Moneytalk@SET9Aug14หุ้นเด่นMAI&ทางมั่งคั่งมนุษย์เงินเดือน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 10, 2014 2:40 am
Money talk@SET 9Aug2014
ช่วงที่ 1 สัมมนาหัวข้อ "หุ้นเด่น set-mai (2014)"
1. คุณ บวร วงศ์สินอุดม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC
2. คุณ ทรงพล ชัญมาตรกิจ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD
3. คุณ เทพทัย ศิลา
กรรมการผู้จัดการ AUCT
4. คุณ อัญรัตน์ พรประกฤต
ประธานเจ้าหน้าบริหารการเงิน JUBILE
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ นพ.ศุภศักดิ์ หล่อธนวนิช ดำเนินรายการ
ประวัติความเป็นมา/แนวโน้มธุรกิจ/แผนงาน
Jubile
• เป็นค้าปลีกเครื่องประดับเพชร รายแรกและรายเดียวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเพชรมากว่า 90 ปี บริษัทเน้นนวัตกรรมเป็นผู้บุกเบิก เช่น
o ช่องทางจัดจำหน่าย : เป็นผู้บุกเบิกค้าผ่านห้างสรรพสินค้ามากว่า 20 ปีแล้ว ดั้งเดิมธุรกิจนี้เจ้าของเพชรจะขายผ่านหน้าร้านเอง ปัจจุบันมีช่องทางจำหน่าย 115 สาขาทั่วประเทศ เป้าหมายปี 57 จะมีจำนวน 130 สาขา ปี 58 เป้าหมาย 200 สาขา
o การสร้างมาตรฐาน : เรามีใบ certificate ทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการซื้อ มีการแนะนำผู้ซื้อว่าการซื้อเพชรในตลาดโลกต้องมีใบ certificate บางแบรนด์ก็มี certificate เหมือนกัน แต่ของเรามี certificate ของบริษัทด้วย แหวน 1 วง มีน้ำหนักเพชร น้ำหนักทองเท่าไร batch เดียวกัน เราเก็บเป็น serial lot size นิ้วแต่ละคนไม่เท่ากัน size แหวนไม่เท่ากัน เราจึงจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็น unique จุดที่มีเสน่ห์ของเพชรคือเกิดจากธรรมชาติ แม้จะน้ำหนักหรือสีเดียวกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน
• ช่วงก่อนบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2552 financial adviser มองว่าเป็นไปได้ยาก เพราะธุรกิจนี้ไม่มีตัว benchmark เครื่องประดับเป็นสิ่งที่เล็ก การสูญหายจะป้องกันความเสี่ยงได้อย่างไร ฯลฯ แต่ทางประธานเจ้าหน้าที่บริหารก็มุ่งมั่นผลักดันจนเข้าจดทะเบียนได้สำเร็จ ต้องยกเครดิตให้
• บริษัทมี inhouse designer นำเข้าวัตถุดิบเพชร จากเมือง Antwerp ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่ง head ของ designer ก็เป็นชาวเบลเยี่ยม และเรามีการทำ consumer insight หารูปแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้า มาออกแบบสินค้า
• การผลิต outsource ออกไป ไม่ได้ทำโรงงานเองเพราะเราสามารถได้ความเชี่ยวชาญจากหลากหลายโรงงานมาอยู่บนเครื่องประดับของเรา เช่น บางที่ฝังเพชร หรือทำรูปแบบตัวเรือนได้เก่งไม่เหมือนกัน
