Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

คิดว่าปกติไหมครับ หรือว่า ไม่ปกติ

แล้วที่ กลุ่มอาหารหลายๆตัวกำไรหดลงมาก

คิดว่าตอนนี้

กำลังซื้อภายในประเทศจะเอาอยู่ไหมครับ

และท่านคิดว่าอุตสาหกรรมใด จะพออยู่รอด ถ้าการกินการใช้ลดลง

แล้วปีหน้า อุตสาหกรรมใดจะเด่น อยู่ตัว และแย่


ลองถกกันครับ

ผมมองว่า APPLE กำลังจะแย่ เพราะคิดอะไรใหม่ๆ ไม่ได้ เหมือนกับตันแล้ว ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นแค่แรงขึ้น เร็วขึ้น
อุตสาหกรรมไอทีต้องการความตื่นเต้นตลอดเวลา ไอโฟน 5 ไอแพด 4 เหมือนกินบุญเก่าจากสาวกที่จงรักภักดี
Win8 ของไมโครซอฟ ก็ยังไม่เป็นกระแส หรืออาจจะแป็ก

หลายๆบริษัทที่ขายของสต็อคของปีนี้ น่าจะตกรุ่นไปแล้วเยอะมาก ปีหน้าน่าจะไม่มีกำไรหรือขั้นขาดทุน

โดยเฉพาะ IT CITY น่าเป็นห่วงมาก ผู้บริหารปรับตัวช้ามากกับเทรนของธุรกิจที่ต้องเร็วและทันสมัยตลอดเวลา

คุณ kissme มองว่า ที่ไอทีวูบเพราะไร้สิ่งใหม่ๆ

แล้วคิดว่ากำลังซื้อ มี่ส่วนไหมครับ


เป็นไปได้ไหมที่คน ไปดาวน์รถ ดาวน์บ้าน จนต้องผ่อนเลยไม่ซื้อของอย่างอื่น

เป็นไปได้ไหมครับ

ลองถกกัน

ท่านอื่นคิดว่าไง

แล้วอตุสาหกรรมใดในปีหน้าจะรุ่ง จะร่วงและจะ เท่าเดิม


ลองคุยกันครับ ยิ่งถกก้ยิ่งแตกฉาน

kissme เขียน:ผมมองว่า APPLE กำลังจะแย่ เพราะคิดอะไรใหม่ๆ ไม่ได้ เหมือนกับตันแล้ว ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นแค่แรงขึ้น เร็วขึ้น
อุตสาหกรรมไอทีต้องการความตื่นเต้นตลอดเวลา ไอโฟน 5 ไอแพด 4 เหมือนกินบุญเก่าจากสาวกที่จงรักภักดี

เห็นด้วยกับเรื่องนี้ครับ ถ้าแค่เร็วขึ้น แรงขึ้น ชัดขึ้น ยี่ห้อคู่แข่งก็ทำได้เหมือนกัน แล้วซักวันลูกค้าก็จะเริ่มคิดขึ้นมาว่า จ่ายแพงกว่าทำไม

โดยส่วนตัวผมมองว่าอะไรที่เป็นเทรน แล้วคนต้องการมากๆ เศรษฐกิจไม่ดีกำลังซื้อหดแทบไม่มีผล ดูอย่างที่ ไอโฟน4 และไอแพด2 ทำได้ ปีที่แล้วเศรษฐกิจทั่วโลกก็แย่ แต่ยอดขายถล่มทลายทั่วโลก เพราะมันเป็นอะไรที่ใหม่และคนรอคอย เพราะกลุ่มลูกค้าเค้ามีกำลังจับจ่ายและภูมิใจที่ได้ใช้ของทันสมัย และต้องยอมรับว่าจ็อบได้คิดค้นสิ่งที่เปลี่ยนการใช้ชีวิตของคน ให้ทำอะไรสะดวกขึ้น และใช้งานง่ายมาก แต่ตอนนี้ทิม คุ้ก ทำให้หลายๆคน ไม่ตื่นเต้น และงงๆ กับสินค้าใหม่และทิศทางก้าวต่อไปของ APPLE

