หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เตรียมพบ 2 บิ๊กเซอร์ไพร์ส !!! ทนายนักช้อป “วิชัย ทองแตง”

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 12, 2013 8:07 am
โดย pakapong_u
ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 01:00
เตรียมพบ 2 บิ๊กเซอร์ไพร์ส !!! ทนายนักช้อป “วิชัย ทองแตง”

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


ชำแหละพอร์ตลงทุน “นักปั้นของถูก” วิชัย ทองแตง มูลค่าหุ้นทะยานสัมผัสหลักอะไร ขอเก็บเป็น TOP SECRETSเฉลยสั้นๆเตรียมพบ 2 บิ๊กเซอร์ไพรส์เร็วๆนี้



“ซื้อของถูก แต่มีอนาคต” สโลแกนประจำตัว นักช้อปมือทอง “วิชัย ทองแตง” ชายวัย 66 ปี ผู้โด่งดังจาก “อาชีพทนายความ” หลัง “ชนะ” การว่าความคดี “ซุกหุ้นเมื่อปี 2544” ให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี “พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร” เขาสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงได้ไม่นาน “มหาเศรษฐีอันดับ 20” (มูลค่าความมั่งคั่ง 670 ล้านดอลลาร์ -กว่า 2 หมื่นล้านบาท) ก็ผันตัวเองมาสู่อาชีพ “นักเทคโอเวอร์” ด้วยการเปิดศึกแย่งชิง บมจ.ประสิทธิ์พัฒนา (PYT) เจ้าของเครือโรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล จาก “ตระกูลอุไรรัตน์”

โดยอาศัยจังหวะที่ประสิทธิ์พัฒนาประสบปัญหาหนี้สินในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 จนต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ช่วงนั้น “วิชัย” อาศัยความสัมพันธ์ที่ดีกับ “ไพร้ซวอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส” ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ “ประสิทธิ์พัฒนา” เข้าซื้อหุ้นจากเจ้าหนี้บางราย จนได้ขึ้นแท่นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปี 2546 และส่งลูกชายคนโต “อัฐ ทองแตง” นั่งบริหาร

ในปี 2553 “พ่อมดตลาดหุ้น” เรียกเสียง “ฮือฮา” อีกครั้ง ด้วยการประกาศเปลี่ยนมือเจ้าของ “ประสิทธิ์พัฒนา” หลัง “นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) ทยอยไล่เก็บหุ้น PYT ไว้ในมือ 19.47% ก่อนจะปิดดีลด้วยการ “เทคโอเวอร์แบบเป็นมิตร" ปัจจุบันวิชัย ยังนั่งเก้าอี้รองประธานกรรมการใน BGH

ล่าสุด “นักลงทุนรายใหญ่” รายนี้ในฐานะประธานกรรมการ “เคเบิล ไทย โฮล ดิ้ง” (ซีทีเอช) พาตัวเองเข้าสู่ "สปอตไลต์” อีกครั้ง ด้วยการคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษในเมืองไทย ครอบคลุมไปถึงกัมพูชา และลาว จำนวน 3 ฤดูกาล 2013 -2016

ชั้น 5 โรงพยาบาลพญาไท 2 คือสถานที่ที่ “วิชัย ทองแตง” ใช้อัพเดทเรื่องราวการลงทุนของเขาในทุกแง่มุมกับ “กรุงเทพธุรกิจ BizWeek” ผมยังคงสไตล์การลงทุนในธุรกิจ “เทิร์นอะราวด์” เหมือนเดิม ในปี 2556 คุณจะเห็นผมปั้นธุรกิจดี แต่บังเอิญอ่อนแอ ภาษาชาวบ้านเรียกบริษัทเน่า (หัวเราะ) อีกสัก 2 ดีล ผมจะจับมาล้างน้ำ ปัดฝุ่นใหม่ ตอนนี้ยังเล่าไม่ได้ เดี๋ยวคนอื่นรู้ ผมจะซื้อของแพงขึ้นทันที “กรุณาอย่าเดาขอร้อง” เขาบอก

