ไปเที่ยวตรุษจีน ที่เมืองจีนมาครับ ^_^
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2013 6:20 pm
อ่านขำๆนะครับ อยากแชร์ เป็นประสบการณ์ส่วนตั๊ว ส่วนตัว ไม่ค่อยได้ไปเมืองนอก เมืองนา กะเขาบ่อยๆ ภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรง 55 อาศัยไปเที่ยวกะกรุ้ปทัวร์เอา เปิดหูเปิดตา แต่การไปเที่ยวครั้งนี้ของผมกับได้อะไรกลับมาอย่างคาดไม่ถึง และคุ้มค่ามากจริงๆ
เอ้าเริ่มกันเลย เนื่องจากตรุษจีนที่ผ่านมา ได้ไปเที่ยวเมืองจีน นานกิง-ซูโจว-หังโจว-เซี่ยงไฮ้ 6วัน
4 เมืองนี้ยังไม่เคยไปเลยครับ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เคยไปเซี่ยะเหมิน-เสินเจิ้นมาอากาศไม่หนาว
แต่คราวนี้หนาวมาก -1 องศาเลยทีเดียว เกือบแย่ ผมขี้หนาว แต่่ก็ชอบได้ใส่เสื้อขนเป็ดหนาๆและไม่ต้องอาบน้ำบ่อยๆ ขี้เกียจ 55
สิ่งที่ผมได้หลักๆเลยคือข้อมูลจากการเล่าของไกด์นำเที่ยวชื่อ อาเชา (ไกด์หนุ่มวัย30ปี) ซึ่งความรู้ประวัติศาสตร์จีนดีมาก เล่าให้ฟังซะเคลิ้มหลับไปหลายรอบ 55 แต่ก็สนุกมาก ^_^
สิ่งที่ผมเห็นตั้งแต่ลงสนามบินคือตื่นตาตื่นใจมาก ตึกสูงและถนนหนทางที่เป็นระเบียบ สวยงาม และทุกเมืองที่ไปมีประวัติศาสตร์ มี story และสร้างตามหลักฮวงจุ้ยเป็นหลัก บางเมืองบ้านกลายเป็นทรงยุโรปไปหมดแล้ว ทุกตึกแทบจะเป็นงานศิลปะ สวยงามน่าทึ่งไปซะหมด ผมทึ่งมาก ไม่คิดว่าจะพัฒนาได้รวดเร็วอะไรขนาดนี้
อาเชาเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่จีนเป็นเจ้าภาพเวิลเอ็กซ์โป ก็ได้เร่งเวนคืนที่ดิน บ้านเก่า ทุบทิ้งหมด ในเซี่ยงไฮ้ตอนนี้แทบไม่มีบ้านเก่าเหลือแล้วเป็นคอนโดสูงเกือบทั้งหมด (ชาวบ้านที่โดนเวนคืนนี่ทุกคน happy นะครับ ดีใจเหมือนถูกหวย เพราะรัฐให้ไปอยู่คอนโดใหญ่กว่าเดิมและให้เงินก้อนโต) การเป็นคอมมิวนิสนี่ชาวจีนส่วนใหญ่ยอมรับ เพราะการคุมคน 1,500 ล้านคนนี่ ถ้าไม่เด็ดขาดนี่ไม่มีทางคุมได้แน่นอน ซึ่งรัฐจึงคล่องตัวมากๆ สั่งทุบ รื้อสร้างอะไรได้หมด
สิ่งที่ผมเห็นจากจีนคราวนี้ก็คือ หลายคนอาจมองจีนเป็นผู้ผลิตของโลก แต่ผมคิดตรงข้ามเลย ผมมมองว่าจีนกำลังจะกลายเป็นผู้บริโภคอันดับ 1 ของโลก คนในเซี่ยงไฮ้ค่าแรงขั้นต่ำคือ 20,000 บาท ผมได้ยินไกด์พูดครั้งแรกก็ตกใจ แต่อาเชาบอกว่าค่าครองชีพที่นี่ค่อนข้างสูง บ้านเดี่ยวในเซี่ยงไฮ้ที่ผมสังเกต ไม่มีซักหลัง อาเชาบอกมีแต่มหาเศรษฐีถึงมีบ้านเดี่ยวได้ แต่แค่คอนโด ราคาก็ตกตารางเมตรละ 200,000 บาทแล้ว (40,000หยวน) ทำเลที่ดีมากๆสูงถึง ตารางเมตรละ 450,000 บาท(90,000หยวน) ปีที่แล้วรัฐบาลจีนเลยมีมาตราการป้องกันการเกิดฟองสบู่ในอสังหาของจีนที่ทำให้หุ้นตกระเนระนาดกันไป รถยนต์ในจีนหลากหลายยี่ห้อมากๆ แต่ที่นิยมจะเป็นออดี้ เพราะโลโก้คล้ายเลข 8 คนจีนชอบเลข 8 มาก เรื่องของฮวงจุ้ยล้วนๆ ^_^ ผมได้มีโอกาสไปเดินหลายตลาดในจีนทั้งที่ช่วงตรุษจีนจะเป็นช่วงเงียบเหงาเพราะคนจีนส่วนใหญ่จะหยุดงานและพักผ่อนอยู่บ้านกับครอบครัว แต่ที่เห็นมันคึกคักมากๆ ถ้าเป็นวันปรกติ คงแทบไม่มีทางเดิน การจับจ่าย อะไรก็ขายได้ สิ่งที่เห็นชัดของคนจีนและสาวจีนคือชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมอย่างมาก สินค้าหลายแบรนด์แพงกว่าเมืองไทยอีก ยังช้อปกันสนุกสนาน
( คำขวัญสาวจีนยุคใหม่ ไกด์บอกว่า ยอมเสียน้ำตาบนเบาะรถ BENZ ดีกว่ายิ้มร่าหลังเบาะมอเตอร์ไซด์ ^_^" )
แม้แต่ในต่างจังหวัดของจีนหลายๆที่ ก็คึกคักไม่แพ้เซี่ยงไฮ้ ที่สำคัญคือคนจีนทุกคนมีหัวการค้าขายทุกคนและขยัน
ผมคิดว่าถ้าใครไปขายของให้คนจีนได้นี่คุณจะได้ตลาดใหญ่มหาศาล เพราะคนจีนไม่ต่่างกับคนไทยคือขี้เห่อ อะไรใหม่ๆ ถ้าทำให้ตื่นเต้นได้ จับจ่ายกันไม่อั้น กำลังซื้อมหาศาลมาก แต่ไม่ใช่จีนจะต้อนรับทุกคน คนจีนส่วนใหญ่ไม่ชอบคนญี่ปุ่นอย่างมากทีเดียว จากประวัติศาสตร์ที่มีต่อกันมายาวนาน ธุรกิจญี่ปุ่นจึงมีปัญหาอย่างแรงกับการลงทุนในจีน ไม่ค่อยประสบความสำเร็จและได้รับการต่อต้าน แม้แต่อาเชาซึ่งเป็นไกด์ก็ไม่ชอบขั้นแรงมาก มีพูดกระทบเสียดสีญี่ปุ่นตลอดเวลา
(ผิดกับประเทศไทยซึ่งต้อนรับคนญี่ปุ่นอย่างดี คนญี่ปุ่นเองก็รักเมืองไทยมาก บางคนมาทำงานแล้วไม่ยอมกลับก็มี)
อเมริกาก็เช่นกัน คนจีนคิดว่า อเมริกาคอยจะมาแสวงหาประโยชน์ คอยจะเอาเปรียบ ลึกๆ ก็ยังไม่ไว้ใจกันเท่าไร
แต่ต่างกับไทย คนจีนชอบคนไทย และชอบมาเที่ยวเมืองไทย และบริษัทของไทยที่ชาวจีนยอมรับ นั่นคือ CP มีสำนักงานใหญ่อยู่ใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ ไกด์บอกว่า CP เข้ามาจีน 10 กว่าปี และเป็นบริษัทไม่กี่แห่งที่รัฐบาลจีนสนับสนุนและมีอำนาจการเจรจาต่อรองสูงมาก ^_^
