AGM/วีระพงษ์ ธัม

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1827
ผู้ติดตาม: 1

AGM/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

	AGM ย่อมาจาก Annual General Meeting หรือการประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น ซึ่งกำหนดให้จัดขึ้นอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งภายใน 4 เดือนนับตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบบัญชีบริษัท เพื่อเป็นการประชุมของผู้ถือหุ้นทุกคนที่ถือเป็นเจ้าของบริษัทตามสัดส่วนของหุ้นที่ถืออยู่ และมีวาระการประชุมที่สำคัญ ๆ คือ เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานประจำปี เลือกกรรมการบริษัทที่จะเป็นตัวแทนของผู้ถือหุ้นในการดูแลกิจการ รวมถึงการลงมติสำคัญ ๆ ที่ต้องการเสียงรับรองจากผู้ถือหุ้น และที่สำคัญคือเป็นโอกาสพบกันระหว่างผู้ถือหุ้น และกรรมการผู้บริหารซึ่งกำกับดูแลบริษัท
	แม้ว่าในช่วงเวลา 10 ปีที่แล้ว การประชุมผู้ถือหุ้นในหลาย ๆ บริษัท มีลักษณะที่เหมือนกับว่า จัดขึ้นเป็นพิธี เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ตามกฏหมาย การประชุมจัดขึ้นและพยายามผ่านแต่ละวาระให้เร็วที่สุด โดยมีโอกาสให้ผู้ถือหุ้นซักถามน้อยมาก บริษัทพยายามแจกของชำร่วยดี ๆ จัดของว่างหรืออาหารตามโรงแรมเพื่อให้ผู้ถือหุ้นพึงพอใจ  และดูเหมือนว่าจะเป็นข้อตกลงที่สมยอมกันทั้งสองฝ่าย คือผู้บริหารไม่ต้องคอยตอบคำถามยาก ๆ  และผู้ถือหุ้นได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้าน 
	แต่พัฒนาการของ AGM นั้นดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ และที่ผมเห็นในปัจจุบันมีความใกล้เคียงกับความเป็น “บริษัทมหาชน” มากยิ่งขึ้น นักลงทุนมีคุณภาพสูง คอยสอดส่องและมีส่วนร่วมกับบริษัทราวกับว่าพวกเขาเป็นเจ้าของ ในฝั่งผู้บริหารก็ตั้งใจตอบคำถามเป็นอย่างดี และนำเอาแง่คิดหลาย ๆ อย่างไปปรับปรุงบริษัทให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่าความมั่งคั่งของผู้บริหาร ตรงกับผู้ถือหุ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นคือต้องการให้บริษัทเติบโตและราคาหุ้นสูงขึ้น ผู้ถือหุ้นก็มองระยะยาวมากขึ้น และการลงทุนในหุ้นไม่ใช่แต่เพียงการเก็งกำไรเหมือนแต่ก่อน อีกอย่างหนึ่งคือความเท่าเทียมของการเข้าถึงข้อมูลของนักลงทุนดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
	อย่างไรก็ดีสิ่งที่ผมคิดว่านักลงทุน VI ควรใช้โอกาสที่มีอยู่ปีละครั้ง ทำในสิ่งต่อไปนี้ครับ 
	1. อ่านรายงานประจำปี ในรายงานประจำปีจะมีรายละเอียดกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงการวิเคราะห์ ภาพเล็กของบริษัทและภาพใหญ่ของอุตสาหกรรม ซึ่งสำคัญในการประเมินสภาวะแข่งขันในอุตสาหกรรมของบริษัท สิ่งที่ผมชอบอีกอย่างหนึ่งคือ การได้อ่านประวัติศาสตร์ของบริษัทตั้งแต่เริ่มต้น เข้าใจพัฒนาการของบริษัทว่าเป็นมาอย่างไร ถ้าจะเป็นนักลงทุนที่ดี ควรจะรักการอ่าน และหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่านมากที่สุดเล่มหนึ่งคือ รายงานประจำปีของบริษัท มันเป็นหนังสือเล่มที่ไม่อ่านไม่ได้ และเวลาที่ดีที่สุดในการอ่านหรือทบทวนหนังสือเล่มนี้คือก่อนเข้าประชุม AGM