“วิชัย” เริ่มต้นเล่าถึงการลงทุนใน “ธุรกิจโรงพยาบาล” เป็นเรื่องแรกว่า ทางที่เดินอยู่มันดีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผมขอยกความดีให้ “นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” ท่านบริหารงานเก่งมาก มีการวางเป้าหมาย สร้างการเติบโตไว้ 2 รูปแบบ คือ 1.แบบ Organic growth คือ การลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่ ในแหล่งชุมชนตามจังหวัดใหญ่ๆ และ 2.รูปแบบการเดินสายควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions: M&A)

นอกนั้นเป็นยุทธศาตร์ด้านการทำตลาด เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ยังมองข้ามไปไกลถึง “เอเซียแปซิฟิก” ทุกวันนี้ธุรกิจโรงพยาบาลในเมืองไทยไม่ควรมองเพียง AEC แต่ต้องมองข้ามไปถึงเอเชียแปซิฟิก เครดิตนี้ต้องยกให้ “หมอปราเสริฐ” ตัวผมเองยังเด็กน้อยมาก สำหรับแวดวงโรงพยาบาล (เขาถ่อมตัว) ฉะนั้นการควบรวมกิจการของผมกับคุณหมอ ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก (ยิ้ม)

ทุกวันนี้โรงพยาบาลในเครือกรุงเทพดุสิตเวชการ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ใหญ่ในระดับเอเชียแล้ว!!! (หัวเราะ) เขามีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง ในตลาดต่างประเทศเขาก็เริ่มเข้าไปทำธุรกิจแล้ว อย่างในประเทศกัมพูชา เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ปัจจุบันกำลังศึกษาจะเข้าไปลงทุนในประเทศพม่า

กลยุทธ์ของธุรกิจโรงพยาบาล อันดับแรก เราจะเน้นเรื่องมาตรฐานคุณภาพ ต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ ทุกวันนี้คนทั่วโลกวิ่งมารักษาในบ้านเรามาบนความเชื่อว่าโรงพยาบาลและหมอไทยมีความรู้ ความสามารถเทียบเท่าต่างประเทศ บ้านเรามีชื่อเสียงด้านการรักษาพยาบาลที่ดีประเด็นนี้ต้องยอมรับ

“นักปั้นของถูกมือทอง” ยังเล่าต่อว่า สำหรับธุรกิจเคเบิลทีวี วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมาตอบทุกอย่าง มันยังไม่ค่อยเรียบร้อย น่าจะมีความชัดเจนประมาณกลางปี 2556 ตอนนี้ผมกำลังทำความเข้าใจ (Comics) กับชาวเคเบิลต่างจังหวัดว่า..ผมจะทำ CTH เป็น “เดอะลาส มาสเตอร์พีซ”

เรียกง่ายๆว่า “เป็นผลงานชิ้นเอกที่ผมพร้อมจะเจียระไนให้เกิดขึ้นจริงๆ CTH ในนิยามของชายชื่อ “วิชัย ทองแตง” คือ “เคเบิลทีวีบ้านนอก” ผมชอบคำนี้จังเลย (หัวเราะ) เจอใครก็จะพูดแบบนี้เสมอ เขาทำท่าคิด น่าจะได้เห็นรายการออกอากาศครั้งแรกในเดือน ก.พ.นี้ และจะสร้างรายได้ทันที

ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผมรู้จักเรื่องการลงทุน ก็จากธุรกิจนี้ละ ! ช่วงลงทุนใหม่ๆ ผมจะนำที่ดินที่ได้จากการที่ลูกความจ่ายเป็นค่าว่าความให้มาตัดขายจนเกิดเป็น "กำไร" ธุรกิจนี้ทำให้ผมมี “กำไร” เป็นครั้งแรก มันรู้สึกฝังใจและชอบมาก จะเรียกว่าเป็น “จุดเริ่มต้น” ของการเปลี่ยนจาก “อาชีพทนายความ” มาเป็น “นักลงทุน” ก็เรียกได้
ผมยังไม่ทิ้งธุรกิจอสังหาฯ ยังรอสานฝันอยู่ทุกวัน ในอนาคตอาจจะนำธุรกิจอสังหาฯเข้าไประดมทุน

