ถ้ายอดขายลดลง แต่กำไรต่อยอดขายดีขึ้น คิดว่ายังดีอยู่มั้ยครับ
- romee
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้ายอดขายลดลง แต่กำไรต่อยอดขายดีขึ้น คิดว่ายังดีอยู่มั้ยครับ
โพสต์ที่ 1
ถ้าบริษัท A ยอดขายลดลงจากปีก่อน หรือโตแค่5% แต่อัตรากำไรต่อยอดขาย ดีขึ้น ทำให้ผลลัพธ์ บริษัทมีกำไร 15%
กับบริษัท B ขายเก่งยอดขายโต10-15% แต่อัตรากำไรขั้นต้นคงที่ และผลลัพธ์ บ.มีกำไร15%
แบบใหนน่าจะดีกว่ากัน ถ้าทั้งคู่อยู่ในอุตสาหกรรมรับจ้างผลิตและบริการ
แล้วถ้าอยู่ในกลุ่มซื้อมาขายไป จะเปนแบบตัวใหนดีกว่านะครับ
กับบริษัท B ขายเก่งยอดขายโต10-15% แต่อัตรากำไรขั้นต้นคงที่ และผลลัพธ์ บ.มีกำไร15%
แบบใหนน่าจะดีกว่ากัน ถ้าทั้งคู่อยู่ในอุตสาหกรรมรับจ้างผลิตและบริการ
แล้วถ้าอยู่ในกลุ่มซื้อมาขายไป จะเปนแบบตัวใหนดีกว่านะครับ
การลงทุนแนวvi ไม่ได้แปลว่า นักลงทุนคนนั้นดีกว่า หรือมีวรรณะสูงกว่าคนที่ลงทุนแนวอื่นๆหรอก
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้ายอดขายลดลง แต่กำไรต่อยอดขายดีขึ้น คิดว่ายังดีอยู่มั้ย
โพสต์ที่ 2
เลือก B ครับ
ผลิต ถ้าเป็นสินค้าที่ออกใหม่แล้วติดตลาดเช่น มือถือแอ๊ปเปิ้ล ยุคที่ราคาหุ้น 700 กว่า มาร์จิ้นสูงก็จะเป็นตัวกวักมือเรียกคู่แข่งอย่างดี หลังจากนั้นตลาดจะเป็นลำน้ำเลือด Red Ocean แรก ๆ พอสู้ไหว หลัง ๆ ก็งัดกลเม็ดวิชามาร ลอกเลียน ลดราคา ฯลฯ
มาร์จิ้นสม่ำเสมอคงทนและขยายสาขาออกไปเรื่อย ๆ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตามวิเคราะห์มาร์จิ้นกับยอดขายไม่ค่อยพอ ยังไงก็ควรดู ต้นทุนเงินทุนและผลตอบแทนเงินทุนด้วยครับ
ผลิต ถ้าเป็นสินค้าที่ออกใหม่แล้วติดตลาดเช่น มือถือแอ๊ปเปิ้ล ยุคที่ราคาหุ้น 700 กว่า มาร์จิ้นสูงก็จะเป็นตัวกวักมือเรียกคู่แข่งอย่างดี หลังจากนั้นตลาดจะเป็นลำน้ำเลือด Red Ocean แรก ๆ พอสู้ไหว หลัง ๆ ก็งัดกลเม็ดวิชามาร ลอกเลียน ลดราคา ฯลฯ
มาร์จิ้นสม่ำเสมอคงทนและขยายสาขาออกไปเรื่อย ๆ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตามวิเคราะห์มาร์จิ้นกับยอดขายไม่ค่อยพอ ยังไงก็ควรดู ต้นทุนเงินทุนและผลตอบแทนเงินทุนด้วยครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1317
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้ายอดขายลดลง แต่กำไรต่อยอดขายดีขึ้น คิดว่ายังดีอยู่มั้ย
