Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

นั่งทานข้าวไป นึกถึงหุ้นบางตัวที่คิดว่าน่าสนใจไป จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้

หุ้นบางตัวเราทำการบ้านมาแล้วว่าดี เราอยากซื้อ อยากให้ราคามันลงอีกหน่อย กลัวมันจะขึ้นไปก่อนได้ซื้อ

วันไหนมันราคาลงเราดีใจ คิดในใจ "ขอต่ออีกนิดน่า"

หุ้นที่ใช่ มันก็แค่นี้เองใช่มั้ยครับ

ในทางกลับกัน หุ้นที่ยิ่งราคาลง เรากลับสงสัย ไม่สบายใจ เอ๊ะ มีอะไรรึเปล่า ขายก่อนดีมั้ย แบบนี้คงไม่ใช่ "หุ้นที่ใช่" แน่แล้ว

ในทางกลับกัน หุ้นที่ยิ่งราคาลง เรากลับสงสัย ไม่สบายใจ เอ๊ะ มีอะไรรึเปล่า ขายก่อนดีมั้ย แบบนี้คงไม่ใช่ "หุ้นที่ใช่" แน่แล้ว

เห็นพี่พูดก็นึกได้ว่าทำไมตลาดหุ้นมัน volatileยังงี้

Unstablemind เขียน:เห็นพี่พูดก็นึกได้ว่าทำไมตลาดหุ้นมัน volatileยังงี้

ผมจำคำสอนของ อ.เคน ลูกชาย อ.ฟิชเชอร์ไว้ เลยเกาะแน่น

Growth has always been volatile

คำถาม 1 หุ้นบางตัวเราทำการบ้านมาแล้วว่าดี เราอยากซื้อ อยากให้ราคามันลงอีกหน่อย กลัวมันจะขึ้นไปก่อนได้ซื้อ 

วันไหนมันราคาลงเราดีใจ คิดในใจ "ขอต่ออีกนิดน่า" 

หุ้นที่ใช่ มันก็แค่นี้เองใช่มั้ยครับ

ตำตอบ ราคาที่ลงมา ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนหรือไม่ เพราะมีนไม่มีิะไรที่ 100% เพราะราคาที่ลงมา มีทั้งพื้นฐานเปลี่ยน และพื้นฐานไม่เปลี่ยน ต้องทบทวนข้อมูลให้ดี เพราะ


          ความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 1: "การลงทุนในหุ้นของบริษัท X ของผม เป็นการลงทุนที่มั่นใจได้ 100%"

          ความเข้าใจผิด หุ้นที่ร้อนแรง  ใครๆ ก็แย่งกันซื้อ ต้องเป็นการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมแน่นอน

          ทำไมถึงเป็นความเชื่อที่ผิด  ไม่มีการลงทุนอะไรที่มั่นใจได้ 100%  บริษัทไหนๆ ก็อาจจะมีปัญหาร้ายแรงที่ซ่อนไว้จากผู้ลงทุน/ผู้ถือหุ้น  และด้วยการซ่อนปัญหา  ซ่อนตัวเลขที่ลงบัญชีให้ผิดๆ เพื่อแสดงกำไรสูงๆ  ราคาหุ้นจะได้สูงตามไปด้วย  สิ่งเหล่านี้ทำให้บริษัทใหญ่ๆ อย่าง Enron, WorldCom  พังทลายมาแล้ว

2. คำถาม ในทางกลับกัน หุ้นที่ยิ่งราคาลง เรากลับสงสัย ไม่สบายใจ เอ๊ะ มีอะไรรึเปล่า ขายก่อนดีมั้ย แบบนี้คงไม่ใช่ "หุ้นที่ใช่" แน่แล้ว

คำตอบ ก็ต้องทบทวนแบบ 1 เช่นกัน เพราะ

          ความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 2: "ไม่มีวันที่ผมจะซื้อหุ้นในช่วงนี้หรอก เพราะช่วงนี้ตลาดหุ้นมันย่ำแย่เอามากๆ”