สิ่งที่ผมเห็นแล้วค่อนข้างตกใจคือ 7-11 ในเซี่ยงไฮ้น้อยมากๆ งงเหมือนกันเมืองที่เจริญ ประชากรเยอะขนาดนี้ ทำไมร้่านสะดวกซื้อมันน้อยจัง ส่วนใหญ่จะเป็นร้านโชห่วยของคนจีนเอง มีแฟมิลีมาร์ท และ ลอสัน บ้าง แต่ต่างกับไทยมากๆ 7-11 ทุกหัวมุมตึก 55 ซึ่งตรงนี้ น่าจะเป็นโอกาสอีกมากของ modern trade
ขอใส่ความเห็นส่วนตัวบ้าง ความเห็นผมที่มีต่อจีน คืออีกไม่เกิน 10 ปี จีนจะเป็นมหาอำนาจของโลกอย่างแท้จริง
ในทุกๆด้าน น่าจะแซงยุโรปไปได้ไม่ยาก จีนพัฒนาได้เร็วอย่างน่ามหัศจรรย์และประชากรมีความกระตือรือร้นสูงมาก
และคนจีนจำนวนมากมีรายได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ น่าจะทำให้เศรษฐกิจในประเทศเฟื่องฟูอีกเยอะ
และรัฐบาลจีนมีเงินมหาศาลพร้อมจะทุ่มลงทุน <โดยเฉพาะในไทย> เรามีภูมิประเทศที่ดีมาก ติดกับหลายประเทศ เปิด AEC ไทยจะเป็นศูนย์กลางโลจิสติคของภูมิภาคเลยทีเดียว ซึ่งความสัมพันธ์ก็ดีอยู่แล้ว จีนน่าจะทุ่มการลงทุนที่ไทยมหาศาลในอนาคต เพราะเงินจีนมีมหาศาล น่าจะไปลงทุนซื้อกิจการทั่วทั้งโลก
แต่ถ้าเทียบกับอเมริกา ผมว่ายังเป็นมวยรอง สำคัญคือการศึกษา ยังห่างกันอีกมาก อเมริกามีมหาลัยเจ๋งๆมากมาย
ซึ่งผมว่าความรู้ประชากรสำคัญมาก และอเมริกามีความพิเศษหลายด้านที่หาใครเทียบยาก ก็จับตาดูมวยคู่นี้กันต่อไป
ต่ออีกหน่อยเกี่ยวกับหุ้นนิดนึง พูดถึงตลาดหุ้นจีน เทียบกับตลาดหุ้นไทย บ้านเราแพงกว่ามหาศาลมาก
ทั้งที่เศรษฐกิจและความเจริญต่างกันมากๆ เมืองจีนวางแผนพัฒนาไว้ล่วงหน้า 10 ปี ทุกอย่างเป็นระเบียบ ประเทศใหญ่ขนาดนี้ ไม่รู้จัดระเบียบได้ยังไง ถือว่าดีมาก แม้แต่ในต่างจังหวัดตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นเมืองพัฒนาไปหมดแล้ว ระบบขนส่ง คมนาคมดีทีเดียว ยกเว้นเซี่ยงไฮ้รถติดแก้ไม่ได้ เพราะถนนไม่พอกับจำนวนรถที่มีมหาศาล แต่ก็มีทางเลือกอื่นเช่นระบบรางซึ่งทันสมัยมาก (ที่จีนชาวนาหลายรายรวยมาก ยกเว้นชนบทไกลๆอย่างเสฉวน หรือเมืองอื่นๆ ยังยากจน แต่ผมว่าอีกไม่นานความเจริญจะไปถึงอย่างรวดเร็ว ) ศักยภาพของประเทศจีน ดัชนีที่ 2,000 จุดนี่ผมว่า ไม่สมเหตุสมผลเลย กับขนาดเศรษฐกิจ ส่วนตัวผมให้เป็นมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลกเลย ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับหุ้นจีนเพราะไม่ได้ศึกษา แต่ผมว่ามันต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอย่างมากหลายเท่าตัว
เป็นประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวนะครับ อยากเอามาบ่นเฉยๆ ข้อมูลดิบจากไกด์และตาผมล้วนๆ
