Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

คิดว่าไงครับ

1.ถึงเวลาก้ขาย คงทนแรงต้านไม่ไหว

2.สงสัยรอบนี้จะเอาจิง ดูท่าจะไม่มี91 แล้ว

ผมว่า คงจะไม่ง่ายเท่าไร เพราะเห็นเปลี่ยนวัน ดีเดย์มาหลายครั้งแล้ว ส่วนตัวผมเคยโทรไปถามศูนย์ว่ารถรุ่นผมใช้ Gas91 ได้หรือเปล่า ปรากฎว่าเขาบอกว่าไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่รถก็ไม่ได้เก่ามากนะครับ MAZDA3 ครับ

แต่ผมคิดว่า ถ้าอยากยกเลิกจริง ๆ ต้องยกเลิก Gas91 แล้ว ให้น้ำมัน Gas91 ติดป้ายว่า เ้บนซิน91 แล้วไม่้ต้องประกาศออกสื่อ แค่นี้ผมว่าก็เปลี่ยนได้ละ (แต่ทาง PTT ช่วยรับผิดชอบด้วยนะครับ ถ้ารถของพวกเราเสียเพราะว่าการเปลี่ยนนี้)

เมื่อก่อนผมก้ใช้เบนซิน95 รถ newaltis2008

พอเปลี่ยนมาโซฮอลล์95เครื่องก้หนืดๆ ครับ

มอไซด์ที่บ้านก้ไม่เก่า ฟีโน่ปีที่แล้ว แต่ถามศูนย์แล้ว เติมโซฮอลล์91ไม่ได้

ถ้าไม่ขายขึ้นมา ดูท่าจะมีปิดถนนมั้งครับ

ตามต่างจังหวัดหน่อย มอไซด์ยังเก่าๆก้มีมาก พวกนี้ยิ่งแล้วใหญ่


มาสด้า3 น่าจะเติมได้นะครับ ผมเห็นเพื่อนก้เติมกัน

Mazda3 gen ที่แล้ว รุ่นก่อน minor change เติมโซฮอล 91 ไม่ได้ครับ
แต่รุ่นหลัง Minor แล้วเติมได้หมด

ตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียน:Mazda3 gen ที่แล้ว รุ่นก่อน minor change เติมโซฮอล 91 ไม่ได้ครับ
แต่รุ่นหลัง Minor แล้วเติมได้หมด

ขอบคุณครับ

รถใหญ่ก้มีงานเข้าเหมือนกัน

แบบนี้ ท่าทางนโยบายนี้น่าจะ แห้ว ต่อไปนะครับ

ถ้าจะทำจริงไม่ต้องกำหนดดีเดย์ ให้เมื่อยแค่ใช้การบิดเบือนราคาเหมือนที่ทำกับ เบนซิน95

แต่ผมว่าอย่าทำเลย ต้นทุนมาไงก็ขายอย่างนั้นน่าจะดีที่สุด ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกลไกตลาด ถามว่า ส่งเสริมเอทานอล ใครได้ประโยชน์บ้าง มาถกกันดูมั้ยละครับ

charnengi เขียน:ถ้าจะทำจริงไม่ต้องกำหนดดีเดย์ ให้เมื่อยแค่ใช้การบิดเบือนราคาเหมือนที่ทำกับ เบนซิน95

แต่ผมว่าอย่าทำเลย ต้นทุนมาไงก็ขายอย่างนั้นน่าจะดีที่สุด ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกลไกตลาด ถามว่า ส่งเสริมเอทานอล ใครได้ประโยชน์บ้าง มาถกกันดูมั้ยละครับ

งั้นผมขอเริ่มก่อนนะครับ

ถ้างดใช้เบนซิน91 แก๊ซโซฺฮอลล์ได้ประโยชน์แน่นอนครับ

โรงงานที่ทำเอทานอล ก้ดีแน่นอนครับ

บริษัทที่ปลูกพืชทำเอทานอลก้ดีแน่นอนครับ

บริษัทผลิตชิ้นส่วน รถมอไซด์ ก้ต้องดีครับ เพราะรถเก่าใช้ไม่ได้

สินเชื่อมอไซด์ก้ดีครับ คนคงแห่ออกรถใหม่

รวมๆคนได้ประโยชน์ก้ ksl kbs lanna bcp ptt lhk tk gl etc

ถ้า มาตรการไม่แท้งไปก่อนนะครับ

จริงๆ แล้ว GSH ใช้ได้แน่นอนครับกับรถเกือบทุกรุ่น พ่อผมใช้รถเบ๊นซ์รุ่นเก่า ประมาณปี 1982 ใช้ GSH95
มาหลายปีแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรเลย

ผมว่าคล้าย ๆกับปัญหาเรื่อง ดีเซลบี5 นั่นแหละครับ เมื่อก่อนมี 2เกรดคือ ดีเซล กับดีเซลบี 5 เห็นหลายคนพูดว่า
เวลาเติมบี5 แล้วเครื่องอืด เร่งไม่ขึ้น

แต่ตอนนี้น้ำมันดีเซลในประเทศไทยทุกยี่ห้อมีการผสมไบโอดีเซล 3-5% ในน้ำมันดีเซลที่ดราเติมกันเป็นมาตรฐานทุกยี่ห้อทั่วประเทศ ไม่เห็นมีใครบ่นว่าเครื่องอืด

เข้าใจว่าคงเป็นเพราะไม่รู้...จึงไม่ได้จินตนาการ

JIJ เขียน:จริงๆ แล้ว GSH ใช้ได้แน่นอนครับกับรถเกือบทุกรุ่น พ่อผมใช้รถเบ๊นซ์รุ่นเก่า ประมาณปี 1982 ใช้ GSH95
มาหลายปีแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรเลย

ผมว่าคล้าย ๆกับปัญหาเรื่อง ดีเซลบี5 นั่นแหละครับ เมื่อก่อนมี 2เกรดคือ ดีเซล กับดีเซลบี 5 เห็นหลายคนพูดว่า
เวลาเติมบี5 แล้วเครื่องอืด เร่งไม่ขึ้น

