Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ลงทุนเดือนละ 20000 บาท ทุกเดือน 30 ปี

ตั้งใจทำผลตอบแทนให้ได้เฉลี่ยปีละ 20 % ทบต้นทุกปี

จากรูปเงินต้นแค่ 7.2 ล้านบาท เงินส่วนใหญ่ได้มาจากการต่อเงินสูงถึง 452 ล้านบาท

http://www.easysurf.cc/vfpt2.htm

แบบนี้ คำว่าเศรษฐีร้อยล้าน ก็ไม่น่าจะยากมาก สำหรับคนที่อายุยังไม่เกิน 30

ใช่มั้ยน้อ

ทำไมต้องต่ำกว่า 30 ครับพี่เจ๋ง

ผมมีสิบล้านก็ดีใจแล้วคับพี่เจ๋ง จากเด็กบ้านนอกพ่อแม่จนๆมีแค่นั้นก็สุขใจที่เหลือคือกำไรชีวิตครับ

ผมว่าคนอายุ 50 ก็ใช้ได้นะครับ การแพทย์เดี๋ยวนี้และอนาคตน่าจะพัฒนากว่านี้อีกเยอะมาก. คนน่าจะอายุยืนขึ้น

ต่อไปน่าจะ 100 ปี กันสบายๆ ขอให้มีเงินอย่างเดียว หมอไม่ยอมให้ตายง่ายๆ แน่นอน และยาก็ดีมากขึ้นทุก

วันๆ แม้จะมีผลข้างเคียงบ้าง แต่ผมเชื่อว่าคนจะอายุยืนขึ้นเป็น megatrend แก่ง่ายตายยาก

สาธุ (-/|\-) .... โอมมม เพี้ยง!

yakjabon เขียน:สาธุ (-/|\-) .... โอมมม เพี้ยง!

ยินดีกับน้อง yakjabon ด้วย มีเวลาเป็นเพื่อนที่ดีแล้ว ขอให้สำเร็จ ครับ

อยากย้อนเวลากลับไปต่ำกว่า 30 ...

ถ้าทำกำไรได้20%ทุกปีติดต่อกัน30ปี เงินขนาดนี้ก็คู่ควรแล้วครับ ปัญหาคือนอกจากบัฟเฟ็ตแล้วจะมีใครทำได้อีกหรือไม่

แหม แต่ทำ 20 % ทบต้น 30 ปีติดกันนี่ มันก็ไม่ใช่ว่าใครๆก็ทำได้นะครับ
ผมว่า ค่อนข้างเรียกได้ "เทพ" เลย

Good idea..ชอบๆ..แนวทางดี..ไม่ต้องคิดมากเก็บอย่างเดียว..แต่ลงทุนอะไรดีหละ.ที่ให้ expected return =20%ตลอด30ปี..

พี่ๆหลายท่านมองไปที่ระยะเวลา "30 ปี" ผลตอบแทน "20%" แล้ว
ผมขอมองต่างไปที่เงินต้น "20,000 บาทต่อเดือน" ละกันนะครับ

มันเยอะเหมือนกันนะครับสำหรับคนวัยต่ำกว่า 30 ปีที่เพิ่งเริ่มทำงานไม่กี่ปี 20,000 บาทต่อเดือนคงต้องเงินเดือน 35,000 ขึ้นไปอะครับถึงจะเอาอยู่(ใช้ความรู้สึกด้วยอัตราค่าครองชีพเมืองหลวง) ไม่ปฏิเสธครับว่าคนวัยนี้มีหลายต่อหลายคนที่เงินเดือนขยับไปสู่ระดับ 60,000 - 100,000 บาทแล้ว แต่โลกเราไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ เงินเดือนระดับนี้ต้องแลกด้วย "เวลา" และ "สุขภาพ" ครับ ทำให้อาจจะอ่อนล้าเกินกว่าจะศึกษาหาความรู้และสร้างผลตอบแทนระดับ 20% เว้นเสียแต่ให้กองทุนรวมหรือสินทรัพย์อื่นๆเป็นตัวช่วยผลักดัน ไม่ก็ต้องขยันจัดๆแต่ก็ต้องสร้างสมดุลให้ร่างกายเพื่อจะได้ไม่เป็นอะไรไปก่อนได้ชื่นชมความมั่งคั่งของตน ^^

มิได้มีเจตนาขัดแย้งใดๆครับ แค่อยากช่วยปรับแบบจำลองการคำนวณให้สมเหตุสมผลขึ้น แต่ละท่านจะได้วางแผนการเดินทางไปสู่จุดหมายนั้นให้อย่างเหมาะสมกับตนเอง

