หน้า 1 จากทั้งหมด 3

เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 22, 2014 10:55 pm
โดย jeatsada
เกิดการปฏิวัติ ในพรุ่งนี้ไม่รู้ set จะเป็นอย่างไรนะครับ มีข้อมูลย้อนหลังบ้างไหมครับ ...

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 22, 2014 11:02 pm
โดย Pyrostrikes
ไม่ใช่ปฏิวัติแต่เป็น รัฐประหารครับ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 22, 2014 11:39 pm
โดย jeatsada
ขอโทษครับ ...

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 23, 2014 6:30 am
โดย neuhiran
สำหรับ ท่านที่ลงทุนระยะยาวผมว่าไม่น่าเป็นห่วงนะ
จากประสพการณ์ส่วนตัว ผมเห็นว่า หุ้นมันกลับไปได้เสมอ หลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย
ผมว่าดีซะด้วยซ้ำไปที่ได้ของถูกๆ จากนักลงทุนระยะสั้นที่ตกใจ :D

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 23, 2014 8:37 am
โดย PLUSLOVE
แล้วมันก้จะผ่านไป อีกครั้งหนึ่ง

เหมือนที่เคยเกิดแบบเดียวกับน้ำท่วม บาทแข็ง บาทอ่อน

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 23, 2014 9:13 am
โดย ปรัชญา
***เปิดสถิติหุ้นไทยหลังรัฐประหาร 19 ก.ย.
วันศุกร์, 23 พฤษภาคม 2557

เคที ซีมิโก้ เปิดสถิติหุ้นไทยหลังรัฐประหาร 19 ก.ย.49 ในเวลา 1 เดือน SET ขยับขึ้น 2.61% หุ้นที่ขึ้นสูงสุด ชิ้นส่วนยานยนต์ อาหาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ พาณิชย์ ส่วนใน 1 ปี ปรับขึ้น 15.55% กลุ่มที่ขึ้นสูง ปิโตรเคมี พลังงาน Health Care พาณิชย์ อาหาร

บล.เคที ซีมิโก้ เปิดข้อมูลสถิติหุ้นไทยหลังสิ้นสุดการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 โดยระบุว่าในอดีตดัชนีฯ ปรับขึ้นหลังเหตุการณ์รัฐประหารจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ กลุ่มที่ปรับขึ้นดีในช่วง 1 เดือนหลังรัฐประหาร เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ ได้แก่ ยานยนต์ อาหาร ค้าปลีก และธนาคาร จากความเชื่อมั่นที่กลับมา ในแง่ของเศรษฐกิจ เหตุรัฐประหารในครั้งนั้นส่งผลลบรุนแรงต่ออุปสงค์ในประเทศในระยะแรกหลังเกิดเหตุ ก่อนจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา

ด้านกระแสเงินทุน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และกระแสทุนยังแข็งแกร่งหลังการทำรัฐประหารแต่มีกระแสเงินไหลออกจากตลาดพันธบัตรเล็กน้อย

ปัจจัยกังวลประเด็นหนึ่งหากเกิดรัฐประหารขึ้น คือ ประเด็นการไหลออกของกระแสเงินทุน แต่กลับเป็นที่น่าแปลกใจว่า หลังเกิดรัฐประหารปี 2549 กระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และกระแสทุนยังไหลเข้าต่อเนื่อง มีเพียงแค่ตลาดพันธบัตรที่ลดลงบ้าง แต่ก็ถือว่าน้อย เมื่อเทียบกับกระแสเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศและกระแสทุนไหลเข้า จากกระแสเงินทุนที่ยังไหลเข้าและภาคการส่งออกที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศต้องประกาศมาตรการควบคุมเงินทุนออกมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549

ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอย หากอิงจากเหตุการณ์รัฐประหารครั้งที่แล้วในปี 49 พบว่าดัชนีฯ ในช่วง 1 เดือนก่อนการทำรัฐประหาร ปรับตัวลดลงเล็กน้อย (-0.8%) ก่อนที่จะปรับขึ้น 2.6% และ 3.4% ในช่วง 1 และ 2 เดือนหลังการทำรัฐประหาร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการรัฐประหารครั้งนั้น ไม่มีการเสียเลือดเนื้อและจบอย่างรวดเร็ว ไม่มีการต่อต้านจากประชาชน สำหรับกระแสตอบรับจากต่างชาติ มีการซื้อสุทธิ แม้ว่าบางประเทศจะไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหารก็ตาม แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์เท่านั้น

ดังนั้นหากเกิดการเปลี่ยนแปลงซ้ำรอยกับในอดีต คาด ดัชนีฯ จะตอบรับเชิงบวกในระยะสั้นเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนรอความชัดเจน ประกอบกับคาดว่าไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น

ขณะที่ต่างชาติซื้อแรงหลังเกิดรัฐประหาร ในวันเปิดทำการวันแรกหลังการรัฐประหาร ต่างชาติซื้อสุทธิสูงถึง 7,393 ล้านบาท และซื้อสะสมต่อเนื่องในช่วง 2-3 เดือนแรก แต่มาขายหนักในช่วงที่แบงค์ชาติประกาศมาตรการกันสำรอง 30% แต่หลังจากนั้นก็กลับมาซื้อสะสมเรื่อยมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 50 ประกอบกับในช่วงปลายเดือน ม.ค. 50 รัฐบาลยกเลิกการใช้กฏอัยการศึกทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี เราคาดว่าแรงซื้อต่างชาติในรอบนี้จะไม่มากเท่าในปี 50 จากปัจจัยอื่นๆ ทั้งเรื่องการลดขนาด QE และเศรษฐกิจโดยรวมที่แย่กว่าในปี 50

