Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ทำอย่างไร ถึงจะกล้าซื้อหุ้น ตอน ตลาดตกเยอะๆ ครับ

ตอนเหตุการณ์ sub prime(2008) ผมไม่กล้าซื้อ เพราะ กลัว วิกกฎิตจะลามไปทั่วโลก ถึงเวลานั้น ก็จะกระทบต่อ ผลการดำเนินการของบริษัทในไทย

ขอบคุณครับ

ผม โชคดี ที่เพิ่งหัดเล่นหุ้นตอนก่อน เกิดเหตุการณ์นั้น แถวๆ 500+ จุด ด้วยเงิน น้อยนิด สามหมื่นบาท

จำได้ว่ามันไหลลงทุกวัน vol น้อยมาก หุ้นก็ไม่ค่อยรู้จัก เลยติดหุ้นตามระเบียบ

ผมแก้พอร์ตของผม ด้วยการชวนเพื่อนมาลงเงินด้วย อีกสามหมื่นบาท บังเอิญ ซื้อถัวได้ช่วงที่มันต่ำ QH Cpf


ช่วงนั้นซื้อแล้วถือๆไป ก็กำไรเป็นเด้ง (ช่วงนั้น ลิงก็ซื้อหุ้นได้กำไร เพราะผมไม่มีความรู้อะไรเลย เหมือนลิงเลยเนอะ )


เข้าเรื่อง เหตุผลที่ผมซื้อ เพราะ ผมเข้าลองของได้ถูกจังหวะพอดีแค่นั้นแหละครับ (อันที่จริงผมลอกอาจารย์คนหนึ่งใน kimeng เค้าว่า ลงมา 300 กว่าให้ซื้อ เฮ้อ ถ้าตอนนั้นมันลงมามากกว่านั้น ผมก็ไม่รู้ทำไง )

ก่อนซื้อ
ข้อมูล--> ประเมินผลประกอบการ-->ราคาที่ประเมิน-ลบด้วย mos--> ราคาที่ยอมจ่าย
หลังซื้อ
หุ้นตก-->ใจสั่นมาก--->กับมาดูเหตุผลที่ซื้อ-->ทบทวนอีกครั้ง-->ถ้ามั่นใจก็จัดเพิ่ม ถ้าไม่มั่นใจขายทิ้งหรือปล่อยไปก่อน
ปล.ผมเริ่มลงทุนช่วงนั้นพอดี เป็นเม่ามาสองปี แต่โชคดีไม่สูญเสียเงินต้น แต่สูญเสียโอกาสในด้านการเงิน ต้องขอบคุณtvi ที่ทำให้เม่าอย่างผมเข้าใจเรื่องการลงทุน

จากประสบการณ์ผมตอนนั้นนะครับ ผมว่าหลายๆคนกล้าซื้อแต่ไม่มีเงินที่จะซื้อครับ เพราะอยู่ในหุ้นกันหมด (หลักๆคือถือหุ้นที่ถือมันดีและถูกมากอยู่แล้วตอนนั้นเลยไม่ได้ขายอะไรออกไป อย่างตอนนั้นผมมี SVI อยู่ 60% port ราคาตอนนั้น 1.4 P/E ตอนนั้น 4 เท่ากว่าๆเท่านั้นเอง ยังสามารถลงไปต่ำแถวๆ 0.7-0.8 ได้เหมือนกัน) ตอนนั้นก็ได้แต่บอกเื่พื่อนๆที่ยังไม่ได้ลงทุนให้ซื้อ แต่ก็ไม่มีคนใส่ใจจริงๆจังๆ

lipton เขียน:ทำอย่างไร ถึงจะกล้าซื้อหุ้น ตอน ตลาดตกเยอะๆ ครับ

ตอนเหตุการณ์ sub prime(2008) ผมไม่กล้าซื้อ เพราะ กลัว วิกกฎิตจะลามไปทั่วโลก ถึงเวลานั้น ก็จะกระทบต่อ ผลการดำเนินการของบริษัทในไทย

ขอบคุณครับ

ผมเลือกซื้อกิจการที่คิดว่าไม่มีวันเจ๊งและน่าจะกลับมาได้เมื่อวิกฤตฟื้นตัวครับ
อีกอย่าง ตอนนั้นเพิ่งเริ่มประเมินมูลค่ากิจการคร่าวๆเป็นนิดหน่อยด้วย
เลยมั่นใจที่จะซื้อเต็มวงเงินที่ตนเองมีครับ

เขียนโน้ตติดไว้ที่โต๊ะว่า ราคาหุ้นเท่านี้จะกลับมาซื้อคืน
(เพราะเวลาตลาดตก คาดว่าตัวเองคงไม่กล้าซื้อ)
เขียนไว้ 4 บริษัท ราคาตกลงมาถึงที่เขียนไว้ 3 บริษัท
ซื้อคืนกลับมาแล้ว 2 และ 1 บริษัทที่ไม่ได้ทำตามที่เขียนคือ
NMG ที่ 1.38