แต่ตอนนี้น้ำมันดีเซลในประเทศไทยทุกยี่ห้อมีการผสมไบโอดีเซล 3-5% ในน้ำมันดีเซลที่ดราเติมกันเป็นมาตรฐานทุกยี่ห้อทั่วประเทศ ไม่เห็นมีใครบ่นว่าเครื่องอืด

เข้าใจว่าคงเป็นเพราะไม่รู้...จึงไม่ได้จินตนาการ

เรือลากคู่ เครื่องตัดหญ้า รถไถนา เครื่องบิน ใช้gsh ได้ไหมครับ

ไม่แน่ใจครับ ทราบแต่ว่าเครื่องบินเค้าใช้นำ้มัน Jet เป็นน้ำมันเฉพาะ

JIJ เขียน:ไม่แน่ใจครับ ทราบแต่ว่าเครื่องบินเค้าใช้นำ้มัน Jet เป็นน้ำมันเฉพาะ

ใช่ครับ ผมว่ามันเป็นน้ำมันก๊าดนะ เวลาขึ้นเครื่องผมได้กลิ่นมันคล้ายๆกัน

รถผม Big bike kawasaki ปี 92 ถ้าเปลี่ยนมาเติมโซฮอล นี่พังแหงมๆ

เชลล์เหล่อี20หลังรัฐเลิก91ลุ้นลูกค้าหันใช้ [ โพสต์ทูเดย์, 8 ต.ค. 55 ]

"เชลล์" สนใจขายอี20 หลังรัฐยกเลิกเบนซิน 91 เชื่อคนเปลี่ยนใช้โซฮอล์มากขึ้น

นางพิศวรรณ อัชนะพรกุล ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เชลล์อยู่
ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ในการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี20 ทดแทนการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน
91 ภายหลังกระทรวงพลังงาน มีนโยบายชัดเจนให้เลิกจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556
เป็นต้นไป

ถ้าเลิก 91 ไอ้แก่ Prunto รุ่นดึกดำบรรณ์ ที่ผมใช้ขับไปทำงานทุกวันจะซดอะไร
ต้องจอดปลูกผักแล้วมั่ง

รายงาน: ชำแหละ 'บัตรเครดิตพลังงาน 2'สะพานเชื่อมรากหญ้าวินวินทุกนโยบาย
Source - ประชาชาติธุรกิจ (Th), Saturday, October 13, 2012


วันที่ 15 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป กระทรวงพลังงานจะเริ่มให้รถบริการสาธารณะได้ใช้ "บัตรเครดิตพลังงานยกกำลังสอง" เต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ด้านการบรรเทาความเดือดร้อนช่วยเหลือค่าครองชีพระดับ รากหญ้า จึงจัดโครงการนี้เพื่อให้สิทธิ ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ และจะขยายต่อไปยังรถตู้ รถตุ๊กตุ๊ก

โดยปรับปรุงกติกาการใช้บัตรใหม่ เพื่อลดความ เสี่ยงที่จะเกิดกับพันธมิตร คือธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้ออกบัตรเครดิต ปลอดภัยจากการมีหนี้สูญสะสม และบริษัทผู้ค้าน้ำมัน นำโดยบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) รวมถึงกำลังเจรจาเพิ่มเครือข่ายกับแบรนด์เอสโซ่และเชลล์

บทเรียนจากโครงการ "บัตรเครดิตพลังงาน" ยุครัฐบาลปู 1 คือมีช่องว่างจากกลุ่มผู้ขับขี่รถสาธารณะทำบัตรเครดิตวงเงิน 6,000 บาท และใช้สิทธิเป็นส่วนลดเติมแก๊สธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) 3 บาท/ครั้ง สร้างภาระหนี้ค้างจ่าย ปตท.สะสมมาถึงสิงหาคม 2555 รวม 7.7 ล้านบาท

ส่งผลให้ "อารักษ์ ชลธาร์นนท์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยุคปู 2 ต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลเกือบครึ่งปี เพื่อกำหนดมาตรการให้รัดกุมอุดช่องโหว่แล้วเดินหน้าต่อ "โครงการบัตรเครดิตพลังงานยกกำลังสอง" ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับการประกาศยกเลิกใช้น้ำมันเบนซิน 91 ดีเดย์ 1 มกราคม 2556 ส่วนใหญ่รถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ 2 จังหวะใช้เชื้อเพลิงชนิดนี้มากที่สุด จะได้ทดลองหันไปใช้พลังงานทางเลือก แก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น ตามสิทธิใหม่ เมื่อแสดงบัตรเติมแก๊สโซฮอล์ รับทันทีส่วนลด 3 บาท/ลิตร จากสถานีน้ำมัน ปตท.ในกรุงเทพฯและปริมณฑล

พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานโครงการบัตรเครดิตพลังงานยกกำลังสอง อธิบายมุมบวกว่า ผลสัมฤทธิ์ที่ได้จากโครงการนี้ คือผู้ประกอบการแท็กซี่สมัครเข้าร่วมถึง 55,000 คัน จากที่มีทั้งหมด 100,000 คัน ส่วนผู้ประกบการรถจักรยานยนต์และวินมอเตอร์ไซค์เข้าร่วมเพียง 3,000 ราย จากทั้งหมด 240,000 คัน ส่วนใหญ่ทำบัตรไม่ได้ เพราะไม่มีใบขับขี่สาธารณะ แต่ทางกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม จะดูแลให้เป็นอย่างดี

ส่วนรถจักรยานยนต์จำนวนมากใช้เบนซิน 91 ที่เตรียมยกเลิก แต่เครื่องยนต์ก็ใช้แก๊สโซฮอล์ไม่ได้จำนวน 4-5 แสนคัน จากทั้งหมด 20 ล้านคัน ทางภาครัฐประเมินว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และยังคงเดินหน้าให้ตำรวจทำประชาสัมพันธ์ข้อมูลตามวินมอเตอร์ไซค์ทุกแห่ง

ขณะที่การสานนโยบาย "บัตรเครดิตพลังงาน" ต้องเดินหน้าต่อไปจากรัฐบาลปู 1 ถึงปู 2 นั้น นักวิเคราะห์จากวงการพลังงานสะท้อนมุมมองทั้งด้านบวกและลบ เช่นเดียวกับนโยบายประชานิยมอีกหลายเรื่องของรัฐบาล