ส่วนหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคในประเทศปรับขึ้นได้ดีหลังการรัฐประหาร จากการรัฐประหารในปี 49 กลุ่มอุตสหกรรมหลักๆ ที่ปรับขึ้นได้ดีในช่วงก่อนการรัฐประหาร 1 เดือนได้แก่ วัสดุก่อสร้าง ขนส่ง ธนาคาร อสังหาฯ และ อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมหลักๆ ที่ปรับขึ้นได้ดีในช่วง 1 เดือนหลังการรัฐประหาร ได้แก่ ยานยนต์ อาหาร ค้าปลีก และธนาคาร นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ที่บวกตามการส่งออกไทยที่ขยายตัวดีในช่วงนั้น

หากเกิดการรัฐประหาร เราคาดว่าหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศจะปรับขึ้นดีในช่วง 1-2 เดือนแรกเช่นเดียวกับในอดีต เนื่องจากความตึงเครียดและการชะลอการบริโภคในช่วงประท้วงจะเริ่มกลับมาอย่างไรก็ดี ในระยะกลาง 3-6 เดือนคาดผลของการรัฐประหารต่อเศรษฐกิจจะเริ่มส่งผลให้เห็นชัดขึ้นราคาหุ้นอาจลดช่วงบวกลงในช่วงนี้ และปรับขึ้นใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

จากสถิติการชุมนุมทางการเมือง 4 ครั้ง หลังสุด หุ้นไทยโดยเฉลี่ยปรับขึ้น 8.4% 1 เดือนหลังความวุ่นวายทางการเมืองยุติ โดยดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นหลังจากที่เหตุการณ์สงบ ที่ 2.9% 4.5% และ 8.4% ภายในเวลา 1 สัปดาห์ 2 สัปดาห์ และ 4 สัปดาห์

ข้อมูลที่มา...
http://www.moneychannel.co.th/index.php ... p3955.html

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 23, 2014 9:54 am
โดย yoko
ครั้งนี้เขาปิดทีวีทุกช่องเลย แม้แต่ช่องmoney channelก็ปิด เศร้าใจและเจ็บใจ


:( :( :( :( :( :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted:

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 23, 2014 10:20 am
โดย picatos
neuhiran เขียน:สำหรับ ท่านที่ลงทุนระยะยาวผมว่าไม่น่าเป็นห่วงนะ
จากประสพการณ์ส่วนตัว ผมเห็นว่า หุ้นมันกลับไปได้เสมอ หลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย
ผมว่าดีซะด้วยซ้ำไปที่ได้ของถูกๆ จากนักลงทุนระยะสั้นที่ตกใจ :D
คำถามที่น่าสนใจกว่า คือ ราคาหุ้นไทยตอนนี้ถูกจริงหรือ?

ตอนที่รัฐประหารปี 49 ตอนนั้นตลาดหุ้นไทย P/E ไม่ถึง 10 เท่า ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านแล้ว P/E เราถูกกว่าประมาณ 26% เศรษฐกิจเติบโตได้ประมาณ 4.5-5% ผลที่ตามมา SET ขึ้น 2.6% ใน 1 เดือนหลังรัฐประหาร และขึ้นไป 15.5% หลังจากผ่านไป 1 ปี

แต่ในขณะนี้ P/E เราประมาณ 13-14 เท่า แถมสูงกว่าเพื่อนบ้านราวๆ 10% แถมแนวโน้มการเติบโตน่าจะติดลบ

ถ้ามองในมุมของ Earning Yield ของตลาดมาลบด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร คิดคร่าวๆ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณสัก 3-4% พูดง่ายๆ ก็คือว่า ลงทุนในหุ้นได้ผลตอบแทนมากกว่าพันธบัตร 3-4% เพื่อแลกกับความเสี่ยงจากการถือหุ้น

หากรับได้ก็โอเคครับ แต่ในการลงทุนระยะยาว ระวังซื้อเผลอไปซื้อของแพงที่เราคิดว่ามันถูก เพราะ มันลดราคาลงมาจากของที่แพงมากๆ อยู่แล้วลงมานะครับ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 23, 2014 10:52 am
โดย naphas12
หมดยุค ตกใจแห่ขายหนีตายอะไรทำนองนี้แล้ว วันนี้นักลงทุนได้เรียนรู้มากมาย
และกระแส VI ทำให้มีแต่คนรอซื้อกิจการชั้นดี ราคาถูกกันเยอะ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 23, 2014 11:09 am
โดย ปรัชญา
...

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 24, 2014 10:43 am
โดย PLUSLOVE
picatos เขียน:
neuhiran เขียน:สำหรับ ท่านที่ลงทุนระยะยาวผมว่าไม่น่าเป็นห่วงนะ
จากประสพการณ์ส่วนตัว ผมเห็นว่า หุ้นมันกลับไปได้เสมอ หลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย
ผมว่าดีซะด้วยซ้ำไปที่ได้ของถูกๆ จากนักลงทุนระยะสั้นที่ตกใจ :D
คำถามที่น่าสนใจกว่า คือ ราคาหุ้นไทยตอนนี้ถูกจริงหรือ?