ยังไงก็ขอบคุณพี่เจ๋งครับ สำหรับข้อมูลดีๆ ขอบคุณครับ ^/\^

SawScofield เขียน:พี่ๆหลายท่านมองไปที่ระยะเวลา "30 ปี" ผลตอบแทน "20%" แล้ว
ผมขอมองต่างไปที่เงินต้น "20,000 บาทต่อเดือน" ละกันนะครับ

มันเยอะเหมือนกันนะครับสำหรับคนวัยต่ำกว่า 30 ปีที่เพิ่งเริ่มทำงานไม่กี่ปี 20,000 บาทต่อเดือนคงต้องเงินเดือน 35,000 ขึ้นไปอะครับถึงจะเอาอยู่(ใช้ความรู้สึกด้วยอัตราค่าครองชีพเมืองหลวง) ไม่ปฏิเสธครับว่าคนวัยนี้มีหลายต่อหลายคนที่เงินเดือนขยับไปสู่ระดับ 60,000 - 100,000 บาทแล้ว แต่โลกเราไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ เงินเดือนระดับนี้ต้องแลกด้วย "เวลา" และ "สุขภาพ" ครับ ทำให้อาจจะอ่อนล้าเกินกว่าจะศึกษาหาความรู้และสร้างผลตอบแทนระดับ 20% เว้นเสียแต่ให้กองทุนรวมหรือสินทรัพย์อื่นๆเป็นตัวช่วยผลักดัน ไม่ก็ต้องขยันจัดๆแต่ก็ต้องสร้างสมดุลให้ร่างกายเพื่อจะได้ไม่เป็นอะไรไปก่อนได้ชื่นชมความมั่งคั่งของตน ^^

มิได้มีเจตนาขัดแย้งใดๆครับ แค่อยากช่วยปรับแบบจำลองการคำนวณให้สมเหตุสมผลขึ้น แต่ละท่านจะได้วางแผนการเดินทางไปสู่จุดหมายนั้นให้อย่างเหมาะสมกับตนเอง

ยังไงก็ขอบคุณพี่เจ๋งครับ สำหรับข้อมูลดีๆ ขอบคุณครับ ^/\^

ผมเข้าใจ และ เห็นด้วยนะครับ แต่หากเราเอาเรื่องนี้มาคิด คงไม่ได้อะไรขึ้นมา

ผมเอง ลงทุนจริงมาประมาณ 2 ปีกว่า เริ่มด้วยเงิน หมื่นเดียว (มีเงินแค่นั้น)
ทยอยลงทุนด้วยเงินเดือน, โบนัสมาเรื่อย ปันผลได้มาก็ลงทุนกลับเข้าไป
ตอนนี้มีเกือบ 2 ล้านละ ทั้งๆที่เมื่อก่อนยังเคยคิดว่า ชาตินี้คงไม่มีวันเห็นเงินล้าน
ไม่ใช่ว่าผมลงทุนเก่งหรืออะไรนะ เวลาได้ก็ได้เยอะ เวลาลบก็ลบเยอะ ยังพลาด ยังแพ้ตลาดอยู่

เรื่องการทำกำไรให้ได้ 20% ในระยะยาว 10 ปีขึ้นไปต่างหากครับที่ยาก อันนี้จริง
แต่ความพยายามในการออม การทำงานประจำให้ก้าวหน้า บวกกับเวลาที่ผ่านไป
จะเสริมกัน ให้ฝันเป็นจริงได้ แม้จะทำกำไรได้ไม่ถึง 20% ก็ตาม เผลอๆถ้ามีวิกฤติ เงินเดือน+โบนัสนี่แหละครับ สวรรค์

สรุปคือ อย่าไปคิดว่ายาก ให้เริ่มวันนี้ครับ มีน้อยเก็บน้อย 2 หมื่นมันแค่ทางผ่านครับ

แก้นิดนึง
"ตอนนี้มีเกือบ 2 ล้านละ" เปลี่ยนเป็น "ตอนนี้มี 1 ล้านกว่าละ"
หักเงินญาติที่ฝากผมลงทุนไว้ 3 แสนออกละกัน เดี๋ยวจะดูเว่อร์เกิน
ส่วนกำไรจาก 3 แสนนั้นไม่พูดถึง เพราะผมจ่ายญาติเป็นรายเดือนนอก port ปีละ 5% ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน

เม้นนิด
monthly compoundไม่เท่ากับyearly compoundนะครับ
montly=459,556,755.9$
yearly=283,651,576.6$
รายครึ่งปี=364,177,967.4$
รายไตรมาส=417,494,382.8$
20%ต่อปีทบเดือน=21.94%ต่อปี

ไม่สำคัญว่าคุณจะเก็บเงินมาลงทุนได้เดือนล่ะเท่าไรหรอกครับ เงินหมื่น เงินแสน หรือเงินหลักพัน มันก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยล้านได้

