หน้า 1 จากทั้งหมด 1

--- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ่าย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 04, 2013 8:43 am
โดย syj
สัญญาณร้าย! ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ่าย รู้ทั้งรู้ดอกเบี้ยสูงลิ่ว เพื่อสภาพคล่องในมือ ผลพวงเศรษฐกิจซบ

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics รายงานว่า สภาวะเศรษฐกิจที่แผ่วลงชัดเจนในไตรมาสสาม จากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.7 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงอีกจากการขยายตัวที่ค่อนข้างต่ำอยู่แล้วที่ในระดับร้อยละ 2.9 ในไตรมาสสอง ดัชนีการค้าปลีกหดตัวร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีที่หดตัว (ไม่นับการหดตัวในไตรมาส 4/54 ที่เกิดเหตุสุดวิสัยน้ำท่วมใหญ่) โดยเมื่อพิจารณาในรายละเอียดพบว่า ยอดขายห้างสรรพสินค้า ที่ย้อนสถิติกลับไปในช่วงสิบปีไม่เคยหดตัวเลย แต่ก็กลับหดตัวร้อยละ 0.9 ขณะที่ยอดขายปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนและเฟอร์นิเจอร์ที่ออกอาการหดตัวราวร้อยละ 1 ทั้งสองไตรมาสแรกปีนี้ ก็ยิ่งหดตัวมากขึ้นเป็นร้อยละ 5 ในไตรมาสที่ 3 สัญญาณดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าประชาชนต้องลดการบริโภคลงจากภาวะรายได้ที่จะไม่พอกับรายจ่ายที่มากขึ้น

ทั้งนี้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี สังเกตเห็นสัญญาณที่แสดงถึงการที่ประชาชนบางส่วนอาจประสบกับปัญหาภาวะเงินสดขาดมือมากขึ้นจากข้อมูลที่สามารถสะท้อนถึงสถานการณ์ดังกล่าวได้ในระดับหนึ่งคือ การกดเงินสดจากบัตรเครดิตที่กลับมาเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปี 2555 ถึงแม้ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี 2555 จะมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเป็นผลของฐานต่ำจากเหตุการณ์อุทกภัยในปี 2554 แต่อัตราการขยายตัวในช่วงที่ผ่านมาในปีนี้นั้น ก็อยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนและหลังเกิดวิกฤติซับไพรม์ในปี 2551 อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเติบโตเฉลี่ยจากปีก่อนของการกดเงินสดในช่วงเก้าเดือนแรกของปีนี้ จะสูงถึงร้อยละ 13 ขณะที่ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2555 มีอัตราเพิ่มจากปีก่อนเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น นอกจากนั้น ความแตกต่างระหว่างอัตราเพิ่มของการกดเงินสดกับของการรูดบัตร ที่ส่วนใหญ่จะติดลบ ยกเว้นช่วงที่เศรษฐกิจเกิดปัญหาอย่างตอนวิกฤติซับไพรม์ ก็กำลังมีลักษณะเช่นนั้นอีกในช่วงนี้

ทั้งนี้ เนื่องด้วยวัตถุประสงค์ของการใช้บัตรเครดิตมีอยู่สองกรณี คือ การรูดบัตรเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ และ การกดเงินสด โดยหากเป็นการรูดบัตรเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ เมื่อมีการจ่ายตรงตามวันที่เรียกเก็บทั้งจำนวน นอกจากผู้ใช้บัตรจะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยจากยอดที่ใช้แล้ว ก็ยังสามารถใช้แต้มสะสมจากการใช้จ่ายไปแลกกลับเป็นเงินสดหรือสิ่งของตามเงื่อนไขที่กำหนดของบัตรได้อีกด้วย ต่างกับการใช้บัตรเพื่อการกดเงินสด ที่จะถูกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้เป็นอัตราสูงถึงร้อยละ 20 ต่อปีแม้ว่าจะมีการชำระเต็มจำนวนก็ตาม และด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึงขนาดนี้ ทำให้มองได้ว่า ย่อมไม่มีใครต้องการที่จะจ่ายอย่างแน่นอนหากไม่มีความจำเป็นอันเนื่องมาจากเงินสดขาดมือ

เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเพิ่มของการกดเงินสดกับอัตราการเพิ่มของการใช้บัตรซื้อสินค้าในแต่ละประเภทของกลุ่มลูกค้า พบว่า กลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต Non-Bank มีอัตราเพิ่มของการกดเงินสดมากกว่าอัตราการเพิ่มของการชำระค่าสินค้าเป็นพิเศษ โดย กลุ่มลูกค้าดังกล่าวซึ่งมีรายได้เฉลี่ยน้อยกว่าลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ทั่วไป ทำให้มีโอกาสที่จะประสบปัญหาเงินสดขาดมือได้มากกว่า

อย่างไรก็ตาม คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตที่เพิ่มในอัตราเร่งขึ้นของลูกค้าทั้งของธนาคารพาณิชย์ และ Non-Bank ทำให้การกดเงินสดมีบทบาทมากขึ้นสำหรับยอดสินเชื่อบัตรเครดิตที่ยังขยายตัวสูงต่อเนื่องในช่วงปีนี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับในอดีตที่การใช้บัตรเพื่อซื้อสินค้าจะมีบทบาทมากกว่าแม้การบริโภคในประเทศจะมีการชะลอตัวลงอย่างชัดเจนก็ตาม จึงเป็นข้อมูลที่อาจบ่งชี้ได้ว่า ผู้บริโภคบางกลุ่มเริ่มมีสัญญาณเงินสดขาดมือแล้ว

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... งลิ่ว.html

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 04, 2013 10:03 am
โดย yoko
ประชาชนตกงานมีไม่ถึง1%
เงินสดขาดมือแสดงว่าใช้จ่ายเกินรายได้

:shock:

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 04, 2013 11:48 am
โดย lin
ยอดขายค้าปลีกหดตัว แสดงว่าการค้าขายฝืด-ยอดขายน้อยลง
แต่กดเงินสดผ่านบัตรมากขึ้น เงินหายไปใหน..
หลังจากนี้คงต้องติดตามดู จำนวนหนี้สูญของ กลุ่ม Non-Bank กันต่อไปค่ะ

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 04, 2013 1:03 pm
โดย miracle
yoko เขียน:ประชาชนตกงานมีไม่ถึง1%
เงินสดขาดมือแสดงว่าใช้จ่ายเกินรายได้

:shock:
นิยามของประชาชนที่มีงานทำ ถ้าถึงบางอ้อละท่าน
ถ้าไม่อ่านนิยาม ก็มึนแบบนี้แหละท่าน
ภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป

:)

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 04, 2013 4:10 pm
โดย yoko
ผมฟังมาจากทางทีวีmoney channel
เขารายงานตัวเลขคนตกงานของอเมริกาบ้าง ของญี่ปุ่นบ้าง ของไทยบ้าง
เท่าที่จำได้ของไทยคนตกงานน้อยที่สุด
และผู้ตกงานไทยที่มากๆจะเป็นพวกจบปริญญาตรี
คนหรือประชาชนตกงานต้องดูนิยามด้วยหรือครับงงๆ

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 04, 2013 9:54 pm
โดย 3pigs

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 04, 2013 10:22 pm
โดย Plant
คุณ "miracle" กำลังหมายถึง "จำนวนเงิน" ที่ได้รับ ของ "ประชาชนที่มีงานทำ" หรือเปล่าครับ
...^^)

