หน้า 1 จากทั้งหมด 1

นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 13, 2013 7:40 am
โดย miracle
ออกตัวก่อนว่า ใครอ่านกระทู้นี้ คงจะงง ว่าทำไมตั้งชื่อว่า นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556
เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้เป็นอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและรุนแรง ทั้งจากภายนอกประเทศคือ เหล่าตัวแทนเทคโนโลยี่ จาก Mini Computer สู่ PC computer สงครามของ CPU จน Intel เป็นเบอร์หนึ่ืง ,จาก DOS ถึง MS Windows ,MS Windows ที่ไม่จำเป็นต้องมี Dos (ทุกบ้านมีคอมพิวเตอร์ใช้) เรื่อยๆมา
ตอนปี 2540 มีห้างสรรพาสินค้าห้างหนึ่งแถวเพชรบุรีที่วัดกระแสของสินค้าไฮเทค ได้ ตอนนี้ในห้างแห่งนี้เหมือนมีแผนกซุเปอร์ส อยู่สองสามแห่งคือ ชั้น M,4 ส่วนชั้นห้าที่ปัจจุบัน IT อยู่นั้นเพิ่งมาที่หลัง จากการดัดแปลงที่จอดรถ เป็นแผนกซุเปอร์เพิ่มเติม
จากนั้นไม่กี่ปี แผนกซุเปอร์ ชั้น 4 ตายจากไป ตอนแรกค่อยๆ ลดพื้นที่ลดลง จนกระทั่งปิดตัวเองไป(ประมาณปี 2542-2543) ต่อมาห้างได้ดัดแปลงเป็นการซอยเป็นร้านเล็กๆ เพื่อขายแทน จากนั้นเปิดชั้น 5 ขึ้นเป็นแผนกซุเปอร์ต่อไป แต่ในขณะเดียวกันชั้น M หรือชั้นลอย นั้นก็ยังอยู่ ช่วงนี้เริ่มปรับเปลี่ยนห้างจากเดิมที่มีโรงหนังก็ทำแบ่งล็อคให้เช่าขายของ และต่อมา ก็ล้มหายตายจากของซุเปอร์ชั้น M การตายเหมือนกับชั้น 4 ที่ปิดตัวลง คือ ค่อยลดพื้นที่ แบ่งพื้นที่ส่วนหน้าให้ร้านพวก talking dict มาตั้งบูต จนกระทั่งหายไปในที่สุด (ประมาณปี2549-2551) ในตอนนี้ร้านค้ามือถือก็เริ่มเข้ามา
ร้านคอมพิวเตอร์เริ่มเป็น ร้านที่มียี่ห้อ ทั้งสีเหลือง สีน้ำเงิน ร้านแบบเก่าๆค่อยๆหายไปด้วย

ถ้าพูดถึง พวกกลุ่มที่ค้าขาย แบบยี่ปั้ว ก่อนหน้า Synex และ Sis ก็มียักษ์ใหญ่มากๆ คือ DCom ตอนนี้ก็ยังอยู่แต่เล็กลงไปมากแล้ว เมื่อก่อนนี้ทุกร้านขายแต่ DCom จนกระทั่ง DCom เปิดร้านตัวเอง แต่สุดท้ายเกิดอะไรก็ไม่ทราบก็ค่อยๆเล็กลงเล็กลงไป ร้านของตัวเอง Dcom ก็ปิดตัวเองไปด้วย ทำให้คนอื่นๆเพิ่ม Market Share ขึ้น
ก่อนหน้า DCom