ตอนที่รัฐประหารปี 49 ตอนนั้นตลาดหุ้นไทย P/E ไม่ถึง 10 เท่า ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านแล้ว P/E เราถูกกว่าประมาณ 26% เศรษฐกิจเติบโตได้ประมาณ 4.5-5% ผลที่ตามมา SET ขึ้น 2.6% ใน 1 เดือนหลังรัฐประหาร และขึ้นไป 15.5% หลังจากผ่านไป 1 ปี

แต่ในขณะนี้ P/E เราประมาณ 13-14 เท่า แถมสูงกว่าเพื่อนบ้านราวๆ 10% แถมแนวโน้มการเติบโตน่าจะติดลบ

ถ้ามองในมุมของ Earning Yield ของตลาดมาลบด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร คิดคร่าวๆ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณสัก 3-4% พูดง่ายๆ ก็คือว่า ลงทุนในหุ้นได้ผลตอบแทนมากกว่าพันธบัตร 3-4% เพื่อแลกกับความเสี่ยงจากการถือหุ้น

หากรับได้ก็โอเคครับ แต่ในการลงทุนระยะยาว ระวังซื้อเผลอไปซื้อของแพงที่เราคิดว่ามันถูก เพราะ มันลดราคาลงมาจากของที่แพงมากๆ อยู่แล้วลงมานะครับ
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ผมเห็นด้วยนะครับ ตอนนี้PE ของเซทอยู่ที่ 16 เท่า PEตอนนี้ถือว่าแพงมาก เมื่อเทียบกับปี2549 เหมือนที่พี่ picatosได้กล่าวไว้ รวมทั้งปีนีคงโตได้แค่ 1.5-2%

ดังนั้น dowside risk จึงมีมากกว่า upside และการที่นักลงทุนต่างชาติขายก้ของจริง ซึ่งเงินที่ออกไปปีที่แล้วก้เป็นเพียงเงินQE แต่ส่วนที่ต่างชาติเข้ามาซื้อลงทุนระยะยาว

ตั้งแต่หลังซัพไพรม์ ยังคงอยู่ ซึ่งเม็ดเงินตรงนี้เค้าไม่ได้รีบร้อนอะไร จึงไม่จำเป็นต้องรีบขายแบบตอนซัพไพรม์ ค่อยๆขายได้กำไรงามมีคนมาพยุงให้ขาย

ดังนั้นภาพต่อไปที่จะได้เห็นก้คือ นักลงทุนต่างชาติแห่ขายหุ้น เพื่อไปลงทุนยังตลาดที่ได้ผลตอบแทนมากกว่าและเสี่ยงน้อยกว่าด้านการเมือง และคงรอจนกระทั่งPE11-12เท่า

จึงเริ่มกลับมาสนใจ ซึ่งก้อาจจะทำให้ดัชนี มีโอกาศเกิด New lowในปีนี้ได้ โดยลักษณะการลงน่าจะเป็นไปในทางที่ซึมลงเรื่อยๆ


ดังนั้นช่วงเวลานี้ คงเป็นช่วงที่ดี ที่เราจะเตรียมเงินเตรียมกระสุนเร่งฝึกฝนกำลังพล และเตรียมต่อรองราคาจากผู้ขายจนได้ราคาที่พอใจ และมีการเผื่อส่วนปลอดภัยมากๆ

นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่นักลงทุน VIควรจะทำมากกว่า การไปมองแต่เรื่องการเมืองและปฎิวัติว่า จะเป็นยังไงในระยะสั้นๆ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 24, 2014 5:14 pm
โดย kissme
นิวลง นิวโล อะไร ไม่มีแล้วครัชชช แหม่ ฟันธง คอนเฟิร์ม ทายผิดเอาขี้หมามาพ่นใส่หน้าผมเลย :mrgreen:
อย่าไปดู pe :shock: ถ้าเปรียบ set ตอนนี้ก็เหมือนหุ้น turn around pe n.a. :shock:
ข่าวร้ายชิ้นสุดท้ายที่กดดันตลาดมานาน ได้ผ่านไปเรียบร้อยโรงเรียนรัฐประหารแล้วครัชชช
หลังจากนี้ อาจมี after shock ตามมาอีกสักพัก :mrgreen:

จริงๆ ไม่อยาก comment แนวนี้มาก ออกไปแนวเก็งกำไร
แต่ รายใหญ่เค้าไม่ขายตอนแมงเม่ากลัวหรอกครับ :B ที่สำคัญตอนนี้แม้แต่ vi ยังกลัว :shock:
มันครบองค์ประกอบที่หุ้นต้องขึ้น :shock:
ผมให้ worst case ไม่ต่ำกว่า 1300 แต่ด้านบน ปีหน้าผมมอง all time high เลยทีเดียว
การขายเพื่อไปรับของถูกข้างล่าง เสี่ยงกับการตกรถไฟขบวนใหญ่มาก
จริงๆถ้าทำใจได้ ว่าหุ้นจะลงอีกนิดๆหน่อย ไหนๆก็ทนกับการเมืองมาได้เกือบปี :shock: ไม่น่าขายครับ :D

มาขายอะไร เอาตอนทุกอย่างเคลียร์ชัดขนาดนี้ ใครแพ้ ใครชนะ ตอนนี้หวยออกแล้ว :mrgreen:
เข้าสู่โหมดฟื้นฟูกันแล้ว ท่านประยุทธ์ลุยภารกิจแรกแล้ว ให้รีบจ่ายเงินชาวนา
บอลโลกก็จะมาแล้ว เงินสะพัดมหาศาล :mrgreen:

แถวบ้านใครมีขี้หมาเยอะๆบ้างครับ ผมจะได้ไม่ผ่านแถวนั้น :oops:

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 24, 2014 7:19 pm
โดย ดำ
ขอโทษแทนท่าน kiss me ด้วยครับ พอดีปีนี้ได้แชมป์เลยฮึกเหิมเป็นพิเศษครับ บวกกับช่วงนี้เปิดทีวีฟังเพลงปลุกใจมากไปหน่อย เดี๋ยวจะพากลับห้องนั่งเล่นไปตั้งกระทู้บอลต่อครับ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 24, 2014 9:37 pm
โดย Stock lover
picatos เขียน:
neuhiran เขียน:สำหรับ ท่านที่ลงทุนระยะยาวผมว่าไม่น่าเป็นห่วงนะ
จากประสพการณ์ส่วนตัว ผมเห็นว่า หุ้นมันกลับไปได้เสมอ หลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย
ผมว่าดีซะด้วยซ้ำไปที่ได้ของถูกๆ จากนักลงทุนระยะสั้นที่ตกใจ :D
คำถามที่น่าสนใจกว่า คือ ราคาหุ้นไทยตอนนี้ถูกจริงหรือ?

ตอนที่รัฐประหารปี 49 ตอนนั้นตลาดหุ้นไทย P/E ไม่ถึง 10 เท่า ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านแล้ว P/E เราถูกกว่าประมาณ 26% เศรษฐกิจเติบโตได้ประมาณ 4.5-5% ผลที่ตามมา SET ขึ้น 2.6% ใน 1 เดือนหลังรัฐประหาร และขึ้นไป 15.5% หลังจากผ่านไป 1 ปี

แต่ในขณะนี้ P/E เราประมาณ 13-14 เท่า แถมสูงกว่าเพื่อนบ้านราวๆ 10% แถมแนวโน้มการเติบโตน่าจะติดลบ

ถ้ามองในมุมของ Earning Yield ของตลาดมาลบด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร คิดคร่าวๆ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณสัก 3-4% พูดง่ายๆ ก็คือว่า ลงทุนในหุ้นได้ผลตอบแทนมากกว่าพันธบัตร 3-4% เพื่อแลกกับความเสี่ยงจากการถือหุ้น


หากรับได้ก็โอเคครับ แต่ในการลงทุนระยะยาว ระวังซื้อเผลอไปซื้อของแพงที่เราคิดว่ามันถูก เพราะ มันลดราคาลงมาจากของที่แพงมากๆ อยู่แล้วลงมานะครับ



แล้วส่วนต่างแค่ไหนถึงจะเหมาะเหรอครับ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 24, 2014 9:59 pm
โดย neuhiran
kissme เขียน:นิวลง นิวโล อะไร ไม่มีแล้วครัชชช แหม่ ฟันธง คอนเฟิร์ม ทายผิดเอาขี้หมามาพ่นใส่หน้าผมเลย :mrgreen:
อย่าไปดู pe :shock: ถ้าเปรียบ set ตอนนี้ก็เหมือนหุ้น turn around pe n.a. :shock:
ข่าวร้ายชิ้นสุดท้ายที่กดดันตลาดมานาน ได้ผ่านไปเรียบร้อยโรงเรียนรัฐประหารแล้วครัชชช
หลังจากนี้ อาจมี after shock ตามมาอีกสักพัก :mrgreen:

จริงๆ ไม่อยาก comment แนวนี้มาก ออกไปแนวเก็งกำไร
แต่ รายใหญ่เค้าไม่ขายตอนแมงเม่ากลัวหรอกครับ :B ที่สำคัญตอนนี้แม้แต่ vi ยังกลัว :shock:
มันครบองค์ประกอบที่หุ้นต้องขึ้น :shock:
ผมให้ worst case ไม่ต่ำกว่า 1300 แต่ด้านบน ปีหน้าผมมอง all time high เลยทีเดียว
การขายเพื่อไปรับของถูกข้างล่าง เสี่ยงกับการตกรถไฟขบวนใหญ่มาก
จริงๆถ้าทำใจได้ ว่าหุ้นจะลงอีกนิดๆหน่อย ไหนๆก็ทนกับการเมืองมาได้เกือบปี :shock: ไม่น่าขายครับ :D

มาขายอะไร เอาตอนทุกอย่างเคลียร์ชัดขนาดนี้ ใครแพ้ ใครชนะ ตอนนี้หวยออกแล้ว :mrgreen:
เข้าสู่โหมดฟื้นฟูกันแล้ว ท่านประยุทธ์ลุยภารกิจแรกแล้ว ให้รีบจ่ายเงินชาวนา
บอลโลกก็จะมาแล้ว เงินสะพัดมหาศาล :mrgreen:

แถวบ้านใครมีขี้หมาเยอะๆบ้างครับ ผมจะได้ไม่ผ่านแถวนั้น :oops:

คิดเหมือนกับผม :D

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 24, 2014 11:29 pm
โดย picatos
kissme เขียน:นิวลง นิวโล อะไร ไม่มีแล้วครัชชช แหม่ ฟันธง คอนเฟิร์ม ทายผิดเอาขี้หมามาพ่นใส่หน้าผมเลย :mrgreen:
อย่าไปดู pe :shock: ถ้าเปรียบ set ตอนนี้ก็เหมือนหุ้น turn around pe n.a. :shock:
ข่าวร้ายชิ้นสุดท้ายที่กดดันตลาดมานาน ได้ผ่านไปเรียบร้อยโรงเรียนรัฐประหารแล้วครัชชช
หลังจากนี้ อาจมี after shock ตามมาอีกสักพัก :mrgreen:

จริงๆ ไม่อยาก comment แนวนี้มาก ออกไปแนวเก็งกำไร
แต่ รายใหญ่เค้าไม่ขายตอนแมงเม่ากลัวหรอกครับ :B ที่สำคัญตอนนี้แม้แต่ vi ยังกลัว :shock:
มันครบองค์ประกอบที่หุ้นต้องขึ้น :shock:
ผมให้ worst case ไม่ต่ำกว่า 1300 แต่ด้านบน ปีหน้าผมมอง all time high เลยทีเดียว
การขายเพื่อไปรับของถูกข้างล่าง เสี่ยงกับการตกรถไฟขบวนใหญ่มาก
จริงๆถ้าทำใจได้ ว่าหุ้นจะลงอีกนิดๆหน่อย ไหนๆก็ทนกับการเมืองมาได้เกือบปี :shock: ไม่น่าขายครับ :D

มาขายอะไร เอาตอนทุกอย่างเคลียร์ชัดขนาดนี้ ใครแพ้ ใครชนะ ตอนนี้หวยออกแล้ว :mrgreen:
เข้าสู่โหมดฟื้นฟูกันแล้ว ท่านประยุทธ์ลุยภารกิจแรกแล้ว ให้รีบจ่ายเงินชาวนา
บอลโลกก็จะมาแล้ว เงินสะพัดมหาศาล :mrgreen:

แถวบ้านใครมีขี้หมาเยอะๆบ้างครับ ผมจะได้ไม่ผ่านแถวนั้น :oops:
พอดีผมก็ไม่มีความสามารถในการเก็งกำไร แล้วก็ไม่มีความสามารถในการเดาตลาด... ขนาดคนที่จบ Ph.D. อยู่ในตลาดมา 20-30 ปี ผมก็เห็นเดาทิศทางตลาดถูกบ้าง ผิดบ้าง (แต่เห็นผิดซะส่วนใหญ่) เพราะ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นไม่แน่นอน ดังนั้นผมคงไม่สามารถไปแย้งสิ่งพี่ kissme ฟันธงได้ ... ส่วนเรื่องรายใหญ่ขาย ไม่ขาย หรือ VI กลัวหรือไม่กลัว อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะ ตัวผมเองที่ (คิดว่าตัวผม) เป็น VI บางขณะจิตผมก็กลัว บางขณะจิตผมก็ไม่กลัว บางวันผมก็อยากซื้อ บางวันผมก็อยากขาย เลยรู้สึกว่าการเดาพฤติกรรมหรืออารมณ์ความรู้สึกคนอื่นยิ่งเป็นเรื่องที่เดายากกว่าเดาทิศทางตลาดเสียอีก (แค่จะเดาอารมณ์ตัวเอง เดาพฤติกรรมตัวเองยังเดาไม่ค่อยถูกเลย 555)

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมรู้ ก็คือว่า อัตราผลตอบแทน (ระยะยาว) คาดหวังเฉลี่ยของหุ้นไทยในพอร์ตผมตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 8-9% ในขณะที่อัตราผลตอบแทน (ระยะยาว) คาดหวังของหุ้นต่างประเทศของผมอยู่ที่ 19-20% ในขณะที่ Earning Revision ของหุ้นไทยช่วงที่ผ่านมาปรับลงมาตลอด เทียบกับ Earning Revision ของหุ้นต่างประเทศปรับขึ้นมาตลอด ในขณะที่ผมก็ Question กับการเติบโตของผลประกอบการของกิจการไทยในช่วงที่ผ่านมาว่าเป็น Structural Change หรือว่าเป็นผลของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นเพียงแค่ One-Time Gain แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่ากิจการต่างประเทศที่ผมเลือกเติบโตได้ดีจาก Stuctural Change จริงๆ

ผมเดาตลาดไม่เป็น ผมเลยทำได้แค่จัดพอร์ตตามหน้าไพ่ที่ออกมา ถ้ามีโอกาสตีแตก ผมก็พร้อมจะถือหุ้นตัวเดียวอัดมาร์จิ้น แต่ถ้า Probability แบบนี้ ผมก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการจัดพอร์ตส่วนใหญ่ให้เป็นหุ้นต่างประเทศ ส่วนน้อยเป็นหุ้นในประเทศ และมีเงินสดที่เผื่อว่าจะมีหุ้นไทยที่ให้อัตราผลตอบแทนในระยะยาวสัก 15% ผ่านเข้ามาให้ได้ลงทุนบ้าง

ไม่รู้เหมือนกันว่า VI คนอื่นๆ คิดอย่างไร และจัดพอร์ตอย่างไรกันบ้าง... ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยได้เจอใคร ไม่ค่อยได้คุยกับใคร... หากไม่มีการรบกวน อยากได้ไอเดียในการลงทุนจากเพื่อนๆ VI ท่านอื่นๆ บ้างเหมือนกันครับ ว่าแต่ละคนจัดสัดส่วนพอร์ตกันอย่างไรใน Valuation ของตลาดแบบนี้ และมีกลยุทธ์อย่างไรกันบ้าง

ขอบคุณครับ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 24, 2014 11:50 pm
โดย picatos
cyber-shot เขียน:
picatos เขียน:
neuhiran เขียน:สำหรับ ท่านที่ลงทุนระยะยาวผมว่าไม่น่าเป็นห่วงนะ
จากประสพการณ์ส่วนตัว ผมเห็นว่า หุ้นมันกลับไปได้เสมอ หลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย
ผมว่าดีซะด้วยซ้ำไปที่ได้ของถูกๆ จากนักลงทุนระยะสั้นที่ตกใจ :D
คำถามที่น่าสนใจกว่า คือ ราคาหุ้นไทยตอนนี้ถูกจริงหรือ?