ถ้ามีคนเอา Rolex ของแท้ มาขายให้เราในราคา 5 พันบาท เราคงไม่รีรอที่จะ "เคาะขวา" ถูกมั้ยครับ

คิดเสียว่า

Amazing Thailand grandsale
สิครับ

ผมอยากให้มันตกจังดัชนี1300+หุ้นดีๆหาMOSแทบไม่ได้แล้วมั้งถ้าซื้อช่วงนี้ก็กลัวว่าไป1400แล้วยิ่งไปกันใหญ่อิอิเลยตัดใจเข้าซะตอนนี้ต่อไปกาลุ้นเอาข้างหน้า พอดีเพิ่งมาศึกษาลงทุนช่วงนี้พอดีต้องทำใจเราคงต้นทุนสูงกว่าคนอื่นเยอะ0.0

ดำ เขียน:ถ้ามีคนเอา Rolex ของแท้ มาขายให้เราในราคา 5 พันบาท เราคงไม่รีรอที่จะ "เคาะขวา" ถูกมั้ยครับ

คิดอย่างนั้นไม่ได้ครับ ผมว่าตลาดหุ้นมีประสิทธิภาพพอสมควร เวลาที่เศรษฐกิจ
ตกต่ำ EPS ของหุ้นทั้งหลายจะต่ำลงมาด้วยเหมาะสมกับราคาช่วงนั้นๆ
จากประสบการณ์ ข่วง Subprime SNC ตกจาก 12 บาทเหลือ 4 บาทเพราะ
EPS มันตกลงมาด้วย แต่ผมมองว่าในอนาคตมันต้องพื้นตัว จึงตั้งรับเป็นระยะ
และมันก็ฟื้นจริงๆ

ภาวะตลาดตอนนี้ ปลายปี 2012 คนกล้า ๆ กลัว ๆ ยังไงไม่รู้

จะเข้าก็ไม่กล้า เพราะกลัวราคาสูงไป จะเฉยก็กลัวว่าไม่รู้เมื่อไหร่มันจะลงมาให้ซื้อ ถ้าไม่ได้ซื้อนานเป็น 5-10 ปี จะทำยังไง และถ้ามันลงมา มันจะลงมาที่เดิมไหม อย่าง CPALL ตอน 30 ก็คิดว่าสูง จะรอให้มันตก แต่ตอนนี้ ไปแตะ 45 แล้ว
เสียโอกาสอย่างยิ่ง คือไอ้ที่เคยคิดว่าราคาสูงแล้ว ทำไมมันจะมีสูงกว่าอีกตั้งเยอะได้

ตอนนี้ไม่เห็นมีใครมีความมั่นใจว่าหุ้นจะขึ้นต่อเลย แต่ละคนหวังให้หุ้นตก จะได้เข้าซื้อกันทั้งนั้น

ความกล้าจะมาพร้อมกับข้อมูลครับ หากเรามีข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัทนั้นเยอะๆและเรารู้จักบริษัทนั้นดีๆ จะช่วยลดความกลัวได้ส่วนหนึ่ง ต้องฝึกฝนครับ

-------------------
หนี้เป็นพิษ

http://www.thorfun.com/story/view/UNUiTa7rWTxCAA06

ผมว่าไม่มีใครแช่งให้หุ้นตกเพื่อจะได้ซื้อหรอกครับ
ตอนตลาดตกเยอะๆ ผมเห็นมีแต่คนซึมเศร้า ตลาดก็เงียบเหงา บรรยากาศแบบนี้แหละครับ
ทำให้คนไม่กล้าซื้อหุ้นเพราความกลัว
ช่วงตลาดตกเยอะๆ ผมอ่านห้องร้อยคนร้อยหุ้นแล้วลุยได้มาหลายตัว555 555

ถ้ามันวิ่งไป 2000 จุดล่ะครับ ผมว่า ตลาดมันจะลากราคาหลายๆตัวที่เราเล็งไว้ไปด้วย แล้วเราก็อาจจะพลาดเพราะกลัวว่าราคาสูงไปแล้ว ถึงตอนนั้น ก็คงต้องมองหาตัวใหม่ๆละครับ

"กล้าซื้อหุ้น"...คือความกล้าหาญเพียงครึ่งเดียวครับ

แต่ "กล้าที่จะถือ(เพื่อไปขายในเวลาที่เหมาะสม)"...นั่นคืออีกครึ่งหนึ่งของความสำเร็จครับ



ถามตัวเองดีๆว่า..."เราไม่กล้า? เรากลัว?"
หรือ "เราโลภ" กันแน่???
( "โลภ" เพราะคิดว่า มันน่าจะลงได้มากกว่านี้ ฉันจะได้มีกำไรมากกว่านี้ )