	2. ทบทวนคำพูดผู้บริหาร ผมจะใช้เวลาอีกส่วนหนึ่งในการลองค้นหาสิ่งที่ผู้บริหารบอกไว้ตอนต้นปี และพิจารณาว่ามันเป็นไปตามนั้นหรือไม่ ในยุคสมัยอินเตอร์เน็ตที่ข้อมูลเข้าถึงง่าย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่าแต่ก่อนมาก ในสมัยก่อนถ้าอยากจะรู้เรื่องลักษณะนี้ วิธีการเดียวคือการเข้าห้องสมุดและเอาหนังสือพิมพ์เก่า ๆ ไล่อ่านไปเรื่อย ๆ  ดังนั้นถ้าผู้บริหารสามารถส่งมอบสิ่งที่ตัวเองพูดได้เสมอ ๆ ผมจะมีแนวโน้มที่ชอบบริษัทเหล่านี้ แม้ว่าบางครั้งเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดบางอย่างจะเกิดขึ้นระหว่างปีและอาจทำให้บริษัทพลาดเป้าหมาย แต่อย่างไรก็ดีการพลาดเป้าหมายมาก ๆ แปลว่าบริษัทอาจมองโลกในแง่ดีจนเกินไป รวมถึงบริษัทไม่ได้มีมาตรการหรือกลยุทธ์ที่ดีพอเพื่อจะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทำให้เราควรเผื่อส่วนต่างความปลอดภัยหรือต่อราคาหุ้นให้มากขึ้น
	3. สังเกตสิ่งรอบตัว เมื่อเข้าประชุม ผมเริ่มจะสังเกตตั้งแต่การลงทะเบียน พูดคุยกับพนักงาน และเมื่อเข้าห้องประชุมก็สังเกตผู้บริหาร รวมถึงกรรมการที่เข้าประชุม การทำความเข้าใจลักษณะองค์กรและวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนบริษัทถือเป็นศิลปะที่สำคัญอย่างหนึ่งของการลงทุน เพราะนี่คือจุดกำเนิดของสินค้าและบริการของบริษัท ซึ่งถ่ายทอดผ่านรหัสพันธุกรรมหรือวัฒนธรรมองค์กร องค์ประกอบเสริมเหล่านี้เป็นการยืนยันความคิดเราว่าถูกต้องหรือไม่ และสิ่งที่เราเห็นในข่าวสารบริษัท ตรงกับสิ่งที่เราสัมผัสจริง ๆ หรือไม่ เหมือนกับว่าเราจะยืนยันว่าอาหารที่เรากินสะอาดไม่ได้ หากเราไม่ได้เข้าไปดูครัวหลังร้านก่อน อีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบคือสังเกตนักลงทุนรอบ ๆ ตัว ผมเชื่อว่าลักษณะของบริษัทมักจะดึงดูดนักลงทุนที่มีลักษณะเดียวกันเข้ามา
	4. ตั้งคำถามและหาคำตอบ สิ่งที่ผมค่อนข้างสนใจคือ บริษัทมีกิจกรรมการสร้างความสามารถในการแข่งขันแค่ไหน และบริษัทแข็งแกร่งกว่าปีที่แล้วหรือไม่ ถ้าบริษัทดำเนินธุรกิจมาถูกทาง บริษัทควรจะมีส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น มียอดขายมากขึ้น แผนงานในอนาคตก็ควรจะมุ่งเน้นกิจกรรมเหล่านี้ อีกส่วนหนึ่งคือบริษัทควรมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และดำเนินกลยุทธ์เพื่อมุ่งไปสู่จุดมุ่งหมายนั้น
	สุดท้ายในขณะนี้ผมกำลังเดินไปประชุม AGM สุดท้ายของผมในปีนี้ที่ Omaha ของบริษัท Berkshire Hathaway  ซึ่งน่าจะเป็น AGM ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยที่มีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน ถ้า New York คือจุดศูนย์กลางของตลาดทุนโลก ผมก็คิดว่า Omaha คือจุดศูนย์กลางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของโลก และผมจะมาเล่าให้ฟังบรรยากาศในคราวต่อ ๆ ไปครับ
[/size]
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 0

Re: AGM/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณ คุณหลินมากครับกับข้อแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับเรื่อง AGM

ได้รูปได้บรรยากาศ AGM เบิร์กไชด์ เอามาฝากกันบ้างนะครับ
ลูกหิน
Verified User
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 0

Re: AGM/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
Mr.Kcip
Verified User
โพสต์: 87
ผู้ติดตาม: 0

Re: AGM/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
theerasak24
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 621
ผู้ติดตาม: 0

Re: AGM/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณครับรอฟังครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Samkok
Verified User
โพสต์: 1880
ผู้ติดตาม: 0

Re: AGM/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 6

โพสต์

"หนังสือที่ควรค่าแก่การอ่านมากที่สุดเล่มหนึ่งคือ รายงานประจำปีของบริษัท มันเป็นหนังสือเล่มที่ไม่อ่านไม่ได้"

ขอบคุณครับ คุณหลิน
โพสต์โพสต์