การเมืองวุ่นกระทบค้าปลีกหนัก ทำยอดขายลด20%
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 08, 2013 2:14 pm
การเมืองวุ่นกระทบค้าปลีกหนัก ทำยอดขายลด20% เครือสหพัฒน์มั่นใจรัฐบาลไม่ยุบสภา
updated: 08 พ.ย. 2556 เวลา 13:27:50 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
เครือ สหพัฒน์รับการเมืองวุ่นกระทบค้าปลีก เผยล่าสุดยอดขายในห้างลดลงแล้ว 20% เหตุคนไม่มีอารมณ์เดิน ทำกระทบซัพพลายเออร์ด้วย เห็นด้วยที่รัฐบาลถอนร่างแทนยุบสภา ด้านยูนิลีเวอร์ยอมรับยอดขายโตช้า แต่เชื่อมั่นเศรษฐกิจยังไปได้
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองทำให้คนไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ขาดอารมณ์จับจ่ายใช้สอย ส่งผลกระทบกับกลุ่มค้าปลีก ซึ่งต้องอาศัยจิตวิทยาและอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งการเข้าใช้บริการในศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า หลังจากช่วงที่ผ่านมากำลังซื้อก็ได้ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งภาวะการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ ทำให้คนใช้บริการศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าน้อยลง ส่งผลให้ยอดขายศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าปรับตัวลดลงประมาณ 20% และมีผลโดยตรงกับเครือสหพัฒน์ ในฐานะผู้ผลิต หรือซัพพลายเออร์ สินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า ซึ่งจำหน่ายผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้า เพราะขายสินค้าเข้าห้างได้น้อยลง ทำให้ยอดขายสินค้าโดยรวมไม่เป็นไปตามเป้า
"ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตเราได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ทำให้ยอดขายได้ไม่ตามเป้า เพราะห้างระบายสินค้าไม่ออก ขายไม่ได้ กระทบกันไปหมดเป็นลูกโซ่ แต่ในส่วนยอดขายในร้านสะดวกซื้อถือว่ายังเติบโตได้ดี เพราะคนไม่อยากเดินทางไกล หันมาซื้อของใกล้บ้าน และกลุ่มร้านสะดวกซื้อสามารถสนองตอบพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี" นายบุญชัยกล่าว
นายบุญชัยกล่าวว่า อย่างไรก็ตามหลังรัฐบาลผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมยิ่งส่งผลอย่างชัดเจนต่อความเชื่อมั่นต่อจิตวิทยาการบริโภค เพราะคนส่วนใหญ่ในเมืองร้อยละ 90% ไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นี้ เป็นการถูกต้องแล้วที่รัฐบาลถอนร่างออกมา เพื่อหยุดการประท้วงของกลุ่มต่างๆ ที่ไม่เห็นด้วยในเวลานี้ และเชื่อว่าหลังถอนร่างการประท้วงจะหยุดลงได้ทันที เพราะไม่มีเงื่อนไขให้มีการนัดชุมนุมประท้วงกันต่อไป แต่หากรัฐบาลไม่ถอนเชื่อว่าสถานการณ์โดยรวมจะบานปลายถึงขั้นรุนแรง เผชิญหน้ากันได้ ซึ่งเชื่อว่าจะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้งอุตสาหกรรมค้าปลีกโดยรวมให้ทรุดตัวลงไปอีก
"ในฐานะที่เป็น นักธุรกิจติดตามการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่เลือกทางออกโดยการยุบสภา แต่จะรอให้ พ.ร.บ.ลงทุน 2 ล้านล้านผ่านสภาก่อน และหลังจากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้กลับมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอีก" นายบุญชัยกล่าว
นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารด้านการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย (เทรดดิ้ง) จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดสินค้าอุปโภคและบริโภค กล่าวว่า ภาพรวมกำลังซื้อรวมทั้งตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคขณะนี้มีการเติบโตแต่อาจจะช้า ลงเมื่อเทียบกับอดีต ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับจีดีพีที่ยังเติบโตในแดนบวก ส่วนเรื่องการเมืองบริษัทไม่มีความเห็นเรื่องนี้ แต่ยูนิลีเวอร์อยู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลา 80 ปี เจออะไรมามากมาย และสามารถผ่านมาได้ เราจะเดินหน้าทำตลาดและออกสินค้าใหม่เพื่อสนองพฤติกรรมผู้บริโภคต่อไป โดยยังมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยว่ามีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และจะผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ไปได้