• ปลายเดือน ก.ย. 57 จะเปิด flagship store เป็น mall ขายเพชร อาคารมี 4 ชั้น จัดจำหน่ายเครื่องประดับเพชรของ jubilee ทั้งหมด เรามองโอกาสทางธุรกิจในอนาคตด้วย เช่น นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่ม, AEC กำลังจะเปิด จึงรองรับทั้งลูกค้าคนไทยและต่างประเทศด้วย
PTTGC
• ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียม ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์
o โรงกลั่น ผลิตน้ำมันเครื่องบิน ดีเซล แต่ไม่ผลิตเบนซิน
o ปิโตรเคมี
อโรเมติกส์ ทำเป็นขวด PET, โพลีเอสเตอร์ ทำเป็นส่วนประกอบในรถยนต์ คือผลิตวัตถุดิบตั้งต้นแล้วนำไปทำสินค้าอื่นต่อ
โอเลฟินส์ ทำเป็นถุง,ถัง,กะละมัง ต่างๆ
o เรามีการผลิตสินค้าเป็นพลาสติกจากข้าวโพดสำเร็จแล้ว กำลังทดลองไบโอพลาสติกจาก น้ำตาลจากอ้อย หรือมันสำปะหลังหมัก สามารถย่อยสลายได้
o ยอดขายต่อปี 5 แสนกว่าล้าน กำไรปีละ 3 หมื่นกว่าล้านบาท
o บริษัทมีโครงการที่จะเสร็จในปีหน้าหลายโครงการที่จะทำให้มี growth เพิ่มขึ้น
o ความยั่งยืนของบริษัทได้ DJSI เป็น top ten ของโลกในกลุ่มปิโตรเคมี
o มี 18 โรงงาน ที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ จึงได้ประโยชน์หลังควบรวมกิจการ เช่นมี gas จุดให้ความร้อนในเตามี C2, C3 ที่ให้พลังงาน ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบ หลังจากที่รวมธุรกิจเข้ามาได้ให้ไม่โดนกดราคาตรงนี้
o การปฏิรูปพลังงาน ราคาพลังงานต้องขยับขึ้น เช่น แก๊สหุงต้ม เอาไปใส่ในปิโตรเคมี อาจทำให้ของใช้ต่างๆแพงขึ้นได้ ราคาแปรงสีฟันอาจจะแพงขึ้น
o PTTGC ไม่เป็นเป็นแค่ แก๊สเบส ยังมีแนฟตาเบส, ลิควิดเบส
o แนวโน้มผลประกอบการ สถานการณ์โรงกลั่น OK อยู่ได้ การทำกำไรไม่หวือหวา ส่วนปิโตรเคมีไตรมาส 2 ตอนต้น อโรเมติกส์ราคาแย่ supply ใหม่เข้ามาเยอะ แต่พอช่วงปลายเริ่มดีขึ้น เพราะโครงการต่างๆขยับ ส่วนโอเลฟินส์ดีมาก ราคาเม็ดพลาสติกสูงขึ้น
TVD
• เป็น B2C ลูกค้าหลากหลาย การเข้าถึงผู้บริโภคจะต่างกันตามกลุ่มเป้าหมาย
o กลุ่ม BB บริโภคทีวี อ่านนสพ. ฟังวิทยุ ยังเป็น traditional media
o กลุ่ม Gen-X กึ่งๆทีวี จะเริ่มดูทีวีทาง internet ยังดูสื่อต่างๆ semi
o กลุ่ม Gen-Y อายุ 30 ปีลงไป เริ่มเป็น digital มากขึ้น จนไปถึงไม่ใช้ traditional media เช่น คนทำโปรโมชั่นขายคอนโด ถ้าแถมทีวีไม่มีคนซื้อ แต่จะมีสื่อหนึ่งที่เข้าถึงได้เสมอคือโทรศัพท์ Telemarking
• การทำงาน มีแกนหลักคือ database ที่เหลือเป็นจุดหมุนที่จะไปตามสื่อต่างๆที่ผุ้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป
• เราน่าจะเป็นคนแรกๆที่เข้าไปขายของใน satellite TV จนถึงตอนนี้เป็นช่วงปลายที่มีการเปลี่ยนแปลง Digital TV ก็จะเป็นตัวใหม่ที่เข้ามา
• ผู้บริโภคเริ่มจะไม่ดู TV จึงต้องมีกระบวนการรองรับตรงนี้