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 05, 2013 2:10 am
โดย superboy
ผมดูยอดรายได้ของบางบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ลด 15-20% ในไตรมาส3
ดูแล้วเหมือนเพิ่งจะไม่ดีแค่ไตรมาสเดียวเอง น่าจะกลับมาได้ในเวลาไม่นาน
แต่นั่นคือบริษัทใหญ่ที่สินค้าเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ หรือ คนทั้งประเทศจำเป็นต้องกินต้องใช้
ถ้าลองเดินสอบถามแม่ค้าตลาด ร้านค้าเล็กๆทั่วไป หรือบริษัทธุรกิจครอบครัวขนาดเล็ก เหล่านี้ ดูว่ายอดขาย เริ่มตกมาตั้งแต่ครึ่งปีแล้ว แต่ยอดไม่ตกหนัก เหมือน 2เดือนที่ผ่าน พ่อค้าแม่ค้า ธุรกิจครอบครัวทั่วไป ที่ผมได้พูดคุย มีแต่คนบ่นว่า ยอดตก 30-50% กันทั้งนั้น อันนี้ บางบริษัทยอดขายทั้งปี หลายร้อยล้านเซลล์ บ่นกันถ้วนหน้า ยอดตก ค่าคอมน้อย และที่เป็น สัญณานไม่ดีคือ มีร้านค้าเริ่มไม่มีเงินชำระค่าสินค้าที่เอาของมาขายเป็นเครดิต แต่พอจะไปขนของคืนก็ไม่มีสินค้าที่เอาไปแล้ว บางเจ้าก็เจรจาได้ขอยืดเวลาอีก 4-6เดือน บางเจ้าก็ปิดร้านหนี้บางแต่ส่วนน้อย ลองดูว่าร้านค้าเล็กๆจำนวนมากอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เขาจะอยู่กันได้นานแค่ไหน อย่าลืมพวกเขาไม่มีความรู้ด้านบริหารเลย ไม่มีการคาดการณ์ล่วงหน้าว่ากำลังซื้อจะคงที่ เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง เขาแค่คิดว่าวันนี้พรุ่งนี้ขายได้ก็สั่งมาขายเหมือนเดิม แต่เมื่อยอดขายตก30-50% รายได้ก็ลดลง แต่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม เวลาผ่านไปหลายเดือนก็กินทุนโดยไม่รู้ตัว

ลองดูว่า คนชั้นกลางจะมีเงินสำรองค่าใช้จ่ายได้กี่เดือน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคนส่วนใหญ่จะสำรองกันไว้เท่าไร
ร้านค้าทั่วไปที่ต้องเช่าที่ค้าขาย เห็นเริ่มมีเปลี่ยนหน้ากันบ่อย และเมื่อ2-3ปีที่แล้วไปเดินตึกแพทตินั่มร้านค้าแน่นไม่มีห้องว่างให้เช่าให้เซ้ง แต่เมื่อ2อาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้ไปเดินซื้อของที่นั่นอีกครั้ง ก็เห็นมีห้องว่างปล่อยเซ้งเช่ากันบ้างแล้ว เพราะที่นั่นเคยได้ยินมาว่า ค่าเช่าแพงมหาโหดมาก เดือนละหลายแสนก็มี

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 05, 2013 9:38 am
โดย pokshisha
miracle เขียน:
yoko เขียน:ประชาชนตกงานมีไม่ถึง1%
เงินสดขาดมือแสดงว่าใช้จ่ายเกินรายได้

:shock:
นิยามของประชาชนที่มีงานทำ ถ้าถึงบางอ้อละท่าน
ถ้าไม่อ่านนิยาม ก็มึนแบบนี้แหละท่าน
ภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป

:)
If I'm not wrong, the employment definition in Thailand is derived from both full-time and part-time employments. This means even a person working a couple hours a week, it's considered to be employed - which distorts the actual figure.

