง
เล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยครับ

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 5:48 pm
โดย dome@perth
เด็กใหม่ไฟแรง เขียน:ลองหาสาเหตุดูครับว่าทำไมหลายคนจึงไม่ตอบคำถามหรือ post ความเห็น
ภาษิตไทย เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่งกระดูกแขวนคอ มีอยู่มานานแล้วครับ
ขอบคุณครับ ถูกต้องเลยครับ

ผมถือว่าโชคดี ที่ยังมีโอกาสขอความรู้อยู่เรื่อยเพราะใช้ความเป็นเพื่อนสนิท
สำหรับท่านอื่น ผมขอบ กว่าเสียใจด้วยครับ ผมพยายาคุยเพ่ือให้เขากลับมา
จนถึงที่สุดแล้ว

ผมก็จะทำหน้าที่ผมเท่าที่ทำได้ในการถ่ายทอดกลยุทธ์ที่ผมได้ถูกเสี่ยมสอนมา
หากยังมีใครอยากได้อยู่นะครับ

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 5:57 pm
โดย newbie_12
ไม่ใช่เฉพาะพี่นริศคนเดียวนะครับ พี่หมอสามัญชน ก็โดนหนักไม่แพ้กัน

เสียดายแทนรุ่นน้องๆจริงๆครับ ที่จะไม่ได้เห็นหรือพบปะพูดคุยเป็นการส่วนตัวในงานจิบเบียร์หรืองานอบรมต่างๆอีกแล้ว

สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คืออย่าให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับสมาชิกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาจารย์ในเว็บนี้ ที่ยังคงโพสให้ความรู้พวกเราอยู่อีกเลยครับ ต้องร่วมด้วยช่วยกันปกป้องด้วยกันครับ

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 7:45 pm
โดย ดำ
ที่คุณนริศทิ้ง "มหากาพย์ ไตรภาค" ไว้ให้ ผมว่าก็สุดยอดแล้วนะ

บทความอย่างนี้คิดว่าเขียนกันง่ายๆ หรือครับ

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 7:56 pm
โดย wigraipat
พี่นริศยังเป็นพี่ที่ดีเหมือนเดิมคับ ยังมาให้ความรู้น้องอยู่บ้างคับ แต่ไม่อยากออกสื่อแล้ว
ตอนที่ผมเจอพี่ล่าสุดเมื่อ2สัปดาห์ก่อน พี่เขาก็ตอบให้อย่างไม่มีกักคับ
เก่งสมคำลำลือ
พี่หมอสามัญชนก็ดีน่ะคับ ผมเคยถามพี่เขาพี่เขาก็ตอบผมเหมือนปกติอยู่คับ
แต่พี่สองท่านนี้คงอยากปลีกวิเวกแล้วคับ ซึ่งผมก็เข้าใจคับ

ผมคิดว่าในเวปนี้มีอะไรดีๆเยอะน่ะคับ ผมคิดว่าถ้าเราเข้ามาศึกษาจิงจัง อ่านหนังสือ
อ่านงบ ฝึกวิเคราะห์เหมือนที่อาจารย์เคยสอนไว้ ฝึกเรียนรู้แนวคิดจากตัวหนังสือที่พี่ๆทิ้งไว้
น่าจะมีอิสรภาพทางการเงินได้แน่นอนคับ

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 9:40 pm
โดย trangteam
ผมได้ความรู้ จากพี่นริศมากครับ

ต้องขอบคุณพี่นริศมากๆ แต่ผมไม่เคยว่าพี่นริศเลยครับ

ผมก็ไม่ค่อยชอบพวกที่โทษคนอื่น ไม่ยอมด่าตัวเอง

ถ้าพี่ว่างๆก็กลับมาบ้างนะครับ อย่าไปให้ความสำคัญ

กับพวกนั้นครับ นะครับพี่นริศ^^

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 11:25 pm
โดย picatos
ธรรมชาติของกิเลสมันช่างเลวร้ายจริงๆ นะครับ ทำร้ายคนอื่น ทำให้คนที่ตัวเองไม่ชอบเสียหายไม่พอ ยังทำให้คนอื่นๆ ที่อาจจะได้ประโยชน์หมดโอกาสที่จะได้เรียนรู้สิ่งดีๆ ขนาดเรื่องผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ยังหยิบยกขึ้นมาเบียดเบียนกันได้อยู่เรื่อยๆ

พี่นริศก็ถือเป็นยอดคนจริงๆ ขนาดเจอ ขนาดโดนขนาดนี้ ยังทิ้งหนังสือดีๆ ที่แฝงด้วยความรู้ ประสบการณ์ และธรรมะ โดนไม่หวง ไม่ปิดบัง