• TVD มีร้านค้าปลีก เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่สงสัยว่าซื้อแล้วจะได้ผลแบบใน TV หรือไม่ จึงมีสโลแกนของเราอันหนึ่งคือ สินค้าของ TVD พิสูจน์ได้ มีสาขาในห้าง 37 แห่ง stand alone 44 แห่ง รวมแล้ว 77 สาขา ในเดือนหน้าจะมีเพิ่มอีก 4 สาขา
• เรามีนโยบายซื้อแล้วคืนเงินได้ใน 30 วัน Best practice ของธุรกิจนี้คือการเป็น public offering แม้ว่าจะซื้อตัวที่ 1,2,3 แล้วมาคืนของ เราก็ไม่ blacklist ลูกค้ายังมีโอกาสมาซื้ออีก
• ช่วง 2-3 ปีนี้ ทางห้างก็จะไปเปิดตามหัวเมือง ไปในต่างจังหวัด เช่น เซ็นทรัลพลาซ่า,เฟสติวัล
• กระบวนการทำงานของเราต้องเป็น multi-channel หลายช่องทาง เพราะธุรกิจบ้านเราไม่เคยมีธุรกิจอะไรที่ได้โตเต็มที่ เช่น fiber optic พอมีดาวเทียมเข้ามาก็โตได้ไม่เต็มที่ internet ยังไม่เต็มที่ มือถือก็เข้ามาเต็มที่
• Home shopping มีทั้ง direct response, infomercial
o Home shopping ขาย 24 ชม. เอาพิธีกร 2 คนมานั่งคุยกัน โปรโมชั่นเยอะ
o Direct response พวก ควอนตัมเทเลวิชั่น หรือที่โฆษณาพระเจ้าจอร์จมันยอดมาก มีเป็น filler, air time, fit-in, tie-in
• การขายผ่านค้าปลีกต้องเสียค่าใช้จ่าย ค่าขาย front end ราว 20% , back end (ค่าใช้ software เปลี่ยนชื่อ) 10-15% อื่นๆ 5-8% เสียรวมๆ 40%
• สินค้า 5 อันดับขายดี
o จินนี่บรา เป็น flexible bra เป็นบรามหัศจรรย์ ใส่แล้วเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย รู้สึกสบายและยังรักษาทรวดทรงได้อยู่ คัพจะตรงคัพ
o ชุด shaper กระชับสัดส่วน full body, เสตรย์
o Eagle eyes แว่นเนตรอินทรี คือแว่นกันแดด ใช้เทคโนโลยีเดียวกันนาซ่า ตัดแสงเกรย์ แสงที่เข้าด้านข้างหรือกระทบสายตาตัดได้ 100%
o Stream mob เป็นไม้ถูพื้นไอน้ำ
o เซรั่มดูแลเส้นผม ขายมา 9 ปีแล้ว ขายได้เดือนละหลายหมื่นขวด
• แนวโน้มธุรกิจ Q1 ดีมาก Q2 กำลังพุ่งยกเว้นปลายเดือน 5 พอเริ่มมีสถานการณ์การเมืองกับจอดำ+มีเสียงเพลงขับกล่อม
• ช่องดาวเทียมเหลืออยู่ 50 ช่อง ก็จะช่วยให้ผู้บริโภคไปดู digital TV เพิ่มขึ้น ซึ่งเดิมเราทำเป็นแผน 2 เลยเปลี่ยนเป็นแผน 1
AUCT
• เป็น business model ใหม่ที่พัฒนาจากการศึกษาต่างประเทศ เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว จนเห็นช่องทาง
• เราเริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้ ช่วงท่านนายกอนันต์ทุบกำแพงภาษีรถยนต์ในประเทศไทย ทำให้ตลาดรถต้องปรับโครงสร้างภาษีใหม่ทั้งหมด ซึ่งเราอยู่ในตลาดรถมือ 2 อยู่แล้ว เมื่อก่อนสถาบันการเงิน ยึดรถมาแล้วประมูลเอง โชคดีที่เรามีสายสัมพันธ์กับสถาบันการเงินหลายที่ ทำให้ได้เป็นบริษัทที่ทำประมูลให้
• เราเปิดมา 20 กว่าปีแล้ว ช่วงเริ่มต้นปี 2534 ยอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาท เชื่อว่าในปีนี้น่าจะขายได้ราว 1 แสนคัน ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