ไม่มีเอกสารอ้างอิงทางวิชาการ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อิอิ
ปล. พี่ๆทีมงาน เห็นว่าไม่เหมาะสม ไร้สาระ ลบได้เลยนะครับ ไม่โกรธครับ
เอ้าเริ่มกันเลย เนื่องจากตรุษจีนที่ผ่านมา ได้ไปเที่ยวเมืองจีน นานกิง-ซูโจว-หังโจว-เซี่ยงไฮ้ 6วัน
4 เมืองนี้ยังไม่เคยไปเลยครับ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เคยไปเซี่ยะเหมิน-เสินเจิ้นมาอากาศไม่หนาว
แต่คราวนี้หนาวมาก -1 องศาเลยทีเดียว เกือบแย่ ผมขี้หนาว แต่่ก็ชอบได้ใส่เสื้อขนเป็ดหนาๆและไม่ต้องอาบน้ำบ่อยๆ ขี้เกียจ 55
สิ่งที่ผมได้หลักๆเลยคือข้อมูลจากการเล่าของไกด์นำเที่ยวชื่อ อาเชา (ไกด์หนุ่มวัย30ปี) ซึ่งความรู้ประวัติศาสตร์จีนดีมาก เล่าให้ฟังซะเคลิ้มหลับไปหลายรอบ 55 แต่ก็สนุกมาก ^_^
สิ่งที่ผมเห็นตั้งแต่ลงสนามบินคือตื่นตาตื่นใจมาก ตึกสูงและถนนหนทางที่เป็นระเบียบ สวยงาม และทุกเมืองที่ไปมีประวัติศาสตร์ มี story และสร้างตามหลักฮวงจุ้ยเป็นหลัก บางเมืองบ้านกลายเป็นทรงยุโรปไปหมดแล้ว ทุกตึกแทบจะเป็นงานศิลปะ สวยงามน่าทึ่งไปซะหมด ผมทึ่งมาก ไม่คิดว่าจะพัฒนาได้รวดเร็วอะไรขนาดนี้
อาเชาเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่จีนเป็นเจ้าภาพเวิลเอ็กซ์โป ก็ได้เร่งเวนคืนที่ดิน บ้านเก่า ทุบทิ้งหมด ในเซี่ยงไฮ้ตอนนี้แทบไม่มีบ้านเก่าเหลือแล้วเป็นคอนโดสูงเกือบทั้งหมด (ชาวบ้านที่โดนเวนคืนนี่ทุกคน happy นะครับ ดีใจเหมือนถูกหวย เพราะรัฐให้ไปอยู่คอนโดใหญ่กว่าเดิมและให้เงินก้อนโต) การเป็นคอมมิวนิสนี่ชาวจีนส่วนใหญ่ยอมรับ เพราะการคุมคน 1,500 ล้านคนนี่ ถ้าไม่เด็ดขาดนี่ไม่มีทางคุมได้แน่นอน ซึ่งรัฐจึงคล่องตัวมากๆ สั่งทุบ รื้อสร้างอะไรได้หมด
สิ่งที่ผมเห็นจากจีนคราวนี้ก็คือ หลายคนอาจมองจีนเป็นผู้ผลิตของโลก แต่ผมคิดตรงข้ามเลย ผมมมองว่าจีนกำลังจะกลายเป็นผู้บริโภคอันดับ 1 ของโลก คนในเซี่ยงไฮ้ค่าแรงขั้นต่ำคือ 20,000 บาท ผมได้ยินไกด์พูดครั้งแรกก็ตกใจ แต่อาเชาบอกว่าค่าครองชีพที่นี่ค่อนข้างสูง บ้านเดี่ยวในเซี่ยงไฮ้ที่ผมสังเกต ไม่มีซักหลัง อาเชาบอกมีแต่มหาเศรษฐีถึงมีบ้านเดี่ยวได้ แต่แค่คอนโด ราคาก็ตกตารางเมตรละ 200,000 บาทแล้ว (40,000หยวน) ทำเลที่ดีมากๆสูงถึง ตารางเมตรละ 450,000 บาท(90,000หยวน) ปีที่แล้วรัฐบาลจีนเลยมีมาตราการป้องกันการเกิดฟองสบู่ในอสังหาของจีนที่ทำให้หุ้นตกระเนระนาดกันไป