Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

หุ้นตก ทำอะไรกันครับ

หุ้นขึ้นไม่ซื้อ เงินเดือน ปันผลเก็บๆๆ

หุ้นลงไม่ขาย หาจังหวะสอยนางฟ้าตกสวรรค์

พี่โจเคยบอกว่า เราควรจะมีเงินสดไว้สัก 10-15% ไว้รอตอนโอกาสหุ้นตกเนี่ยแหละครับ

แต่ผมว่ามันไม่พอซะแล้วว

ถึงเตรียมเงินไว้บ้าง
เวลาหุ้นตกจริง เงินก็ไม่เคยพออยู่ดี
คงต้องเรียนรู้ว่า ชีวิตนี้มันไม่เคยสมบูรย์แบบ เป็นเรื่องปกติ
ถ้ามันพอดี ลงเอยทุกอย่าง อันนั้นผิดปกติ
stay calm stay invest น่าจะเป็นคำตอบ

ปกติถือหุ้นเต็มพอร์ตครับ
ทำมาหลายปี
เวลาเจอหุ้นที่น่าสนใจกว่า
ก็ปรับพอร์ตเอา
จดสถิติไว้
ที่ผ่านมาก็ชนะตลาดบ้าง
แพ้บ้าง แต่ถ้าดูหลายๆ ปี
ชนะตลาดผมก็พอใจแล้วครับ

ผมคิดว่ามันอยู่ที่ความพอใจด้วยนะ
ส่วนตัวผมเอง
เชื่อว่าหุ้นให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินสด
ก็เลยไม่นิยมกันเงินไว้บางส่วน
ถ้าจะใช้เงินก็ค่อยขายหุ้นครับ

อีกอย่างคือ
ผมไม่เคยคาดการณ์
ว่าหุ้นจะมีทิศทางไปทางไหน
ขึ้นหรือลง
เพราะมันยาก
แต่การคาดผลประกอบการ
ผมคิดว่าทำได้ง่ายมากกว่าครับ

ลูกอิสาน เขียน:ถึงเตรียมเงินไว้บ้าง
เวลาหุ้นตกจริง เงินก็ไม่เคยพออยู่ดี
คงต้องเรียนรู้ว่า ชีวิตนี้มันไม่เคยสมบูรย์แบบ เป็นเรื่องปกติ
ถ้ามันพอดี ลงเอยทุกอย่าง อันนั้นผิดปกติ
stay calm stay invest น่าจะเป็นคำตอบ

กระจายความเสี่ยง โดยกระจายการลงทุนในหลายรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่าง ๆ กัน
เมื่อหุ้นตกมาก ๆ (ความเสี่ยงเริ่มลด) ก็สามารถเคลื่อนย้ายเงินจากแหล่งอื่นที่มีสภาพคล่อง (เช่นกองทุนตลาดเงิน หรือพวกกองทุน 3 เดือนซึ่งไม่ต้องเสียภาษี) เข้ามาซื้อเพิ่ม

หุ้นตกไม่มีเงินซื้อ ก็ นั่งกระดินเท้าแบบ ดร.นิเวศน์ครับ ไม่ได้กวนนะ พูดตามเซียนครับ อิอิอิอิ

แต่ตอนนี้ นั่งกระดิกเท้าไปใจสั่นไป 5555 ในใจก็นึกว่า ตรูไม่ใช่เซียนจะไปเลียนแบบเขาได้ไง

ตรูหิวต้องหาข้าวกิน เซียนเขาอิ่มทิพย์ รับประทานปันผลปีละเท่าไรเข้าไปแล้ว 5555

ผมแบ่งเงินเป็น3ส่วน
ส่วนที่หนึ่งคือเงินที่จะไม่ใช้เลยหรือใช้ยามฉุกเฉินเท่านั้น
ส่วนที่สองคือเงินที่ลงทุน
ส่วนที่สามคือกระแสเงินสดที่เราได้รับทุกเดือนๆเช่นเงินเดือน ค่าเช่า เงินปันผล ดอกเบี้ยฯลฯ
เงินส่วนที่สามนี้แหละที่เมื่อเราหักไปเป็นค่าใช้จ่ายประจำที่เราต้องใช้ พอเหลือเราก็เอาไปลงทุนเพิ่ม(ไปฝากเข้าในส่วนที่สองให้โตขึ้นเรื่อย) จะทำให้เราลงทุนได้ตลอดและสบายใจไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร ที่สำคัญคืออย่าโลภ เห็นว่าตลาดขาขึ้นจะใส่เต็ม (เอาส่วนที่หนึ่งมาใช้) หรือ ตลาดขาลงเห็นของถูกไปหมดก็จัดเต็ม (แต่ถูกแล้วยังมีถูกกว่าก็ได้) เพราะถ้าเราไม่มีเงินส่วนที่หนึ่งเหลือไว้ยามมีเหตุฉุกเฉินจะทำให้เราถูกบังคับให้ต้องขายหุ้นออกมา ซึ่งถ้าตลาดตกเราก็จะถูกบังคับให้ขายถูกๆไปด้วย การมีเงินส่วนที่หนึ่งไว้จะทำให้เราใจเย็นขึ้นมากไม่ต้องไปสนใจตลาดมากนัก