โดยส่วนตัว ผมคิดว่า หากเราไม่ชอบใคร เราก็ไม่ควรที่จะไปพูดเบียดเบียนคนอื่น เพราะ ในทางพุทธ การพูดส่อเสียด การพูดเพื่อให้เกิดความแตกแยก ล้วนแล้วแต่เป็นอกุศลที่ควรละเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ผมว่าสิ่งที่เกิดขึ้น หากมองในอีกมุม ผมคิดว่าคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดอาจจะเป็นตัวพี่นริศเองก็ได้ เพราะ สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้พี่นริศ ได้เห็น โลกธรรม 8 อย่างชัดเจน และเป็นเหตุที่ทำให้ได้ปลีกตัวจากทางโลก มุ่งหน้าเข้าสู่ทางธรรมยิ่งขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว พี่นริศอาจจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้น ปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมไปเลยก็ได้ ใครจะรู้

แต่ที่แน่ๆ คนที่เสียประโยชน์ก็คือสมาชิกรุ่นหลังๆ ที่ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งดีๆ จากพี่ๆ เค้า และที่เสียประโยชน์ที่สุด ก็คือ ตัวคนที่พูดส่อเสียดเอง ที่วันหนึ่งต้องรับผลกรรมอย่างแน่นอน

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2012 11:56 pm
โดย Laziale
แม้พี่เค้าจะไม่ได้เข้ามาให้ความรู้ในเว็บแล้ว แต่ยังมีกระทู้ดีๆที่เค้าทิ้งไว้ให้อ่านในคลังกระทู้คุณค่าอยู่นะครับ :D

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2012 7:34 am
โดย chutvi
อ่าน ไตรภาคแล้ว ยอมรับครับ สุดยอด ผมเขียน thesis บทความคิดเห็นห้าหน้าก็แทบตาย นี่พี่เขียน 80 หน้า ไม่รู้พี่จะได้อ่านรึเปล่า นับถือจริงๆ ครับ

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2012 9:16 am
โดย investment biker
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ เคยได้ยินมาว่าหลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ก็เริ่มออกสอนผู้อื่น โดยผู้สอนต้องเข้าใจก่อนว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก... สอนได้บ้าง สอนไม่ได้บ้าง ก็ต้องปล่อยวางครับ...

บัวสี่เหล่า
พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก บางพวกสอนได้ บางพวกสอนไม่ได้ เปรียบเสมือนบัว ๔ เหล่า ได้แก่

๑. พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที (อุคฆฏิตัญญู)

๒. พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ซึ่งจะบานในวันถัดไป (วิปัจจิตัญญู)

๓. พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธาปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อย ๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง (เนยยะ)

๔. พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน (ปทปรมะ).

อ้างอิงจาก: http://thammarom.blogspot.com/2012/02/35.html

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2012 9:57 am
โดย dr1
อ.ชาย แห่ง fpm
เคยเขียนในหนังสือ "ก่อนพ่อตาย" ถ้าจำไม่ผิด

มีอีกบัวชนิดนึงด้วยครับ

"บัวเต่าถุย"

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2012 10:10 am
โดย nut776
dr1 เขียน:อ.ชาย แห่ง fpm
เคยเขียนในหนังสือ "ก่อนพ่อตาย" ถ้าจำไม่ผิด

มีอีกบัวชนิดนึงด้วยครับ

"บัวเต่าถุย"
ชาย กิตติคุณากร ป่าวคับ
เด๋วนี้ เค้าเปลี่ยนไปเขียนนิยายแล้วเหรอคับ
เสียดาย

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2012 10:29 am
โดย firewalker
picatos เขียน:ธรรมชาติของกิเลสมันช่างเลวร้ายจริงๆ นะครับ ทำร้ายคนอื่น ทำให้คนที่ตัวเองไม่ชอบเสียหายไม่พอ ยังทำให้คนอื่นๆ ที่อาจจะได้ประโยชน์หมดโอกาสที่จะได้เรียนรู้สิ่งดีๆ ขนาดเรื่องผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ยังหยิบยกขึ้นมาเบียดเบียนกันได้อยู่เรื่อยๆ

พี่นริศก็ถือเป็นยอดคนจริงๆ ขนาดเจอ ขนาดโดนขนาดนี้ ยังทิ้งหนังสือดีๆ ที่แฝงด้วยความรู้ ประสบการณ์ และธรรมะ โดนไม่หวง ไม่ปิดบัง

โดยส่วนตัว ผมคิดว่า หากเราไม่ชอบใคร เราก็ไม่ควรที่จะไปพูดเบียดเบียนคนอื่น เพราะ ในทางพุทธ การพูดส่อเสียด การพูดเพื่อให้เกิดความแตกแยก ล้วนแล้วแต่เป็นอกุศลที่ควรละเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ผมว่าสิ่งที่เกิดขึ้น หากมองในอีกมุม ผมคิดว่าคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดอาจจะเป็นตัวพี่นริศเองก็ได้ เพราะ สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้พี่นริศ ได้เห็น โลกธรรม 8 อย่างชัดเจน และเป็นเหตุที่ทำให้ได้ปลีกตัวจากทางโลก มุ่งหน้าเข้าสู่ทางธรรมยิ่งขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว พี่นริศอาจจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้น ปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมไปเลยก็ได้ ใครจะรู้

