มหัศจรรย์หุ้น 10 เด้งของผม "Makro=หุ้นชายขอบ+ม้านอกสายตา"
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 08, 2013 10:50 pm
มหัศจรรย์หุ้น 10 เด้งของผม "Makro=หุ้นชายขอบ+ม้านอกสายตา"
บริษัทนี้มันเหมือนธุรกิจจัดงานศพที่ Peter Lynch เคยเขียนไว้ ใครฟังชื่อ+รู้ว่าทำอะไรก็โคตรจะน่าเบื่อ ไม่เร้าใจในการดำเนินธุรกิจเลย ขายของให้พวกร้านโชว์ห่วย ภัตตาคาร โรงแรม เวลาไปซื้อของต้องยกโหล ถุงก็ไม่มีให้ เอาใส่รถเข็นไปรถเอง โปรโมชั่นคูปองแบบ discount store อื่นก็ไม่เคยจัด บัตรเครดิตไม่รับ ต้องจ่ายสดงดเชื่อเบื่อทวงอย่างเดียว (เหมือนเคยทำแคมเปญร่วมกับบัตรซิตี้แบงค์ถ้าจำไม่ผิด แต่ผมว่าน้อยคนนักที่มีบัตรกับแบงค์นี้) แถมแผนกอาหารสดผักผลไม้ยังมีกลิ่นไม่ค่อยดีคล้ายตลาดสดน้อยๆอีก ตัวห้างด้านนอกดูเก่าๆ บางสาขาต้องจอดรถตากแดดด้วย ไม่ค่อยมีโบรกเกอร์เชียร์หรือพูดถึง ใน settrade ก็แทบไม่ค่อยมีโบรกไหนติดตามหรือให้ consensus เลย ขนาดโบรกเกอร์ที่ผมใช้บริการขอไม่เอ่ยชื่อ (แต่ขอวงเล็บหน่อย=แบงค์สีเขียว ที่ผมไม่เคยคุยกับมาร์เก็ตติ้งเลยตั้งแต่เริ่ม trade มา 5 ปี ยกเว้น 1 สัปดาห์ก่อนโทรมา ทำผมตกใจมาก แนะนำให้ขาย tender ให้ cpall บอกว่าโอกาสที่จะเห็นราคา 787 บาทไม่มีอีกแล้ว!!!) ให้ target price ต่ำมากมาตลอดทาง ร่วมกับบอกว่า overvalue แนะนำขายตลอดทาง แถมบริษัทนี้ก็ไม่มีข่าวว่าเซียนหรือเซเลบที่ไหนถืออีกต่างหาก อยู่ๆปีก่อนก็ถูกตัดออกจากดัชนี msci small cap ราคากอดคอกันร่วงเป็น 100 บาทกับบริษัทค้าปลีกขายวัสดุตกแต่งบ้าน อย่างกับว่าห้างของผมจะเจ๊ง แต่วันเวลามันก็พิสูจน์แล้วว่าธุรกิจง่ายๆ น่าเบื่อๆ ที่ตามร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายข้าวแกงแถวบ้านก็ใช้กล่องกระดาษทิชชู่และไม้จิ้มฟันตรา aro ถามร้านหมูกระทะ ร้านสเต็ก 59 บาท ร้านข้าวปั้นซูชิข้างทางว่าซื้อวัตถุดิบจากไหนก็บอกว่าแม็คโคร ผลประกอบการก็โตมาตลอด แถมปันผลปีละ 3 รอบ ระหว่างกาลเดือน สค. พย. และ พค.ตอนประกาศงบปี คงมีไม่กี่ บมจ. ในตลาดที่ทั้ง CEO และ CFO เป็นผู้หญิง ปีน้ำท่วมใหญ่ 2554 นครสวรรค์น้ำท่วมเมือง แต่สาขานครสวรรค์ดันเปิดขายได้ ใช้รถแทรกเตอร์และเรือรับส่งลูกค้าขายของ ไม่เคยปิดเลย น้ำไหลต่อมาถึงวังน้อย ศูนย์กระจายสินค้าที่วังน้อยก็หลีกไม่พ้นชะตากรรมธรรมชาติลิต ท่วมเหมือนกัน ก็สามารถย้ายศูนย์กระจายสินค้าไปที่สาขาชลบุรีได้ในเวลาไม่กี่วัน ผมคิดว่าบริษัทนี้มีทีมงานที่ยอดเยี่ยมมาก ยกเว้นว่าโลกจะแตกค่อยหยุดขาย สาขาเปิดใหม่แถบภาคเหนือและตะวันตก ถูกออกแบบอาคารและชั้นวางที่มันสูงๆหลายๆชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ของเค้า ให้รองรับแผ่นดินไหวด้วย กะว่าแผ่นดินไหวก็จะขายของให้ได้ ไม่มีพนักงานหรือลูกค้าบาดเจ็บแน่นอน ผมทึ่งในวิสัยทัศน์ของ ผบห. ขนาดในเว็บบอร์ดห้องสินธร และในห้อง makro thaivi