รถยนต์ในจีนหลากหลายยี่ห้อมากๆ แต่ที่นิยมจะเป็นออดี้ เพราะโลโก้คล้ายเลข 8 คนจีนชอบเลข 8 มาก เรื่องของฮวงจุ้ยล้วนๆ ^_^ ผมได้มีโอกาสไปเดินหลายตลาดในจีนทั้งที่ช่วงตรุษจีนจะเป็นช่วงเงียบเหงาเพราะคนจีนส่วนใหญ่จะหยุดงานและพักผ่อนอยู่บ้านกับครอบครัว แต่ที่เห็นมันคึกคักมากๆ ถ้าเป็นวันปรกติ คงแทบไม่มีทางเดิน การจับจ่าย อะไรก็ขายได้ สิ่งที่เห็นชัดของคนจีนและสาวจีนคือชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมอย่างมาก สินค้าหลายแบรนด์แพงกว่าเมืองไทยอีก ยังช้อปกันสนุกสนาน
( คำขวัญสาวจีนยุคใหม่ ไกด์บอกว่า ยอมเสียน้ำตาบนเบาะรถ BENZ ดีกว่ายิ้มร่าหลังเบาะมอเตอร์ไซด์ ^_^" )
แม้แต่ในต่างจังหวัดของจีนหลายๆที่ ก็คึกคักไม่แพ้เซี่ยงไฮ้ ที่สำคัญคือคนจีนทุกคนมีหัวการค้าขายทุกคนและขยัน
ผมคิดว่าถ้าใครไปขายของให้คนจีนได้นี่คุณจะได้ตลาดใหญ่มหาศาล เพราะคนจีนไม่ต่่างกับคนไทยคือขี้เห่อ อะไรใหม่ๆ ถ้าทำให้ตื่นเต้นได้ จับจ่ายกันไม่อั้น กำลังซื้อมหาศาลมาก แต่ไม่ใช่จีนจะต้อนรับทุกคน คนจีนส่วนใหญ่ไม่ชอบคนญี่ปุ่นอย่างมากทีเดียว จากประวัติศาสตร์ที่มีต่อกันมายาวนาน ธุรกิจญี่ปุ่นจึงมีปัญหาอย่างแรงกับการลงทุนในจีน ไม่ค่อยประสบความสำเร็จและได้รับการต่อต้าน แม้แต่อาเชาซึ่งเป็นไกด์ก็ไม่ชอบขั้นแรงมาก มีพูดกระทบเสียดสีญี่ปุ่นตลอดเวลา
(ผิดกับประเทศไทยซึ่งต้อนรับคนญี่ปุ่นอย่างดี คนญี่ปุ่นเองก็รักเมืองไทยมาก บางคนมาทำงานแล้วไม่ยอมกลับก็มี)
อเมริกาก็เช่นกัน คนจีนคิดว่า อเมริกาคอยจะมาแสวงหาประโยชน์ คอยจะเอาเปรียบ ลึกๆ ก็ยังไม่ไว้ใจกันเท่าไร
แต่ต่างกับไทย คนจีนชอบคนไทย และชอบมาเที่ยวเมืองไทย และบริษัทของไทยที่ชาวจีนยอมรับ นั่นคือ CP มีสำนักงานใหญ่อยู่ใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ ไกด์บอกว่า CP เข้ามาจีน 10 กว่าปี และเป็นบริษัทไม่กี่แห่งที่รัฐบาลจีนสนับสนุนและมีอำนาจการเจรจาต่อรองสูงมาก ^_^
สิ่งที่ผมเห็นแล้วค่อนข้างตกใจคือ 7-11 ในเซี่ยงไฮ้น้อยมากๆ งงเหมือนกันเมืองที่เจริญ ประชากรเยอะขนาดนี้ ทำไมร้่านสะดวกซื้อมันน้อยจัง ส่วนใหญ่จะเป็นร้านโชห่วยของคนจีนเอง มีแฟมิลีมาร์ท และ ลอสัน บ้าง แต่ต่างกับไทยมากๆ 7-11 ทุกหัวมุมตึก 55 ซึ่งตรงนี้ น่าจะเป็นโอกาสอีกมากของ modern trade
