Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมว่าการวิเคราะห์ตัวผู้บริหารนี้น่าจะเป็นอะไรที่ยากพอสมควรเลย เพราะบางบริษัทผู้บริหารก็ไม่ออกสื่อ oppday ก็ไม่ไป

เลยอยากจะให้พี่ๆช่วยแชร์ไอเดียหน่อยครับ ว่าเราจะวิเคราะห์ตัวผู้บริหารได้อย่างไรกัน

ออกตัวก่อนว่าไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่นะครับ โดยส่วนตัวก็จะดูข่าว ย้อนหลัง ว่า 1. การประมาณการ ที่ผู้บริหารคาดการล่วงหน้า ทำได้แค่ไหน บางครั้งถ้าย้อนดูมากพอ ก็จะรู้ว่า ผู้บริหารบางคนมองโลกในแง่ดีเกินไป(เสมอ) เช่น ถ้าเป็น คนนี้พูดว่า ยอดขายปีนี้ น่าจะทำได้ 100 ล้าน แสดงว่า น้อยกว่านั้นแน่ น่าจะ 70-80 จากเท่าที่ผ่านๆมา ( ไม่ได้แปลว่า โกหกนะครับ เพียงแต่อาจตั้ง target ไว้สูงเกินไปหน่อยเสมอ) / บางคนมักให้สัมภาษณ์แบบ conservative เสมอ คือตั้งเป้าต่ำไว้ก่อน แต่พอ ออกมาจริง เลย target อยู่บ่อย / อีกแบบคือหลอกกันเห็นๆ ให้ข่าวลวง ขายฝัน เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง 2. รายงานการซื้อขายหุ้น ของผู้บริหาร เคยอ่านมาว่าผู้บริหารที่ดี ไม่ควรซื้อขายหุ้นบ่อยๆ ถ้าซื้ออย่างเดียวนี่ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจ ของตัวเอง และบริษัท แต่ ผบห บางคน กลับใช้ข้อมูล inside หรือบางครั้ง ตั้งใจทำให้มีข้อมูล inside เช่น การบันทึกหนี้สูญ, ตั้งสำรอง, การด้อยค่าของสินทรัพย์, ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน etc มาประกอบในการซื้อขาย เช่น งบ q นี้แย่(หรือตั้งใจให้ดูแย่ จากการตั้งสำรองนู่นนี่) ก็ชิงขายออกมา พองบออก หุ้นตก ก็เข้าไปเก็บ แล้วทำงบ q ต่อๆไปให้ดี หุ้นขึ้น ก็ขาย แบบนี้มีจริงๆครับ บางครั้งเล่นกันทั้งครอบครัว ผบห.เลยทีเดียว อันนี้เป็นมุมมองเรื่อย ธรรมาภิบาลโดยส่วนตัวอะครับ

เป็นผู้บริหารที่ซื่อสัตย์ และเห็นผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อยด้วย

ผมชอบแบบนี้นะครับ

1. ผบห ของธุรกิจที่เป็นลักษณะสืบทอดหรือเป็นเจ้าของด้วย มีแชร์ค่อนข้างสูงมีชีวิตและอนาคตของตระกูลผูกกับบริษัท

2. ในกรณีที่เป็น corporate ผมชอบกิจการที่มี discipline สูง เช่นหากทำผิด ผบห พร้อมจะคว้านท้องทำฮาราคีรีเลย

3. ไม่ชอบเลย ผบห ที่ชอบออกสื่อ ส่วนมากสร้างภาพ

ดูคำพูดและผลลัพธ์ครับ

ดูปัจจุบัน และอดีต
ถ้ามักจะทำได้ตามที่พูด ก็ให้ credit
บางคนพูดไปแล้วทำไม่ค่อยได้ จะหาร 2 หาร 3 จากคำพูดครับ

ขอบคุณครับ

อ่านรายงานการประชุมย้อนหลัง แล้วดูการตอบข้อซักถามของผู้ถือหุ้นครับ
ตอนนี้ผมกำลังฝึกทำแบบนี้อยู่เหมือนกันครับ แต่บางบริษัทก็ไม่มีผู้ถือหุ้น
ซักถามเลย เหอๆๆ....^^)

ศิลปะในการดูคน ยากเหมือนกันครับ ..หลักๆ คงดูเปรียบเทียบย้อนหลัง
ระหว่างสิ่งที่ผู้บริหารพูด กับสิ่งที่ทำ และผลลัพธ์ที่ออกมา

ที่จริงผมจะชอบอ่านสาส์นจากกรรมการบริหาร ในรายงานประจำปีมาก
เพราะมันเป็นเหมือนการสรุปและแสดงวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ต่อผู้ถือหุ้นกลายๆ
ผมคิดว่ามันสะท้อนบุคลิกผู้บริหารได้ระดับหนึ่ง บางทีก็ใช้เซ้นส์ในการตัดสินใจพอควร

แต่ในหลายๆ บริษัทที่อ่านมา ผมประทับใจสาส์น จากคุณ วิน วิริยประไพกิจ ของSSI มากที่สุด

ปล.ไม่เกี่ยวกับตัวธุรกิจ หรือตัวหุ้นนะครับ

1. ชอบธุรกิจที่ ผบห ถือหุ้นด้วยเยอะๆครับ หรือ เป็นธุรกิจประจำตระกูล(เหมือนพี่ nervercry ว่า)


2. ผบห และ คณะกรรมการแทบจะไม่ซื้อขายหุ้นเลย ตัดปัญหา insider ทิ้งไปได้เยอะ


3. ดูว่า พูดแล้วทำได้หรือเปล่าด้วย ถ้าทำไม่ได้แล้วยอมรับผิด + ชี้แจงยังไงนะครับ

อย่างเช่นเวลาผลประกอบการออกมาผิดปกติ มีการทำรายงานชี้แจง ผถห เป็น 20-30 หน้า อย่างนี้ผ่านครับ

