หน้า 1 จากทั้งหมด 1

300/15000 กับ10ดาวรุ่งปี56 และดาวร่วงปี56

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2012 10:00 am
โดย chukieat30
ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการวิเคราะห์ของหอการค้าไทย

เกี่ยวกับอุตสาหกรรม ดาวรุ่งและดาวร่วง

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เปิดเผยผลการ จัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่งในปี 2556 ซึ่งพิจารณาจากข้อมูลด้านนำเข้าและส่งออก ข้อมูลสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม รวมถึงข้อมูลปฐมภูมิจากการสำรวจของหอการค้าโพลล์

พบว่า ธุรกิจทางการแพทย์และความงามยังคงครองอันดับ 1 ของธุรกิจดาวรุ่ง ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน เป็นผลมาจากกระแสการให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและการดูแลความงามมากขึ้น ประกอบกับการบริการทางการแพทย์ของไทยมีคุณภาพดีและราคาไม่แพงในสายตาชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงคือการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญและความเพียงพอของบุคลากรในการรักษาโดยเฉพาะสาขาพยาบาล

ธุรกิจเด่นอันดับ 2 คือ ธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสารที่ได้รับอานิสงค์จากการประมูลและออกใบอนุญาต 3จี ความต้องการใช้ระบบสื่อสารที่มากขึ้น ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงคือ ความชัดเจนในนโยบายและสัมปทานการเชื่อมต่อสัญญาณที่จะมีในปี 56

ตามมาด้วยอันดับ 3 คือ ธุรกิจด้านสื่อโทรทัศน์ที่เป็นผลมาจากการเดินหน้าเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอล และการออกใบอนุญาตให้มีการดำเนินการฟรีทีวีมากขึ้น แต่ปัจจัยเสี่ยงยังมีความไม่แน่นอนทางด้านนโยบายของรัฐบาลและการแข่งขันทางด้านสื่อมีความรุนแรงมากขึ้น แต่ยังขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ

อันดับ 4 - ธุรกิจสถานีบริการ จำหน่ายน้ำมันและก๊าซเอ็นจีวี-แอลพีจี

อันดับ 5 - ธุรกิจพลังงานและพลังงานทดแทน

อันดับ 6 - ธุรกิจอาหาร

อันดับ 7 - เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และบุหรี่

อันดับ 8 - ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์

อันดับ 9 - ธุรกิจสถาบันการเงิน ,ธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง

อันดับ 10 - อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจโลจิสติกส์


ส่วนธุรกิจดาวร่วงปี 56 ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจที่มีการใช้แรงงานเป็นจำนวนมากและเป็นธุรกิจที่ไม่มีความโดดเด่น เช่น ธุรกิจของเล่นเด็ก ธุรกิจ HOME STAY ร้านค้าโชว์ห่วย ธุรกิจด้านหัตถกรรม สิ่งทอผ้าผืน ผักและผลไม้อบแห้ง เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ธุรกิจผลิตรองเท้า และอุตสาหกรรมฟอกย้อม


ส่วนตัวมองว่าอ300/15000 ทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การกินใช้ก้น่าจะดีขึ้น

เช่น อาจจะเคยกินแต่ข้าวข้างทางก้เปลี่ยนมากินเหลาได้(บ้าง) อาจจะเคยใส่แต่เสื้อ

3ตัว100 ก้อาจจะซื้อเสื้อตัวละ200ใส่ได้บ้าง

อาจจะเคยใส่แต่เสื้อใน 4ตัว100 ก้อาจจะเปลี่ยนมาใส่ตัวละ 200-300 ได้

อาจจะเคยซื้อเบียร์ทีละขวด ก้อาจจะกินทีละ 2-3ขวด

อาจจะเคยสูบบุหรี่วันละ10บาท ก้อาจจะสูบวันละซอง

ที่แน่ๆ กลุ่มค้าปลีกน่าจะได้อานิสงค์ และพวกของกินของใช้ในชีวิตประจำวันครับ

ส่วนอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ผมมองว่า ให้มองเป็นแบรนด์ๆ ไปครับ

ตอนปี2008 วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ หลุยส์ พราด้า และกระเป๋าแบรนด์ ทำไมยอดขายไม่ลด


ผมมองว่า มันเป็นเรื่องของ สินค้าที่อยู่ในระดับบนๆมาก ซึ่งกลุ่มลูกค้าตลาดบน

เวลาเกิดวิกฤติ ไม่ได้แปลว่า เค้าจะไม่ซื้อ อาจจะเป็นเพราะเค้าอาจจะมีความมั่งคั่งมาก

ดังนั้น อะไรก้ตามที่แม้จะเป็นพวกเสื้อผ้า แต่ถ้ามีลูกค้าในกลุ่มบน

ผมว่าไม่ค่อยกระทบครับ

Re: 300/15000 กับ10ดาวรุ่งปี56 และดาวร่วงปี56

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 24, 2012 9:46 pm
โดย MaiFuen
โดยรวมก็เห็นด้วยนะครับ

ปล. จะกด + แต่ดันเผลอเป็นกด -
ขอโทดทีนะคับ