Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมกู้เงินมาสำรองในการทำธุรกิจส่วนตัวครับ โดยใช้หลักทรัพยค้ำประกัน ดอกเบี้ยตอนนี้ MRR+2 กำลังคิดแผนการว่า ระหว่างที่เรายังไม่ได้ใช้มัน ควรจะนำมันไปลงทุนอะไรบางอย่างที่ดีกว่าจะปล่อยให้มันอยู่ในออมทรัพย์ กินดอกแค่ 0.75% ครับ
ขอเล่าพื้นฐานด้านการลงทุนในหุ้นสักนิดครับ ผมลงทุนในหุ้นมาได้ 7ปี ผมยังไม่เคยขาดทุนเลยซักบาทเดียว เงินลงทุนผมเพิ่มตลอดทุกปี โดยเฉลี่ย 20% และอย่างต่ำที่สุด 3%

ขอคำแนะนำและความเห็นครับ ว่าผมควรจะนำเงินที่มันนิ่งๆอยู่ไปลงทุนในหุ้นหรือไม่ แต่สำหรับตัวผม ผมไม่เคยขาดทุน ผมจึงค่อนข้างมั่นใจว่าอย่างน้อยผมคงจะทำกำไรได้มากกว่าเงินฝากประจำ แต่คิดอีกด้านหนึ่ง ผมไม่เคยขาดทุนเลยก็จริง แต่ถ้าครั้งนี้ผมขาดทุนหล่ะ เหรียญมีสองด้าน เสมอผมขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ในการกู้เงินมาลงทุนด้วยครับ ผมได้อ่านหนังสือ และได้ยินคนบอกว่า ไม่ควรกู้เงินมาซื้อหุ้น ผมจึงชักลังเลในคำเดือนของผู้ใหญ่ที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อนผม

และผมคงไม่ลงทั้งหมดของเงินกู้หรอกครับ คิดว่าคงจะดึงมาลงทุนหุ้นสัก 20% พอ

ก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่ครับ ว่ากู้มาสำรองในการทำธุรกิจส่วนตัว

การขาดวินัยทางการเงิน ต่อให้ได้กำไร ก็ไม่น่าจะดีครับ

กู้เงินมาสำรองทำธุรกิจ วัตถุประสงค์ก็ชัดเจนว่าสำรอง ถ้าไปซื้อหุ้นก็แสดงว่าไม่ได้สำรองแล้ว ตอนแรกคำนวณวงเงินไว้อย่างไร

ผมคิดว่า เงินลงทุน กับ เงินทำธุรกิจ ควรแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ไม่งั้นมั่วแน่ๆ

ขอเสริมนิดนึง คือเราเชื่อว่าในอดีต 7 ปี เรากำไรตลอด

และเราเชื่อว่า เราแบ่งเงินมาแค่ 20 % ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ต่อให้ขาดทุน

ก็ไม่ได้ขาดทุนอะไรมากมาย

และในความเชื่อ เราเชื่อว่า ไม่มีทางขาดทุนหรอก

เพราะฉะนั้น หากดูอดีต ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ขาดทุน

ทุกอย่างดูรอบครอบ

แต่ฝากไว้นิดเดียวครับ ว่าเวลาเกิดเหตุผิดพลาดขึ้นมานั้น

มันมักจะมาแบบ ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นแบบนั้น มันจะมาคล้ายๆอุบัติเหตุ

เงินสำรอง ที่กู้มานั้น ก็เหมือนกับยางอะไหล่

หากเราเอายางอะไหล่ ไปใช้อย่างอื่น ในที่สุด กิจการก็ขาดยางอะไหล่ไป 20 %

เห็นด้วยครับ พี่ฉัตรชัย กับ พี่เจ๋ง ครับ

ธุรกิจที่ทำ cash flow น่าจะไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นเครดิต หรือป่าว ครับ

จะกู้ เล่นจิ้นไปเลยครับท่าน แยกออกจากกัน

ขอเสนอความคิดเห็นเล็กน้อยนะครับ...^^)

gnomeller เขียน:ผมกู้เงินมาสำรองในการทำธุรกิจส่วนตัวครับ โดยใช้หลักทรัพยค้ำประกัน ดอกเบี้ยตอนนี้ MRR+2 กำลังคิดแผนการว่า ระหว่างที่เรายังไม่ได้ใช้มัน ควรจะนำมันไปลงทุนอะไรบางอย่างที่ดีกว่าจะปล่อยให้มันอยู่ในออมทรัพย์ กินดอกแค่ 0.75% ครับ

1) ทำไมถึงนำเงินกู้สำรองมาเปรียบเทียบเรื่องการลงทุนกับการเก็บไว้ในออมทรัพย์
ครับ...-_-??)

2) อย่างที่ คุณ "๋ำืJeng" กับ คุณ "chatchai" บอกครับ ว่ามันคือ "เงินสำรองในธุรกิจ"
ขอถามว่าจุดประสงค์ที่คุณกู้เงินจำนวนนี้มาคืออะไรครับ แล้วมันเพียงพอหรือมาก
เกินกว่าจุดประสงค์ของคุณหรือไม่...-_-??)