หากแต่ความมุ่งมุ่นของพรรคเพื่อไทยแกนนำรัฐบาลยังคงเดินหน้าตามความเชื่อที่ว่า ทุกช่องที่มีหนทางเข้าไปดูแล "ฐานของกลุ่มคนรากหญ้า" ได้ ก็สามารถสร้างโอกาสทำให้นโยบายต่าง ๆ เชื่อมโยงเข้าหากันได้ โดยต้องพึ่งพาเจ้ากระทรวงที่เข้าใจเจตนารมณ์ของพรรค สามารถแปลงนโยบายให้เป็นแผนปฏิบัติการที่หน่วยงานในกระทรวงพลังงานขับเคลื่อนได้เต็มร้อย ควบคู่กับการใช้กลไกของเครือข่ายรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานเป็นกำลังหนุนหลัก และใช้สถาบันการเงินของรัฐ ทำหน้าที่ค้ำจุนทางด้านเงินทุนหรือผลิตภัณฑ์ที่พร้อมจะให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงได้ทุกช่องทาง

"มุมบวก" ของโครงการบัตรเครดิตพลังงาน คือหากกำหนดกรอบการให้สิทธิผู้ถือบัตรและวิธีการใช้อย่างรัดกุม ระดับรากหญ้าก็จะได้ประโยชน์จริงตอบโจทก์รัฐบาล ส่วนธนาคารกับผู้ค้าน้ำมันก็มีรายได้จากสมาชิกเพิ่มเข้ามาในบัญชีลูกค้า และหากยกระดับเป็นลูกหนี้ชั้นดี ชำระหนี้ตรงเวลาต่อเนื่องกัน 3 เดือนขึ้นไป จะได้รับโบนัสขยายวงเงินเพิ่มจากเดือนละ 3,000 บาท เป็น 6,000 บาท เป็นแรงจูงใจสร้างต้นแบบที่ดี และลึก ๆ แล้วรัฐเองมีวัตถุประสงค์พ่วงการแก้ปัญหา "เงินกู้นอกระบบ" ควบคู่กันไปด้วย

"มุมลบ" โครงการนี้จะถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองกับกลุ่มรากหญ้าโดยตรง ซึ่งผู้ขับขี่รถสาธารณะทั่วประเทศมีอยู่กว่า 40% ของประเทศ บวกกับอาจเป็นภาระกับกองทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) จะต้องไปหาแหล่งเงินทุนมาเตรียมไว้ตามที่รัฐบาลระบุลอตแรก 30 ล้านบาท เพื่อปูทางโครงการเดินหน้าอย่างราบรื่นต่อไปได้

การวางยุทธศาสตร์พลังงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ด้วยวิธีเชื่อมผลลัพธ์รวมเรื่อง "การปลุกกำลังซื้อในประเทศ" เข้ากับ "จัดระเบียบการใช้พลังงาน" เพื่อหา ทางออกให้กับ "พลังงานทางเลือก" กลุ่มแก๊สโซฮอล์ ปลดล็อกการลอยตัวเชื้อเพลิงบางชนิดให้เป็นไปตามกลไกราคาตลาด ซึ่งเรียกร้องกันมานานหลายรัฐบาลที่ทำไม่สำเร็จ ปิดท้ายด้วยเป้าประสงค์แก้ปัญหาเงินกู้นอกระบบของรากหญ้า ครั้งนี้จะสำเร็จ หรือม้วนเสื่อ ต้องดูกันต่อไป

'เชลล์'หวนลงทุนก๊าซรับเออีซีเล็งขายอี20รอท่าเลิกเบนซิน91 [ มติชน, 16 ต.ค. 55 ]

นายอัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวใน
โอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ แทนนางพิศวรรณ อัชนะพรกุล ที่ไปดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดด้าน
การค้าน้ำมันดิบทั่วโลก (ประจาประเทศอังกฤษ) ว่า เชลล์จะดำเนินงานภายใต้ความมั่นคงของ
องค์กรที่อยู่ในภาวะการแข่งขันในธุรกิจพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเชลล์ประเมินว่าปี 2050 ความ
ต้องการใช้พลังงานในโลกจากนี้จะเพิ่มขึ้นจากจำนวนประชากรที่เพิ่มเป็น 9,000 ล้านคน จาก
ปัจจุบัน 7,000 ล้านคน เมื่อกำลังซื้อเพิ่มมีโอกาสเข้าถึงพลังงานมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะใน
ภูมิภาคอาเซียนจะรวมตัวภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558 กลายเป็นโอกาสการลงทุน
เพิ่มขึ้น และในช่วง 10-15 ปีจากนี้คาดว่าอาเซียนจะต้องการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นกว่า 50% อีก
20 ปี ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว

"เชลล์" ขุดเบนซิน 95 ลุยตลาดอีก [ ไทยรัฐ, 16 ต.ค. 55 ]

นางพิศวรรณ อัชนะพรกุล ผู้บริหารสูงสุดด้านการค้าน้ำมันดิบทั่วโลก ประจำประเทศอังกฤษ
เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลประกาศยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ในวันที่ 1 ม.ค. 56 ทำให้
เชลล์เตรียมนำน้ำมันเบนซิน 95 มาจำหน่ายอีกครั้ง เพื่อให้บริการกลุ่มลูกค้าที่ยังมีความต้องการใช้เบนซิน
95 อยู่อีกจำนวนหนึ่ง เพราะไม่สามารถใช้แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91 ได้ รวมถึงจะนำน้ำมันแก๊ส
โซฮอล์อี 20 มาจำหน่ายอีกด้วย โดยน้ำมันของเชลล์มีการใช้เทคโนโลยีในกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ
มากขึ้น ส่วนจะเริ่มขายน้ำมันทั้ง 2 ชนิดเมื่อใดยังไม่ได้ข้อสรุป แต่คาดว่าคงทยอยนำออกมาจำหน่าย
ในเร็วๆ นี้

