สภาวการณ์ตลาดหุ้นแบบนี้ขายทิ้งแล้วไปรอรับที่ต่ำกว่าไม่ดีหรือ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 22, 2013 2:54 pm
ประโยคฮิต “สภาวการณ์ตลาดหุ้นแบบนี้ขายทิ้งแล้วไปรอรับที่ต่ำกว่าไม่ดีหรือ?”
ปกติผมเข้าเว็บบ่อยๆอยู่สองเว็บครับคือ พันทิป และไทยวีไอ แต่มีล็อกอินแค่ที่เว็บไทยวีไอเท่านั้น ที่พันทิปไว้อ่านข่าวครับ ผมได้อ่านได้ยินประโยคนี้เยอะมากโดยเฉพาะที่พันทิปแต่ละกระทู้ชวนให้ขายล้างพอร์ททั้งสิ้น
ทุกคนที่แสวงหาความรู้อยู่เสมอหลังจากลงทุนไปเรื่อยๆจะเริ่มมีสไตล์การลงทุนที่มีรูปแบบเฉพาะเป็นของตัวเอง
โดยห้าปีแรกส่วนใหญ่คงเป็นการลองผิดลองถูกอยู่ ยิ่งเมื่อเวลาผ่านไปมากกว่าห้าปีจะเริ่มเป็นการฝึกฝนการลงทุนในแนวทางตัวเองแล้ว เพื่อเตรียมไว้รอรับวิกฤติใหญ่ๆที่จะตามมา
ผมเชื่อว่าผู้ที่ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอมีรูปแบบมีความชำนาญมีกรอบความคิดที่ชัดเจนจนเสมือนกลายเป็นสัญชาติญาณ จะสามารถเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ ผมชอบประโยคนึงของวอร์เรน บัฟเฟตที่ว่า จงระวังอารมณ์ของคุณอย่าให้ส่งผลต่อกรอบความคิดของคุณ และผมยังมีความเชื่ออีกอย่างนึงว่า ไม่มีสไตล์การลงทุนไหนหรือรูปแบบใดที่จะทำกำไรหรือเหมาะกับทุกสถานการณ์ การค้นหาสไตล์การลงทุนจึงเป็นเหมือนการได้ค้นหาตนเองไปด้วยดังนั้นแต่ละสไตล์หรือแต่ละคนก็จะมีจุดอ่อน มีช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่แย่เข้ามาเยือนเป็นระยะๆอยู่เสมอ การจะตัดสินคนแต่ละคนจึงไม่ใช่ตัดสินกันตอนรุ่งเรืองหรือตอนที่ทำกำไรกันเป็นกอบเป็นกำ แต่ต้องตัดสินกันตอนที่ผ่านสถานการณ์เลวร้ายผ่านมาแล้วต่างหากว่าจะกลับมาได้ขนาดไหน
คำตอบสำหรับประโยคฮิตข้างต้นจึงไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่า จะขายล้างพอร์ทดี หรือจะซื้อดี หรือจะอยู่เฉยๆดี มันจึงเป็นแต่เพียงแค่ให้นักลงทุนแต่ละคนได้ตั้งสติ ค่อยๆลำดับความคิดในการลงทุนที่แล้วมาแล้วทำในสิ่งที่คุณชำนาญเป็นตัวของคุณเอง ผมเพียงแต่อยากเตือนว่า ระมัดระวังในสิ่งที่คุณไม่ชำนาญ และอย่าเอากรอบความคิดคนอื่นมาทำให้คุณไขว้เขวเพราะคุณไม่รู้ว่าในกรอบความคิดของคนอื่นนั้นมันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้างแต่พึงระลึกอย่างมีสติสัมปชัญญะ การลงทุนนั้นเป็นเรื่องที่ถ่ายทอดได้ บอกกล่าวกันได้ แต่เลียนแบบกันไม่ได้ หุ้นตัวเดียวกัน ลงทุนในช่วงเวลาเดียวกันผลลัพธ์แต่ละคนยังลงเอยต่างกัน
สุดท้ายนี้ผมคิดว่าการเป็นเซียนหุ้นนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตน คนอื่นหรือนสพ. ก็มายกให้ไม่ได้ ต้องฝึกฝน
มีความชำนาญจนถึงระดับกลายเป็นสามัญสำนึก สัญชาติญาณ หรือปัญญาญาณเท่านั้น
เมื่อถึงตรงนี้ผมขอใช้พื้นที่นี้ในการระลึกถึงคุณของ อาจารย์ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ท่านเป็นจุดเริ่มต้นและส่วนนึงที่สำคัญที่ทำให้ผมตั้งหลักปักฐานได้ (ผมมาจากครอบครัวฐานะปานกลางค่อนไปทางยากจนเริ่มจากพอร์ทที่เล็กมากครับ ทุกวันนี้สามารถจุนเจือตนเองและคุณพ่อคุณแม่ได้) เพราะความรู้ที่ท่านถ่ายทอดผ่านทางหนังสือแท้ๆตอนนี้ผมก็ถืออยู่ในมือเพื่ออ่านทบทวนอยู่ครับแม้ผมจะรู้ว่าจริงๆผมไม่ใช่ VI เป็นแต่เพียงนักมองหาโอกาสและคว้าโอกาสเท่านั้น
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ ข้อความข้างต้นถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็อภัยและแก้ไขให้ผมด้วยนะครับ และถ้าท่านใดอ่านแล้วเกิดความรู้สึกขุ่นเคืองใจก็อโหสิกรรมให้ผมด้วยครับ