ที่มา นสพ.มติชนรายวันฉบับวันที่ 8 พ.ย.56
updated: 08 พ.ย. 2556 เวลา 13:27:50 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
เครือ สหพัฒน์รับการเมืองวุ่นกระทบค้าปลีก เผยล่าสุดยอดขายในห้างลดลงแล้ว 20% เหตุคนไม่มีอารมณ์เดิน ทำกระทบซัพพลายเออร์ด้วย เห็นด้วยที่รัฐบาลถอนร่างแทนยุบสภา ด้านยูนิลีเวอร์ยอมรับยอดขายโตช้า แต่เชื่อมั่นเศรษฐกิจยังไปได้
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองทำให้คนไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ขาดอารมณ์จับจ่ายใช้สอย ส่งผลกระทบกับกลุ่มค้าปลีก ซึ่งต้องอาศัยจิตวิทยาและอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งการเข้าใช้บริการในศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า หลังจากช่วงที่ผ่านมากำลังซื้อก็ได้ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งภาวะการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ ทำให้คนใช้บริการศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าน้อยลง ส่งผลให้ยอดขายศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าปรับตัวลดลงประมาณ 20% และมีผลโดยตรงกับเครือสหพัฒน์ ในฐานะผู้ผลิต หรือซัพพลายเออร์ สินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า ซึ่งจำหน่ายผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้า เพราะขายสินค้าเข้าห้างได้น้อยลง ทำให้ยอดขายสินค้าโดยรวมไม่เป็นไปตามเป้า
"ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตเราได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ทำให้ยอดขายได้ไม่ตามเป้า เพราะห้างระบายสินค้าไม่ออก ขายไม่ได้ กระทบกันไปหมดเป็นลูกโซ่ แต่ในส่วนยอดขายในร้านสะดวกซื้อถือว่ายังเติบโตได้ดี เพราะคนไม่อยากเดินทางไกล หันมาซื้อของใกล้บ้าน และกลุ่มร้านสะดวกซื้อสามารถสนองตอบพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี" นายบุญชัยกล่าว
นายบุญชัยกล่าวว่า อย่างไรก็ตามหลังรัฐบาลผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมยิ่งส่งผลอย่างชัดเจนต่อความเชื่อมั่นต่อจิตวิทยาการบริโภค เพราะคนส่วนใหญ่ในเมืองร้อยละ 90% ไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นี้ เป็นการถูกต้องแล้วที่รัฐบาลถอนร่างออกมา เพื่อหยุดการประท้วงของกลุ่มต่างๆ ที่ไม่เห็นด้วยในเวลานี้ และเชื่อว่าหลังถอนร่างการประท้วงจะหยุดลงได้ทันที เพราะไม่มีเงื่อนไขให้มีการนัดชุมนุมประท้วงกันต่อไป แต่หากรัฐบาลไม่ถอนเชื่อว่าสถานการณ์โดยรวมจะบานปลายถึงขั้นรุนแรง เผชิญหน้ากันได้ ซึ่งเชื่อว่าจะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้งอุตสาหกรรมค้าปลีกโดยรวมให้ทรุดตัวลงไปอีก
"ในฐานะที่เป็น นักธุรกิจติดตามการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่เลือกทางออกโดยการยุบสภา แต่จะรอให้ พ.ร.บ.ลงทุน 2 ล้านล้านผ่านสภาก่อน และหลังจากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้กลับมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอีก" นายบุญชัยกล่าว
นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารด้านการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย (เทรดดิ้ง) จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดสินค้าอุปโภคและบริโภค กล่าวว่า ภาพรวมกำลังซื้อรวมทั้งตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคขณะนี้มีการเติบโตแต่อาจจะช้า ลงเมื่อเทียบกับอดีต ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับจีดีพีที่ยังเติบโตในแดนบวก ส่วนเรื่องการเมืองบริษัทไม่มีความเห็นเรื่องนี้ แต่ยูนิลีเวอร์อยู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลา 80 ปี เจออะไรมามากมาย และสามารถผ่านมาได้ เราจะเดินหน้าทำตลาดและออกสินค้าใหม่เพื่อสนองพฤติกรรมผู้บริโภคต่อไป โดยยังมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยว่ามีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และจะผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ไปได้
ที่มา นสพ.มติชนรายวันฉบับวันที่ 8 พ.ย.56