นี้ก็ยังเงียบกับบริษัทนี้เหมือนป่าช้าเลย แต่วันนี้บริษัทมันพิสูจน์ตัวมันเองให้ผมเห็นแล้ว (แม้คนอื่นจะไม่เห็น) ว่ามันสามารถเป็นมหัศจรรย์หุ้น 10 เด้งของผมได้ ขอโทษไม่สามารถเอ่ยเรื่องต้นทุนราคาเพราะผิดกฏของเว็บบอร์ด (แต่ทุนผมก็เอาราคาประมาณวันนี้หาร 10 ครับ) บริษัทของผมเพิ่งมาดังเป็นเซเลบพลุแตกแบบซีรี่ย์ฮอร์โมน ก็สองครั้งนี้ ครั้งแรกวันที่ cpall ประกาศเทคโอเว่อร์ ที่ทุกคนในห้อง cpall และสินธรบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาเว่อร์มาก ที่ 787 บาท และวันนี้ครับ ครั้งที่สองที่ราคาทำ ceiling เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผมจำความได้ตั้งแต่กอดหุ้นนี้มา แต่ก็ยังเป็นชนกลุ่มน้อยใน 2.2% อยู่ที่ไม่ได้ขาย tender ให้ cpall (จะขายทำไม ก็ในเมื่อผมถือทั้งสอง บมจ. ถ้าขายคงมี conflict of interest) คงต้องถือกินปันผลซึ่งแน้วโน้มมากขึ้นเรื่อยๆไปก่อน ขอรอดูผลประกอบการใต้ร่มเงาบริหารของ cpall ไปอีกระยะก่อนว่าจะเป็นอย่างไร แบบที่ วอร์เรน บัฟเฟต์บอกว่าจะถือหุ้นโค้กไปเรื่อยๆ ตราบใดที่โค้กยังเป็นโค้ก แต่ถ้านักลงทุนระยะสั้นและนักเก็งกำไรทำหน้าที่ของเค้าได้ดี ไล่ราคาบริษัทของผมไปไกลมาก ประเมินมูลค่าแล้วทะลุชั้นบรรยากาศนอกโลกแล้วและมีบริษัทอื่นที่ผมรู้จัก เข้าใจน่าสนใจกว่า โดยเฉพาะอารมณ์บรรยากาศแบบตลาดตกใจ หุ้นตกใจ คนซื้อขายก็ตกใจ ราคาหุ้นต่างๆก็ตก เพราะตกใจไปกับเค้าด้วย ก็คงต้องพิจารณากันอีกที เพราะหุ้นมีไว้ขาย เมียมีไว้กอด เหมือนที่ท่านนายกโจ ลูกอีสาน(ขออนุญาติเอ่ยนาม) เคยว่าไว้
บริษัทนี้มันเหมือนธุรกิจจัดงานศพที่ Peter Lynch เคยเขียนไว้ ใครฟังชื่อ+รู้ว่าทำอะไรก็โคตรจะน่าเบื่อ ไม่เร้าใจในการดำเนินธุรกิจเลย ขายของให้พวกร้านโชว์ห่วย ภัตตาคาร โรงแรม เวลาไปซื้อของต้องยกโหล ถุงก็ไม่มีให้ เอาใส่รถเข็นไปรถเอง โปรโมชั่นคูปองแบบ discount store อื่นก็ไม่เคยจัด บัตรเครดิตไม่รับ ต้องจ่ายสดงดเชื่อเบื่อทวงอย่างเดียว (เหมือนเคยทำแคมเปญร่วมกับบัตรซิตี้แบงค์ถ้าจำไม่ผิด แต่ผมว่าน้อยคนนักที่มีบัตรกับแบงค์นี้) แถมแผนกอาหารสดผักผลไม้ยังมีกลิ่นไม่ค่อยดีคล้ายตลาดสดน้อยๆอีก ตัวห้างด้านนอกดูเก่าๆ บางสาขาต้องจอดรถตากแดดด้วย ไม่ค่อยมีโบรกเกอร์เชียร์หรือพูดถึง ใน settrade ก็แทบไม่ค่อยมีโบรกไหนติดตามหรือให้ consensus เลย ขนาดโบรกเกอร์ที่ผมใช้บริการขอไม่เอ่ยชื่อ (แต่ขอวงเล็บหน่อย=แบงค์สีเขียว ที่ผมไม่เคยคุยกับมาร์เก็ตติ้งเลยตั้งแต่เริ่ม trade มา 5 ปี ยกเว้น 1 สัปดาห์ก่อนโทรมา ทำผมตกใจมาก แนะนำให้ขาย tender ให้ cpall บอกว่าโอกาสที่จะเห็นราคา 787 บาทไม่มีอีกแล้ว!!!) ให้ target price ต่ำมากมาตลอดทาง ร่วมกับบอกว่า overvalue แนะนำขายตลอดทาง แถมบริษัทนี้ก็ไม่มีข่าวว่าเซียนหรือเซเลบที่ไหนถืออีกต่างหาก อยู่ๆปีก่อนก็ถูกตัดออกจากดัชนี msci small cap ราคากอดคอกันร่วงเป็น 100 บาทกับบริษัทค้าปลีกขายวัสดุตกแต่งบ้าน