ในtrตลาดหลักทรัพย์ แต่ตอนนี้เป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น วันนี้ผมก็เข้าไปลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บ้างเล็กน้อย แต่ยังไม่ใช่ Core Business (ธุรกิจหลัก) เป็นเพียง Business หนึ่งที่สามารถลงทุนในระยะยาวได้ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้

ปัจจุบันผมนั่งเป็นประธานกรรมการบริหารและกรรมการใน “แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้” (GRAND) เรามีแผนจะทำให้บริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่เขายังไม่ยอมบอกว่าจะทำด้วยวิธีใด !! นอกจากนั้นผมยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมทุนโครงการ คิโรโระ สกีรีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ใน Akaigawa Village บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ใกล้เมืองซัปโปโร ของ “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” (PF)

สำหรับ ธุรกิจพลังงาน อนาคต“สดใส” แน่นอน ทำให้ผมตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง 60 ล้านหุ้น ในบมจ.ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่น (TH) ร่วมกับ “สุมาลี อ่องจริต” 60 ล้านหุ้น “อภิวุฒิ ทองคำ” 40 ล้านหุ้น “อำนาจ วงศ์สุวรรณ” 14.5 ล้านหุ้น “ประสิทธิ์ เล็กรุ่งเรืองกิจ” 14.5 ล้านหุ้น “ศิร์วสิษฎ์ สายน้ำผึ้ง” 35 ล้านหุ้น “ชัชชัย สุเมธโชติเมธา” 12 ล้านหุ้น และ “ปกรณ์ เจริญศิริ” 14 ล้านหุ้น

ผมตั้งใจจะ “ลอกคราบ” จาก “ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์” เป็น “ธุรกิจพลังงาน” น่าจะได้เห็นภาพชัดๆกลางปี 2556 ไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวนักลงทุนหาว่า “ปั่นหุ้น” ธุรกิจพลังงานเป็นธุรกิจแห่งอนาคต ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าผู้ที่ลงมาทำพลังงานทดแทนล้วนประสบความสำเร็จแทบทั้งนั้น ผมคงไม่เข้าไปนั่งบริหารใน TH เพราะเชื่อมือ “สมนึก กยาวัฒนกิจ” กรรมการผู้อำนวยการ ขอยกตำแหน่งนี้ให้เขาดูแลต่อไป

อยากปั้นธุรกิจไหนเป็นตัวต่อไป? เขายังยืนยันคำเดิมว่า อยากกระโดดเข้าไปโลดแล่นใน “ธุรกิจโลจิสติกส์ขนส่งน้ำมันทางท่อ” เพราะเป็นธุรกิจที่สามารถลดต้นทุนของชาติได้ วันนี้ต้นทุนขนส่งของเมืองไทยสูงมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทำให้การแข่งขันของเราสู้คนอื่นไม่ได้ วันนี้รู้สึกได้แค่ “อยาก” อนาคตอาจร่วมมือกับใครสักคน หรือซื้อกิจการมาทำเอง

เรื่องการศึกษา ก็น่าสนใจ ผมเป็นพวกชอบ “สร้างคน” เรื่องการศึกษาไม่อยากจะพูดว่าเป็น Business แต่บางคนมองว่าเป็นแบบนั้น ถ้าทำแล้วมีกำไรหรือขาดทุน ก็ถือว่าเป็นธุรกิจหมด แล้วแต่จะนิยามกันไป ผมชื่นชอบการศึกษา ทุกปีจะสร้างโรงเรียน 1 แห่ง ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ภายใต้ “มูลนิธิหนึ่งน้ำใจ เพื่อหนึ่งชีวิตใหม่” ทำมากว่า 5 ปีแล้ว มูลนิธิมีงบลงทุนประมาณ 5-6 ล้านบาท

SET Index ปีมะเส็ง 1,600 จุด เรื่องจิ๊บๆ....