“หุ้นมีทั้งราคาและมูลค่า ราคาคือสิ่งที่เราเห็น แต่มูลค่าคือสิ่งที่อยู่ในใจ ดังนั้นแล้วมูลค่าจึงระลึกได้ด้วยการตั้งสติเท่านั้น”
ขอบคุณครับ
ปกติผมเข้าเว็บบ่อยๆอยู่สองเว็บครับคือ พันทิป และไทยวีไอ แต่มีล็อกอินแค่ที่เว็บไทยวีไอเท่านั้น ที่พันทิปไว้อ่านข่าวครับ ผมได้อ่านได้ยินประโยคนี้เยอะมากโดยเฉพาะที่พันทิปแต่ละกระทู้ชวนให้ขายล้างพอร์ททั้งสิ้น
ทุกคนที่แสวงหาความรู้อยู่เสมอหลังจากลงทุนไปเรื่อยๆจะเริ่มมีสไตล์การลงทุนที่มีรูปแบบเฉพาะเป็นของตัวเอง
โดยห้าปีแรกส่วนใหญ่คงเป็นการลองผิดลองถูกอยู่ ยิ่งเมื่อเวลาผ่านไปมากกว่าห้าปีจะเริ่มเป็นการฝึกฝนการลงทุนในแนวทางตัวเองแล้ว เพื่อเตรียมไว้รอรับวิกฤติใหญ่ๆที่จะตามมา
ผมเชื่อว่าผู้ที่ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอมีรูปแบบมีความชำนาญมีกรอบความคิดที่ชัดเจนจนเสมือนกลายเป็นสัญชาติญาณ จะสามารถเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ ผมชอบประโยคนึงของวอร์เรน บัฟเฟตที่ว่า จงระวังอารมณ์ของคุณอย่าให้ส่งผลต่อกรอบความคิดของคุณ และผมยังมีความเชื่ออีกอย่างนึงว่า ไม่มีสไตล์การลงทุนไหนหรือรูปแบบใดที่จะทำกำไรหรือเหมาะกับทุกสถานการณ์ การค้นหาสไตล์การลงทุนจึงเป็นเหมือนการได้ค้นหาตนเองไปด้วยดังนั้นแต่ละสไตล์หรือแต่ละคนก็จะมีจุดอ่อน มีช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่แย่เข้ามาเยือนเป็นระยะๆอยู่เสมอ การจะตัดสินคนแต่ละคนจึงไม่ใช่ตัดสินกันตอนรุ่งเรืองหรือตอนที่ทำกำไรกันเป็นกอบเป็นกำ แต่ต้องตัดสินกันตอนที่ผ่านสถานการณ์เลวร้ายผ่านมาแล้วต่างหากว่าจะกลับมาได้ขนาดไหน
คำตอบสำหรับประโยคฮิตข้างต้นจึงไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่า จะขายล้างพอร์ทดี หรือจะซื้อดี หรือจะอยู่เฉยๆดี มันจึงเป็นแต่เพียงแค่ให้นักลงทุนแต่ละคนได้ตั้งสติ ค่อยๆลำดับความคิดในการลงทุนที่แล้วมาแล้วทำในสิ่งที่คุณชำนาญเป็นตัวของคุณเอง ผมเพียงแต่อยากเตือนว่า ระมัดระวังในสิ่งที่คุณไม่ชำนาญ และอย่าเอากรอบความคิดคนอื่นมาทำให้คุณไขว้เขวเพราะคุณไม่รู้ว่าในกรอบความคิดของคนอื่นนั้นมันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้างแต่พึงระลึกอย่างมีสติสัมปชัญญะ การลงทุนนั้นเป็นเรื่องที่ถ่ายทอดได้ บอกกล่าวกันได้ แต่เลียนแบบกันไม่ได้ หุ้นตัวเดียวกัน ลงทุนในช่วงเวลาเดียวกันผลลัพธ์แต่ละคนยังลงเอยต่างกัน
สุดท้ายนี้ผมคิดว่าการเป็นเซียนหุ้นนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตน คนอื่นหรือนสพ. ก็มายกให้ไม่ได้ ต้องฝึกฝน
มีความชำนาญจนถึงระดับกลายเป็นสามัญสำนึก สัญชาติญาณ หรือปัญญาญาณเท่านั้น
เมื่อถึงตรงนี้ผมขอใช้พื้นที่นี้ในการระลึกถึงคุณของ อาจารย์ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ท่านเป็นจุดเริ่มต้นและส่วนนึงที่สำคัญที่ทำให้ผมตั้งหลักปักฐานได้ (ผมมาจากครอบครัวฐานะปานกลางค่อนไปทางยากจนเริ่มจากพอร์ทที่เล็กมากครับ ทุกวันนี้สามารถจุนเจือตนเองและคุณพ่อคุณแม่ได้) เพราะความรู้ที่ท่านถ่ายทอดผ่านทางหนังสือแท้ๆตอนนี้ผมก็ถืออยู่ในมือเพื่ออ่านทบทวนอยู่ครับแม้ผมจะรู้ว่าจริงๆผมไม่ใช่ VI เป็นแต่เพียงนักมองหาโอกาสและคว้าโอกาสเท่านั้น
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ ข้อความข้างต้นถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็อภัยและแก้ไขให้ผมด้วยนะครับ และถ้าท่านใดอ่านแล้วเกิดความรู้สึกขุ่นเคืองใจก็อโหสิกรรมให้ผมด้วยครับ
“หุ้นมีทั้งราคาและมูลค่า ราคาคือสิ่งที่เราเห็น แต่มูลค่าคือสิ่งที่อยู่ในใจ ดังนั้นแล้วมูลค่าจึงระลึกได้ด้วยการตั้งสติเท่านั้น”
ขอบคุณครับ