โพสต์ที่ 3
ตอบแบบเดาๆนะครับพี่โรม
ถ้ารับจ้างผลิตผมชอบแบบที่ gpm ดีขึ้นครับ เพราะมันน่าจะแสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีกว่า ต่อรองซัพพลายเออร์ดีกว่า เครื่องจักรทันสมัยกว่า ต้นทุนเลยต่ำกว่า ส่วนยอดขายจะโตมากโตน้อยอาจขึ้นกับช่วงเวลา (แต่ขอให้โต 55) เช่น งานเข้ามามากพอดียอดขายเลยโต
ถ้างานบริการผมชอบรายได้โต เพราะมันแสดงว่า งานบริการของเรามี royalty มีคนมาใช้บริการมากขึ้น และงานบริการน่าจะมี variable cost มากกว่า fixed cost รึเปล่าครับ ซึ่งถ้าบริษัททำ gpm ออกมาไม่ลดลงถือว่าเก่งแล้ว
ถ้าซื้อมาขายไป ถ้ายอดขายโต gpm ก็น่าจะเพิ่มขึ้นด้วยรึเปล่าครับ เพราะยิ่งซื้อมาเยอะก็ต่อรองซัพพลายเออร์ได้มาก
มั่วจริงๆครับ รอพี่ๆท่านอื่น
ถ้ารับจ้างผลิตผมชอบแบบที่ gpm ดีขึ้นครับ เพราะมันน่าจะแสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีกว่า ต่อรองซัพพลายเออร์ดีกว่า เครื่องจักรทันสมัยกว่า ต้นทุนเลยต่ำกว่า ส่วนยอดขายจะโตมากโตน้อยอาจขึ้นกับช่วงเวลา (แต่ขอให้โต 55) เช่น งานเข้ามามากพอดียอดขายเลยโต
ถ้างานบริการผมชอบรายได้โต เพราะมันแสดงว่า งานบริการของเรามี royalty มีคนมาใช้บริการมากขึ้น และงานบริการน่าจะมี variable cost มากกว่า fixed cost รึเปล่าครับ ซึ่งถ้าบริษัททำ gpm ออกมาไม่ลดลงถือว่าเก่งแล้ว
ถ้าซื้อมาขายไป ถ้ายอดขายโต gpm ก็น่าจะเพิ่มขึ้นด้วยรึเปล่าครับ เพราะยิ่งซื้อมาเยอะก็ต่อรองซัพพลายเออร์ได้มาก
มั่วจริงๆครับ รอพี่ๆท่านอื่น
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้ายอดขายลดลง แต่กำไรต่อยอดขายดีขึ้น คิดว่ายังดีอยู่มั้ย
โพสต์ที่ 5
อืม..เลือกยากเหมือนกันนะครับนี่ เพราะโจทย์มีโจทย์เดียว แต่ถามให้เปรียบเทียบธุรกิจทั้งรับจ้าง
ผลิต บริการ และซื้อมาขายไปเลย ผมเลือกแบบรับจ้างผลิตละกันครับ ผมจะเลือกแบบ A ครับ
เพราะรับจ้างผลิตมีความไม่แน่นอนของยอดออเดอร์อยู่ บางปีก็เยอะบางปีก็น้อยได้ครับ
แต่ที่เลือก A เพราะถึงแม้ออเดอร์ลดลง แต่สามารถทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นได้ นั่นแปลว่ามีการ
บริหารต้นทุนขายที่ดีขึ้นครับ ส่วน B นั้น ถึงจะมีออเดอร์มากขึ้น แต่ต้นทุนขายก็เพิ่มตาม จึงทำให้
กำไรขั้นต้นได้เท่าเดิม แปลว่าต่อให้ยอดขายเพิ่มยังไง กำไรก็เท่าเดิมเพราะต้นทุนมันวิ่งตามครับ