ไออาร์พีซีพร้อมเลิกเบนซิน 91
แหล่งข่าว : บ้านเมือง, วันที่ : 16/10/2012


นายอธิคม เติบศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ทางโรงกลั่นไออาร์พีซีพร้อมยกเลิกการผลิตเบนซิน 91 ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ยกเลิกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 โดยโรงกลั่นฯ ไม่มีผลกระทบใดๆ และไม่ต้องปรับแผนการผลิต เนื่องจากโรงกลั่นฯ ของไออาร์พีซีที่มีกำลังกลั่น 215,000 บาร์เรล/วัน ในขณะนี้กลั่นประมาณ 170,000-180,000 บาร์เรล/วัน โดยผลพลอยได้ของกระบวนการกลั่นจะมีแนฟทาหนักออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นชนิดที่เหมาะสมในการผลิตแก๊สโซฮอล์ โดยปัจจุบันไออาร์พีซีได้มีการส่งแนฟทาหนักไปแลกเปลี่ยนวัตถุดิบกับ บมจ.โกลบอลเคมิคอล (พีทีทีจีซี) ในขณะที่หลายโรงกลั่นฯ อาจจะต้องปรับแผนการกลั่น เช่น นำน้ำมันดิบที่เหมาะสมมากลั่น หรืออาจจะมีเบนซินเหลือเพื่อการส่งออก

ส่วนนโยบายของรัฐบาลการเพิ่มสำรองน้ำมันในประเทศจาก 36 วันเป็น 90 วัน โดยภาครัฐและเอกชนสำรองฝ่ายละครึ่งนั้น ในส่วนของเอกชนที่ต้องเพิ่มสำรองจาก 5% เป็น 6% หรือ 36 วัน เป็น 45 วัน ในส่วนของไออารพีซีไม่ต้องมีการสร้างถังเพิ่มเพื่อเก็บสำรองแต่อย่างใด และมีถังพร้อมให้บริการรายอื่นๆ แต่ที่จะมีปัญหาคือจะต้องลงทุนซื้อน้ำมันดิบมาเก็บสำรองเพิ่มขึ้นประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรล โดยหากคำนวณที่ราคาน้ำมันดิบประมาณ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทางไออาร์พีซีต้องลงทุนสูงถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงมาก ดังนั้นภาครัฐจึงควรหามาตรการสนับสนุนเพื่อไม่เป็นภาระต่อภาคเอกชนมากเกินไป

นายอธิคม กล่าวว่า ไออาร์พีซีพร้อมให้บริการคลังสำรองน้ำมันของทั้งภาครัฐและเอกชน เพราะมีท่าเรือและที่ดินที่พร้อมในจังหวัดระยอง โดยถังน้ำมันปัจจุบันจัดเก็บน้ำมันได้รวม 7 ล้านบาร์เรล และไออาร์พีซียังมีคลังขนาดเล็กในสมุทรปราการ ชุมพร และพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 400,000 บาร์เรล ทั้งนี้ในพื้นที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซีที่ระยอง สามารถให้บริการได้รวม 2 ล้านบาร์เรล และพร้อมจะศึกษาเพิ่มเติมหากภาครัฐจะใช้พื้นที่ในการเก็บสำรองน้ำมันในอนาคต

พลังงานอลหม่านนโยบายไม่ชัดเลิกเบนซิน-ขึ้นดีเซล-เพิ่มสำรอง ทำสับสน
Source - ไทยโพสต์ (Th), Wednesday, October 24, 2012


ภายหลังจากกระทรวงพลังงานประกาศยกเลิกจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 อย่างจริงจัง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556 สร้างความสับสนให้กับสังคมไทยอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมานโยบายยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 91 ประกาศออกมาหลายครั้ง แต่มีอันต้องเลื่อนออกไปเสียทุกทีแต่ครั้งนี้หลายฝ่ายคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นจริง เนื่องด้วยเมื่อวันที่4 ต.ค.2555 ทาง "คณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กพช.)" ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ออกมายืนยันเป็นมติ กพช. ให้มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556 แน่นอน

ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวทำให้กลุ่มประชาชนผู้ใช้รถเก่า เช่น รถเก๋งบ้าน รถมอร์เตอร์ไซค์ รถเครื่องยนต์เพื่อการเกษตรที่ใช้น้ำมันเบนซิน 91 มาโดยตลอด และเครื่องยนต์ไม่รองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ถึงกับเดือดร้อน เพราะไม่รู้จะหันไปใช้น้ำมันอะไรได้

เสมือนว่านโยบายดังกล่าวเท่ากับเป็นการบีบให้ประชาชนกลุ่มผู้ใช้รถเก่าต้องแก้ปัญหาด้วยการซื้อรถยนต์คันใหม่ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แทน รวมทั้งยังเป็นการบีบให้หันไปติดตั้งก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) หรือติดตั้งก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) แทนด้วย ซึ่งล้วนเป็นภาระทางการเงินให้กับกลุ่มผู้ใช้รถเก่าทั้งสิ้น

เมื่อหันมาดูแผนการแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากการเลิกขายเบนซิน 91 ของกระทรวงพลังงาน กลับพบว่ายังไม่มีความชัดเจน โดยเป็นการประกาศเป้าหมายการเลิกขายเบนซิน 91 ไปก่อน ทั้งที่ยังไม่มีแผนรองรับการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ถึงจะมีก็เป็นแบบเฉพาะหน้า เพราะกระทรวงพลังงานเริ่มโยนหินถามทางออกมาก็คือ การผลักดันให้กลุ่มผู้ใช้รถเก่ามีช่องทางออกด้วยการหันไปใช้น้ำมันเบนซิน 95 แทน ยิ่งกลายเป็นความงุนงงของสังคมทันที ว่าตกลงเป้าหมายของกระทรวงพลังงานคืออะไร? เพราะที่ผ่านมากระทรวงพลังงานพยายามให้เลิกขายเบนซิน 95 ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีจำหน่ายอยู่นิดหน่อยไม่กี่ปั๊ม และล่าสุดให้เลิกขายเบนซิน 91 แต่ให้กลับไปใช้เบนซิน 95 แทน....??? ซึ่งภายหลังจากประกาศให้เลิกขายเบนซิน 91 ทางกระทรวงพลังงานยังไม่เคยออกมาสร้างความกระจ่างชัดให้กับสังคมเท่าที่ควร

