สรุปใจความสำคัญจากงาน “เปิดมุมมองการลงทุนรับเศรษฐกิจปี 2556”
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 31, 2013 8:57 pm
พอดีได้ไปฟังมา เลยอยากเอามาแบ่งปันเพื่อนสมาชิกครับ (อ่านที่พี่ๆน้องๆเอามาโพสต์เยอะแล้ว ขอตอบแทนบ้าง )
สรุปใจความสำคัญจากงาน “เปิดมุมมองการลงทุนรับเศรษฐกิจปี 2556”
แขกรับเชิญ คุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์, ดร คณิศ แสงสุพรรณ, ดร กอบศักดิ์ ภูตระกูล และ
คุณ ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ
• GDP ปี 2556 น่าจะโตได้ประมาณ 5% ปัจจัยหลักยังคงเป็นเรื่องการบริโภค และ การลงทุนโดยภาครัฐและเอกชน
• การค้าชายแดนจะเติบโตมากขึ้น ซึ่งประเทศ CLMV จะมีการค้ากับไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางการไม่มีตัวเลขการค้าชายแดน อย่างเป็นทางการ เช่น หากคนลาวข้ามมาซื้อของ ที่อุดรเป็นจำนวนมาก มูลค่าก็ยังคงถูกจัดเป็นการบริโภคในประเทศ
• ด้านธุรกิจอสังหาน่าจะโตได้ต่อ และ ต่อเนื่องไปได้อีกใน 2-3 ปีข้างหน้า ตลาดกรุงเทพ จะโตได้น้อยกว่าต่างจังหวัด ตลาดโดยรวมน่าจะโตประมาณ 10%
• ตอนนี้มีแต่ข่าวดี นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยเริ่มเห็นสัณญานตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว
• MEGA Projects และการลงทุนภาครัฐ สองล้านล้านบาทจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ต่อไป แต่เม็ดเงินจริงๆจากภาครัฐจะเข้ามา ประมาณปลายปีนี้เป็นต้นไป การค้าของไทยกับกลุ่ม CLMV คิดเป็น 7% ของตัวเลข export ในขณะที่การส่งออกไป EU คิดเป็น 9% แต่คาดว่าตัวเลขการค้าจริงกับ CLMV คงสูงกว่านี้
• ปัจจัยความตรึงเครียดเกาหลีเหนือ-ใต้ ญี่ปุ่น-จีน เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่ง
• 50% ของเงินสองล้านล้าน จะถูกใช้ในการลงทุนสร้างระบบราง ประเทศไทยไม่ได้ลงทุน MEGA Project ขนาดใหญ่มานานมากแล้ว ครั้งล่าสุดคือการสร้างมาบตาพุด การลงทุน MEGA Project จะช่วยเพิ่ม GDP ไทยประมาณ 1% ดังนั้น GDP growth ที่ 5-6% น่าจะเป็นไปได้ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า
• การส่งออกน่าจะโตได้แต่ไม่มากเหมือนแต่ก่อน
• หัวเมืองหลักที่ ตลาดอสังหาน่าจะโตได้อย่างโดดเด่นคือ 1 สุราษ 2 นครศรีธรรมราช 3 ชลบุรี 4 ระยอง 5 อยุธยา 6 เชียงใหม่ 7 เชียงราย 8 ขอนแก่น 9 อุดร 10 อุบล 11 โคราช 12 นครสวรรค์ 13 สงขลา (จริงคุณทองมาบอกมี 15 จังหวัดแต่จดไม่ทัน แต่คาดว่าที่ขาดไปน่าจะเป็น ประจวบ กับ เพชรบุรี)
• ราคาอสังหาน่าจะเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 7% เพราะค่าแรงเพิ่ม ที่ดินแพงขึ้น การลงทุนในอสังหา น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในตอนนี้