(บาง บริษัท มีแค่ชี้แจง 2-3 บรรทัด )


4. เวลาบริษัท มีปัญหา ผม "ชอบ" ที่จะให้ ผบห ออกสื่อนะครับ

มาอธิบายสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น แก้ไขถึงไหนแล้ว

เหมือนเป็นการออกหน้า แสดงความรับผิดชอบในการแก้ไข

แทนที่จะอธิบายในข่าวของตลาด 2-3 บรรทัดแล้วเก็บตัวเงียบไปเลยนะครับ

บริษัทที่ผู้บริหารเทรดหุ้นบ่อยๆ ถือเป็นการหากินกับ insider information วันๆตาจ้องอยู่กับหน้าจอหุ้นแล้วจะเอาสมาธิที่ไหนไปบริหารบริษัท เจอบริษัทแบบนี้ก็ควรขายหุ้นออกไป

ดูแววตาแห่งความมุ่งมั่น ดูคำพูดที่จริงใจจริงจัง จะให้ดีก็กลับไปค้นดูในอดีตเทียบกับคำพูดของเค้าว่าเหมือนกันซักกี่มากน้อย มีข่าวฉาวอะไรรึเปล่า ดูว่าเค้ารู้เค้าเข้าใจธุรกิจที่ทำมากน้อยแค่ไหน ลึกซึ้งแค่ไหน เข้าใจคู่แข่งไหม บ้างานมากไหม จะให้ดีก็ลองสืบทางลึกในบริษัทดูว่าพนักงานส่วนมากคิดกับผบห.อย่างไร วัฒนธรรมในการทำงานเป็นอย่างไร นอกจากนั้นก็ดูว่าผบห.มีวิสัยทัศน์กว้างไกลเพียงใด รับฟังความคิดเห็นและดูแลรายย่อยดีมากไหม ที่ผมใช้ก็ประมาณนี้ครับ (ตามสูตร..เก่ง ขยัน ซื่อสัตย์ จริงใจ)

จะให้ดี เราก็ควรจะมีโอกาสคุยกับผู้บริหารโดยตรง ก็น่าจะพอวิเคราะห์อะไรคร่าวๆได้บ้างแล้วครับ ^ ^

ว่าจะเข้ามาแชร์ ก็ ตั้งหลายครังวันนี้ได้โอกาสผม ก็ต้องขอเริ่มจาก
เมื่อเราได้หุ้น ที่พอจะมีเงือ่นไขเป็นหุ้นเทพแล้ว ก่อนนะครับ
(ซึ่งไอ้ตรงเงื่อนไขหุ้นเทพ นี่ก็มากันหลายทาง ตัวเลขต่างๆดี มีการแสดงออกดี มีแนวโน้มอุตาสาหกรรมดี ฯ )
เมื่อได้รายชื่อหุ้นนั้นมา
1.ผมก็จะมาเริ่มที่ opp day
http://www.set.or.th/set/oppdaybyperiod ... country=TH
โดยมีเงื่อนไขดังนี้
1.1 ไม่เคยมา opp day เลย---- หุ้นเทพแค่ไหนก็ ไม่มีวันซื้อครับ
(ใช้เหตุผลที่ว่า หุ้นคุณดีจริง คุณต้องกล้านำเสนอสิ ถ้าอ้างว่าหุ้นดีแต่เจ้าของ ขอเก็บไว้เอง จะเอาเข้าตลาดทำไม ต่อให้มีเหตุผลในการเอาเข้าตลาดที่ดี แต่ คุณคิดรึว่า เจ้าของหุ้นยังงี้ จะไม่ใช่พวกปู่โสมเฝ้าทรัพย์)
1.2 เคยออก บ้าง---- อันนี้ก็ต้องไปหาดูvdo จากประชุมผู้ถือหุ้นเพิ่มด้วย ยังอยู่ในลิสต์อยู่
1.3 ออกตลอด ------ อันนี้เยี่ยมเลย ถ้าบริษัทใหญ่ออกตลอด ก็ สมควร เพราะเขามีแผนก นักลงทุนคงว่าง พอ แต่ถ้าบริษัทเล็กแต่ออกตลอด อันนี้ก็น่าสงสัย

หุ้นจะยังอยู่ในลิสต์ ถ้าเข้าเงื่อนไข 1.2 แล 1.3
ผมให้ความสำคัญกับตรงจุดนี้มาก เพราะ เราจำเป็นต้องเห็หน้าค่าตา ผู้นำบริษัท ให้ได้อันนี้จำเป็นมากกก
ตะก่อนจะไปเน้นเรื่อง การรับปากตอนต้นปี แล้วมาดู ว่าปลายปี ตรงกับ ที่เคยพูดมั๊ย ปัจจุบันผมยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่แต่น้อยลง

ผมมาให้ความสำคัญกับผู้นำบริษัทมากขึ้นในเรื่องการพูดจา การตอบคำถาม การนำเสนอ การเว้นวรรคคำพูด ทัศนคติต่อเหตุการณ์รอบตัว

ก็ประมาณ นี้ละครับ

จบที่งบการเงินครับ ทุกสิ่งที่ทำส่งผลเป็นรายงาน งบต้องดี
ส่วน md&a ต้องจริงใจเปิดเผยข้อมูลด้วย อ่านแล้วครบๆ
ตอบข้อสงสัยต่างๆ ที่ในงบไม่มี ถ้ามีรูปแบบผิดจาก q ก่อนๆ
ต้องตามว่าอะไรที่เขาปิดไม่พูดถึง หรือ เปิดเพิ่มแสดงถึงพัฒนาการใหม่ๆ