และเมื่อมาดูถึงวิธีการที่กระทรวงพลังงานจะทำให้กลุ่มผู้

ใช้รถเก่าหันมาใช้เบนซิน 95 คือ การทำให้ราคาเบนซิน 95 ถูก

ลงใกล้เคียงกับเบนซิน 91 เพื่อให้ผู้ใช้รถเก่าไม่เดือดร้อนกับ

ราคาน้ำมันที่แพงมากนัก จากปัจจุบันน้ำมันเบนซิน 95 ราคาอยู่ประมาณ 49 บาทต่อลิตร ขณะที่เบนซิน 91 อยู่ประมาณ 43.55 บาทต่อลิตร และวิธีการคือหันมาลดกำไรจากค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันเบนซิน 95 ลง จากปัจจุบันได้ค่าการตลาดถึง 4-5 บาทต่อลิตร ขณะที่ค่าการตลาดทั่วไปที่เหมาะ

สมอยู่ที่ 1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ราคาหน้าปั๊มลดลงตาม

ไปด้วย นอกจากนี้จะเปิดให้ปรับจูนรถมอร์เตอร์ไซค์เก่าฟรี

เพื่อให้สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้

ความปั่นป่วนของนโยบายด้านน้ำมันยังต่อเนื่องไปถึงค่ายน้ำมันต่างๆ ด้วย ซึ่งเริ่มเล็งหันมาจำหน่ายน้ำมันเบนซินกันมากขึ้น เช่น ค่ายน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง ปตท. ก็เตรียมหันมาเพิ่มหัวจ่ายน้ำมันเบนซิน 95 อีก 100-200 ปั๊ม จากปัจจุบันไม่มีการจำหน่ายแล้ว เช่นเดียวกับค่ายน้ำมันเชลล์ก็ให้ความสนใจกลับมาจำหน่ายเช่นกัน สำหรับค่ายน้ำมันซึ่งปัจจุบันยังมีจำหน่ายเบนซิน 95 อยู่ ได้แก่ ยี่ห้อคาลเท็กซ์ พีที ซัสโก้ และปิโตรนาส เนื่องจากกำไรจากค่าการตลาดสูง แม้ยอดขายจะน้อยก็ตาม

สำหรับนโยบายการยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 91 นั้น กระทรวงพลังงานมองว่าจะก่อให้เกิดการผลักดันไปใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ชนิดต่างๆ ได้มากขึ้น โดยปัจจุบันยอดการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 มีอยู่ 8 ล้านลิตรต่อวัน และคาดว่ายอดการใช้นี้จะ

ถูกโอนไปใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ให้เพิ่มขึ้นได้ แต่ท้ายที่สุดจะกลายเป็นการไปเพิ่มยอดขายให้กับเบนซิน 95 แทน จากปัจจุบันขายได้เพียงแค่ 1 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งต้องจับตาดูว่ายอดขายปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไหร่

นอกจากนโยบายด้านการเลิกใช้เบนซิน 91 แล้ว ทางกระทรวงพลังงานยังคลุกฝุ่นกับนโยบายปรับราคาน้ำมันดีเซลให้ขยับขึ้นสะท้อนราคาตลาดโลก หลังจากที่ตรึงไว้ที่ 30 บาทต่อลิตรมานาน เนื่องจากนายอารักษ์ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ข้องใจกับราคาดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ว่า ราคาดังกล่าวเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ และไม่

ทราบที่มาที่ไปอย่างชัดเจน จึงได้ว่าจ้างบางหน่วยงานทำการศึกษาราคาน้ำมันดีเซลที่เหมาะสม และผลกระทบจากการปรับขึ้นราคา เพื่อนำมาพิจารณาเปลี่ยนแปลงราคาต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ในส่วนของมาตรการให้ผู้ค้าน้ำมันเพิ่มการสำรองน้ำมันขึ้นอีก 1% จากปกติสำรองอยู่ 5% ของยอดจำหน่าย ก็ให้เพิ่มเป็น 6% หรือเพิ่มการสำรองน้ำมันไว้จำหน่ายจาก 36 วัน เป็น 43 วัน พร้อมกันนี้ภาครัฐก็ต้องทำการสำรองน้ำมันด้วยอีก 45-47% เพื่อให้สำรองน้ำมันในประเทศเป็น 90 วัน ซึ่งเป็นปริมาณขั้นต่ำของการเข้าเป็นประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ)

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานมองว่า การสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้นจะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานให้ประเทศ เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันผันผวนสูง อีกทั้งปัญหาความไม่สงบทางการ

เมืองเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการขาดแคลนน้ำมันในอนาคต หากมีน้ำมันสำรองไว้ใช้ได้ 90 วัน จะปลอดภัยกับประเทศมากขึ้น นอกจากนี้หากได้เข้าเป็นสมาชิกไออีเอ จะสามารถหยิบยืมน้ำมันจากประเทศสมาชิกด้วยกันได้จนกว่าสถานการณ์ปัญหาต่างๆ จะคลี่คลาย เป็นต้น

ทั้งนี้ การเพิ่มสำรองน้ำมันไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากการเพิ่มสำรองน้ำมันจะต้องรอจังหวะราคาน้ำมันโลกลดเพื่อซื้อเข้ามาเก็บรวมทั้งต้องจัดหาถังเก็บน้ำมันมารองรับเพิ่มด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะภายหลังจากมีแนวคิดเพิ่มสำรองน้ำมันออกมา ผู้ค้าน้ำมันต่างแห่ไปหาเช่าถังเก็บน้ำมันจนหมด และถังเก็บมีไม่เพียงพอให้

เช่า นอกจากนี้ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นยังทำให้ผู้ค้าน้ำมันอาจต้องปรับขึ้นราคาน้ำมันหน้าปั๊มอีก 40-70 สตางค์ต่อลิตร

ปัจจัยดังกล่าวทำให้จนถึงเวลานี้ กรมธุรกิจพลังงานซึ่งเป็นโต้โผใหญ่ของการออกประกาศเพิ่มสำรองน้ำมันยังไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาได้ และไม่แน่ใจว่าจะออกประกาศให้มีผลบังคับใช้ได้ในปี 2556 หรือไม่ ซึ่งต้องติดตามกันต่อไป