ผมมีมุมมองว่า ผู้บริโภคกำลังเรียนรู้ในการซื้อสินค้าไอทีอยู่ครับ


iphone 5 ที่ออกมาล่าสุดคนก็เริ่มรู้ว่า มันไม่มีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่

ความรู้สึกเหมือนตอน iphone 4 ออกมาใหม่มันหายไป


microsoft ก็ต้องการสร้าง ประบการณ์การใช้ pc แบบใหม่คือ ทำโน้ตบุค ออกมาเป็นแบบสัมผัสได้



ไตรสาม 3 ที่ผ่านมา มันเหมือนเป็นช่วงรอยต่อ ทำให้ผู้บริโภคอาจจะเอาเงินไปซื้อสินค้าอย่างอื่นแทนไปก่อน

ยอดวูบนี่ดูตัวเลขไหนครับ รบกวนขอ reference หน่อยครับ จะได้คิดได้ถูกต้องหน่อย

เพราะ ตอนนี้ผมตามตัวเลขยอดขาย smartphone ระดับ global ก็โต 50% ยอดขาย android โต 97% ดูไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย

โดยส่วนตัวผมมองว่าอะไรที่เป็นเทรน แล้วคนต้องการมากๆ เศรษฐกิจไม่ดีกำลังซื้อหดแทบไม่มีผล ดูอย่างที่ ไอโฟน4 และไอแพด2 ทำได้ ปีที่แล้วเศรษฐกิจทั่วโลกก็แย่ แต่ยอดขายถล่มทลายทั่วโลก เพราะมันเป็นอะไรที่ใหม่และคนรอคอย เพราะกลุ่มลูกค้าเค้ามีกำลังจับจ่ายและภูมิใจที่ได้ใช้ของทันสมัย และต้องยอมรับว่าจ็อบได้คิดค้นสิ่งที่เปลี่ยนการใช้ชีวิตของคน ให้ทำอะไรสะดวกขึ้น และใช้งานง่ายมาก แต่ตอนนี้ทิม คุ้ก ทำให้หลายๆคน ไม่ตื่นเต้น และงงๆ กับสินค้าใหม่และทิศทางก้าวต่อไปของ APPLE

picatos เขียน:ยอดวูบนี่ดูตัวเลขไหนครับ รบกวนขอ reference หน่อยครับ จะได้คิดได้ถูกต้องหน่อย

เพราะ ตอนนี้ผมตามตัวเลขยอดขาย smartphone ระดับ global ก็โต 50% ยอดขาย android โต 97% ดูไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย

พอดีไปเดินพันทิปบ่อยครับ ก้เลยแวะเวียนดูลาดเลามา

พวกประกอบคอม ก้มักจะไปหาซื้อการด์จอมั่ง ซาวการด์บ้าง

พอดีดูด้วยตาครับ เลยไม่มี ref

เห็นว่าคนเดินบางตาลงครับ

ผมอาจจะมองผิดก้ได้ครับ

แต่มันก้สอดคล้องกับงบของพวกไอทีนะครับ

งบของ svoa sis หรือ synex ก้น่าจะไปทางเดียวกัน

คำว่าไอทีของผม มันรวมๆ

เช่นการด์จอ ซาวด์การด์ เม้าท์ cpu ram

แต่ด้านสมารทโฟนผมไม่ได้ศึกษาและติดตามครับ พี่ picatos

chukieat30 เขียน:คุณ kissme มองว่า ที่ไอทีวูบเพราะไร้สิ่งใหม่ๆ

แล้วคิดว่ากำลังซื้อ มี่ส่วนไหมครับ


เป็นไปได้ไหมที่คน ไปดาวน์รถ ดาวน์บ้าน จนต้องผ่อนเลยไม่ซื้อของอย่างอื่น

เป็นไปได้ไหมครับ

ลองถกกัน

ท่านอื่นคิดว่าไง

กำลังซื้อมีผลกับคนที่อัพเกรดอยู่ประจำ เนื่องจากของที่อัพมาก็ยังใช้งานได้ดี
แต่คนที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยนกำลังซื้อไม่มีผล
เพราะคนพวกนี้จะวางแผนเก็บเงินไว้ก่อนเสมอ
อีกทั้งตอนนี้ในฝั่งcomponentไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นครับ
ของที่ออกใหม่ apu gen2แรงกว่าเดิมแค่10% piledriver(bulldozer gen2)แรงกว่าเดิม15%
ถ้าจะตื่นเต้นต้อง20%ครับ
การ์ดจอเจนใหม่ก็ปีหน้า intel haswellก็ปีหน้า
win8ที่ใครหวังนักหนา มันก็win7ที่เสถียรขึ้น+touchได้+กินสเปกน้อยลง แล้วจะอัพเกรดเพื่อ???
อีกทั้งจอทัชแพงมหาโหด mainstreamคงไม่มีใครซื้อหรอก รอราคาสัก5-6พันสิเผื่อมีคนออก
เกมส์โปรแกรมหลายๆตัวยังไม่รองรับแม้ว่าจะเล่นได้แต่มันสู้7ไม่ได้

ตลาดไอทีภาพรวมอาจดูเหมือนแย่ แต่ในนั้นก็มีบางsegmentที่เติบโตได้อย่างดี เช่น สมาร์ทโฟน

ผมว่าที่ดูแย่ไม่ใช่ ธุรกิจ IT หรอกครับ พวกที่แย่น่าจะเป็น trading ของ IT มากกว่า เพราะการเสื่อมความนิยมค่อนข้างเร็วมาก

ส่วน IT โดยปกติผมว่าจะมีการเติบโตค่อนข้างสูงมาก ไม่ว่าจากการเปลี่ยนไปของการใช้ชีวิต แต่ก่อนจะต่อ net ต้องใช้ computer ตั้งโตเท่านั้น เดี๋ยวนี้เข้าได้ทุกที่ผ่าน โทรศัพท์มือถือ แล้วการใช้คงไม่มีทางลดลง เพราะมันเหมือนอีกปัจจัยในการดำเนินชีวิตไปแล้ว (ผมไม่โทรศัพท์ได้ แต่ไม่เข้าเวปนี่ไม่ได้เลย)

โดยส่วนตัวผมมองธุรกิจ IT จะมีการเติบโตค่อนข้างสูงต่อไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการ หรือผู้ขายสินค้า แต่ความเสี่ยงจะไปอยู่ที่ผู้ขายสินค้ามากกว่าจากความเปลี่ยนแปลงของรสนิยมที่รวดเร็ว

chukieat30 เขียน:

picatos เขียน:ยอดวูบนี่ดูตัวเลขไหนครับ รบกวนขอ reference หน่อยครับ จะได้คิดได้ถูกต้องหน่อย

เพราะ ตอนนี้ผมตามตัวเลขยอดขาย smartphone ระดับ global ก็โต 50% ยอดขาย android โต 97% ดูไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย

พอดีไปเดินพันทิปบ่อยครับ ก้เลยแวะเวียนดูลาดเลามา

พวกประกอบคอม ก้มักจะไปหาซื้อการด์จอมั่ง ซาวการด์บ้าง

พอดีดูด้วยตาครับ เลยไม่มี ref

เห็นว่าคนเดินบางตาลงครับ

ผมอาจจะมองผิดก้ได้ครับ

อ้อ ถ้าเป็นพวกนั้นคงต้องโดนอยู่แล้วครับ โลกในยุคต่อไป ผมคิดว่ามันจะเกิด platform consolidation อุปกรณ์ไอทีจะลดลงเหลือ ที่อยู่บน 1 มือ อย่างพวก smart phone ที่อยู่ยน 2 มือ อย่างพวก tablet แล้วที่มีขนาดใหญ่ติดผนัง อย่างพวก smart tv

ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น คือ มันจะทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างในราคาที่ไม่แพง แตกต่างกันแค่การเข้าถึงในระดับกายภาพ การสั่งงานก็จะเป็นการสั่งงานด้วยเสียง และ gesture control

ดังนั้นพวก notebook หรือ คอมตั้งโต๊ะ มันจะเป็นของตกยุค การซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ซื้อได้ตามร้านค่าปลีกทั่วไป ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็น พันธุ์ทิพย์ fortune IT City แย่

เห็นเทรนด์แบบนี้ใช่ว่า h/w พวก smartphone หรือ tablet จะดีในระยะยาวนะครับ สุดท้ายก็ดีพื้นๆ เหมือนพวก consumer product ทั่วไป

สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์ คือ คนที่คุม hub social network platform รวมไปถึงบริการบางอย่างที่ content provider หรือการค้าในอนาคตต้องใช้บริการ ที่มี dca จริงๆ ในระยะยาว

อย่างไรก็ตามผมคิดว่าสินค้าไอทีคงจะดีไปอีกสักระยะ จนกว่าโลกเราจะเข้าสู่ยุค ubicomp อย่างแท้จริง

แบบนี้ในที่สุดแล้วถ้าอุปกรณ์ it กลายเป็นอุปกรณ์ทั่วๆไป. npm จะเหลือเท่าไหร่ครับ
เพื่อนๆจะมีข้อมูลเกี่ยวกับ npm ของบริษัทค้าส่ง ปลีก. ของพวกทีวีตู้เย็นหรือเปล่าครับ

เทรนเปลี่ยนแปลงไปเป็น clound computering
ทุกอย่างเป็น service ที่ให้บริการ โดยที่เราอยู่ที่ไหนของโลกก็ได้

ประเทศไทยการมาของเทรนนี้ช้าไป ประมาณ 2 ปี เห็นจะได้
เพราะ infrastructure ไม่พร้อมทำ ประกอบกับคนรู้จริงไม่ค่อยมี
ตอนนี้กระแสมาแล้วละ
เพราะ infrastructure พร้อมแล้ว

ระบบของ ksc รองรับการย้ายระบบคอมพิวเตอร์ไปทำงานบน clound ที่ IDC แล้วตอนนี้
แล้วเจ้าอื่นๆละได้หรือยัง

ในส่วนของ network ก็ทำให้เครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ห่างกันไกลมา. ตอบสนองต่อการให้บริการเสมือนอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน. คนใช้งานไม่รู้สึกว่าเครื่องแม่ข่ายตอบสนองช้ากว่าเดิมถ้าไม่บอก

IT นี่ผมว่าเป็นธุรกิจที่เหนื่อยเกิน ตามกระแสไม่ทันจริงๆ ครับ โดยเฉพาะผู้บริโภค...

ตัวอย่าง Apple อยู่ดีๆ ก็ออก iPad ใหม่ มาทับกับ the new iPad ซะงั้น โดนด่ากันตรึม สร้างความเจ็บใจให้ผู้บริโภค (ที่เพิ่งซื้อ iPad ไป)
สตีฟ จ๊อบส์ ศาสดาของเรา อุตส่าห์ทำไว้ดีแล้วแท้ๆ กะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรม มาเจอ ลูกหลาน นี่ เง็ง เลย ฮา...