อยู่ที่ว่าจะมีวินัยในการเก็บออม+ระยะเวลาการลงทุนให้ต่อเนื่องมากกว่าครับ หากมีความตั้งใจในการลงทุน

บางคนมีเงินเดือนเกือบแสน แต่มีรายจ่ายเป็นแสนๆก็มีนะครับ ถ้าไม่รู้จักควบคุมความโลภของตัวเอง

รุ่นน้องผมหลายคนจบป.ตรี เพิ่งเริ่มทำงานไม่กี่ปี ก็ใช้เงินผ่อนซื้อรถ ซื้อคอนโดอยู่กันแล้ว คิดว่าเค้าจะมีเงินเหลือเก็บกันไหม

น่าชื่นชมจริงๆเลยครับสำหรับพี่ๆทุกท่าน ^o^

เห็นด้วยครับกับการลงมือทำและเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ครับ เคยคิดเหมือนกันว่าชาตินี้กว่าจะเห็นได้เงินล้านคงลูกบวชนู่น 555+ แต่การลงทุนด้วยพื้นฐานจริงๆทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไปครับ สัมผัสถึงความเป็นไปได้มากขึ้นว่าอาจจะเหลือแค่ลูกเข้าเรียนมัธยมต้น 555 ... ผมพูดเหมือนชวนทำธุรกิจเครือข่ายไปรึปล่าวครับ 555+ ^^"

แม้ผมเพิ่งจะจัดทิศทางความคิดให้เป็น Value Investing ได้แค่ประมาณ 2 ปี แต่ก็รู้สึกได้จริงๆครับว่าทุกย่างก้าวมีเป้าหมายยิ่งขึ้น ผมขอยกตัวอย่างการเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อเสริมสร้างกำลังใจซักนิดละกันนะครับ

พอดีผมมีเพื่อนๆใกล้ตัวที่ชอบขอทำนู่นนี่ "ซักครั้งในชีวิต" อยู่กลุ่มหนึ่งครับ(เป็นเรื่องดีๆไม่เดือดร้อนชาวบ้านนะครับ แหะๆ) วันดีคืนดีก็มีเพื่อนบ้า 500 ที่ไปทำงานอยู่ญี่ปุ่นแจ้งว่าจะกลับไทย และด้วยอารมณ์ค้างที่เพิ่งพิชิตยอดเขาฟูจิมาหมาดๆด้วยเวลา 9 ชั่วโมงเศษ พวกเลยชวนสั้นๆว่า "กรุงเทพมาราธอนมั้ย ?" ยังไงล่ะ VI จะรับปากเปรี้ยงเลยก็ใช่วิสัยใช่มั้ยล่ะครับ ? ผมจึงเริ่มตรวจสอบข้อมูลทันทีเพื่อประเมินสถานการณ์ครับ สิ่งแรกที่ต้องทราบคือ "ระยะทาง" ซึ่งมาราธอนระยะสากลนั้นจะวิ่งกันที่ 42.195 กม (ที่มาของระยทางนี้ก็ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับสงครามกรีก vs เปอร์เซียดูนะครับ ^^) ผมก็คิดเหมือนคนทั่วไปครับ ... จะไหวได้ไงเนี่ย 555+ จึงมองหาประเด็นที่สอง "วิธีฝึกซ้อม" ซึ่งก็ทั่วไปครับค่อยๆทำให้ร่างกายทนทานขึ้น ถ้านับกันแล้ววิธีเตรียมตัวแบบมือใหม่จะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน แต่จุดฮึกเหิมมันอยู่ตรงนี้ครับ "กลยุทธวันจริง" ข้อแนะนำคือ "ให้เดิน 1 นาทีสลับวิ่ง 2 กม" มันสัมผัสได้ถึงความเป็นไปได้ทันทีใช่ไหมครับ ?

แค่ 21 ครั้งเราก็ถึงเส้นชัยแล้ว !!! แค่ 21 ปีเราก็มีสิทธิจับเงิน___ล้านแล้ว !!! (หลักเท่าไหร่ใส่กันเองนะครับ แหะๆ >o<)

การลงทุนแนว VI คงไม่ต่างอะไรกับการวิ่งมาราธอน ใช้เวลา ความมุ่งมั่น อดทนบากบั่น และการฝึกซ้อมที่ดี อาจต่างกันที่ความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องเจอจะตอนเริ่มต้นหรือตอนท้ายก็เท่านั้น ที่อยากฝากไว้ คือ "แค่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็เป็นไปได้" ครับ สู้ๆครับพี่น้องเพื่อนร่วมทาง ^^

