Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

วันที่ 30 ก.ค. สน.แสมดำ ตรวจสอบเหตุคนตกตึกบริเวณคอนโดสะแกงาม อาคารเอ ซอยสะแกงาม 34 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ พบศพนายสรรพคุณ สัตยาภรณ์พิสุทธิ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/380 ซอยลาดพร้าว 58/1 แขวงและเขตวังทองหลาง สอบสวนทราบว่าผู้ตายอาศัยอยู่กับญาติที่ชั้น 2 ของอาคารที่เกิดเหตุ โดยกระโดดลงมาจากชั้น 7 จนเสียชีวต สอบสวนทราบว่าเครียดจากการเล่นหุ้นจนหมดตัว ต้องมาอาศัยญาติอยู่ และขอข้าวก้นบาตรที่วัดสะแกงามประทังชีวิต

ที่มา

http://www.khaosod.co.th/view_newsonlin ... &subcatid=

คงเดย์เทรด
ที่จะหมดตัวได้คือ เล่นบัญชีมาร์จิ้น

มีปัญหาอย่างอื่นด้วยรึเปล่าครับ ลำพังเงินหมดถ้าไม่เป็นหนี้ด้วยก็ยังกลับตัวได้นะครับ ไม่น่าคิดสั้นเลย

เดี๋ยวนี้ตลาดหลักทรัพย์เค้าชอบรณรงค์ให้คนเล่น future / option มั้งครับ อันนี้คงเป็นอาการข้างเคียงชนิดรุนแรงจากเครื่องมือข้างต้น แต่ไม่ได้เขียนบอกไว้ในฉลาก

จิงๆเป็นหนี้ก็ล้างหนี้ได้คับ ผมเองเคยโดนต้มยำกุ้งเล่นงานจนเป็นหนี้มากทีเดียวแต่ก็กัดฟันทำงานหนักและเก็บเงินใช้หนี้ 70-80 % ของรายได้สองปีจึงหมดจากนั้นก็เริ่มเก็บเงินใหม่ ผมว่าการคิดบวกและมีกำลังใจต่อสู้สำคัญมากๆในการล้มแล้วลุกคับ เป็นกำลังใจให้คนที่เคยล้มหรือกำลังลุกอยู่คับ คนที่ไม่เคยล้มก็ขอให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทคับ

แสดงความเสียใจกับญาติๆเค้าด้วยนะครับ

ptaseeker เขียน:เดี๋ยวนี้ตลาดหลักทรัพย์เค้าชอบรณรงค์ให้คนเล่น future / option มั้งครับ อันนี้คงเป็นอาการข้างเคียงชนิดรุนแรงจากเครื่องมือข้างต้น แต่ไม่ได้เขียนบอกไว้ในฉลาก

เล่น future / option เหมือนกับเล่นพนันชัดๆ จะถือเอาไว้กินปันผลก็ไม่ได้

เห็นข่าวนี้
ทำให้คิดถึง ตอนปี 2540 ที่ลงหนังสือพิมพ์บ่อยมากๆๆ ในช่วงนั้น
กระโดดตึก ยิงตัวเองตาย จากการลงทุนในตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ช่วงนั้นได้แต่อ่านข่าว แต่ไม่ได้ลงทุน)

miracle เขียน:เห็นข่าวนี้
ทำให้คิดถึง ตอนปี 2540 ที่ลงหนังสือพิมพ์บ่อยมากๆๆ ในช่วงนั้น
กระโดดตึก ยิงตัวเองตาย จากการลงทุนในตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ช่วงนั้นได้แต่อ่านข่าว แต่ไม่ได้ลงทุน)

เป็นบันทึกเหตุการณ์ด้านล่างของบล็อกครับ

เสียงปืนก็ดัง เปรี้ยง!!! ณ อาคารสินธร
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id ... 23&gblog=3

โห โหดมากๆ ครับเฮียปรัชญา ช่วงนั้น เฮียเล่นหุ้นอยู่ละเปล่า

Jeng เขียน:โห โหดมากๆ ครับเฮียปรัชญา ช่วงนั้น เฮียเล่นหุ้นอยู่ละเปล่า

เล่นหุ้นครับ เจ๊ง ครับ รอบนั้นหมดตูดครับ

nuk เขียน:

ptaseeker เขียน:เดี๋ยวนี้ตลาดหลักทรัพย์เค้าชอบรณรงค์ให้คนเล่น future / option มั้งครับ อันนี้คงเป็นอาการข้างเคียงชนิดรุนแรงจากเครื่องมือข้างต้น แต่ไม่ได้เขียนบอกไว้ในฉลาก