คิดไว้เลยว่า มันมีทางลงไปกว่านี้ไม่
ถ้ามีก็ไม่ซื้อ ถ้าไม่มีก็ซื้อครับ

เปรียบเทียบกับหมาก็คือหมาจนตรอก
ถ้าเป็นมวยคือ ต้องน็อคอย่างเดียวถึงชนะ

ที่ผมคิดว่าจะทำนะครับ
คือสร้างกฎขึ้นมา ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี่ขึ้นมาจะทำอย่างไร ตั้งเปนกฏขึ้นมาเลย
เพื่อ ตัดอารมออกไป
เช่น ถ้าหุ้นตกมาจากไฮ 20%เข้า1ไม้ 30% เข้าอีกไม้ 40%50% ก็ว่ากันไป
สมมุติ ซื่อจนไม้สุดท้ายแล้ว หุ้นยังลงต่อ ก็คงต้องอยุ่เฉยๆแล้วครับ เราทำดีที่สุดแล้ว

ผมคิดว่าจะทำแบบนี้

PE ตลาดหุ้นอยู่ที่ มากกว่า 20 เท่า จะถือเงินสด 30%

PE ตลาดหุ้นอยู่ที่ 15-20 เท่า จะถือเงินสด 20%

PE ตลาดหุ้นอยู่ที่ 10-15 เท่า จะถือเงินสด 15%

PE ตลาดหุ้นอยู่ที่ 5-10 เท่า จะถือเงินสด 10%

PE ตลาดหุ้นอยู่ที่ ต่ำกว่า 5 เท่า จะถือเงินสด 0%

ตกก็ดีครับจะได้ซื้อ ขึ้นก็ดีครับ port จะได้โต .. หลังจากคิดไตร่ตรองดูแล้วก็พบว่าเราเดาอนาคตไม่ได้ ฉะนั้นซื้อที่เราคิดว่าคุ้มที่สุดในทุกขณะที่มีทุนละกัน แล้วเอาเวลาไปวิเคราะห์พื้นฐานดีกว่า

yakjabon เขียน:ตกก็ดีครับจะได้ซื้อ ขึ้นก็ดีครับ port จะได้โต .. หลังจากคิดไตร่ตรองดูแล้วก็พบว่าเราเดาอนาคตไม่ได้ ฉะนั้นซื้อที่เราคิดว่าคุ้มที่สุดในทุกขณะที่มีทุนละกัน แล้วเอาเวลาไปวิเคราะห์พื้นฐานดีกว่า

อันนี้จริงครับน้องวิน ขอให้เฮงๆนะครับ happy new year

kraikria เขียน:

yakjabon เขียน:ตกก็ดีครับจะได้ซื้อ ขึ้นก็ดีครับ port จะได้โต .. หลังจากคิดไตร่ตรองดูแล้วก็พบว่าเราเดาอนาคตไม่ได้ ฉะนั้นซื้อที่เราคิดว่าคุ้มที่สุดในทุกขณะที่มีทุนละกัน แล้วเอาเวลาไปวิเคราะห์พื้นฐานดีกว่า

อันนี้จริงครับน้องวิน ขอให้เฮงๆนะครับ happy new year

Happy new year ขอให้จับได้ถูกตัว กำไรขึ้นเอาๆ เป็น Super Stocks ครับ

yakjabon เขียน:

kraikria เขียน:

yakjabon เขียน:ตกก็ดีครับจะได้ซื้อ ขึ้นก็ดีครับ port จะได้โต .. หลังจากคิดไตร่ตรองดูแล้วก็พบว่าเราเดาอนาคตไม่ได้ ฉะนั้นซื้อที่เราคิดว่าคุ้มที่สุดในทุกขณะที่มีทุนละกัน แล้วเอาเวลาไปวิเคราะห์พื้นฐานดีกว่า

อันนี้จริงครับน้องวิน ขอให้เฮงๆนะครับ happy new year

Happy new year ขอให้จับได้ถูกตัว กำไรขึ้นเอาๆ เป็น Super Stocks ครับ

สาธุ...ขอให้จับถูกตัวเช่นกันครับ

แล้วกล้าซื้อที่นิวไฮมั๊ยครับ?

นิวโลว์ก็กลัว นิวไฮก็กลัว

ไม่เกี่ยวกันนะครับ ดูศักยภาพการเติบโตของธุรกิจดีกว่าครับ

ความกลัวคือความไม่รู้ ถ้ารู้ธุรกิจก็ไม่กลัว เอาเงินดอกเบี้ยมาซื้อสิครับ รับรองคุณไม่กลัวเพราะเป็นเงินต่อเงิน

ผมเริ่มลงทุนเมื่อปี 54 ช่วงประมาณสึนามิที่ญี่ปุ่น
ตอนช่วงที่น้้ำท่วม หุ้นหลาย ๆ ตัวราคาตกลงมาก ช่วงนั้นผมก็เข้าซื้อเพราะวิเคราะห์แล้วว่าราคาหุ้นถูกมาก
พอได้กำไรนิดหน่อยก็ขายไป เพราะขาดความกล้าที่จะถือ

ถึงตอนนี้ถึงรู้ว่า ความที่เรากลัวเกิดจากความที่เราไม่รู้และไม่ได้ศึกษา ครับ

คำถามก็คือว่าทำอย่างไรจะมีเงินซื้อตอนตลาดตกเยอะๆ
เพราะพอตลาดตกเราก็จะทยอยซื้อ พอตลาดตกสุดๆก็เงินหมดพอดี จริงไหมครับ