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 05, 2013 10:44 am
โดย merman
ถ้าให้เดา ตามข้อสังเกตุของคุณ miracle ผมว่า รัฐบาลปกปิดความจริงเรื่องอัตราการว่างงานครับ โดยตั้งเกณฑ์การนับผู้มีรายได้ ไว้อย่างหลวมๆ ทำให้ภาพรวมดูเหมือนว่าประเทศตกงานน้อย แต่ความจริงแล้วคนที่มีงานทำแค่สัปดาห์ละไม่กี่ ชั่วโมง หรือ จำนวนเงินที่หาได้น้อยมาก แล้วจะไปต่างอะไรกับคำว่าตกงาน

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 05, 2013 11:19 am
โดย miracle
ผมหมายถึงนิยามของการว่างงานของประเทศไทย
ที่นับว่า คนทำงาน 1 ชั่วโมงก็ถือว่าทำงานละ
ซึ่งใช้เป็นเกณฑ์มาตั้งแต่แรกเริ่มแต่ไหนแต่ไรมา
ดังนั้น จึงทำให้อัตราการว่างงานของเราต่ำอยู่แล้ว
เพียงแค่ตัวเลขนี้ แต่ 1 % มันหมายความว่า ต้องมีคนที่ว่างงานมากว่านั้น

อีกอย่าง
ในความคิดของผม คือ ต้องดูเรื่องค่าจ้างประกอบด้วย
เพราะ พอดีการปรับค่าจ้าง 300 บาททั่วประเทศ เพิ่มเริ่มเมื่อต้นปี
ทำให้ ไม่มี OT ซึ่งอัตราเงิน OT มันหลายพันบาทอยู่ละ
ดังนั้นมุมมองของผม มันค่อยๆเริ่มเห็นภาพในตอนนี้ละ

ภาพมันเห็นมาก่อน แต่ ตอนนี้เพิ่งสะท้อนเพราะว่า
ตัวเลขที่ออกมาคือการมองกระจกหลัง ไม่ใช่มองไปข้างหน้าที่นั่งของคนขับ

:)

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 05, 2013 12:32 pm
โดย musicman
เท่าที่ไปเล่นดนตรี ก็พบว่าคนมากินข้าว มาพักผ่อนท่องเที่ยวน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีที่แล้วครับ แม้แต่ห้างโมเดิรน์เทรด ขนาดมีโปรโมชั่นเพียบเลย คนยังจับจ่ายใช้สอยน้อยกว่าเดิมเลยครับ

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 05, 2013 5:16 pm
โดย เหรียญ
เข้าครึ่งปีหลังนี่เริ่มบ่นกันมากขึ้นๆ
จากงานเยอะมีOTให้ลูกน้อง จนตอนนี้ไม่มีOTกันแล้ว

พนักงานบางคนดันไปผ่อนรถ ผ่อนมอไซอีก เพราะคิดว่าจะมีOTให้ทำตลอด
โบนัสปีนี้คงน้อยลง ตอนนี้คนรู้ตัวก็ประหยัดเป็นธรรมดา

ทุกที่ๆถามมายังไม่มีการลดคนงาน เพราะคิดว่าดูถึงปลายปีน่าจะดีขึ้น
คนน่าจะจับจ่ายตามเทศกาล ถ้ายังแย่ลงอาจจะต้องลดคนลง

พี่ผมดูแลเรื่องส่งเม็ดพลาสติกให้บ.ในตลาด ทำบรรจุภัณฑ์พลาสติก สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป
ไตรมาส3 ยอดใช้เม็ดว่าน้อยแล้ว ไตรมาส4 หนักกว่าครับ

ทั้งหมดเป็นข้อมูลที่ผมถามจากคนรู้จักและคนใกล้ตัวครับ

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 05, 2013 8:37 pm
โดย romee
จริงครับ เงินสดเริ่มขาดมือ เพราะค่าใช้จ่ายมันสูงตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น

แถม2ปีที่ผ่านมานี้ มีโปรโมชั่นทั้งทางรัฐ และเอกชน ที่ออกมาให้ประชาชนใช้จ่ายพร้อมผ่อน ระยะยาวมากขึ้น