ตอนที่รัฐประหารปี 49 ตอนนั้นตลาดหุ้นไทย P/E ไม่ถึง 10 เท่า ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านแล้ว P/E เราถูกกว่าประมาณ 26% เศรษฐกิจเติบโตได้ประมาณ 4.5-5% ผลที่ตามมา SET ขึ้น 2.6% ใน 1 เดือนหลังรัฐประหาร และขึ้นไป 15.5% หลังจากผ่านไป 1 ปี

แต่ในขณะนี้ P/E เราประมาณ 13-14 เท่า แถมสูงกว่าเพื่อนบ้านราวๆ 10% แถมแนวโน้มการเติบโตน่าจะติดลบ

ถ้ามองในมุมของ Earning Yield ของตลาดมาลบด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร คิดคร่าวๆ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณสัก 3-4% พูดง่ายๆ ก็คือว่า ลงทุนในหุ้นได้ผลตอบแทนมากกว่าพันธบัตร 3-4% เพื่อแลกกับความเสี่ยงจากการถือหุ้น


หากรับได้ก็โอเคครับ แต่ในการลงทุนระยะยาว ระวังซื้อเผลอไปซื้อของแพงที่เราคิดว่ามันถูก เพราะ มันลดราคาลงมาจากของที่แพงมากๆ อยู่แล้วลงมานะครับ



แล้วส่วนต่างแค่ไหนถึงจะเหมาะเหรอครับ
ตามบทความนี้ http://www.dekisugi.net/archives/30269 Equity Risk Premium ที่พี่โจ๊กใช้คือ 5%

Implied Equity Risk Premium เป็นค่าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตามความโลภ ความกลัว ตาม Risk Appetite ตามสภาวะตลาด และอารมณ์ของนักลงทุน

Implied Equity Risk Premium จริงๆ แล้วมี Growth Factor สอดอยู่ข้างในด้วย หากว่ามี Structural Change บางอย่างที่ทำให้ Growth ระยะยาวเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ P/E ในระยะยาวสูงขึ้นได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็น One-Time Growth อย่างเช่น ตลาดรับรู้ว่าจะมีการลดภาษีในอนาคต ซึ่งกรณีนี้หุ้นจะขึ้นทำให้ P/E สูงขึ้นตามในช่วงเวลาก่อนที่ผลประโยชน์จากนโยบายจะสะท้อนเข้าสู่งบ หลังจากนั้นที่กำไรใหม่ที่ได้ประโยชน์จากภาษีสะท้อนเข้าสู่งบ P/E ก็จะกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยในระยะยาว (Mean Reversion) เลยเกิดเหตุการณ์ที่ Implied Risk Premium เป็น 0% ดังนั้นอย่างตกใจหากบางครั้งเราเห็น Risk Premium เป็นต่ำมากๆ เช่นเดียวกัน ก็อย่าคิดว่าเป็นโอกาสซื้อ หากเห็นว่า P/E ต่ำผิดปกติจากค่าเฉลี่ยในระยะยาว ต้องเช็คก่อนว่าเป็น One-Time Shift หรือว่า Misprice

ถามว่าส่วนต่างแค่ไหนถึงจะเหมาะสม... คำตอบสุดท้าย คือ ค่าที่คุณพอใจ ค่าที่คุณสามารถทนถือหุ้นเอาไว้ได้โดยกินได้นอนหลับ แม้ว่าหุ้นจะตกไป 50% เพราะ คุณรู้ว่าคุณเข้าใจกิจการนั้นดีพอ และผลตอบแทนระยะยาวอย่างน้อยที่สุดที่คุณจะได้จากการลงทุน คือ เท่าไหร่ และมาจากไหน

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 12:08 am
โดย วรันศ์ บัฟเฟต
อย่าลืมปีหน้าเมกาขึ้นดอกเบี้ย ....... รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบอนด์ตลาดเกิดใหม่และเงินที่เข้ามา carry trade ในตลาด equity ตั้งแต่ 2009 ผมว่าไม่น่าจะง่ายซะทีเดียว อย่างแรกฝรั่งไม่โง่ ประเทศเค้ารวมถึงประเภทพัฒนาแล้วอีกมากมายผ่านอะไรมาเยอะกว่าเรามาก ดูตามสถิติย้อนหลังกลุ่มนลท.ที่ return ดีสุดก็ยังฝรั่ง อะไรถึงทำให้คิดว่าฝรั่งไม่เข้าใจสถานการณ์การเมืองบ้านเราและแพนิคขายทิ้ง น่าจะพอรู้กันแล้วว่าเวลาตลาดไทย crash หนักๆยาวๆหนะแทบจะไม่ได้มาจากการเมืองเลยสักครั้ง ของไม่ดีมันทิ้งของดีมันโดดเข้าใส่หละ ขายสะสมไว้เท่าไหร่ปีที่แล้วหละ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 1:20 am
โดย leky
ผมเองหลัง ๆ ไม่ค่อยได้สนใจการเคลื่อนไหวของตลาดในภาพรวมเท่าไหร่ครับ ยกเว้นจะเป็นเรื่องใหญ่ ๆ จริง ๆ เพราะผมจะมองที่บ.รายตัวครับ และผมก็เชื่อว่าถ้าเราดูดี ๆ บ.ที่ยังมีราคาถูกและให้ผลตอบแทนในการลงทุนที่ดี ยังมีให้เห็นได้เรื่อย ๆ ครับ