ปล. ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการแข่งขันทั้งสิ้นนะครับ ถ้าพี่ๆท่านใดมีกิจกรรมทดสอบจิตใจ ร่างกายที่น่าสนใจอื่นๆแนะนำกันได้นะครับ ^^

ปล2. เป็นบอร์ดเพื่อสุขภาพไปซะแล้ว ขอโทษด้วยครับพี่เจ๋ง ที่ป่วนกระทู้ ^/\^

Saran เขียน:ไม่สำคัญว่าคุณจะเก็บเงินมาลงทุนได้เดือนล่ะเท่าไรหรอกครับ เงินหมื่น เงินแสน หรือเงินหลักพัน มันก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยล้านได้

อยู่ที่ว่าจะมีวินัยในการเก็บออม+ระยะเวลาการลงทุนให้ต่อเนื่องมากกว่าครับ หากมีความตั้งใจในการลงทุน

บางคนมีเงินเดือนเกือบแสน แต่มีรายจ่ายเป็นแสนๆก็มีนะครับ ถ้าไม่รู้จักควบคุมความโลภของตัวเอง

รุ่นน้องผมหลายคนจบป.ตรี เพิ่งเริ่มทำงานไม่กี่ปี ก็ใช้เงินผ่อนซื้อรถ ซื้อคอนโดอยู่กันแล้ว คิดว่าเค้าจะมีเงินเหลือเก็บกันไหม

จริงครับพี่ มีเพื่อนทำบริษัทน้ำมัน เงินเดือน 60,000 กว่าไม่รวม bonus ไม่รวม offshore พวกบอก "เดือนชนเดือน" !!! เล่นหุ้นก็ยังหาหุ้นเด็ดอยู่ทุกวัน พื้นฐานก็ไม่เอา เทคนิคก็ไม่สุด ... ผมล่ะเง็งกับมัน T.T

ziannoom เขียน:ผมมีสิบล้านก็ดีใจแล้วคับพี่เจ๋ง จากเด็กบ้านนอกพ่อแม่จนๆมีแค่นั้นก็สุขใจที่เหลือคือกำไรชีวิตครับ

ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันนะครับ มี Port ไว้ดูเล่น 10 ล้าน มีปันผลดีๆไว้กิน มีงานที่ดีมีความสุขทำมีประโยชน์กับชุมชน ลูกมีอนาคตที่ดี มี passive income อื่นๆอีกนิดหน่อยผมสุขเหลือๆแล้วครับ

ขอ share เคยไปนั่งฟังงานเส้นทางเศรษฐีร้อยล้านของ [บลจ AYF]สดุดกับคำพูดหนึ่งว่าเส้นทางต้องง่าย ผลตอบแทนทำได้จริง อาศัยเวลากับความสมำเสมอ เชื่อในฝันและผลตอบแทนระยะยาว จริงๆมันอาจเหมาะกับชายธรรมดาอย่างผมก็ได้ ฃอบคุณเพื่อนทุกคน

ผลตอบแทน 20% อาจจะทำให้เราล้า ก็เพลาลงได้

เพราะช่องที่สำคัญที่สุดคือ ช่อง 30 ปีครับ

วิ่งเร็วบ้างช้าบ้างไม่เป็นไร แต่ต้องวิ่งให้ครบ 30 ปีนะครับ

ถ้าไม่มีความสุขระหว่างวิ่ง หรือถ้าสะดุดล้ม ผมว่ายังไงก็ไม่ครบ 30 ปีแน่ครับ

ขอบคุณมากครับ

เคยฟังสัมภาษณ์พี่นง ทนงศักดิ์ฯ
ดารานักวิ่ง และเป็นแรงบรรดาลใจ
ให้กับใครหลายคน

พี่นงบอกว่า...
ทุกคนสามารถมีมาราธอนเป็นของตัวเองได้

ครับ มาราธอน คือการวิ่ง
ในระยะทาง 42.195 กม.

แต่พี่นงไม่ได้หมายความว่า
ต้องวิ่งรวดเดียวเป็นระยะทาง 42.195 กม.

เราอาจจะเริ่มจากวิ่งวันละ 1-2 กม.
เป็นระยะเวลา 20 วันก็ได้

หรือถ้าร่างกายแข็งแรงขึ้นมาหน่อย
จะวิ่งวันละ 5-6 กม. ในระยะเวลา 1 สัปดาห์ก็ได้

ก็จบ 42.195 หรือระยะมาราธอนได้เหมือนกัน

ที่สำคัญ เคยมีคนถามพี่นงว่า...

ถ้าวิ่งไม่ไหวล่ะ จะให้ทำยังไง ?

พี่นงตอบว่า...

ถ้าวิ่งไม่ไหว ก็เดินเร็วเอา

ครับ จะเดินหรือจะวิ่ง
ก็ถึงเป้าหมายได้คือกั๋น