อย่างกับว่าห้างของผมจะเจ๊ง แต่วันเวลามันก็พิสูจน์แล้วว่าธุรกิจง่ายๆ น่าเบื่อๆ ที่ตามร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายข้าวแกงแถวบ้านก็ใช้กล่องกระดาษทิชชู่และไม้จิ้มฟันตรา aro ถามร้านหมูกระทะ ร้านสเต็ก 59 บาท ร้านข้าวปั้นซูชิข้างทางว่าซื้อวัตถุดิบจากไหนก็บอกว่าแม็คโคร ผลประกอบการก็โตมาตลอด แถมปันผลปีละ 3 รอบ ระหว่างกาลเดือน สค. พย. และ พค.ตอนประกาศงบปี คงมีไม่กี่ บมจ. ในตลาดที่ทั้ง CEO และ CFO เป็นผู้หญิง ปีน้ำท่วมใหญ่ 2554 นครสวรรค์น้ำท่วมเมือง แต่สาขานครสวรรค์ดันเปิดขายได้ ใช้รถแทรกเตอร์และเรือรับส่งลูกค้าขายของ ไม่เคยปิดเลย น้ำไหลต่อมาถึงวังน้อย ศูนย์กระจายสินค้าที่วังน้อยก็หลีกไม่พ้นชะตากรรมธรรมชาติลิต ท่วมเหมือนกัน ก็สามารถย้ายศูนย์กระจายสินค้าไปที่สาขาชลบุรีได้ในเวลาไม่กี่วัน ผมคิดว่าบริษัทนี้มีทีมงานที่ยอดเยี่ยมมาก ยกเว้นว่าโลกจะแตกค่อยหยุดขาย สาขาเปิดใหม่แถบภาคเหนือและตะวันตก ถูกออกแบบอาคารและชั้นวางที่มันสูงๆหลายๆชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ของเค้า ให้รองรับแผ่นดินไหวด้วย กะว่าแผ่นดินไหวก็จะขายของให้ได้ ไม่มีพนักงานหรือลูกค้าบาดเจ็บแน่นอน ผมทึ่งในวิสัยทัศน์ของ ผบห. ขนาดในเว็บบอร์ดห้องสินธร และในห้อง makro thaivi นี้ก็ยังเงียบกับบริษัทนี้เหมือนป่าช้าเลย แต่วันนี้บริษัทมันพิสูจน์ตัวมันเองให้ผมเห็นแล้ว (แม้คนอื่นจะไม่เห็น) ว่ามันสามารถเป็นมหัศจรรย์หุ้น 10 เด้งของผมได้ ขอโทษไม่สามารถเอ่ยเรื่องต้นทุนราคาเพราะผิดกฏของเว็บบอร์ด (แต่ทุนผมก็เอาราคาประมาณวันนี้หาร 10 ครับ) บริษัทของผมเพิ่งมาดังเป็นเซเลบพลุแตกแบบซีรี่ย์ฮอร์โมน ก็สองครั้งนี้ ครั้งแรกวันที่ cpall ประกาศเทคโอเว่อร์ ที่ทุกคนในห้อง cpall และสินธรบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาเว่อร์มาก ที่ 787 บาท และวันนี้ครับ ครั้งที่สองที่ราคาทำ ceiling เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผมจำความได้ตั้งแต่กอดหุ้นนี้มา แต่ก็ยังเป็นชนกลุ่มน้อยใน 2.2% อยู่ที่ไม่ได้ขาย tender ให้ cpall (จะขายทำไม ก็ในเมื่อผมถือทั้งสอง บมจ. ถ้าขายคงมี conflict of interest) คงต้องถือกินปันผลซึ่งแน้วโน้มมากขึ้นเรื่อยๆไปก่อน ขอรอดูผลประกอบการใต้ร่มเงาบริหารของ cpall ไปอีกระยะก่อนว่าจะเป็นอย่างไร แบบที่ วอร์เรน บัฟเฟต์บอกว่าจะถือหุ้นโค้กไปเรื่อยๆ ตราบใดที่โค้กยังเป็นโค้ก แต่ถ้านักลงทุนระยะสั้นและนักเก็งกำไรทำหน้าที่ของเค้าได้ดี ไล่ราคาบริษัทของผมไปไกลมาก ประเมินมูลค่าแล้วทะลุชั้นบรรยากาศนอกโลกแล้วและมีบริษัทอื่นที่ผมรู้จัก เข้าใจน่าสนใจกว่า โดยเฉพาะอารมณ์บรรยากาศแบบตลาดตกใจ หุ้นตกใจ คนซื้อขายก็ตกใจ ราคาหุ้นต่างๆก็ตก เพราะตกใจไปกับเค้าด้วย ก็คงต้องพิจารณากันอีกที เพราะหุ้นมีไว้ขาย เมียมีไว้กอด เหมือนที่ท่านนายกโจ ลูกอีสาน(ขออนุญาติเอ่ยนาม) เคยว่าไว้