ผมว่าไม่ว่าเราจะซื้อหุ้นไทยหรือหุ้นต่างประเทศ ถ้าเราเลือกหุ้นผิดตัว ถึงแม้ผลตอบแทนโดยรวมของตลาดแห่งนั้นจะดี แต่ผลตอบแทนจากหุ้นที่เราซื้อผิดตัวมันก็ทำให้แย่ได้ครับ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 8:50 am
โดย naphas12
จะมีผลต่อการจัดอันดับของ มูดีส์ S&P ไหม
และจะมีการบอยคอตสินค้าจากไทยไหม

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 8:58 am
โดย Nevercry.boy
ผมชอบที่คุณ kissme. เขียนครับ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 9:11 am
โดย iceberg
ความเห็นผมนะครับ

ในระยะสั้นตลาดจะให้ราคาถูกเสมอครับ
ระยะยาวตลาดมีโอกาสถูกมากกว่าผิดครับ

สิ่งที่จะต้องรู้ คือ การทำกำไรจากตลาดระยะยาวที่ให้ราคาผิดครับ

ซึ่งเป็นเรื่องยากพอสมควรครับ
และแน่นอนว่ามีคนทำได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้
ขึ้นอยู่กับขอบเขตความสามารถและดวงครับ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 9:24 am
โดย dome@perth
ประสบการณ์ของผมนัอยนัก
บริหารพอร์ตก็ไม่ค่อยเป็น
ขอเป็นคนอ่านนะครับ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 9:38 am
โดย Nevercry.boy
dome@perth เขียน:ประสบการณ์ของผมนัอยนัก
บริหารพอร์ตก็ไม่ค่อยเป็น
ขอเป็นคนอ่านนะครับ
ก็เพราะพี่ท่านถ่อมตัวแบบนี้ เรียนรู้ไม่หยุดทุกวัน

น้ำไม่เคยเต็มแก้วแต่แก้วใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้น

จึงประสบความสำเร็จมากครับ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 10:14 am
โดย dome@perth
Nevercry.boy เขียน:
dome@perth เขียน:ประสบการณ์ของผมนัอยนัก
บริหารพอร์ตก็ไม่ค่อยเป็น
ขอเป็นคนอ่านนะครับ
ก็เพราะพี่ท่านถ่อมตัวแบบนี้ เรียนรู้ไม่หยุดทุกวัน

น้ำไม่เคยเต็มแก้วแต่แก้วใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้น

จึงประสบความสำเร็จมากครับ
ชมมากไปแล้วครับท่าน NB
ผมรู้สึกว่ายิ่งอ่าน ยิ่งศึกษามากขึ้น
ยิ่งทำให้รู้ว่า เรารู้น้อยจัง

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 10:23 am
โดย BeSmile
ผมชอบทั้งที่ พี่ picatos และ พี่ kissme ให้ความเห็นครับ

เป็นการมองคนละมุม ที่ชัดเจนดี


ส่วนตัวคิดว่าเป็นการรัฐประหาร ที่เร็วมาก ทั้งสองฝ่ายยังตั้งตัวไม่ทัน

ถ้า 1-2 อาทิตย์งข้างหน้า ไม่เกิดเหตุรุนแรง

แล้วอีก 1-2 เดือนมีรัฐบาลรักษาการได้ ก็จะดีมาก

ส่วนหุ้นก็ยังคงดูเป็นรายตัว เหมือนเดิม

ใน วิกฤติ มีโอกาศ เสมอ

แล้ว โอกาศ ก็เป็น วิกฤติ ได้ ถ้าลงทุนโดยไม่มี MOS เพียงพอ

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 10:28 am
โดย Ii'8N
ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่เล่นกับอารมณ์ตลาดไม่เป็น
และบวกกับพยายามดูเทคนิคตามโบรคมั่ง ทฤษฎีพอรู้นิดๆ แต่ปฏิบัตื ยังไงก็พลาดตลอด
ไม่เคยซื้อได้ที่ต่ำสุด ไม่เคยขายได้ตอนตลาดสูงสุดจริงเลย ที่เคยได้ก็มีแต่ฟลุ๊กนิดหน่อย


ถึงผมมีเพื่อนเรียนมัธยมต้นมาด้วยกัน เป็นพันเอกแห่งกองทัพไทยแล้ว... แต่ผมไม่ชอบการยึดอำนาจเอาเลย
ผมไม่ได้มองโลกแบบฝัน แบบอุดมคติ ว่าเป็นการปล้นประชาธิปไตยอะไร แต่มองที่วัตถุประสงค์จริงและผลลัพธ์
เพราะที่ผ่านมา ไม่มีใครจริงใจ สิ่งที่พูดว่า สิ่งที่ทำเพื่ออะไร ล้วนเป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจรัฐทุกคราวจริงๆ แล้วผลออกมาก็สรุปออกมาจริงๆ ว่าทำเพื่อการเมือง มีผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องมาผสม
เหมือนบอกว่า "ที่รักผมรักคุณ จะทำเพื่อคุณ" แต่อ้าว... เฮ้ย... ทำเพื่อความสนุกของตัวเอง มีเมียหนึ่งลูกสอง หรือมีลูกหนึ่งเมียสองไปแล้ว แล้วค่อยมาหาวิธีแก้ตัวเพราะหลงได้เสียเป็นเมียอีกบ้านไปแล้ว