• เราเป็นคนกลาง ธุรกิจจะแข็งแรงมากโดยไม่มีความเสี่ยง ไม่มี stock ไม่มีดอกเบี้ย ทุกธนาคารไว้วางใจเรา ขายไม่ได้ก็เก็บกลับไป
• เต๊นท์รถยนต์ 90% เป็นลูกค้าเรา รถที่ซื้อจากเราไปก็เอาไปขายทั่วประเทศ
• ตลาดรถยนต์มีฟองสบู่ไม่ต่ำกว่า 5 แสนคัน supply มากกว่า demand ราคารถตกลง ถ้าเราแก้ปัญหานี้ไม่ได้ลูกค้าของเราที่เป็นพ่อค้ารถยนต์ก็จะเสียหายหลายเจ้า จึงต้องช่วยไปขายโดยตรงให้กับลูกค้า
• ตอนนี้เปิดขาย model ใหม่ที่ฝั่งธนบุรี เพื่อเข้าหา end-user ลงทุน 10 ล้านบาท คาดคืนทุนใน 4-6 เดือน
o สาขาเชียงใหม่ หางดงจะมีลงทุนบ้าง
o จะเปิดอุดร,อุบล,โคราช
o ตอนนี้มีทีมงานที่จะเปิดประมูลสัญจรไปได้ทุกจังวัด เดือนหนึ่งน่าจะมี 50 รอบ
• สาขาใหญ่สุดอยู่ที่ซอยเหม่งจ๋าย 40 ไร่ ที่รังสิตคลอง 8 มี 100 ไร่ มีรถเกรด B รถที่ประกันภัยยึดมา รถการเกษตร รถมอเตอร์ไซค์
• สหการประมูล ประมูลขายได้ทุกอย่าง เราเคยประมูลขายเฟอร์นิเจอร์, ผ้าหลา
• ตลาดอสังหาฯมีคนติดต่อเรามาหลายธนาคาร แต่ประเมินว่ายังไม่ถึงเวลาที่เราจะเข้าไป
• จุดแข็งของบริษัทคือเราเป็นคนไทย 100%(ช่วงหลังมีต่างชาติเข้ามาถือ) เราเข้าใจธุรกิจมือ 2 รถยนต์ในเมืองไทย ไม่เหมือนประเทศอื่นในโลกนี้ มี 3 บริษัทใหญ่ๆ มีจากอเมริกา ได้ market share 10% , มีบริษัทญี่ปุ่นที่จับมือกับธนาคารใหญ่ ได้ share ตลาด 10-20% market share ของเรา 53-55% เราเชื่อว่าปีหน้าจะเป็น 60% เพราะเรามีสาขาเพิ่มขึ้น , เรามีกระบวนการที่โปร่งใสและเป็นมืออาชีพ , ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเรามีความสามารถ เป็นเจ้าของร้าน chocolate ville กับ wine I love you
• รายจ่ายส่วนใหญ่ เป็นค่าจ้างพนักงานและค่าเช่าที่
วิกฤติการเมืองที่ผ่านมาส่งผลอย่างไร?
Jubile
• มีผลกระทบบ้างในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ตั้งแต่ Mar-14 ก็เริ่มกลับมาและเติบโตได้ดีในไครมาส 2 same store sale growth ของเราก็ดีขึ้นด้วย จึงควบคุมค่าใช้จ่ายได้
• ธุรกิจเราสร้าง demand เอง วางกลยุทธ์การตลาด สร้าง shopping experience เราไม่ได้ลงไปลูกค้าระดับล่างมาก demand จึงไม่กระทบเยอะ
• คนแต่ละ generation ก็มีพฤติกรรมไม่เหมือนกัน คนรุ่นเก่าหาเงินแล้วเก็บเงิน แต่คนรุ่นใหม่ชอบให้รางวัลตัวเอง จึงมีแนวโน้มที่ดี สินค้าเราเป็นราคาที่ affordable แหวนเพชรเริ่มต้นที่หมื่นกว่าบาท
• การซื้อเพชรสมัยนี้เป็นแฟชั่น สามารถเอามา mix and match กับเครื่องแต่งกาย มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังมีมูลค่าทางจิตใจด้วย เราทำ research พบว่าแหวนเพชรขายดีที่สุด ต่างหูหรือจี้คนอื่นมองเห็น แต่แหวนเพชรคนใส่ก็มองเห็น
• บางทีก็ไม่ได้ตั้งใจซื้อ แต่มองเห็นว่าสวย สามารถผ่อนชำระ ก็เกิดการซื้อขายได้ทันที