ขอใส่ความเห็นส่วนตัวบ้าง ความเห็นผมที่มีต่อจีน คืออีกไม่เกิน 10 ปี จีนจะเป็นมหาอำนาจของโลกอย่างแท้จริง
ในทุกๆด้าน น่าจะแซงยุโรปไปได้ไม่ยาก จีนพัฒนาได้เร็วอย่างน่ามหัศจรรย์และประชากรมีความกระตือรือร้นสูงมาก
และคนจีนจำนวนมากมีรายได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ น่าจะทำให้เศรษฐกิจในประเทศเฟื่องฟูอีกเยอะ
และรัฐบาลจีนมีเงินมหาศาลพร้อมจะทุ่มลงทุน <โดยเฉพาะในไทย> เรามีภูมิประเทศที่ดีมาก ติดกับหลายประเทศ เปิด AEC ไทยจะเป็นศูนย์กลางโลจิสติคของภูมิภาคเลยทีเดียว ซึ่งความสัมพันธ์ก็ดีอยู่แล้ว จีนน่าจะทุ่มการลงทุนที่ไทยมหาศาลในอนาคต เพราะเงินจีนมีมหาศาล น่าจะไปลงทุนซื้อกิจการทั่วทั้งโลก
แต่ถ้าเทียบกับอเมริกา ผมว่ายังเป็นมวยรอง สำคัญคือการศึกษา ยังห่างกันอีกมาก อเมริกามีมหาลัยเจ๋งๆมากมาย
ซึ่งผมว่าความรู้ประชากรสำคัญมาก และอเมริกามีความพิเศษหลายด้านที่หาใครเทียบยาก ก็จับตาดูมวยคู่นี้กันต่อไป
ต่ออีกหน่อยเกี่ยวกับหุ้นนิดนึง พูดถึงตลาดหุ้นจีน เทียบกับตลาดหุ้นไทย บ้านเราแพงกว่ามหาศาลมาก
ทั้งที่เศรษฐกิจและความเจริญต่างกันมากๆ เมืองจีนวางแผนพัฒนาไว้ล่วงหน้า 10 ปี ทุกอย่างเป็นระเบียบ ประเทศใหญ่ขนาดนี้ ไม่รู้จัดระเบียบได้ยังไง ถือว่าดีมาก แม้แต่ในต่างจังหวัดตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นเมืองพัฒนาไปหมดแล้ว ระบบขนส่ง คมนาคมดีทีเดียว ยกเว้นเซี่ยงไฮ้รถติดแก้ไม่ได้ เพราะถนนไม่พอกับจำนวนรถที่มีมหาศาล แต่ก็มีทางเลือกอื่นเช่นระบบรางซึ่งทันสมัยมาก (ที่จีนชาวนาหลายรายรวยมาก ยกเว้นชนบทไกลๆอย่างเสฉวน หรือเมืองอื่นๆ ยังยากจน แต่ผมว่าอีกไม่นานความเจริญจะไปถึงอย่างรวดเร็ว ) ศักยภาพของประเทศจีน ดัชนีที่ 2,000 จุดนี่ผมว่า ไม่สมเหตุสมผลเลย กับขนาดเศรษฐกิจ ส่วนตัวผมให้เป็นมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลกเลย ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับหุ้นจีนเพราะไม่ได้ศึกษา แต่ผมว่ามันต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอย่างมากหลายเท่าตัว
เป็นประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวนะครับ อยากเอามาบ่นเฉยๆ ข้อมูลดิบจากไกด์และตาผมล้วนๆ
ไม่มีเอกสารอ้างอิงทางวิชาการ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อิอิ
ปล. พี่ๆทีมงาน เห็นว่าไม่เหมาะสม ไร้สาระ ลบได้เลยนะครับ ไม่โกรธครับ