จากเดิมที่ใช้ แผ่นดิสสเกตส์ 10 นิ้ว ->5 นิ้ว ->3 นิ้ว ทดแทนด้วย CD->DVD แทนทีโดย Them Drive แทนทีด้วย External Harddisk นี้คือสิ่งภายนอกที่เห็นๆกัน ถ้าหากเป็น Monitor ก็เปลี่ยนแปลงจาก Mono ->color จาก จอแก้ว->จอแบน ->LED /LCD ตอนนี้คงจะหยุดอยู่ที่นี้ แต่จริงๆ -> 3D LED/LCD ต่อไป
ส่วนCPU จากเดิม 8080->8086->80286->80386 ->80486-> Pentium ->Pentium Pro->Pentium 2->Pentium 3 ->Pentium 4 ->Core 2 ->Core 2 Dual ->i3,5,7 ->i3,i5,i7 (Second Edition) อันนี้ยกมาให้แต่ตัวหลักๆ ของแต่ละเวลาเท่านั้น อาจจะมีรุ่นย่อยๆ
ส่วน Memory จาก EDO ->SDRAM ->DDRAM ->DDRAM 2 -> DDRAM3 ->DDRAM5 (ใช้กับ การ์ดจอ แต่เครื่องคอมยังไม่เห็น)
ส่วนที่เปลี่ยนแปลงน้อยคือ Power Supply แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงช่องเสียบ ในส่วนอง Mainboard แต่ใช้เวลานานกว่าที่เปลี่ยนแปลง

ทำให้นึกถึงคำพูดของพระพุทธองค์คือ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญ ก็มีนินทา มันเป็นกระจกส่องเสมอละ ทุกอย่างมีจุดที่สูงที่สุด แต่ตอนที่ไต่ขึ้นดูสวยงาม เมื่อถึงจุดสูงที่สุดเป็นผู้ชนะ แต่อย่าลืมว่า ก็ต้องมีวันถดถอย เพราะคนอื่นๆก็ต้องการไปให้ถึงจุดที่สูงที่สุดเหมือนกัน

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 13, 2013 4:37 pm
โดย kit556
ทันยุคที่ต้องใช้ floppy disk 5 นิ้วสองแผ่น แผ่นนึงเป็น DOS อีกแผ่นเป็นพวก program จะเล่นเกมหรือเรียก Lotus123 ก็ต้องใส่อีกแผ่นเข้าไปแทน

โลกของ IT เวลาหมุนไปไวกว่าโลกปกติหลายเท่า :D
ผมว่าสบายคนใช้แต่ลำบากคนผลิตขาย เพราะถือเงินไว้เฉยๆ ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ผ่านไปปีเดียวได้ของใหม่กว่าราคาถูกลงอีกต่างหาก

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 13, 2013 5:09 pm
โดย TIPPING_POINT
ย้อนอดีตด้วย
ผมเริ่มเรียนคอมตอนแรก ม.6 ตอนนั้นเป็น word จุฬาอยู่เลย
แต่ดันเลือก ent วิศวคอม
เข้าปี 1 ที่บ้านซื้อคอมให้ ไปซื้อที่ pantip
เป็นคอมประกอบราคาน่าจะ 6 หมื่นกว่าบาท น่าจะเป็น pentium แล้ว
ติดยี่ห้อเป็นตัวหนังสือจีนสีทองพื้นแดง

วันแรกลงโปรแกรมโป๊ก่อนเลย
สมัยนั้นผมเรียกได้ว่าแทบไม่มีความรู้คอมเลย รู้จักแต่ harddisk เสียต้องไป claim ที่ dcom
เคลมง่าย ไม่จุกจิก จำได้ว่าไปที่ซอยงามดูพลีที่พระราม4

ใช้ไป 2 ปีคอมพัง เปลี่ยน mainboard ไปหมื่นกว่าบาท
โดนด่ากระจาย
เวลาผ่านไปมีความรู้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้รู้เกี่ยวกับการลงทุนนะ

ตอนนั้นก็ประกอบคอมเองได้แล้ว ก็ซื้อส่วนประกอบจาก pantip อยู่ดี
ประกอบได้อยู่สักพัก
หลังๆไม่ซื้อคอมมาประกอบล่ะ ซื้อ notebook มาใช้ตลอด

notebook เครื่องแรกก็ซื้อที่ pantip หลังจากเรียนจบไม่นานยี่ห้อ compaq
Claim กระจาย ไปเคลมที่ตึกอื้อจือเหลืองประจำ sticker แปะเต็มหลังเครื่องเต็มไปหมด