ธุรกิจที่เป็นสินค้าข้องเกี่ยวกลุ่มลูกค้าที่ต้องผ่อนรถคันแรก บ้านหลังแรก และอื่นๆ โดนผลกระทบปีนี้ ปีหน้าแน่ๆครับ

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 05, 2013 10:14 pm
โดย miracle
แต่ตอนนี้ ถ้าหาก ค่าเงินบาทอ่อนค่าลดลง
มันจะภาพกลับจากช่วงก่อนหน้านี้

เพราะอะไรมองแบบนี้
คือ GDP ของ ไทยนั้นพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
มันเป็นเครื่องยนต์หลักของประเทศไทย แต่ เครื่องยนต์หลักตัวนี้
โดยทำลายล้างจากการซื้อกิจการ และ จากฝูงหมาป่าที่จ้องเล่นงานอยู่แล้ว
เมื่อกดปุ่มซื้อกิจการดังกล่าว ดังนั้น ถือว่าการซื้อกิจการเป็นแพะรับบาปไป
และนั้นคือจุดเริ่มต้นของคำว่า สินค้าที่ผลิตจากประเทศไทย ไม่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
ข้ออ้างง่ายๆๆ คือ ประเทศไทยผลิตสินค้าที่แพงกว่า ประเทศเพื่อนบ้าน นั้นเอง
เมื่อใช้เงิน $100 แลกเท่ากัน แต่สินค้าประเทศไทยได้น้อยกว่า ประเทศเืพื่อนบ้าน

ติดตามกันต่อไปว่า สถานการณ์การเมือง ก็ดี การลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สร้างคำว่า Surprise อย่างยิ่งมากต่อตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ นั้นส่งผลต่อค่าเงินอ่อนได้แค่ไหน
ถ้าอ่อนมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยที่ใช้ข้ออ้างเรื่องของการเมืองนำพาไป มันจะเป็นการลดค่าเงินที่สวยงามอย่างยิ่งยวด ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่เวียดนามลดค่าเงินไปเมื่อสองสามปีที่แล้ว อันนั้นกลืนเลือดกันทีเดียว จากประเทศที่น่าลงทุน กลายเป็นนรก ที่นักลงทุนส่ายหน้า ยอมลดค่าเงินลด จากนั้นก็ Overshooting เหมือนเดิม จากการส่งออก
และ การท่องเที่ยวที่ดูดเงินตราต่างชาติได้

ดังนั้น ลองไปเที่ยวหากิจการอื่นๆนั่งทำ เดี๋ยวมันจะได้ความคิดที่แปลกประหลาด ที่เรียกได้ว่าคิดได้ไง
นั้นอาจจะเป็นทางออกก็ได้
:)

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 06, 2013 12:17 am
โดย วรันศ์ บัฟเฟต
ถ้าดูจากหัวข้อแปลว่า npl จะถามหาหรอ :wall:

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 06, 2013 1:09 pm
โดย miracle
วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ถ้าดูจากหัวข้อแปลว่า npl จะถามหาหรอ :wall:
ระยะถัดไป ถ้าหากเงินไม่หมุนไป ยังภาค read sector
ถ้าเงินหยุดที่ ภาคการเงินอย่างเดียว ก็อันนี้ตัวใครตัวมัน

เงินต่อเงินมันไว กว่า เงินไปซื้อของ
เพราะ ของมันมีระยะเวลาการทำ ระยะเวลาขนส่ง ระยะเวลาการขาย
กว่าจะถึงมือผู้บริโภค ชิ้นหนึ่ง
:)

Re: --- ผู้บริโภคเงินสดเริ่มขาดมือ กดเงินสดจากบัตรเครดิตใช้จ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 07, 2013 11:21 am
โดย yoko
สรุปQ3ครับ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาสนงสศช บอกว่าไตรมาส3/2556มีการจ้้างงานลดลง1.2%
ทำให้อัตราการว่างงานเป็น0.77%


ผมคิดว่าQ4อัตราการว่างงานน่าจะมากกว่า1%