          ความเข้าใจผิด มีแต่คนโง่ๆ เท่านั้นที่จะซื้อหุ้นในช่วงที่ตลาดย่ำแย่อย่างนี้

          ทำไมถึงเป็นความเชื่อที่ผิด  หากหุ้นที่เราซื้อยังคงมีปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคง  ราคาหุ้นที่ตกลงมาในปัจจุบันจะเป็นเพียงเพราะความกลัวของผู้ลงทุนในระยะสั้นๆ ซึ่งจะเหมือนเวลาร้านค้าติดป้ายลดราคา

อ่านเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ครับ
http://money.th.msn.com/saving/5-ความเช ... ่ยวกับหุ้น

เท่าที่ผมเห็นคนในห้องค้าเล่นหุ้นกัน

พอมันลงมาสัก 5% ก็ดีใจ ซื้อของถูกกัน

แต่พอมันลงมาสัก 10% จะอำอึ้ง เงินหมดแล้ว ซื้ออะไรไม่ได้

สุดท้ายลงมา 20% คัทลอสกันเป็นแถวเลย

ระวังด้วยนะครับ มันมีเรื่องอารมณ์มาเกี่ยวข้อง

หุ้นตัวนึงที่เคยได้กำไร จู่ๆลงไปขาดทุน เรามักจะคิดว่ามันจะกลับมากำไรอีก เลยจะถืออึดกว่าตัวที่ซื้อแล้ว ขาดทุนเลย

หุ้นที่ค่อยๆลง กับหุ้นที่ลงทันที แม้สุดท้ายจะเสียหายเท่ากัน แต่หุ้นที่ค่อยๆลง เราจะรู้สึกเจ็บน้อยกว่า (ต้มกบ)

หุ้นหลายๆตัว ตอนลงใหม่ สังเกตุบทวิเคราะดู มักจะให้ซื้อๆ เพราะราคาถูก
พอลงต่อ บทวิเคราะห์ ก็จะเร่งซื้อ เพราะถูกมาก
แต่ไม่นานนัก ข่าวร้ายก็ออกมา (คือข่าวดีหายเฉย) บทวิเคราะห์ก็จะปรับลดเป้า
สุดท้าย บทวิเคราะห์ ก็หายไปเลย

ยังไงก่อนซื้อขาย ตัดสินใจดีๆนะครับ ไม่ใช่หุ้นที่ลงแล้วเราดีใจ
คือหุ้นที่ดี ลองให้มันลงไปสัก 90% แบบเราไม่มีเงินซื้อดู (ซื้อ 100บาทจนหมดตัว แล้วลงไป 10บาท) ดู
ผมว่ามีเหลือไม่กี่คนที่ยังดีใจ (ผมคนนึงล่ะ ซีดเผือกเลย) ถึงจะรู้ว่าอนาคตมันดี แต่เห็นราคาแล้ว ก็หวั่นไหวมิใช่น้อย

ปล. ไปนั่งสมาธิที่น้ำตกดีกว่า T^T

บ่อยครั้งที่เราเจอ หุ้นที่ใช่ แต่ราคามันลงไปเรื่อยๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ
ยังไงมันก็ยังเป็น หุ้นที่ใช่ เพียงแต่ต้องมีแผนการเข้าซื้อดีๆ

เพราะนายตลาด จะทดสอบเราว่า เราเป็นคนที่ใช่ ที่จะถือหุ้นตัวนี้หรือเปล่า
จะเข้ามาลงทุน หรือเข้ามาเก็งกำไร

เพียงแต่ก่อนซื้อ ต้องมั่นใจว่าเราได้ศึกษามันมาแล้ว

เวลาราคาหุ้นไหลลง
ผมมักจะเหลือบไปมองราคาหุ้นตัวอื่นๆ
ถ้าลงเหมือนกัน ลงมากลงน้อย
แสดงว่าเป็นภาวะตลาด
อย่างนี้ก็จะทยอยเก็บเพิ่ม

แต่ถ้าหุ้นที่เราสนใจ
ลงอยู่ตัวเดียว อันนี้จะทำการบ้านเพิ่ม
ว่าเรามองข้ามอะไรไปในบางประเด็นหรือเปล่า

และท้ายที่สุด
อย่าเป็นนายตลาดซะเอง เพราะมันไม่ได้เท่ครับ