“วิชัย ทองแตง” ในฐานะนักลงทุนรายใหญ่ ตั้งโต๊ะทำนาย SET Index ปี 2556 ว่า มีโอกาสขึ้นไปยืนสัมผัสระดับ 1,600 จุด เห็นได้จากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นจำนวนมาก แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า “ห้ามมีแรงกดดันจากการเมือง” กรณีเขาพระวิหาร ก็ถือเป็นตัวแปรสำคัญ จริงๆ บ้านเรามี “จุดแข็ง” หลายอย่าง แต่ที่ไม่ก้าวไปไหนก็ติดปัญหาการเมืองนี่ละ (เขาระบายความในใจ)

เมื่อถามถึงพอร์ตหุ้น? “พ่อมดตลาดหุ้น” ส่ายหน้า!! แสดงความรู้สึกก่อนตอบว่า พูดไม่ได้จริงๆ บอกชื่อหุ้นไปมีหวังราคาแพงขึ้นเป็นกอง (หัวเราะ) กลยุทธ์การลงทุนเป็นแนวลงทุนแบบส่วนตัวไม่ใช่ใครจะใช้เป็นต้นแบบในการลงทุนก็ได้ ยิ่งเรื่องมูลค่าพอร์ตลงทุน ยิ่งบอกไม่ได้ใหญ่ ผมไม่อยากให้คนอื่นหมั่นไส้

บอกได้เพียงว่า กลุ่มธุรกิจหลักๆ ที่เข้าไปลงทุนแล้วจะได้รับประโยชน์ เป็นธุรกิจประเภทรับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มธนาคาร เชื่อว่ากลุ่มเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากนโยบายของภาครัฐที่มีแผนจะลงทุนโปรเจคต่างๆมูลค่านับแสนล้านบาท รับรองเข้าไปลงทุนกลุ่มนี้ไม่มีผิดหวัง เพราะเมื่อมีการลงทุนบิ๊กโปรเจค ก็ต้องมีการใช้วัสดุก่อสร้าง ผู้ประกอบการก็ต้องกู้แบงก์

“บริษัทไซด์กลางราคาหุ้นจะเริ่มปรากฏตัวมากขึ้น ผมเชื่อว่านักลงทุนจะหันไปเล่นหุ้นบริษัทเล็กๆ มากกว่าบริษัทใหญ่ๆ เพราะวันนี้ราคาสูงเกินไปแล้ว”

ธุรกิจพลังงานไม่ต้องพูดเลยมันดีอยู่แล้ว ดูจากนโยบายรัฐบาลที่ออกมาสนับสนุนให้มีการลงทุนด้านพลังงานทดแทน เห็นได้จากสโลแกน “1 ตำบล 1 เมกะวัตต์” ส่วนพวกโซล่าร์ฟาร์ม ก็ให้ผลตอบแทนดี ยิ่งรัฐบาลมีนโยบายจะทำ “ไบโอแมส” ก็จะทำให้เกิดการขยายตัวในด้านธุรกิจพลังงานมากขึ้น
“ที่ผ่านมาผมเลือกลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโทรคมนาคม และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะหุ้น สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) และหุ้น โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) ที่พูดมาล้วนเป็นธุรกิจที่มีอนาคตดีทั้งนั้น”

“อดีตหมอความ” จบบทสนทนาด้วยคำวิงวอนว่า ไม่อยากให้นักลงทุนแห่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น เพียงเพราะเห็นชื่อ “วิชัย ทองแตง” ปรากฏอยู่ในหุ้นตัวนั้นๆ อยากให้ใช้พื้นฐานในการลงทุนมากกว่า ชายชื่อ“วิชัย” ไม่ใช่ “เทวดา” จากไหน เข้าไปซื้ออะไรแล้วราคาจะดีดตัว ก่อนจะลงทุนอะไรสักอย่างผมมองเห็น “อนาคต” แล้วถึงเข้าไป
ไม่ใช่ลงทุนเพียง 1-2 สัปดาห์แล้วออก “มันไม่ใช่ทางของผม”......

Re: เตรียมพบ 2 บิ๊กเซอร์ไพร์ส !!! ทนายนักช้อป “วิชัย ทองแตง”

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 13, 2013 12:22 pm
โดย anomaly
ไม่ทราบว่าตัวหนังสือพิมพ์จริงเนื้อหามากกว่าตัวออนไลน์รึป่าวครับ
ขอบคุณครับ