ตอนนี้ นั่งก้มหน้าตั้งใจทำงานหาเงินครับ

นั่งมองไปเรื่อยๆคับ มองหา MOS พอมีแต่ยังหาหุ้นที่ถูกแบบเตะตาไม่ได้สักที

สำหรับผมปกติลงทุนเต็มพอร์ตตลอดเวลา แต่ช่วงเวลาหุ้นตกจะขายตัวที่ลงน้อย อาจตัดขาดทุนหรือกำไรนิดหน่อย เพื่อรอซื้อตัวที่ตกหนักแต่อนาคตดี ช่วงนี้รู้สึกเลยว่าเงินสดมีค่ามากๆๆ ส่วนเงินเดือนอันน้อยนิดที่ลงทุนเพิ่มทุกเดือนถือว่าเป็นเงินสดที่น้อย

ไปหารับจ็อบเล่นดนตรีเพิ่มครับ แต่คงได้มาเพิ่มอีกนิดนึง แต่ตอนนี้รู้ว่าบริษัทที่ดี เวลาตกก็ตกน้อยกว่าคนอื่นครับ

ยืม เพื่อน พ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง เอาทรัพย์สิน ไปจำนอง ขายทรัพย์สิน บางอย่าง กู้เงิน และ สุดท้าย มาร์จิ้นครับ

ผมชอบถือหุ้น 100% เลยต้องใช้วิธีปรับพอร์ตครับ ผมขายตัวที่ลงน้อยกว่า ไปซื้อตัวที่ลงเยอะกว่า (จะทำให้ตัวที่ลงเยอะมี upside มากกว่า) และเป็นตัวที่อยู่ใน list ที่ทำเอาไว้ จ่ายปันผลสม่ำเสมอ หนี้น้อยๆ แต่ก็กลัวพลาดเหมือนกันครับอยากซื้อหลายตัวแต่ก็อยากจะโฟกัส

อายจัง .........เงินเมียครับ

wasan_yu เขียน:อายจัง .........เงินเมียครับ

เงินเมียนี่ยิ่งเสียไม่ได้นะครับ จะลงทุนอะไรยิ่งต้องคิดหนัก 5555

maymekung เขียน:นั่งมองไปเรื่อยๆคับ มองหา MOS พอมีแต่ยังหาหุ้นที่ถูกแบบเตะตาไม่ได้สักที

ตกมาขนาดนี้ยังไม่มีอีกหรอครับ

ถามแบบนี้อารมณ์เดียวกับผม คือไม่มีเงินสด
การลงทุนแนว Vi ที่ดี คือลงทุนด้วยเงินเย็น(ของผมเงินเย็นแน่นอนครับ เพราะทำอาชีพส่งน้ำแข็ง)
พอหุ้นตกทุกคนก็อยากที่จะมีเงินเพิ่มเข้าไปในพอร์ตเพื่อทำการซื้อหุ้น โดยหาจาก กู้ ยืมคนรอบข้าง หรือต่างๆนาๆ ถ้าเงินที่เพิ่มเข้ามาเป็นเงินเย็น ไม่มีดอกเบี้ย ก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆครับ แต่ถ้าเราได้เงินร้อนๆมา ซื้อหุ้น ถ้าหุ้นขึ้นก็ดีไปแต่ถ้าหุ้นตกต่อและอยู่ภาวะแบบนี้นานๆ ผมว่าเครียดว่าไม่มีเงินครับ ตลาดแบบนี้ถ้ามีหุ้นเต็มพอร์ตไม่มีเงินสด ก็ใช้วิธีการปรับพอร์ต แบบที่พีๆกล่าวไว้ว่าขายตัวที่ลงต่ำไปซื้อตัวที่ดีกว่า อัตราเติบโตดีกว่า เป็นหุ้นแข็งแกร่ง แต่ในความเป็นจริงส่วนใหญ่หุ้นที่เราถืออยู่ชอบลงมากกว่าตัวที่เราอยากได้เพราะเราเลือกหุ้นที่ไม่ได้เป็นหุ้นแข็งแกร่ง ถ้าเรายอมขายเพื่อไปเข้าตัวที่เป็นเจ้าตลาดเติบโตต่อเนื่องยาวนาน ผมว่าไม่ค่อยคุ้มเพราะหุ้นพวกนี้ขึ้นช้า กว่าตัวที่เราเคยถือ เมื่อตลาดกลับสู่ภาวะปรกติ
ทำงานสะสมเงินไปเรื่อยๆ โอกาสมีมาเสมอ
บ่นมาตั้งเยอะ สรุปคือ ลงทุนให้เหมาะสมกับความสุข ความสบายใจ ครับผม

กันเงินสดตลอดเวลาที่ 20% ถ้าหุ้นตกจนหมดแรงตกแรงแล้วค่อยไปซื้อเพิ่มที่ละหน่อย
ถ้าซื้อจนเงินหมดก็ปิดจอ ไปทำงาน ได้เงินจากรายได้อื่นก็เอาไปฝาก Fixed ไว้ ให้เต็ม 20% อีก
ไม่เอาเงินมาใส่ Port ไว้ เพราะมันจะคันมือ อดซื้อไม่ได้

เงินตัวที่ขายไปตอน overvalue, เงินเดือน, เงินปันผล, เงินโบนัสอื่นๆที่เข้ามาในแต่ละจังหวะของชีวิต .. แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องเป็นเงินเย็นครับ

ขุดจากตุ่มมาครับ

wasan_yu เขียน:อายจัง .........เงินเมียครับ

เหมือนหนูเลย แต่ของหนูเงินสามี... อิอิ

wasan_yu เขียน:อายจัง .........เงินเมียครับ

+1ครับ ถ้าได้เมียไม่ว่า แต่ถ้าดอยไม่รอดแน่ครับ

55+