• ลูกจ้างกินเงินเดือนธรรมดาจะไม่สามารถซื้อคอนโดในเมืองที่ใกล้รถไฟฟ้าได้ แต่การขยายรถไฟฟ้าออกไปจะทำตลาดคอนโดขยายออกไปมากขึ้น
• ปีที่แล้วเป็นปีที่ดีมากของกลุ่มรับเหมา ปีนี้ก็จะยังคงเป็นปีทองอีกปีของรับเหมา
• ปีที่แล้วมีโครงการคอนโดเปิดตัวที่ขอนแก่นกว่า 30 โครงการ
• ราคาต่อตารางเมตร ของคอนโดหรูหราบางโครงการในกรุงเทพขึ้นถึง 400,000 บาทแล้ว
• Theme หลักสำหรับการลงทุน 1) AEC ให้เลือกบริษัทที่มีศักยภาพที่จะโตได้ในภูมิภาคนี้ 2) ตลาดต่างจังหวัด จะไม่ได้หมายความว่าเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อน้อยอีกต่อไป AEC จะทำให้หัวเมืองหลัก มีการค้ามากขึ้น เช่น แม่สอด มีการค้ากับพม่าเพิ่ม 100% ตั้งพม่าประกาศเปิดประเทศ ตอนนี้ที่ดินแม่สอดตกไร่ละ 30 ล้านบาท (ครับ 30 ล้านบาท ผมไม่ได้พิมพ์ผิดแต่อย่างใด) เพราะจะมีการตัดถนนเชื่อมแม่สอดกับเมียววดีของพม่า
• ดอกเบี้ยอาจกลับมาเป็นขาขึ้นช่วงปลายปีนี้ และน่าจะทยอยขึ้นทีละนิดจนถึงประมาณ 3.5-4%
• ค่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าเรื่อยไปในระยะยาว ตลาดหุ้นต่างประเทศดูน่าสนใจ เช่น จีน และ ญี่ปุ่น ทองคำไม่น่าจะ perform ดีเท่าไหร่เพราะไม่สามารถสร้าง cash flow ให้ผู้ถือครองได้
• กลุ่มธนาคารไทยน่าจะ outperform ธนาคารเพื่อนบ้าน, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และ กลุ่ม Media ดูน่าสนใจ
สรุปใจความสำคัญจากงาน “เปิดมุมมองการลงทุนรับเศรษฐกิจปี 2556”
แขกรับเชิญ คุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์, ดร คณิศ แสงสุพรรณ, ดร กอบศักดิ์ ภูตระกูล และ
คุณ ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ
• GDP ปี 2556 น่าจะโตได้ประมาณ 5% ปัจจัยหลักยังคงเป็นเรื่องการบริโภค และ การลงทุนโดยภาครัฐและเอกชน
• การค้าชายแดนจะเติบโตมากขึ้น ซึ่งประเทศ CLMV จะมีการค้ากับไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางการไม่มีตัวเลขการค้าชายแดน อย่างเป็นทางการ เช่น หากคนลาวข้ามมาซื้อของ ที่อุดรเป็นจำนวนมาก มูลค่าก็ยังคงถูกจัดเป็นการบริโภคในประเทศ
• ด้านธุรกิจอสังหาน่าจะโตได้ต่อ และ ต่อเนื่องไปได้อีกใน 2-3 ปีข้างหน้า ตลาดกรุงเทพ จะโตได้น้อยกว่าต่างจังหวัด ตลาดโดยรวมน่าจะโตประมาณ 10%
• ตอนนี้มีแต่ข่าวดี นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยเริ่มเห็นสัณญานตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว
• MEGA Projects และการลงทุนภาครัฐ สองล้านล้านบาทจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ต่อไป แต่เม็ดเงินจริงๆจากภาครัฐจะเข้ามา ประมาณปลายปีนี้เป็นต้นไป การค้าของไทยกับกลุ่ม CLMV คิดเป็น 7% ของตัวเลข export ในขณะที่การส่งออกไป EU คิดเป็น 9% แต่คาดว่าตัวเลขการค้าจริงกับ CLMV คงสูงกว่านี้
• ปัจจัยความตรึงเครียดเกาหลีเหนือ-ใต้ ญี่ปุ่น-จีน เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่ง
• 50% ของเงินสองล้านล้าน จะถูกใช้ในการลงทุนสร้างระบบราง ประเทศไทยไม่ได้ลงทุน MEGA Project ขนาดใหญ่มานานมากแล้ว ครั้งล่าสุดคือการสร้างมาบตาพุด การลงทุน MEGA Project จะช่วยเพิ่ม GDP ไทยประมาณ 1% ดังนั้น GDP growth ที่ 5-6% น่าจะเป็นไปได้ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า
• การส่งออกน่าจะโตได้แต่ไม่มากเหมือนแต่ก่อน
• หัวเมืองหลักที่ ตลาดอสังหาน่าจะโตได้อย่างโดดเด่นคือ 1 สุราษ 2 นครศรีธรรมราช 3 ชลบุรี 4 ระยอง 5 อยุธยา 6 เชียงใหม่ 7 เชียงราย 8 ขอนแก่น 9 อุดร 10 อุบล 11 โคราช 12 นครสวรรค์ 13 สงขลา (จริงคุณทองมาบอกมี 15 จังหวัดแต่จดไม่ทัน แต่คาดว่าที่ขาดไปน่าจะเป็น ประจวบ กับ เพชรบุรี)
• ราคาอสังหาน่าจะเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 7% เพราะค่าแรงเพิ่ม ที่ดินแพงขึ้น การลงทุนในอสังหา น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในตอนนี้
• ลูกจ้างกินเงินเดือนธรรมดาจะไม่สามารถซื้อคอนโดในเมืองที่ใกล้รถไฟฟ้าได้ แต่การขยายรถไฟฟ้าออกไปจะทำตลาดคอนโดขยายออกไปมากขึ้น
• ปีที่แล้วเป็นปีที่ดีมากของกลุ่มรับเหมา ปีนี้ก็จะยังคงเป็นปีทองอีกปีของรับเหมา
• ปีที่แล้วมีโครงการคอนโดเปิดตัวที่ขอนแก่นกว่า 30 โครงการ
• ราคาต่อตารางเมตร ของคอนโดหรูหราบางโครงการในกรุงเทพขึ้นถึง 400,000 บาทแล้ว
• Theme หลักสำหรับการลงทุน 1) AEC ให้เลือกบริษัทที่มีศักยภาพที่จะโตได้ในภูมิภาคนี้ 2) ตลาดต่างจังหวัด จะไม่ได้หมายความว่าเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อน้อยอีกต่อไป AEC จะทำให้หัวเมืองหลัก มีการค้ามากขึ้น เช่น แม่สอด มีการค้ากับพม่าเพิ่ม 100% ตั้งพม่าประกาศเปิดประเทศ ตอนนี้ที่ดินแม่สอดตกไร่ละ 30 ล้านบาท (ครับ 30 ล้านบาท ผมไม่ได้พิมพ์ผิดแต่อย่างใด) เพราะจะมีการตัดถนนเชื่อมแม่สอดกับเมียววดีของพม่า
• ดอกเบี้ยอาจกลับมาเป็นขาขึ้นช่วงปลายปีนี้ และน่าจะทยอยขึ้นทีละนิดจนถึงประมาณ 3.5-4%
• ค่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าเรื่อยไปในระยะยาว ตลาดหุ้นต่างประเทศดูน่าสนใจ เช่น จีน และ ญี่ปุ่น ทองคำไม่น่าจะ perform ดีเท่าไหร่เพราะไม่สามารถสร้าง cash flow ให้ผู้ถือครองได้
• กลุ่มธนาคารไทยน่าจะ outperform ธนาคารเพื่อนบ้าน, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และ กลุ่ม Media ดูน่าสนใจ