มิน่า ปู่บัฟฟ์ แก เลยไม่ค่อยพยายามทำความเข้าใจซักเท่าไหร่...ไล่ซื้อแต่หนังสือพิมพ์ อิอิ

ตลาด smartphone ยังคงเติบโตได้เป็นอย่างดีอยู่คับส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าได้กินแชร์ของกลุ่มnotebook กะ คอมตั้งโต๊ะ มาด้วย บริษัทที่น่าจะจับตามากที่สุดก็คือซัมซุง เพราะสามารถผลิตเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆออกมาได้เรื่อยๆ ส่วนApple เหมือนจะกินบุญเก่าอยู่จริงๆคับถ้าไม่สามารถผลิตนวัตกรรมอะไรใหม่ออกมาได้ภายในอีกปีหรือสองปีข้างหน้าค่อนข้างจะแน่นอนว่าน่าจะตกยุคไปเหมือนกับ BB ก็เป็นไปได้คับ ส่วนnotebook ผมว่ายังมีคับจำเป็นอยู่ในการพิมพ์งานเอกสาร หรือใช้เพื่อความบันเทิงบางอย่างยังคงทำได้ดีกว่า smartphone มากเช่น การเล่นเกมส์ notebookน่าจะอยู่รอดต่อไปคับเพราะกินแชร์คอมแบบตั้งโต๊ะมาได้หมดในอนาคตอย่างน้อยnotebookก็ยังสามารถพกพาไปไหนมาไหนค่อนข้างที่จะสะดวกอยู่ ซึ่งคอมแบบตั้งโต๊ะน่าจะมีโอกาสตกยุคสูงมากคับในอนาคต

ยอดวูบๆ ที่น่าจะมาจากที่ราคาหุ้นกลุ่มนี้ โดยเฉพาะพวกที่เน้นทางด้าน computer อย่าง IT, Synex ,SIS ... ร่วงระนาวเช้าวันนี้หรือเปล่า ... จริงมันก็วูบจริงๆนั่นแหละจากงบของบริษัทที่เริ่มเปิดออกมา IT ก็ล่อแล่มาก ... SIS หนักไปถึงขนาดขาดทุนมโหฬาร (เห็นราคา Moto ที่เอามาขายในงานคอมมาร์ท หรือ BB ที่ตอนนี้แทบจะไม่มีใครสนใจว่ารุ่นใหม่คือรุ่นไหนก็เตรียมใจไว้แล้ว ... ยังออกมาแย่กว่าที่คิด) ... Synex คงไม่แย่ถึงขนาด SIS แต่ก็ไม่น่าจะดี

แต่จริงๆมันก็ไม่แปลกที่จะวูบ ....
1. มันเป็นช่วงเวลาที่วูบกันทั่วโลกเพราะคนรอดูการเปิดตัวสินค้าใหม่ครั้งใหญ่ของ 3 เจ้าตลาดที่ดันนัดกันมาประสานงาในช่วงปลายไตรมาส 3 ทั้ง Window 8 (Notebook, Tablet ,Mobile) , iOS 6 (iPhone5, Ipad4, Ipad mini) , Google Nexus ( Nexus 4, 7, 10)
2. ผลกระทบจากน้ำท่วม ... คนก็ใช้เงินไปกับการซ่อมแซมบ้านก่อน ที่จะมาคิดซื้อสินค้า IT
3. นโยบายรถคันแรก ... อันนี้ส่วนตัวยังไม่รู้สึกว่ามันกระทบมาก ...

แต่อย่างไรก็ตามสินค้า IT มันก็เป็นอะไรที่เป็น Cycle อยู่แล้วทั้งตามอายุของเทคโนโลยี และ ตามสภาวะเศรษฐกิจ ... ส่วนตัวก็พึ่งไปถอยคอมใหม่มาเพราะเครื่องเก่าที่ซื้อไว้สองสามปี เริ่มเปิดเว็บได้อืดเหลือเกิน (เพราะมันอัดแต่กราฟฟิคกันเยอะไปหมด) เปิดวิดีโอความละเอียดสูงไม่ได้ ... แต่สำหรับคนส่วนใหญ่รอบอายุมันอาจจะยาวขึ้นเรื่อยๆ เพราะอย่างตามออฟฟิศนี่เข้าใจว่าคอมที่ใช้น่าจะไม่ได้เปลี่ยนกันมาเกือบสิบปีแล้ว ... ก็ยังสามารถทำงานออฟฟิศได้เรื่อยๆ ... แต่สุดท้ายก็คงต้องเปลี่ยน ...