วิเคราะห์ตามที่โจทย์ให้มานะครับ...^^)
ผลิต บริการ และซื้อมาขายไปเลย ผมเลือกแบบรับจ้างผลิตละกันครับ ผมจะเลือกแบบ A ครับ
เพราะรับจ้างผลิตมีความไม่แน่นอนของยอดออเดอร์อยู่ บางปีก็เยอะบางปีก็น้อยได้ครับ
แต่ที่เลือก A เพราะถึงแม้ออเดอร์ลดลง แต่สามารถทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นได้ นั่นแปลว่ามีการ
บริหารต้นทุนขายที่ดีขึ้นครับ ส่วน B นั้น ถึงจะมีออเดอร์มากขึ้น แต่ต้นทุนขายก็เพิ่มตาม จึงทำให้
กำไรขั้นต้นได้เท่าเดิม แปลว่าต่อให้ยอดขายเพิ่มยังไง กำไรก็เท่าเดิมเพราะต้นทุนมันวิ่งตามครับ
วิเคราะห์ตามที่โจทย์ให้มานะครับ...^^)
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถ้ายอดขายลดลง แต่กำไรต่อยอดขายดีขึ้น คิดว่ายังดีอยู่มั้ย
โพสต์ที่ 6
สำหรับผม ผมคงยังบอกไม่ได้ว่าจะเลือกใคร
เพราะโจทย์ให้มาแค่ปัจจัยเชิงปริมาณ
ผมจะไปดูปัจัยเชิงคุณภาพต่อว่า
เกิดจากปัจจัยภายในหรือว่าภายนอก บ.
ซึ่งก็แน่นอน ทุกคนคงอยากเห็นประสิทธิภาพ
จากภายในกันทั้งนั้น ดังนั้น ผมสรุปเอาว่า
เกิดจากปัจจัยภายในด้วยกันทั้งคู่
ในกรณีของธุรกิจ oem ผมมีแนวโน้มจะเลี่ยงมากกว่า
เพราะส่วนใหญ่ธุรกิจพวกนี้ต้นทุนผันผวน
และมีความเป็นไปได้ว่ามาร์จิ้นที่ดีขึ้น อาจเป็นกำไร
ที่ผิดปกติแค่ปีเดียว เช่น ตัวอย่างโจทย์คือ 15% นี่
ผมคิดว่าเข้าข่ายผิดปกติแล้วครับ
ความเห็นส่วนตัว ผมชอบธุรกิจที่เสถียรภาพมากกว่า
ถ้า บ. มีมาร์จิ้นคงที่ แต่มีความสามารถในการเพิ่มยอดขาย
ผมจะเลือก บ. หลังครับ
เพราะโจทย์ให้มาแค่ปัจจัยเชิงปริมาณ
ผมจะไปดูปัจัยเชิงคุณภาพต่อว่า
เกิดจากปัจจัยภายในหรือว่าภายนอก บ.
ซึ่งก็แน่นอน ทุกคนคงอยากเห็นประสิทธิภาพ
จากภายในกันทั้งนั้น ดังนั้น ผมสรุปเอาว่า
เกิดจากปัจจัยภายในด้วยกันทั้งคู่
ในกรณีของธุรกิจ oem ผมมีแนวโน้มจะเลี่ยงมากกว่า
เพราะส่วนใหญ่ธุรกิจพวกนี้ต้นทุนผันผวน
และมีความเป็นไปได้ว่ามาร์จิ้นที่ดีขึ้น อาจเป็นกำไร
ที่ผิดปกติแค่ปีเดียว เช่น ตัวอย่างโจทย์คือ 15% นี่
ผมคิดว่าเข้าข่ายผิดปกติแล้วครับ
ความเห็นส่วนตัว ผมชอบธุรกิจที่เสถียรภาพมากกว่า
ถ้า บ. มีมาร์จิ้นคงที่ แต่มีความสามารถในการเพิ่มยอดขาย
ผมจะเลือก บ. หลังครับ
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...