Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เพราะอะไร?

Nevercry.boy เขียน:เพราะอะไร?

อุ้ย...โหวตคนแรกเลยเรา

โหวตข้อดูตัวหุ้นอย่างเดียวครับพี่NB
เพราะว่าเราลงทุนในตัวธุรกิจครับ
ถ้าเจอหุ้นที่ชอบในราคาที่ใช่ อย่างอื่นผมไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่ครับ
ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด แต่ทำแบบนี้มันตรงกับจริตหน่ะครับ
แล้วก็ หลังๆผมไม่ค่อยปรับพอร์ตแล้วครับ
เนื่องจากผมเน้นเลือกธุรกิจที่จะถือได้3-4ปี ไว้เป็นหลักของพอร์ต
สำหรับหุ้นบางตัวที่กระแสแรงๆ ก็อาจซื้อติดพอร์ตไว้ตามดูสนุกๆนิดหน่อย เผื่อมันวิ่งแรงๆ
จะได้ไม่ต้องอิจฉาคนอื่นมากนัก แค่นั้นแหละครับ

ถ้าใครเป็น day trade คงตอบถูกทุกข้อ

แหม่...กำลังจะถามว่ามีถูกทุกข้อมั้ย

ผมคิดว่าจังหวะตลาดขึ้นแรงๆ กับทิ้งดิ่ง มักมีหุ้นหลายๆตัววิ่งขึ้น หรือลงแบบโอเวอร์ไปเยอะครับ
ทำให้บางครั้งอาจเป็นโอกาสให้ปรับพอร์ต

ปรับเวลาวิเคราะห์ผิดครับ หรือเจอโอกาสที่ดีกว่า

ชอบปรับพอร์ตเมื่อรู้สึกว่าหุ้นในพอร์ตแพง และ/หรือ เห็นโอกาสลงทุนดีๆ ที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวสูงกว่าในพอร์ตอย่างมีนัยสำคัญ

ถ้าจะปรับ Port ผมมักดู relative กับทางเลือกอื่น ๆ เสมอ
มากกว่าจะดูหุ้นเป็นรายตัว

แต่การคัดเลือกหุ้นธุรกิจที่จะลงทุนใน Port จะเลือกดูเป็นรายตัวครับ

หาก Port หุ้นยังเดินหน้าต่อเนื่องได้ดี ก็ไม่มีความจำเป็นต้องปรับ Port แต่อย่างไร แม้หุ้นบางตัวใน Port จะไม่ Perform ในระยะสั้นแดง ๆ บ้าง ก็ดี ช่วยเตือนสติให้ลงทุนไม่ประมาท 555

เพราะการปรับ Port บ่อยครั้งเกินไป นอกจากต้องเสีย COM 2 ต่อทั้งขายตัวเดิม และซื้อตัวใหม่ ที่เป็นต้นทุนที่มากพอควรแล้ว พอมีเงินเหลือมาก ๆ เรามักจะนำเงินไปลงทุนต่อในทันทีเพราะดอกเบี้ยเงินฝากต่ำมากไม่ได้ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มการลงทุนที่เหมาะสม การลงทุนต่อในตัวใหม่บ่อยครั้งและบางครั้งก็กลับไปสร้างความเสี่ยงใหม่ ๆ ที่สูงขึ้นเหมือนหนีเสือปะจระเข้ตัวโตที่เราอาจนึกไม่ถึงมาก่อนของหุ้นธุรกิจใหม่ที่เราลงทุน

เพราะเวลาที่เราเริ่มลงทุนหุ้นตัวใหม่จากการขายตัวเก่าออกมา เรามักจะมีปัญหาว่า หุ้นที่เราเลือกมาใหม่เราจะมีความมั่นใจไม่มากเท่ากับหุ้นที่เราลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ เพราะหุ้นธุรกิจเดิมที่เราลงทุน เราได้ติดตามผลงานอย่างใกล้ชิดเป็นปี หรือเป็นระยะเวลานานพอควร ทำให้เรามีความรู้ในธุรกิจนั้นจนเทำให้เราเข้าใจหุ้นธุรกิจนั้นอย่างดี ถ่องแท้ และรู้ปัจจัยหลักที่เป็น Driver สร้างมูลค่าและ ความเสี่ยงพื้นฐานของธุรกิจนั้นเป็นอย่างดี

เท่าที่เคยดูประวัติตัวเอง

เหมือนชอบปรับตอนทิ้งดิ่งครับ เหมือนมันมีโอกาสซ่อนอยู่ในข่าวร้ายเสมอ หุ้นบางครั้งถูกเหลือเชื่อ

ส่วนตอนหุ้นวิ่งแรง ๆ บางที ตลาดเพิ่งเห็นด้วยกับเรา ก็ไม่ค่อยได้ปรับอะไรครับ

ส่วนตลาดตอนอื่น ก็เรื่อย ๆ ครับ จะปรับตอนเจอหุ้นเด็ดเสียมากกว่า

ปรับตอนขึ้นแรงๆครับเพราะทุกครั้งที่หุ้นขึ้นแรงมากๆ นักลงทุนส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยความโลภซึ่งมีโอกาสสูงที่อาจจะมีแรงเก็บกำไรเข้ามาในหุ้นของเรา

และทำให้ราคาถึงเป้าหมายเร็วกว่ากำหนดหรืออาจจะเกินมูลค่าที่ควรจะเป็นไปมาก จึงเป็นโอกาสดีในการปรับพอร์ตลงทุนครับ

มีสองกรณี หนึ่งคือหุ้นบางตัวขึ้นไปมากแล้วเราคิดว่าน่าจะพอใจแล้ว ซึ่งขายหมูไปก็เยอะ
สองคือหุ้นบางตัวลงมาเยอะรู้สึกว่าตัวเองคงมองอะไรผิดไปครับ

แต่ถ้าถามว่าช่วงเวลาไหนของ SET ที่ปรับพอร์ตเยอะ ผมว่าเป็นช่วงตลาด panic นะ ผมยังมีอารมณ์ร่วมกับตลาดเยอะพอควรครับ

ตอนทิ้งดิ่งครับ มองว่าเป็นโอกาสเก็บหุ้นทั่ี่ชอบ ที่ได้แต่เล็งมานาน

ปรับเมื่อ ใจอึดอัด