แต่สำหรับในอนาคต ... ยิ่งสำหรับเมืองไทยนโยบายยกระดับค่าแรง การเรียนการสอนผ่าน IT เครือข่ายสื่อสาร/3G จะทำให้ คอมพิวเตอร์/notebook เป็นแหล่งบันเทิงประจำทุกบ้าน ไม่ต่างกับ TV + VCD/DVD player ในช่วงสิบยี่สิบ ปีมานี้อย่างแน่นอน ...

smart tv ก้อไม่ได้ดีกว่า notebook มากมาย
มีหลายอย่างที่ notebook ทำได้แต่ smart tv ทำไม่ได้
และเกือบทุกอย่างที่ smart tv ทำได้และnotebook ก็ทำได้
ไม่คิดว่า smart tv จะรุ่งครับ

tae_2323 เขียน:smart tv ก้อไม่ได้ดีกว่า notebook มากมาย
มีหลายอย่างที่ notebook ทำได้แต่ smart tv ทำไม่ได้
และเกือบทุกอย่างที่ smart tv ทำได้และnotebook ก็ทำได้
ไม่คิดว่า smart tv จะรุ่งครับ

รอดูสัก 5 ปีครับ ตอนที่ voice command , gesture control , virtual keyboard กับ service บน cloud ทำงานได้ work ตอนที่เป็นแค่ช่วงต้นๆ ของการปฏิวัติครับ

ยังไม่ใช่เวลาที่จะทำให้เรารู้สึกประทับใจกับมัน คล้ายๆ กับตอนที่มี pda ช่วงที่เป็น windows mobile อยู่ครับ

เมื่อ มือถือกลายเป็นคอมพิวเตอร์

ข้อมูลสนับสนุนครับ
1. ส่วนแบ่ง
2. ยอดขาย กับ notebook Tablet

ลองคิดถึงงานเฉพาะด้านอย่าง
1.ออกแบบ3D เช่นออกแบบอาคาร ออกแบบโรงกลั่น ออกแบบชิ้นส่วนรถยนต์ ออกแบบแท่นขุดเจาะน้ำมัน
2.ตัดต่อเพลง วิดีโอ ทำเอฟเฟก เรนเดอร์วิดีโอfull hdยาว2ชม.
3.เล่นเกมส์kinect/simmulator แบบopen worldมุมมอง360องศา ไม่ใช่แค่3หรือ6จอ
อะไรคือคำตอบของสิ่งเหล่านี้
smart phone/tablet/notebook/destop/cloud computing(IDC)

แล้วชิ้นงานสร้างขึ้นมันเป็นความลับขนาดไหน คุณกล้าปล่อยข้อมูลส่วนตัวไว้บนIDCรึเปล่า
และระบบInput Outputคุณจะใช้อะไรเชื่อมต่อกับIDCในการทำงานเหล่านี้

มันเป็นไปได้ที่"fashion pc"จะเป็นinput outputให้กับcloud computing
แต่มันยังห่างไกลความเป็นจริงพอสมควร ยังต้องใช้เวลาอีกมากในการพัฒนา