ทั้งนี้ นโยบายเกี่ยวกับราคาน้ำมันของกระทรวงพลังงานยังสับสนอลหม่านไปเสียทุกด้าน และยังหาทิศทางที่ชัดเจนไม่เจอ และนานวันการใช้ระบบทำไปแก้ไปเรื่อยๆของกระทรวงพลังงานจะยิ่งทำให้ผู้ใช้น้ำมัน ผู้ค้าน้ำมันและวงจรธุรกิจด้านน้ำมันไม่สามารถกำหนดแผนการใช้และการผลิตได้ชัดเจน และทำให้ต่างชาติไม่เชื่อมั่นต่อการลงทุนด้านพลังงานในประเทศไทยได้ ดังนั้นกระทรวงพลังงานควรเร่งออกมาทำความเข้าใจและชี้แจงทิศทางนโยบายที่ชัดเจนของราคาน้ำมันโดยเร็ว อย่าให้เป็นปัญหาคาใจเหมือนดินพอกหางหมู.!!!.

--จบ--

ปั๊มน้ำมันที่ขายเบนซิน91 ต้องเปลี่ยนป้ายใหม่ บริษัทเราที่ผลิตป้ายนี้คงได้ประโยชน์บ้าง อิอิ

งงตรงยกเลิก 91 แต่ให้ซื้อ 95 แทน
มันมีผลดีตรงไหน

ปตท.พร้อมเลิกเบนซิน 91
Source – มติชนสุดสัปดาห์ (Th), Friday, October 26, 2012

นายสรัญ รังคศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลประกาศยกเลิกการใช้เบนซิน 91 เริ่มวันที่ 1 มกราคม 2556 คาดว่าผู้ค้าน้ำมันทุกรายจะจำหน่ายน้ำมันอี 20 ทดแทน โดย ปตท. มีสถานีบริการ (ปั๊ม) จำหน่ายอี 20 จำนวน 600-700 แห่ง ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 20 ล้านลิตรต่อเดือน เพราะประชาชนเริ่มมั่นใจอี 20 และมีรถใหม่สามารถใช้อี 20 เพิ่มมากขึ้นเกือบ 1 ล้านคัน และหลังจากยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 91 แล้ว ปตท. ได้ปรับแผนรองรับความต้องการใช้น้ำมัน โดยทุกจังหวัดจะมีน้ำมันทุกประเภทจำหน่าย ทั้งนี้ ปัจจุบันมีปั๊ม ปตท. ประมาณ 1,300 แห่งที่จำหน่ายเบนซิน 91 จะปรับไปขายอี 20 แทนประมาณ 1,000 แห่ง และขายเบนซิน 95 และอี 85 ประมาณ 150-200 แห่ง

--จบ--

พลังงานดันไทยฮับเอทานอล [ ข่าวสด, 30 ต.ค. 55 ]

นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า นโยบายส่งเสริมการใช้
แก๊สโซฮอล์ยังเดินหน้าต่อไป แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวรมว.พลังงานใหม่ เป็นนาย พงษ์ศักดิ์
รักตพงศ์ไพศาล โดยแผนการส่งเสริมแก๊สโซฮอล์จะส่งเสริมให้มีการใช้อี 20 อี 85 แก๊สโซฮอล์
ทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยหลังจากยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 91 ในต้นปีหน้าแล้ว จะทำให้มีการ
ใช้เอทานอลเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 2 ล้านลิตร/วัน จากในขณะนี้มีประมาณ 1.3 ล้านลิตร/วัน

พลังงานยันยกเลิกเบนซิน 91 ต้นปี 56 พร้อมมีมาตรการช่วยผู้ได้รับผลกระทบ
updated: 04 ต.ค. 2555 เวลา 15:00:14 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน ยืนยันว่ากระทรวงฯ จะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ในวันที่ 1 ม.ค.56 ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน หลังเลื่อนกำหนดจากเดิมที่จะยกเลิกในวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้ความเห็นชอบ

มาตรการดังกล่าวเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ปริมาณการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้นอีก 8 แสน-1 ล้านลิตรต่อวัน จากปัจจุบันที่มียอดการใช้เอทานอลเพียง 1.25-1.3 ล้านลิตรต่อวันเท่านั้น ขณะที่กำลังการผลิตอยู่ที่ 3.27 ล้านลิตรต่อวัน และการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทอยู่ที่ 11-11.5 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนเบนซิน 91 มียอดขายรวม 8 ล้านลิตรต่อวัน นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้รับประโยชน์จากการปลูกพืชพลังงาน เพราะความต้องการใช้เอทานอลที่เพิ่มขึ้นจะมาจากมันสำปะหลัง กากน้ำตาล(โมลาส) และอ้อยมากขึ้น

รมว.พลังงาน เชื่อว่า มาตรการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำมันพื้นฐาน หรือ จีเบส เพราะโรงกลั่นน้ำมันได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตแล้ว และอาจไม่จำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศในอัตราที่สูงอย่างที่คาดการณ์ไว้ แต่กระทรวงฯ จะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ยังจำเป็นต้องใช้เบนซิน 91 โดยเฉพาะรถเก่าที่มีใช้เครื่องยนต์ระบบคาร์บูเรเตอร์ ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงเครื่องยนต์ให้สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก และขณะนี้มีรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้มากกว่า 1 ล้านคันแล้ว

รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงฯ กำลังศึกษาเรื่องการนำน้ำมันดิบที่ผลิตได้ในประเทศมาใช้ จากปัจจุบันที่มีการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งในกรณีนี้โรงกลั่นน้ำมันอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ในการกลั่นเพื่อรองรับน้ำมันในประเภทนี้มากขึ้น และต้องมีการแก้ไขสัญญาปิโตรเลียมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย แต่มองว่าในเชิงเศรษฐกิจน้ำมันดิบที่ขุดได้ในประเทศไม่เหมาะกับการใช้ในประเทศไทย เนื่องจากเมื่อนำมากลั่นแล้วจะทำให้ได้น้ำมันเบนซินเป็นส่วนใหญ่ แต่ประเทศไทยมีการใช้น้ำมันดีเซลมากกว่าเบนซิน ทำให้ต้องมีการนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถผลิตได้เป็นน้ำมันดีเซลมากกว่า โดยจะทำเรื่องนี้ห้แล้วเสร็จภายในปีหน้า