แต่ที่แน่ๆ คนที่เสียประโยชน์ก็คือสมาชิกรุ่นหลังๆ ที่ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งดีๆ จากพี่ๆ เค้า และที่เสียประโยชน์ที่สุด ก็คือ ตัวคนที่พูดส่อเสียดเอง ที่วันหนึ่งต้องรับผลกรรมอย่างแน่นอน
โดนมากครับพี่ picatos :D :D :D

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2012 12:17 pm
โดย SawScofield
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่พี่ทิ้งไว้ให้พวกเรานะครับพี่นริศ เชื่อเหลือเกินว่าองค์ความรู้ที่ตกผลึกแล้วเหล่านั้นจะอยู่คู่สังคมนักลงทุนที่รู้คิดรู้ตรึกตรองไปอีกตราบนานเท่านาน จะเรียกว่า "มรดก" ที่พี่มอบให้แผ่นดินนี้ก็คงไม่เกินไป ... ขอบคุณมากๆครับขอบคุณจากใจจริง ^/\^

Re: สอบถามคุณนริศ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2012 4:41 pm
โดย ศิษย์เซียน007


เซียนนริศยังให้คำสอนและคำแนะนำในการลงทุนดีดีอยู่คับเพียงแค่คลิกเข้าไปชมคับ :P

Re: สอบถามคุณนริศ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 14, 2012 9:22 am
โดย greenman
พี่นริศทำให้รู้จักกับคำว่า "ความได้เปรียบเชิงแข่งขันที่ยังยืน" จากบางธุรกิจ

Re: สอบถามคุณนริส

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2012 12:54 am
โดย Quantum of Solace
เด็กใหม่ไฟแรง เขียน:ลองหาสาเหตุดูครับว่าทำไมหลายคนจึงไม่ตอบคำถามหรือ post ความเห็น
ภาษิตไทย เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่งกระดูกแขวนคอ มีอยู่มานานแล้วครับ
เหอ เหอ คุณแน่ใจได้อย่างไรครับว่า เนื้อไม่ได้กิน // ท่านอาจจะกินอิ่มแล้วก็เป็นได้

ภาษิตไทย เช่น ทำนาบนหลังคน ก็มีนะคับ

Re: สอบถามคุณนริศ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2012 10:00 am
โดย soi
ก่อนที่เขาจะแนะนำหุ้นตัวไหน เขาก็ต้องซื้อเก็บไว้จนพอแล้วคะ บอกให้คนมาสนใจหุ้นเขา ยังไงเขาก็ได้ประโยชน์คะ หุ้นมันต้องขึ้นแน่นอนคะ มันขึ้นกับเจตนาคะ ถ้าเขาแนะนำด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ไม่น่าจะต้องกังวลกับคำครหานะคะ

Re: สอบถามคุณนริศ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2012 11:23 am
โดย nam
ในแวดวงหุ้นนั้นผมสังเกตุว่ามีนักลงทุน 3 ประเภท พวกชอบถามหุ้น กับพวกชอบบอกหุ้น และพวกไม่เอาไหน
พวกชอบถามหุ้น หรือนักลงทุนประเภท ข. ขอละไว้แล้วกัน

ส่วนพวกชอบบอกหุ้น ผมจำแนกเป็น 2 ประเภท

ประเภทแรก บอกเพื่อจะขายหุ้นที่ตนเองมี ประเภทนี้บอกทั้งทางตรงเชียร์ด้วยตนเองและทางอ้อมผ่านสื่อที่เห็นทุกเช้าไงครับ ผ่านบทวิเคราะห์( เฉพาะส่วนที่เจตนาเชียร์เกินข้อมูล ที่มีอยู่) พอข่าวออกราคาหุ้นพุ่งแล้วโดนตบชักหัวทิ่ม อย่างนี้น่าจะเรียกว่า ทำนาบนหลังคน ........ถ้าคนที่ไม่วิเคราะห์หุ้นเอง ฟังแต่เขาว่า ก็ต้องจ่ายค่าเช่านาบนหลังตัวเอง!!!