ตอนนี้ apple โดน ซัมซุงขึ้นราคาแรม 20%
เพราะคนผลิตที่ญี่ปุ่นล้มละลาย

ลองไปเดินดูงานคอมมาร์ทวันนี้สิครับ สินค้าลดราคาเยอะมาก ที่โดนใจผมเลย คือ acer one ลดเหลือ4900 บาท คุ้มค่ามากๆ มีขายวันละ 100 เครื่อง ส่วนยอดไอทีลดลงก็ไม่แปลกใจครับ เดินไปไหนมาไหน คนถือแต่ไอแพด ไอโฟน หรือไม่ก็ซัมซุงแทป หรือตามร้านเกมส์ ก็โดนแชร์จากเกมส์ที่มีอยู่ในฝั่งdevice ก็คงต้องรออะไรที่แปลกใหม่ นวัตกรรมใหม่ๆจริง ส่วนตัวผม รายได้ที่มาก็เซฟมากขึ้น เพื่อจ่ายค่าบ้านให้มากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไอที จะซื้อ เมื่อของเก่ามันใช้ไม่ได้จริงเท่านั้น เพื่อค่าบ้านหมด อาชีพผมนักดนตรี ก็จะได้ไม่หวงหน้าหวงหลัง นำเงินมาลงทุนได้มากขึ้นด้วย อิสระมากขึ้นด้วยครับ (แต่คนออกรถคันแรกก็เยอะ น่าจะส่วนในการประหยัดค่าใช้จ่ายบางอย่างออกไปครับ)

kissme เขียน:ผมมองว่า APPLE กำลังจะแย่ เพราะคิดอะไรใหม่ๆ ไม่ได้ เหมือนกับตันแล้ว ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นแค่แรงขึ้น เร็วขึ้น
อุตสาหกรรมไอทีต้องการความตื่นเต้นตลอดเวลา ไอโฟน 5 ไอแพด 4 เหมือนกินบุญเก่าจากสาวกที่จงรักภักดี
Win8 ของไมโครซอฟ ก็ยังไม่เป็นกระแส หรืออาจจะแป็ก

หลายๆบริษัทที่ขายของสต็อคของปีนี้ น่าจะตกรุ่นไปแล้วเยอะมาก ปีหน้าน่าจะไม่มีกำไรหรือขั้นขาดทุน

โดยเฉพาะ IT CITY น่าเป็นห่วงมาก ผู้บริหารปรับตัวช้ามากกับเทรนของธุรกิจที่ต้องเร็วและทันสมัยตลอดเวลา

ทิม คุก กำลังพา apple ไปผิดทาง สินค้าตัวใหม่เสื่อม มนขลังลง เน้นขายอย่างเดียว ไม่สนใจผู้ใช้เดิม ออกรุ่นใหม่เร็วเกินไป กั๊กเทคโนโลยี

เปลี่ยนหัวชารจ์ไฟใหม่ ที่กระเทือนผู้ใช้เดิมมากๆ เพราะใช้ gadget เดิมที่เป็น หัวชารจ์ไฟ เก่า เช่นลำโพง เป็นต้น เค้าก็ไม่อยากเปลี่ยนรุ่น ถึงมีหัวแปลงแต่ก็ไม่สะดวกเหมือนเดิม

ถามเพื่อน 10 คน ว่าจะเปลี่ยน iphone 4/4s เป็น iphone5 มั้ย 9ในสิบคนบอกว่า ไม่เปลี่ยน

ทิม คุก คิดแบบธุรกิจ แต่ สตีฟ จอบ คิดแบบผู้ใช้

ปัญหาที่แท้จริงแล้ว ผมว่าไม่ีใช่ Tim Cook หรอกครับ
คือ โลกทั้งโลก คงหาคนมาแทน Steve Jobs ไม่ได้
ง่ายๆ หรอกครับ คนที่เป็นคนคนเดียว ย้ำว่าเลยว่าคนเดียว
ที่เปลี่ยนโลกแห่ง Personal Computer

1. Apple II ==> Personal Computer เป็นที่มาของ IBM PC
2. MacIntosh ==> GUI เป็นที่มาของ Windows
3. iPhone ==> SmartPhone ที่เวิร์ค แล้วทุกคนก็ลอกเลียนแบบ
4. iPad ==> Tablet ที่กลายเป็น "Post PC Era" ...

เสียดายครับ ยังไม่เห็นใครที่จะมาแทนได้ ...