ส่วนรอบนี้ ถ้าว่าการยึดอำนาจไม่กี่วันมานี้ชัดแล้ว
ผมขอออกความเห็นส่วนตัวว่า มันยังไม่ออกผลชัด... เป็นแค่เริ่มต้น เหมือนช่วงฮันนีมูน
ไม่นานก็ต้องคอยดูว่าท่านประยุทธเป็นตัวของตัวเองรึเปล่า ยึดอำนาจเพื่อตัวเองหรือเพื่อพวกพ้อง เพื่อใครหรือเปล่า และหลังได้อำนาจ จะระเริงในอำนาจหรือเปล่า

ก็ได้แต่หวังว่า อนาคตอันใกล้ ที่ในที่สุด ก็ไม่สามารถปิดบังวัตถุประสงค์ในใจได้มิดชิด ก็จะเห็นผลชัดเอง ดังที่ผู้ใหญ่ว่าไว้ที่ว่ากรรม (ที่แปลว่าการกระทำ) จะเป็นเครื่องส่อเจตนาเอง
ว่าท่านจะกลายเป็นได้แค่นักรักแต่ปาก นักแอบอ้าง เดินตามรอยแบบเหล่าบรรพบุรุษทหารของท่านอีกคนหรือไม่
ถ้าเป็นแบบนั้น เราคงได้เห็นเหตุการณ์การเมืองรุนแรงอีกรอบ แล้วมีโอกาสในการซื้ออีกรอบ

แต่ถ้าท่านเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่ยึดอำนาจด้วยความจริงใจที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศชาติให้ดีขึ้น ... ถึงจริงๆ จะมี hidden agenda แฝงอยู่บ้างก็ตามที ยังไงก็มีบ้าง แต่ที่รู้ตอนนี้ ยังไม่เกินขั้นที่รับไม่ได้
ผมหวังว่า มันจะทำให้ประเทศเราที่ยักตื้นติดกึกยักลึกติดกัก เดินหน้าถอยหลังเหมือนคนเมาโซเซ แต่กลายเป็นถอยมาตั้งหลักใหม่ แล้วกระโดดสปริงตัว เหมือนเกาหลีใต้หลังวิกฤติต้มยำกุ้ง...

ผมไม่อยากให้จบลงแบบนวนิยายการเมืองไทยซ้ำซาก ไม่อยากเห็นท่านประยุทธเป็นคนคด แล้วถูกบีบให้ต้องมีพฤติกรรมและภาพกลายเป็นทรราช เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ก็จะได้มีเหตุการณ์ประเทศชาติอืดซึมยาว และเหตุการช๊อคสั้นๆ ให้ช๊อปของถูกตามมากันอีกเป็นระลอก (ไม่ดีเลย... เหมือนเราได้จับปลาที่มีจำนวนน้อยตัวใหญ่อ้วนท้วนก็หายาก แต่จับได้เพราะมันถูกชาวบ้านโยนยาเบื่อ หรือเหวี่ยงระเบิดใส่เลยเมาหรือตายลอยมาให้จับง่าย)

แต่อยากได้เห็นเป็นวีรบุรุษสุภาพบุรุษรัฐประหารคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย จะให้เป็นรัฐบุรุษเลยก็ได้ ถ้าสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อประเทศจริง... แล้วเราจะได้มานั่งดูหุ้นดูกิจการในตลาดแข่งกันเติบโตกัน จนตาลายเลือกไม่ถูก เพราะมีแต่ราคาแพง แต่ของดีจริงย่อมยังมีแพงกว่า แบบฟิชเชอร์ และมังเกอร์ชอบ... แค่เอาสวิงแกว่ง ก็ได้ปลา เพราะมีแต่ปลาตัวใหญ่ๆ กระโดดตูมๆ เต็มน่านน้ำละลานตาไปหมด

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 10:44 am
โดย yoko
ผมเริ่มเตรียมเงินไว้รอเวลา
เราได้จับปลาที่มีจำนวนน้อยตัวใหญ่อ้วนท้วนก็หายาก แต่จับได้เพราะมันถูกชาวบ้านโยนยาเบื่อ หรือเหวี่ยงระเบิดใส่เลยเมาหรือตายลอยมาให้จับง่าย หรือ
เราจะได้มานั่งดูหุ้นดูกิจการในตลาดแข่งกันเติบโตกัน จนตาลายเลือกไม่ถูก เพราะมีแต่ราคาแพง แต่ของดีจริงย่อมยังมีแพงกว่า แบบฟิชเชอร์ และมังเกอร์ชอบ... แค่เอาสวิงแกว่ง ก็ได้ปลา เพราะมีแต่ปลาตัวใหญ่ๆ กระโดดตูมๆ เต็มน่านน้ำละลานตาไปหมด


:D :D :D :D :D

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 11:37 am
โดย picatos
ได้กลับมาย้อนอ่านสิ่งที่ตัวเองโพสต์ลงไป รู้สึกว่า เป็นโพสต์ที่ไม่สำรวมระวัง ทำให้เกิดการกระทบกระทั่ง อาจะทำให้พี่ๆ และเพื่อนๆ ไม่สบายใจ ซึ่งดูแล้วไม่เหมาะสมเลย

ผมเสียใจต่อการกระทำอันไม่สมควรดังกล่าว จึงขอกราบขออภัยต่อพี่ๆ เพื่อนๆ โดยเฉพาะพี่ kissme ด้วยนะครับ ได้โปรดอโหสิให้กับข้อความอันไม่สมควรของผม เพื่อความสำรวมระวังในอนาคตของผมครับ

ผมขอโทษนะครับ

:bow: :bow: :bow:

Re: เกิดเหตุปฏิวัติ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 25, 2014 1:04 pm
โดย Stock lover
ขอบคุณคุณPicatosมากครับที่ให้ความรู้