เล่น future / option เหมือนกับเล่นพนันชัดๆ จะถือเอาไว้กินปันผลก็ไม่ได้

เรื่อง option เหมือนการซื้อประกัน มากกว่าครับ ถ้าใช้เป็น น่าจะช่วยลดความเสี่ยงมากกว่า

ผมมีวิธีมานำเสนอนะครับ

สำหรับบัญชี Cash ก่อนการซื้อหลักทรัพย์ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 มีเงินล้านนึง เทรดได้ในวงเงิน 6,666,666 บาท กะรวยครับ เทรดเต็มวงเงินไปเลย ไปซื้อ RPC สัก 6 ล้าน ซื้อตอนเช้า ATO เลย ครับ ตกเย็น -29.93% เท่ากับว่า ต้องชำระวันนี้ 1,995,333 บาท ทั้งที่ เงินมีอยู่แค่ 1 ล้าน เป็นหนี้สิครับ อีก 3 วันต้องหาตังค์เกือบล้าน วันรุ่งขึ้น เปิดมา 1.45 เอาวะ ลงมาเยอะ รอเด้ง ปิดไป 1.40 โดนไป -27% เป็นเงินประมาณ 1,261,259 ล้าน รวมสิริเป็นหนี้ 2 ล้าน โดยไม่ต้องใช้ margin / future / option ใดๆ

ปล. RPC ติด cash balance คงทำไม่ได้ แต่ EforL เมื่อวาน น่าจะทำได้ งบดุลไม่ขาดทุน ไปลองทำดูนะครับเป็นประสบการณ์ชีวิต

ผมยังจำข่าวที่นลท.ยิงตัวตายที่ตึกสินธรได้ครับ จำภาพตอนที่เค้าเอาปืนจ่อตัวเองได้เลย เค้ายิงไปหนึ่งนัดแต่เค้าไม่ตายนะครับ

เกิดจากโดนโบรกฟอร์ซเซลล์ เลยหมดตัว ผมสงสารผจก.ตลาดหลักทรัพย์ในยุคนั้นนะ คุณเสรี จินตนเสรี ที่ต้องลงไปเจรจา แล้วเหมือนเค้าจะยิงปืนต่อหน้าคุณเสรีเลย

สมัยนั้นพอหุ้นตกหนัก นลท.ก็จะโวยไปที่ตลท. บางทีก็จะมีกองทุนพยุงหุ้นออกมา บ้างก็มีข่าวว่าผู้มีอำนาจสั่งกองทุนให้ช้อน หุ้นตกหนัก ๆ ที ผจก.ตลาดหลักทรัพย์ก็จะโดนด่า ทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย

ลงทุนเงินสดดีที่สุด อย่าไปเล่นมาร์จิ้น อย่าไปเล่น short sell เลย

อย่ามุ่งเน้นหาความร่ำรวย แต่ให้มุ่งเน้นหาความมั่งคั่ง พอเพียง

แต่ละคนใช้เงินไม่เท่ากัน อยู่อย่างจนไม่จน

ที่สำคัญ อย่าไปเปรียบเทียบกับใคร เรารวยขึ้น เมื่อเทียบกับตัวเราก็พอแล้ว

ถ้าเราจนลง ผิดพลาด เราก็เรียนรู้ เริ่มต้นใหม่ ไม่ต้องฆ่าตัวตาย

วอเรน บัพเฟต มุ่งเน้นไม่ขาดทุน แต่คนอื่นมุ่งเน้นทำกำไร

ยุคสมัยนี้ ส่วนตัวผมคิดว่าสาเหตุหลักในการทำให้มือใหม่ที่หวังจะรวยเร็วๆในตลาดหลักทรัพย์หมดตัวอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นาน ก็คือ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯครับ หลังจากผมได้ดูเทปล่าสุดของรายการ money talks แล้วทำให้พบวิธีแก้ปัญหานี้ได้โดยการประยุกต์ใช้วิธีของท่านอ.ไพบูลย์ครับ