ประเภทที่สอง พวกชอบบอกหุ้นที่ตัวเองมี เนื่องจากมั่นใจว่า หุ้นดีราคาถูก ซื้อแล้วมีกำไรแน่ อดใจไม่ได้ที่จะบอกเพื่อนสนิทมิตรสหาย ด้วยอยากให้เขารวยด้วย ด้วยเจตนาดีแท้ๆ แม้ว่าไม่บอก หุ้นดีราคาถูกยังไงก็มีคนเห็นจนได้ vi เก่งๆมีเพิ่มขึ้นทุกวัน
ที่นี้ตอนบอกเพื่อนกลุ่มแรกราคายังถูก กำไรแน่ ...แต่เพื่อนของเพื่อนก็มีเพื่อนสนิทมิตรสหายที่อยากให้เขารวยด้วย ก็บอกต่อไปเรื่อยๆ ราคาก็ขยับตาม demand & supply คนซื้อท้ายๆโดยไม่คิดวิเคราะห์ทบทวนให้ดีก็กลายเป็นซื้อของแพงไป
เหตุการณ์หลังจากนี้.. คนที่รวย มาขอบคุณหรือเปล่าไม่รู้ แต่คนที่ขาดทุนกลับมาก่นด่าเอา ด่าถึงต้นข่าวเลย แบบนี้ เป็น เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่งกระดูกแขวนคอ ครับ

พวกที่สาม พวกไม่เอาไหน กลุ่มนี้ไม่บอกหุ้น ไม่ถามหุ้นใคร อ่านอย่างเดียว ศึกษาหุ้นด้วยตนเอง ศิลปินเดี่ยว มีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จและคนที่ยังต้องศึกษาต่อไปอีกนาน กลุ่มนี้.......เหงาอ่ะ

ส่วนเรื่อง ซื้อก่อนบอกหุ้น จากประสบการณ์ตรงนะครับ
ถ้ายังไม่มีหุ้นแต่บอกให้เพื่อนซื้อหุ้นดีพร้อมกันตอนตลาดเปิด พรุ่งนี้...จะโดนทำนองว่า "ตัวเองยังไม่กล้าซื้อมาบอกทำไม..ฮ่วย!!!"
ถ้าซื้อแล้วค่อยบอก....จะโดนแบบว่า "ซื้อแล้วเชียร์ คราวหน้าบอกเร็วๆกว่านี้หน่อย แล้วอย่าลืมบอกเราคนแรกนะ....อ้าววว"

Re: สอบถามคุณนริศ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2012 1:03 pm
โดย happy
ผมว่า ปัญหาจริงๆ คือ

" ไม่ยอมโทษตัวเอง เงินตัวเอง ซื้อเอง แต่โทษคนอื่น ประหลาดหนอ :?: "

Re: สอบถามคุณนริศ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2012 1:15 pm
โดย ดำ
nam เขียน:พวกที่สาม พวกไม่เอาไหน กลุ่มนี้ไม่บอกหุ้น ไม่ถามหุ้นใคร อ่านอย่างเดียว ศึกษาหุ้นด้วยตนเอง ศิลปินเดี่ยว มีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จและคนที่ยังต้องศึกษาต่อไปอีกนาน กลุ่มนี้.......เหงาอ่ะ
พึ่งรู้ว่า การศึกษาด้วยตนเอง จัดอยู่ในกลุ่มไม่เอาไหน
น่าจะเรียกว่า ไม่เอาใคร มากกว่านะครับ

Re: สอบถามคุณนริศ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2012 1:41 pm
โดย sakkaphan
happy เขียน:ผมว่า ปัญหาจริงๆ คือ

" ไม่ยอมโทษตัวเอง เงินตัวเอง ซื้อเอง แต่โทษคนอื่น ประหลาดหนอ :?: "
ไม่ประหลาดหรอกครับคุณ happy
ถ้าเขามีทัศนคติ ในการโทษตนเอง เมื่อเกิดความผิดพลาดในการลงทุน
คงจะมีแต่คนประสบความสำเร็จเต็มไปหมดแล้ว
เพราะเมื่อโทษตัวเองแล้ว ก็จะย้อนกลับมองข้อผิดพลาดของตัวเอง หาทางแก้ไขตัวเอง
ย่อมมีโอกาสสำเร็จมากกว่าคนที่รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองเป็นไหนๆ
แต่เป็นธรรมดาโลก คนเราย่อมแตกต่างกัน
ทางเดินใครทางเดินมันครับ เราเลือกเอง

Re: สอบถามคุณนริศ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2012 1:57 pm
โดย yakjabon
เป็นคนรุ่นหลังนะครับ คงไม่มีโอกาสได้ความรู้หรือทราบเรื่องราวโดยตรง แต่จากที่อ่านดูอยากบอกว่่า เราควรเปิดใจกับทุกความเห็นนะครับ เพียงแต่ถ้าเราเห็นว่าไม่ใช่ ไม่ชอบ ก็ไม่ต้องรับและไม่ต้องไปต่อว่าคนอื่น เพราะทุกคนมีความคิดและชะตาลิขิตต่างกัน จึงควรเคารพซึ่งกันและกัน แล้วโลกเราจะสงบสุขได้ในทุกๆวงการครับ :D