3) เงินสำรอง หมายถึง เงินที่เราเผื่อเอาไว้เกิดเหตุฉุกเฉินแล้วเราสามารถนำมันมาออก
มาใช้ได้ทันที ตามนิยามความคิดของผมนะครับ....^^)

เงินสำรอง ก็คือืเงิน สำรองครับ ไม่ควรเอาไปใช้อย่างอื่นครับ

ส่วนประเด็นการกู้เงิน หรือ เงินออมของตนเอง ควรหรืิอ ไม่ควรเอามาลงทุนในหุ้น
ผมจะดูต้นทุนเงินทุน เทียบกับผลตอบแทน เป็นหลักครับ
ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้ ก็มีต้นทุนดออกเบี้ยที่ต้องจ่าย
หรือเงินออม ก็มีค่าเสียโอกาศได้ดอกเบี้ย

หากผลตอบแทนขั้นต่ำที่ได้จากการลงทุนหุ้น ไม่ได้ถึง 3 เท่าของต้นทุนเงินทุน
ผมจะไม่เสี่ยงเอามาลงทุนในหุ้นครับ เพราะน้อยกว่านั้นไม่คุ้มกับความเสี่ยงในภาวะตลาดปัจจุบัน

แต่หากตลาดมีแต่ของถูกเหมือน หลังวิกฤต 2008 ผมว่าความเสี่ยงคงน้อยกว่าปัจจุบัน
ผมว่าหากต้นทุน เงินทุน 4-5%
ผมว่าไม่น่ากลัวครับ เพื่อนๆหลายคนที่ใช้ กำไรระเบิด
คนที่ไม่ได้ใช้ ก็พลาดโอกาสการใช้ leverage ไป

แต่ยังไงก็ตามเงินสำรองไว้ใช้ในธุรกิจ ไม่แนะนำครับ

คงเหมือนหลายๆคน comment ครับ เราไม่ควรเอาเงินสำรองทำธุรกิจซึ่งเป็นการกู้ มาลงทุนในหุ้นซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว

ต่อให้ได้กำไรเป็น 100% ต่อปีมาเป็น 10 ปี ผมก็ไม่คิดว่าการลงทุนเงินผิดวัตถุประสงค์จะเป็นสิ่งที่ดี

เป็นความเห็นส่วนตัว หวังว่าคงไม่โกรธที่เตือนนะครับ

เงินสำรองสำหรับธุรกิจทำไมไม่ทำเป็น od ละครับ (รวมถึงเงินหมุนเวียนด้วยอะครับ) ถ้าไม่เอาเงินออกมาใช้ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยครับ

ส่วนจะเอามาลงทุนในหุ้นนี้ไม่มีความเห็นครับ แล้วแต่ความมั่นใจของแต่ละท่านครับ แต่ก็ต้องยอมรับถ้าเกิดมันผิดพลาดด้วยนะครับ

ผมว่าเอาไปซื้อพวกที่สภาพคล่องสูงๆ แบบ money market ดีกว่าครับ
ได้ผลตอบแทนประมาณ 2 ปลายๆ ดีกว่าฝากเงิน แต่ถอนได้ t+1

yoyo เขียน:ผมว่าเอาไปซื้อพวกที่สภาพคล่องสูงๆ แบบ money market ดีกว่าครับ
ได้ผลตอบแทนประมาณ 2 ปลายๆ ดีกว่าฝากเงิน แต่ถอนได้ t+1

ช่วยขยายความของ money market หน่อยครับ ประมาณไหนครับ

^^ คือกองทุนที่ลงทุนในตราสารเงินระยะสั้นครับ สภาพคล่องเกือบเท่าฝากออมทรัพย์ (ถอนได้ช้ากว่าวันที่ส่งคำสั่ง 1 วัน) แต่ผลตอบแทนเกือบเท่าฝากประจำคือประมาณ 2 เปอร์เซนต์

กองทุนแบบนี้มีแทบจะทุก Bank ใหญ่ แต่ที่ผลตอบแทนดีหน่อยน่าจะเป็น T-Cash ของ Thanachart หรือ TMB Money (ทหารไทย ธนบดี) ของ TMB รองลงมาหน่อยก็ B-TNTV (บัวหลวงธนทวี) ของ BBL

ส่วนใหญ่เงินสดในพอร์ตหุ้นของผมก็มักจะอยู่ในกองทุนพวกนี้ละครับ

น่าสนใจมากเลยครับ ความเสียงไม่สูงเท่าลงในหุ้น แต่ก็ยังดีกว่าเก็บเงินเอาไว้ในออมทรัพย์
ผมสมุดกองทุนของ SCB อยู่ ไม่ทราบว่ากองทุนแนวๆนี้ของ SCB เป็นอย่างไรบ้างครับถ้าเทียบกับ T-Cash

gnomeller เขียน:น่าสนใจมากเลยครับ ความเสียงไม่สูงเท่าลงในหุ้น แต่ก็ยังดีกว่าเก็บเงินเอาไว้ในออมทรัพย์
ผมสมุดกองทุนของ SCB อยู่ ไม่ทราบว่ากองทุนแนวๆนี้ของ SCB เป็นอย่างไรบ้างครับถ้าเทียบกับ T-Cash

จัดไป
http://siamchart.com/fund-compare/MMF

แต่สำรองก็คือ การเผื่อฉุกเฉินนะครับ

ช่วงนี้มีคนที่คิดอย่างคุณเจ้าของกระทู้เต็มไปหมดเลยครับ อาจจะถึงเวลาแล้วที่เราคนไทยไม่ต้องทำงาน เล่นหุ้นไป ฝรั่งก็เอาเงินมาให้ใช้ฟรีๆ