• ปลายเดือน Sep นี้จะมี big impact event เราจะมีร่วมมือกับต่างประเทศมาสร้างแบรนด์รวมถึง awareness ทั่วประเทศ ความไว้วางใจความมั่นใจเมื่อซื้อไปแล้ว
• ยอดขายปีนี้ ครึ่งปีหลังดีกว่าครึงปีแรก สัดส่วน 40% : 60% ซึ่งในครึ่งปีแรกเราก็ทำได้ดีทั้งยอดขายและกำไร
PTTGC
• ครึ่งปีแรก ไม่ค่อยดี แต่ครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่า ปัญหาถือว่าจบแต่ยังไม่สนิท โรงแยกแก๊สยังเดินได้ไม่เต็มที่ อาจจะส.ค.-ก.ย.น่าจะดีขึ้น
• โดยปกติปิโตรครึ่งหลังมักจะดีกว่าครึ่งแรก เช่น อากาศเย็นใช้เสื้อผ้าเยอะ คนต้องการของขวัญปีใหม่ , ส่วนน้ำมันต้นปีปลายปีจะดี กลางปีไม่ดี เช่น เป็นฤดูฝนดีมานด์ไม่ดี อากาศหนาวต้องใช้ heating
• ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น ยุโรปพอไหว จีนโตดีกว่าแผน ถ้าเศรษฐกิจโลกรวมดีขึ้นก็มีความต้องการพื้นฐานดีขึ้นอยู่แล้ว รวมทั้งพวกสินค้าฟุ่มเฟือยก็จะโต เราได้ประโยชน์ใช้พลาสติกเป้นพื้นฐาน
• ยังไม่มีแผนเพิ่มทุน ปกติลงทุน 4.5 billion US ต่อ 5 ปี(แสนกว่าล้านบาท)
TVD
• ในวงการ call center จะมีการแย่งตัวกัน บุคลากรในธุรกิจนี้หาไม่ได้ ต้องสร้างเอง แต่มีบริษัทอื่นมาซื้อตัวเสนอให้รายได้มากพอ ทำให้ telesales เราออกไป 100 กว่าคน จึงต้องเริ่ม build ใหม่
• ตอนเข้าตลาดเราใส่ระบบเข้าไปเยอะมาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินสดและ stock เราใส่ระบบต่างๆเข้าไปเยอะจนความเป็นคนก็ลดไป ตอนนี้ก็กำลังค่อยๆฟื้นคืน ได้ทีมงานที่มีความหลากหลายมากขึ้น ใช้ระบบทดแทนได้พอสมควร มีpayout อะไรที่ดีขึ้น
• Home shopping ไม่ง่ายอย่างที่คิด การ run ช่อง 24 ชั่วโมงมีเทคนิควิธีการ จึงหา partner momo home shopping จัดตั้ง TVD shopping เป็นธุรกิจร่วมกัน พอแยก operation ตรงนี้ออกไปชีวิตดีขึ้นเยอะ เป็นธุรกิจ retail ซึ่งต้องคิดอีกแบบ ทำให้ทีมงานทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งทางบัญชีต้องบันทึกขายกิจการออกจะมีรายได้พิเศษ 125 ล้านในเดือนมิ.ย. ซึ่งปกติเราจะมีปันผลระหว่างกาลอยู่แล้ว ก็จะปันผลราว 70%
• เป้าปี 57 2500 ล้าน ส่วนปีต่อไปจะเติบโตยิ่งขึ้น
• ตอนนี้มีบริษัทญี่ปุ่น อิโตชู ที่กำลังทำดีลกับซีพีอยู่จะมาดีลกับเรา ซึ่งพาร์ตเนอร์เขาคือฟูจิทีวี ที่ญี่ปุ่นทุกสถานีมี tv shopping ของตัวเอง, มีฟูจิไดเรคมาร์เก็ตติ้ง สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่เงินแต่เป็น strategic partner
o จากที่คุยกัน มีสิ่งที่เราทำได้เลย เช่น เป็น distribution ให้ อิโตชู มีสินค้าหลายอย่าง หรือ e-commerce ใช้ infrastructure ของเรา
o ใน 8-9 ปีข้างหน้า ศูนย์รวมความบันเทิงก็จบที่ออนไลน์ แต่ห้างก็ไม่ได้หายไปไหน คนจะทำเป็น sector ของตัวเอง
AUCT