หลังจากนั้นเลยซื้อ notebook พร้อมประกัน 3 ปีตลอด
ตอนไปซื้อ notebook ก็ต้องนั่งเทียบราคา แต่หลังๆมีไป fortune แทนเพราะว่าจอดรถง่าย

หลังจาก compaq ก็มีซื้ออีกเครื่องคราวนี้เป็น acer เพราะตอนนั้นบ้านอยู่พระราม 3 ตรงข้ามศูนย์ acer ตรงตึก sv เลย กะว่า claim สบาย แน่นอนประกัน 3 ปี
ปัจจุบันก็ยังไม่เสียนะครับใช้มาจนหมดประกัน
หลังๆ แทบซื้อไม่ซื้อ notebook เลย มี ipad ,iphone, แล้วก็ tablet acer w510 อยู่
คราวนี้ซื้อที่ห้างธรรมดาแทน ไม่ได้ไป pantip กับ fortune นานล่ะ
และสุดท้าย tabler acer เป็น window8 ซื้อมาแล้วไม่ค่อยชอบ
ตอนนี้นอนนิ่งอยู่ในที่เก็บของ
ใช้ notebook acer เครื่องเดิม แต่แอบลง window 7 และเพิ่ม ram มาใช้สบายๆ

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 14, 2013 1:06 am
โดย Alpha1
ผมทันสมัยที่ แผงคอมพ์ กับแผงพระ ยังมีจำนวนสูสีกันอยู่ มันช่างคอนทราสต์กันดีเหลือเกิน


ไปซื้อ วินโดว์ 3.1 มั้ง โปรแกรมเดียว ได้แผ่นดิสก์ 3.5 นิ้ว มามัดนึง 5 5 5...

จำได้ว่าประมาณ 10 แผ่นมั้ง


... แรมไปซื้อตัวละ 1 เมก ขายเป็นคู่ สองพันกว่าบาท เดี๋ยวนี้ใน notebook มีอยู่ 8000 เมก... 5 5 5

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 14, 2013 8:20 am
โดย naphas12
ผมยังทันใช้ กระดานชนวนที่ใช้ชอล์กเขียน สมัยนั้นไม่มีสิ่งที่เรียกว่าคอมพิวเตอร์ ทองคำบาทละ 300 สงครามอินโดจีน
เคยวิ่งเล่นกับพวกทหารจีไอ ต่อมามีกระดาษ ต่อมามีสิ่งที่เรียกว่าคอมพิวเตอร์แบบใช้กระดาษเจาะรู ต่อมาเป็น Floppy Disk ขนาดใหญ่ แล้วก็ลดขนาดลงเรื่อยๆ จอคอมเป็นจอเขียว สมัยก่อนไม่มี EXCEL มีแต่ Symphony กับ Lotus เริ่มมี
ระบบ LAN ส่วน CPU ก็เปลี่ยนไปมาก แต่เห็นว่ามาหยุดที่ตระกูล i5, i7 นานเกินไป

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 16, 2013 2:22 am
โดย Miliard
ผมว่า PC เหมือนจะพัฒนามาถึงจุดอิ่มตัวแล้วนะครับ สำหรับคนที่ไม่ได้เล่นเกมส์ แทบไม่มีความจำเป็นต้อง upgrade เครื่องที่มีเลย อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีี่ที่ใช้กันจนพังไปข้าง

ใครไปห้างพันทิพย์กันบ้างครับช่วงนี้ ผมไปเมื่อหลายเดือนก่อน เห็นอะไรเปลี่ยนแปลงได้หลายๆอย่างเหมือนกัน

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 19, 2013 11:44 am
โดย Sonic_V3
ผมก็ไม่ได้ไป ห้างนั้น นานแล้ว ตั้งแต่พี่เสก มาร้อง เพลง
เพราะตอนนี้ ร้าน สี ต่าง เข้ามาใกล้ มากขึ้น เรื่อยๆ
รวมถึง internet wi-fi พัฒนามาถึงบ้านนอกๆ แล้ว :oops:

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 20, 2013 1:18 am
โดย david1150
ตอนนี้ผมว่าหมดยุคพวกDcomแล้วน่ะคับ หรือพวกร้านเล็กๆในPantipเพราะเจอพวกดิสทรีบิวชั่นอย่างAdvice Banana IT JIB.หรือพวกร้านใหญ่ๆในPantipเช่น Jedi Com&More Busitekหรือไรอีกหลายๆอย่าง เข้ามาควบคุมราคาในตลาดอย่างจริงจัง ทั้งในกทม.และตจว. เพราะสะดวกในทุกๆด้าน บริการส่ง ประกัน เเละที่สำคัญราคาเท่าในPantipหมดเลยคับ ยกเว้นเรื่องต่อราคาและของแถม

ปล.ผมสมัครมานานแล้ว เเต่เพิ่งเข้ามาส่อง แล้วเจอกระทู้ที่ตัวพอถนัดเลยขอออกความคิดเห็นนิสนึง

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 20, 2013 10:27 am
โดย neuhiran
กระทู้นี้ 40+ (อายุนะ) :mrgreen:

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 02, 2013 10:53 am
โดย yosaporn
อ่านทุก comment แล้วเห็นภาพความเปลี่ยนไปทั้งหมดมาแล้วด้วยตาตัวเอง ยกเว้น comment ของพี่ Naphas12 .. ปีนี้ผมอายุแค่ 40 ขวบ เกิดไม่ทันจริงๆ ครับ :D

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 02, 2013 1:16 pm
โดย theerasak24
neuhiran เขียน:กระทู้นี้ 40+ (อายุนะ) :mrgreen:

คนที่ทันกระดานชนวน 386sx cu writer dos liverpool อายุก็น่าจะ เกือบ 40 หรือว่า 40 up

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 02, 2013 2:10 pm
โดย tigerroad197
ปัจจุบันผมอายุร่วม 50 ปี ครับ. ช่วงปี พ.ศ. 2526 ผมไปเรียน คอมพิวเตอร์ ที่แถวหลัง อนุสาวรีย์ชัย ฯ เครื่องที่ใช้เรียน เป็น คอมพิวเตอร์ รุ่น คอมมอดอร์ การโหลดโปรแกรม ใช้เทปคาสเซทครับ ซึ่งช้ามาก

เนื้อหาที่เรียนเป็นพวกเลขฐานสองครับ เรียนอยู่ไม่กี่ครั้งก็จบคอร์ส ได้แต่ความรู้เลขฐานสอง ยังไม่ได้วิธีเขียนโปรแกรมเลยครับ

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 02, 2013 2:13 pm
โดย tigerroad197
ต่อมา ผมเห็นที่โรงเรียนเปิดสอนวิชาคอมพิวเตอร์ สอนวิธีเขียนโปรแกรมภาษาเบสิค ก็ไปเรียนดู ที่โรงเรียนใหม่นี้ใช้เครื่องแอปเปิล 8 บิท จอมอนิเตอร์โมโนสีเขียว ดูทันสมัยมากในยุคนั้น การโหลดและเซฟไฟล์ใช้แผ่นดิสก์ 5 นิ้ว

นอกจากเรียนภาษาเบสิค และต้องสอบโปรเจคเขียนบัญชีเงินเดือน จึงจะถือว่าสอบผ่านแล้ว ยังได้เรียน วิสิแคล ซึ่งเป็น สเปรดชีท ยุคแรก ๆ ด้วยครับ

Re: นั่งไทม์แมชชีนดูร้านคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2540-2556

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 02, 2013 7:09 pm
โดย miracle
เมื่อสองสามปีที่แล้ว
ผมไปเจอ cd rom 150 MB
แผ่นใหญ่กว่า 3.5 นิ้ว 10เท่าเลยละ