CFO มันเยอะ ... เอาไปทำอะไรดี?!
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 25, 2012 6:14 pm
เป็นสรุปตามความเข้าใจของผมนะครับ จึงอยากขอคำชี้แนะจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหากมีอะไรผิด ถูก เพิ่ม เสริมเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ของทุกๆคนครับ .. คำถามมีอยู่ว่าถ้าบริษัทมี CFO (Cash Flow from Operations) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เราสามารถคาดการณ์อะไรได้บ้าง?
สิ่งที่ผมคิดว่าผู้บริหารน่าจะทำ มีดังนี้
1) ลงทุนเพิ่ม (CFI เป็นลบ และไม่มีจุดอิ่มตัว) ไม่ว่าจะต่อยอดไลน์เดิมหรือแตกไลน์ธุรกิจใหม่ .. สิ่งที่นักลงทุนต้องทำ คือ ดูว่าการลงทุนใหม่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนกับบริษัทดีมั้ย .. dilute ROA, ROE หรือเปล่า, วิเคราะห์พื้นฐานของธุรกิจใหม่ เป็นต้น
2) จ่ายหนี้คืน (CFF เป็นลบ มีจุดอิ่มตัวเมื่อ D/E =0) .. ก็ดีดอกเบี้ยน้อยลง ความเสี่ยงน้อยลง EPS เพิ่มขึ้น เหมาะกับธุรกิจที่ไม่เน้นการเติบโตแล้ว หรือมี D/E เดิมอยู่เยอะ ก็ชำระให้ความเสี่ยงด้าน Finance ลดลงบ้าง
3) ซื้อหุ้นคืน (ไม่มีจุดอิ่มตัว) อันนี้ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นเดิมโดยตรงได้ไม่สิ้นสุด ข้อเสีย คือ มูลค่าเพิ่มจะจมอยู่ใน Book value ซึ่งก็ต้องรอให้ราคาสะท้อนมูลค่าอีกที
4) เพิ่มอัตราการจ่ายปันผลต่อกำไร %DER (จุดอิ่มตัวที่ %DER = 100 หรืออาจเกินเป็นบางปี ซึ่งต้องระวังถ้าเกินอาจเตรียมปิดกิจการ?) ซึ่งสุดท้ายแล้ว %DER จะส่งผลให้ %DPR (Dividend per Price) เข้าใกล้อัตราผลตอบแทนเดียวกับพันฐบัตรรัฐบาลในที่สุด
5) เก็บไว้เฉยๆให้ NCF เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ .. อันนี้ถ้าเห็น cash เกิน 10% ของ asset แล้วผู้บริหารยังไม่ทำไรสักอย่างตามข้อ 1-4 ก็หาจังหวะขายทิ้งดีกว่า
สรุป ความเป็นไปได้ เรียงลำดับได้ตามข้างต้น คาดว่าการเพิ่ม %DER มักเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับธุรกิจที่ไม่เติบโตแล้ว (ไม่รวมข้อ 5 - -!) ... ขอขอบคุณสำหรับทุกคำชี้แนะเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องล่วงหน้าครับ
สิ่งที่ผมคิดว่าผู้บริหารน่าจะทำ มีดังนี้
1) ลงทุนเพิ่ม (CFI เป็นลบ และไม่มีจุดอิ่มตัว) ไม่ว่าจะต่อยอดไลน์เดิมหรือแตกไลน์ธุรกิจใหม่ .. สิ่งที่นักลงทุนต้องทำ คือ ดูว่าการลงทุนใหม่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนกับบริษัทดีมั้ย .. dilute ROA, ROE หรือเปล่า, วิเคราะห์พื้นฐานของธุรกิจใหม่ เป็นต้น
2) จ่ายหนี้คืน (CFF เป็นลบ มีจุดอิ่มตัวเมื่อ D/E =0) .. ก็ดีดอกเบี้ยน้อยลง ความเสี่ยงน้อยลง EPS เพิ่มขึ้น เหมาะกับธุรกิจที่ไม่เน้นการเติบโตแล้ว หรือมี D/E เดิมอยู่เยอะ ก็ชำระให้ความเสี่ยงด้าน Finance ลดลงบ้าง
3) ซื้อหุ้นคืน (ไม่มีจุดอิ่มตัว) อันนี้ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นเดิมโดยตรงได้ไม่สิ้นสุด ข้อเสีย คือ มูลค่าเพิ่มจะจมอยู่ใน Book value ซึ่งก็ต้องรอให้ราคาสะท้อนมูลค่าอีกที
4) เพิ่มอัตราการจ่ายปันผลต่อกำไร %DER (จุดอิ่มตัวที่ %DER = 100 หรืออาจเกินเป็นบางปี ซึ่งต้องระวังถ้าเกินอาจเตรียมปิดกิจการ?) ซึ่งสุดท้ายแล้ว %DER จะส่งผลให้ %DPR (Dividend per Price) เข้าใกล้อัตราผลตอบแทนเดียวกับพันฐบัตรรัฐบาลในที่สุด
5) เก็บไว้เฉยๆให้ NCF เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ .. อันนี้ถ้าเห็น cash เกิน 10% ของ asset แล้วผู้บริหารยังไม่ทำไรสักอย่างตามข้อ 1-4 ก็หาจังหวะขายทิ้งดีกว่า
สรุป ความเป็นไปได้ เรียงลำดับได้ตามข้างต้น คาดว่าการเพิ่ม %DER มักเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับธุรกิจที่ไม่เติบโตแล้ว (ไม่รวมข้อ 5 - -!) ... ขอขอบคุณสำหรับทุกคำชี้แนะเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องล่วงหน้าครับ