ส่วนกรณีที่ บมจ.ปตท.(PTT) อยากให้เอกชนรายอื่นมีส่วนเป็นเจ้าของธุรกิจปิโตรเลียม นายอารักษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่ปัจจุบันเอกชนและประชาชนที่ถือหุ้นใน ปตท.ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ก็มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของอยู่แล้ว โดยผ่านการลงทุนของ ปตท. เพราะฉะนั้นหาก ปตท.มีเงินลงทุนไม่เพียงพอก็สามารถระดมทุนใน ตลท.ได้ ส่วนกรณีที่อยากให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเข้าไปลงทุนในแหล่งปิโตรเลียม กระทรวงพลังงานไม่มีนโยบายดังกล่าว เพราะจะเป็นการสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก

รมว.พลังงาน ยืนยันว่า กระทรวงฯ จะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) ภาคครัวเรือนไปจนถึงสิ้นปีนี้ แต่ราคา LPG ภาคขนส่งต้องรอผลการศึกษาการปรับโครงสร้างราคาที่ชัดเจนก่อน

ชง2ทางแก้เลิก91มอเตอร์ไซค์เก่าให้จูนอัพเครื่องรถเก่าทำใจเติมเบนซิน95แทน
Source - โพสต์ ทูเดย์ (Th), Thursday, November 01, 2012


โพสต์ทูเดย์ -พพ.ชง 2 ทางเลือกหลังยกเลิกเบนซิน 91 แนะมอเตอร์ไซค์จูนอัพเครื่องยนต์เติมโซฮอล์91 ส่วนรถเก่าเติมเบนซิน 95

นายอำนวย ทองสถิตย์ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่าทาง พพ.ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพลังงานหามาตรการลดผลกระทบจากนโยบายยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 91 ให้กับรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์รุ่นเก่า โดยกำหนดไว้ 2 ทางเลือก คือ 1.การจูนอัพเครื่องยนต์โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์เก่าให้หันมาใช้แก๊สโซฮอล์ 91 และ 2.รถยนต์รุ่นเก่าเติมเบนซิน 95 ซึ่งในระยะยาวจะมีราคาขายปลีกที่ถูกลง 2-3 บาท/ลิตร

ทั้งนี้ รถยนต์ที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปี สามารถใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ได้ แต่ถ้าเป็นรุ่นที่เก่ากว่านี้ต้องใช้เบนซิน 95 ซึ่งปัจจุบันยังมีจำหน่ายส่วนรถมอเตอร์ไซค์ ใช้วิธีจูนอัพเครื่องซึ่งเสียค่าใช้จ่ายไม่มาก และยืนยันว่าไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อเครื่องยนต์

สำหรับแนวทางการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล (บี100) ในภาคขนส่งให้มีสัดส่วนมากกว่า 5% หรือบี5 นั้น ทาง ปตท.อยู่ระหว่างศึกษาการใช้ บี20 หรือน้ำมันดีเซลผสม บี100 ในสัดส่วน 20% โดยต้องรอข้อสรุปว่ามีผลต่อเครื่องยนต์มากน้อยเพียงใด แต่ตามขั้นตอนการเพิ่มสัดส่วนการใช้ บี100 ในลำดับต่อไปควรเป็น บี7 ก่อน แต่ก็ต้องพิจารณาจากความพร้อมของค่ายรถยนต์ต่างๆ ด้วย รวมทั้งปริมาณปาล์มน้ำมันจะมีเพียงพอต่อการนำมาใช้ทางด้านพลังงานแค่ไหน เพื่อไม่ให้กระทบกับโควตาการบริโภค

"ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างทำโครงการรณรงค์สร้างความเข้าใจให้กับผู้ใช้รถยนต์และมอเตอร์ไซค์เก่า หลังยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 91 โดยจะทำเป็นแคมเปญทางเลือกให้กับผู้ที่ใช้รถยนต์รุ่นเก่าจะสามารถเลือกใช้น้ำมันประเภทไหนทดแทนได้บ้างก่อนที่จะยกเลิกเบนซิน 91 ในวันที่ 1 ม.ค. 2556" นายอำนวยกล่าว

ด้านวัตถุประสงค์หลักของการยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 91 เพื่อต้องการส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชพลังงานทั้งอ้อยและมันสำปะหลังให้มียอดการใช้ขยายตัวมากขึ้น โดยปัจจุบันการใช้เอทานอลเฉลี่ยยังอยู่ที่ 1.2-1.3 ล้านลิตร/วันเท่านั้น ควรจะขยายให้ได้ในระดับ 2 ล้านลิตร/วัน เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังการผลิตจริง

นายวัลลภ เตียศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวว่ารถยนต์รุ่นเก่าตั้งแต่ปี 1995 หรือ 20 ปีขึ้นมา สามารถใช้แก๊สโซฮอล์91 ได้ ส่วนรุ่นที่ต่ำกว่านั้นจะต้องใช้เบนซิน 95 ซึ่งมีจำนวนไม่มากนักในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์บางรุ่นก็ใช้ได้เลย และบางรุ่นก็สามารถจูนอัพด้วยการปรับแต่งนมหนูก็จะสามารถใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ได้ทันทีซึ่งการจูนอัพเครื่องยนต์นั้นมีค่าใช้จ่ายน้อยมาก และไม่จำเป็นต้องไปติดคอนเวอร์ชันคิตที่มีค่าใช้จ่ายสูง

--จบ--

รถคันแรกดันใช้น้ำมันเพิ่ม 4% [ เดลินิวส์, 1 พ.ย. 55 ]

นายเรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาดสถานีบริการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย
เปิดเผยว่า ตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยปัจจุบันจากข้อมูลกรมธุรกิจพลังงานพบว่ามียอด
จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งระบบเพิ่มขึ้น 4% เป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ภาคการขนส่ง
ภาคการผลิตขยายตัวตาม รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากนโยบายดูแลราคาน้ำมันดีเซลลิตรละไม่เกิน 30 บาท
และมาตรการคืนภาษีรถยนต์คันแรกด้วย

