Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เพื่อนๆนักลงทุนคงเคยไดยินมาว่า“การอ่าน”เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ที่จะนำให้ไปสู่ความสำเร็จในการลงทุน ..หนังสือการลงทุนส่วนใหญ่..จะนำเสนอแนวคิด, บางเล่มก็เสนอวิธีการต่างๆนาๆ, บางเล่มก็ยกตัวอย่างที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ..ซึ่งล้วนมีประโยชน์แทบทั้งสิ้น ..แต่ปัญหาอย่างหนึ่ง ของการลงทุนคือ..การประยุกต์ความรู้ต่างๆที่ได้รับ และนำมาใช้ให้เหมาะแก่ตนเอง ..และถ้าเรา บังเอิญโชคดีเจอหนังสือที่เหมาะสมแก่ตัวเรา..เราก็อาจจะรู้สึกว่าตัวเราได้ก้าวเข้าสู่ใบโลกใบใหม่กันเลยทีเดียว ..ดังนั้นไม่แปลกเลยที่ หลังจากอ่านหนังสือ/บทความในกาลงทุนแล้ว..บ้างก็จะบอกว่าไม่ดี หรือ บ้างก็บอกว่าดีอย่างนั้น อย่างนี้…อย่างไรก็ตาม หากพิจารณา ถึงวิธีการปฎิบัติตนเพื่อที่จะไปสู่ความสำเร็จในการลงทุนว่ามีอะไรบ้าง? จะพบว่า”การอ่าน”เป็นหลักปฎิบัติหนึ่งเท่านั้น ในการจะนำพาไปสู่ความสำเร็จในการลงทุน

DCFS 
DCFS คือ “หลักปฎิบัติตน” ที่เหมาะสมแก่ความสำเร็จในการลงทุน โดยประยุกต์มาจากหลักคิดใน“หัวใจเศรษฐี” ที่ได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว ในตอน”ลงทุนอย่างสมดุล”..และนำมาเขียนขยายความ พร้อมทั้งแปลคำย่อใหม่เพื่อให้ง่ายต่อการปฎิบัติตาม และ จดจำได้ง่ายขึ้น โดย DCFS ย่อมาจาก…

1.Diligence คือ ขยันตั้งใจศึกษาหาความรู้ในการลงทุนอยู่ตลอดเวลา
ในการปฎิบัตินี้คือ..ให้หาความรู้เพิ่มเติมเสมอ..ไม่ว่าจะเป็นจาก การอ่าน, การฟัง, หรือการหมั่นวิเคราะห์และทบทวน หรือวิธีการอื่นๆ..ประเด็นเรื่องความขยันนี้สังเกตุได้จาก..การที่ยอดนักลงทุนทั้งในระดับประเทศและระดับโลกแม้แต่ปู่วอแรน ปัพเฟตยังเคยกล่าวไว้ว่า..ให้หมั่นหาความรู้ให้แก่ตนเอง…ดังนั้นไม่ต้องขยายความไดๆอีกแล้ว

2.Conservation คือ การลงทุนอย่างไม่ประมาท
ในการปฎิบัติที่นี้คือ ให้ลงทุนอย่างปลอดภัย ต้องคิดถึงการป้องกันและระวังการสูญเสีย  เพราะความสูญเสียเป็นปัจจัย ใน ความล้มเหลว เช่น “การขาดทุน 80% ต้องได้กำไรถึง 400% จึงจะคืนทุน”!!! ดังนั้นพึงระลึกไว้เสมอว่า “ความประมาท” เป็นบ่อเกิดแห่งความผิดพลาดทั้งปวง

3.Friend คือ กัลยาณมิตร
คิดแบบหยาบๆ เช่น การรวมกลุ่มกันดู/วิเคราะห์บริษัทหลายคนย่อมดีกว่าการดู/วิเคราะห์คนเดียว …แต่ในการปฎิบัตินี้คือ ให้คิดสิ่งที่ดีๆ พูดในสิ่งที่ดีๆ และทำในสิ่งที่ดีๆ..จะส่งผลให้มีมวลมิตรที่ดี..นำพาไปสู่สิ่งที่ดีไม่ว่าจะเป็นการว่าจะเป็นแนะนำสั่งสอนจากท่านผู้หลักผู้ใหญ่, จากเพื่อน, หรือจากน้องๆ..พึงระลึกอยู่เสมอว่า ไม่มีใครรู้ไปทุกเรื่อง การแบ่งปันสิ่งที่ดีๆจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และเมื่อเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ในสิ่งที่ดีแล้ว ในที่สุดเราก็จะได้เป็นผู้รับสิ่งที่ดีๆเสมอ.

4. Sufficiency  คือ การลงทุนอย่างพอดีแก่ความรู้ และพอดีกับสินทรัพย์
ในการปฎิบัติที่นี้คือ การลงทุนอย่างพอเพียง จะสร้างความสมดุลแก่พอร์ทลงทุน และชีวิต เมื่อการลงทุนของเรามีความพอดี จะส่งผลให้ ..สุขภาพจิตดี และการลงทุนก็จะดีตาม ..ดังนั้น จึงไม่ควรโลภเกินความรู้, อย่าทำอะไรที่ไม่เข้าใจ, อย่ามองแต่ได้, อย่าหวังเกินตัว ..ให้คิดเสมอว่าหากทำตามDCFSแล้ว ความสำเร็จนั้น ช้า-เร็ว ก็ต้องมาถึง..การขึ้นบันไดนั้นต้องเดินขึ้นทีละขั้น ..การกระโดดขึ้นทีละ2-3ขั้นนั้นแม้ทำให้เร็วขึ้น แต่ก็อาจจะตกลงมาบาดเจ็บได้เช่นกัน.

สุดท้ายนี้ DCFS เป็นการประยุกต์หลักคำสอน “หัวใจเศรษฐี” ของพระพุทธองค์ ..กระผมตั้งใจและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่านได้ใช้ยึดเป็นหลักปฎิบัติในการลงทุน ..อย่างไรก็ดีด้วยความรู้ที่มีจำกัดของกระผม หากDCFS มีการตีความผิดพลาด หรือ มีข้อผิดพลาดประการได้ ขอโปรดชี้แนะและอภัยให้แก่กระผมด้วย

=ข้อคิดเห็นส่วนตัวของผม=
ตอนผมลงทุนได้สักระยะ..และเริ่มมีความรู้..ตอนนั้นผมพยายามหาคำตอบของความสำเร็จว่าอยู่ที่ไหน ..ผมใช้เวลาถึง8เดือน เพื่อที่จะหาเหตุผลว่า ..ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จในการลงทุน และในที่สุดคำตอบที่ผมพบ ก็อยู่ในหนังสือเล่มนึง..ที่สอนหลักอันจริงแท้แน่นอน..ชื่อหลัก”หัวใจเศรษฐี” ที่พระพุทธองค์ได้สอนไว้เมื่อหลายพันปีก่อนนี้เอง ..และแม้วันนี้ผมจะยังพูดไม่เต็มปากว่าตัวเองประสบความสำเร็จในการลงทุนแล้ว..แต่เชื่อว่า หลักการนี้เป็นความจริงแน่นอนครับ