วิธีแก้ที่ผมคิดได้มี 2วิธีครับ

1.ควรจะมีการเปิดสอบใบอนุญาติการเทรดตราสารอนุพันธ์ให้กับปชช.ทั่วไปโดยตลาดหลักทรัพย์ครับ เมื่อสอบผ่านแล้วถึงจะสามารถเปิดพอร์ตเพื่อการเทรดตราสารอนุพันธ์ได้ครับ จุดประสงค์คล้ายกับการออกใบขับขี่ครับ แต่ถ้ายุงยากในการปฏิบัติผมก็คิดวิธีที่2เพื่อไว้ครับ

2.จำกัดจำนวนสัญญาในการเทรดของมือใหม่ครับ (ส่วนตัวคิดว่าตอนเปิดพอร์ตใหม่ควรจะเทรดได้สูงสุดไม่เกิน3สัญญาครับ) และจะสามารถเพิ่มจำนวนสัญญาในการเทรดเป็นระดับๆต่อไปได้ก็ต่อเมื่อพอร์ตการเทรดรายไตรมาสเป็นบวกครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับพี่ที่ร่วมแบ่งปันในกระทู้นี้ เป็นอุทาหรณ์ที่ดีสำหรับมือใหม่อย่างผมเลยครับ

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
การลงทุนไม่ได้น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือนักพนันที่เข้าใจว่าตนเป็นนักลงทุน
RIP

เราไม่มีวันรู้เลยว่า สิ่งแวดล้อม ความกดดัน ความเครียด มันมีมากมายขนาดไหนเพราะเราไม่ได้ไปยืนในจุดเดียวกับที่เค้ายืน การโดดตึกอาจไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้องแต่มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับเค้าในเวลานั้นแล้วก็ได้ครับ ผมให้ความเคารพกับทุกการตัดสินใจ และการตัดสินใจครั้งนี้อาจจะทำให้หลายคนที่กำลังลุ่มหลงในตลาดหุ้นกลับมาได้สติและฉุกคิด ขอให้ผลบุญเหล่านี้ส่งกลับไปให้พี่เค้าด้วยครับ

อ่านแล้วยังขนลุกอยู่เลยครับ ลงอะไรช่วงนี้เหมือนจะลงไปซะหมดเลย แต่ Eforl สวนกระแส ขอให้วันจันทร์นี้ขึ้นอีกเหอะ....

เรื่องการกระโดดตึกผมเห็นว่ามันไม่ใช่ทางออกครับ ทุกคนบนโลกใบนี้ย่อมต้องฟันฝ่ากับปัญหาทั้งนั้น แต่สิ่งที่ต้องรักษาไว้คือ "ชีวิต" และสิ่งที่ต้องมี คือ "กำลังใจ"

จากประสบการณ์ตรงในพอร์ตผม เคยขาดทุน ติดลบตัวแดงๆเกือบแสนกว่าบาท แต่ด้วยเป็นการใช้บัญชีแบบเงินสด เลยไม่มีการบังคับขาย ก็เลยพอมีเงินเดือนนำมามาแก้หุ้นที่ติดลบ ก็ดูกิจการเขาไปด้วย เราอาจจะเขาไปซื้อตอนแพง พอเงินเดือนออกก็เลยเจียดเงินมาซื้อตอนที่ราคาต่ำ ก็สะสมไปเรื่อยๆ ผ่านไปเกือบปี
ตอนนี้ก็กลับมามีกำไรคุ้มค่าแก่การรอคอย ครับ หรือแม้แต่บางตัวที่เป็นหุ้นเสี่ยงๆ ก็ศึกษาให้รายละเอียดว่ากิจการยังพอไปได้ไหม อาจจะถือยาวหน่อยเป็นปี แล้วค่อยสะสมเอา ก็มักจะแก้ปัญหา ขาดทุนหนักๆได้ แต่ผมว่าหัวใจก็คือความรู้ และก็เงินสด เพราะผมก็ค่อยๆสะสมเข้าพอร์ตเอาครับ วิธีนี้อาจะไม่ถูกต้องสะทีเดียวแต่ก็พอแก้ปัญหาออกมาได้บ้างครับ ยกเว้นบางตัวกิจการไม่ดีจริงก็ยอม ตัดขาดทุนออกมาไปซื้อสะสมตัวที่ดีก็เป็นอีกทางหนึ่งที่เอาตัวรอดมาใน 2ปี ที่ผ่านมาครับ

จะเก็บเรื่องแบบนี้ไว้เตือนสติเลยผม