-การใช้พลังงานทดแทนก็ช่วยเรื่องความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศครับ หมายความว่าการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกขึ้นสูงมากๆแบบปี 2551 เราก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นราคาน้ำมันกันหน้าเลือดขนาดนั้น เพราะเราจะมีพลังงานบางส่วนที่ผลิตได้ในประเทศไทย เวลาน้ำมัน $100 ขึ้นไป สินค้าพวกนี้มันก็ถูกกว่าแล้วครับ (แข่งขันได้) ถึงเวลาน้ำมันแพงมากคนไทยจะได้ไม่ต้องมาบ่นกันตลอดเวลา

-รถที่เป็นหัวฉีดเค้าก็เติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้ทุกรุ่นแหละครับ สาเหตุที่รถบางคันมีปัญหาเนื่องจากเค้าใช้น้ำมันเบนซินมานานมันมีคราบสกปรกค้างในท่อเยอะ พอเติมแก๊สโซฮอล์มันก็จะชะล้างให้ แล้วไปตันที่กรองเบนซิน ทำรถมันติดขัด หรือภาษาบ้านเรียกว่ารถมันจาม

-สาเหตุหลักที่ต้องเลิกใช้เบนซิน 91 เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนของประเทศ ที่ไม่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ผลิตได้เองด้วยมือคนไทย สินค้าพวกนี้มากจากเกษตรเป็นหลักเช่น อ้อยและมันสำปะหลัง ซึ่งครัวเรือนมากกว่า 400,000 ครอบครัว ที่ปลูกพืชพวกนี้ ช่วยกันเติมนิดนึง มันคงไม่ทำเงินกระเป๋าเราไหลไปไหนมากนักหรอกครับ

-การยกเลิกเบนซิน 91 ก็จะทำให้ชนิดน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงไปอย่างนึง ปัจจุบันมีทั้งเบนซิน 91 95 แก๊ส91 95 E20 E85 และดีเซล รวมกัน 7 ชนิด เข้าปั๊มทีตาลายไม่รู้จะเติมอะไรดีเยอะจัด เวลาเรายกเลิกเบนซิน 91 ผู้ค้าน้ำมันสามารถเอาน้ำมันชนิดอื่นมาขายได้ ซึ่งภาครัฐก็พยายามให้มี E20 และ E85 มากขึ้น

-สาเหตุที่ต้องมีการขายเบนซิน 95 เนื่องจากพวกรถพิเศษทั้งหลายมันเติมไม่ได้ รัฐเค้าก็เลยเก็บไว้ให้บางคงที่มีรถประเภทนั้น แต่ราคาขายก็จะเป็นเกรด premium

-เครื่องบินบางคันใช้น้ำมันที่เรียกว่า bio-jet ครับ

รถผมติด LPG (ที่จริงติด NGV ก็เหมือนๆ กันครับในกรณี)
เมื่อเติม โซฮอล95 (ซึ่งรถยนต์ส่วนมากในที่ผลิตหลังปี 1995
น่าจะใช้ E10 ได้ ถ้าพวกสายยางและท่อ ไม่เปื่อย) แต่ปัญหา
ก็คือ เอทานอล บ้านเรา คุณภาพห่วยแตกครับ ทำให้มีน้ำ
เจือปนอยู่จำนวนมาก หากเราเก็บ E10 ไว้ในถังสักพัก
(เพราะส่วนมากใช้น้ำมันเฉพาะตอนสตาร์ท) น้ำก็จะแยกตัว
มากองที่ก้นถัง เมื่อสตาร์ทรถ แล้วเครื่องยนต์จะกระตุก
มากๆ บางครั้งก็ดับไปเลย แต่ถ้าใช้ 91 หรือ 95 (ไม่มี E)
จะไม่มีปัญหานี้เลย หรือถ้าเติม E10 แล้ววิ่งใช้งานตลอด
ไม่จอดทิ้งไว้นานๆ ก็ไม่มีปัญหาครับ

ผมถามว่า มีกี่ประเทศในโลกนี้ ที่น้ำมัน ดีเซล ถูกกว่าเบนซิน
มากมายมหาศาล ทำให้ต้องชดเชยให้ดีเซล หรือเก็บภาษีน้อย
กว่า ประเทศส่วนมากในโลกนี้ ดีเซล แพงกว่า เบนซิน ทั้งนั้น
เพราะต้นทุนการผลิตสูงกว่า แล้วถามว่าทุกวันนี้ รถหรูๆ แพงๆ
ก็ใช้ดีเซลแทบทั้งหมด!!!! รถกระบะ ที่ส่วนมากเอาไว้ขับแทน
รถเก๋งทั้งนั้้น (ร้อยละ 99% แล้วปัุจจุบันนี้) ก็ใช้ดีเซลเป็นส่วนมาก
แล้วรถพวกนี้พอนั่งแค่คนสองคน มันคันใหญ่และกินน้ำมันมากกว่า
ซิตี้คาร์ มากมาย อย่างมาเลเซีย เพื่อนบ้านเรามีน้ำมันเยอะแยะ
น้ำมันก็ถูกกว่าบ้านเรา แต่เขาไม่สงเสริมให้ใช้รถกระบะคันใหญ่ๆ
สนับสนุน ECO Car มาเป็นสิบยี่สิบปีแล้ว แถมน้ำมันเบนซินยังไม่
E นำหน้า และ Octane สูงกว่าบ้านเรามากๆ คุณภาพน้ำมันเขาดีจริงๆ
ผมว่า บ้านเรากับ PTT นี่น่าอับอายมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ
Petronas ของมาเลเซียนี่ เมื่อเด็กอมมือสู้กับผู้ใหญ่

ผมว่าบ้านเราควร ยกเลิกการเก็บภาษีและการอุดหนุน พวกนี้ได้แล้ว
มัน "Screw" ทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรเป็น ทั้ง LPG NGV ดีเซล E10/E20
เลิกให้หมดเลยครับ แล้วทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางที่ควรเป็น