• ผลดำเนินงาน 2 ไตรมาสรายได้ของเราโต400%จากปีก่อน ครึ่งปีแรกทำกำไรได้มากกว่าปีที่แล้วทั้งปี
• ครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก และปีหน้าจะดีกว่าปีนี้
• แนวโน้มธนาคารต่างๆจะเอารถยนต์มาให้เราประมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
• สมัยก่อนเรามีสาขาจำนวนน้อย พอเข้าตลาดจึงเริ่มปรับ model ธุรกิจ อะไรต่างๆต่อไปก็อาจจะมีการเก็บค่าจอดรถได้
• โครงการรถคันแรก สถาบันการเงินยังไม่อยากยึดรถ ใช้วิธีขยายหนี้แทน
• เรามอง model เรื่องการขยายแฟรนไชส์ พอระบบ IT เราเสร็จในเดือนต.ค.จะสามารถเติบโตได้มากขึ้น
• มีบริษัทต่างประเทศสนใจมาซื้อรถต่อจากเราเป็นล้านคัน
• มี stock รถทั่วประเทศ 23 แห่ง กำลังจะปรับจากโกดังเป็นโชว์รูม แทนที่จะจอดอย่างเดียวไม่มีรายได้ก็จัดประมูลด้วย ไม่ต้องขนย้ายรถด้วย
• มีหลายๆธนาคารต้องการมาปล่อย finance กับเรา ซึ่งจะได้ commission ด้วย
• จัดประมูลรถนางฟ้า คือ รถที่สภาพดีพร้อมใช้เลย ก็จะพยายามดึง end-user มาประมูล จะได้ราคาดี และผู้เช่าซื้อก็ไม่โดนฟ้องร้อง
• ประมูลรถหรูของกรมศุลฯ ทางผู้ใหญ่ก็ต้องปรับระบบให้โปร่งใส ซึ่งพิจารณาแล้วว่าทาง auct น่าจะเหมาะสมซึ่งกำไรเราอาจจะได้ไม่มาก แต่เป็นการทำให้สังคม ตอนนี้ได้สัญญา 2 ปี
• ความเสี่ยงของเราคือน้ำท่วมกับไฟไหม้ ซึ่งเราก็ดูพื้นที่ที่เช่ารถว่าน้ำไม่ท่วม หรือถมดินเพิ่ม ส่วนไฟไหม้ก็มีประกันภัยเอาไว้
• บริษัทไม่ได้ใช้เงินทุน กำไรปันผล 90%
ช่วงที่2 สัมมนาหัวข้อ “เส้นทางสู่ความมั่งคั่งของมนุษย์เงินเดือน”
1. ดร.สมจินต์ ศรไพศาล
กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย
2. คุณ ตรีนุช วงศ์สารคาม
กรรมการสมาคมไทยวีไอ
3. ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
ช่วงเริ่มต้นทำงาน
ดร.นิเวศน์
• อ.นิเวศน์เงินเดือนเดือนแรก 3,000 บาท เมื่อราว 40 ปีที่แล้ว ที่โรงงานน้ำตาล จ.กาญจนบุรี
• ทำงานบ.น้ำตาล 2 ปี เรียนต่อ 2 ปี ทำงาน 2 ปี แล้วไปเรียนต่อ 4 ปี ดังนั้นช่วงแรกเน้นลงทุนด้านการศึกษาก็ยังไม่มีเงินเก็บเลยเพราะทำไปใช้ไปก็หมด ซึ่งสมัยก่อนยังไม่ต้องลงทุนเพราะฝากธนาคารดอกเบี้ย 10%
• เงินเดือนหลังจบปริญญาเอกกลายเป็น 3 หมื่นบาท ย้ายงานเงินเดือนก็เพิ่มขึ้นและได้ benefit เพิ่ม เช่น โบนัสหรือได้หุ้น
คุณนุช
• เริ่มรับราชการเงินเดือน 2880 บาท เป็นระดับ C2 ตอนเรียนก็วางแผนไปทำงานอำเภอที่บ้านตัวเองอยู่ที่อ.สามโก้ จ.อ่างทอง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
• ย้ายที่ทำงานบ่อย โดยย้ายตามที่ทำงานสามี
ดร.สมจินต์
• เริ่มงานเป็น sales engineer เงินเดือน 5,300 บาท มี commission นิดหน่อย เรียนจบปี 27 เศรษฐกิจตกต่ำพอดี แท่นพิมพ์ก็ขายยาก ช่วง 6 เดือนแรกไม่มี commission ก็ท้อแท้เหมือนกันว่าประสบความสำเร็จในการเรียน แต่ชีวิตจริงไม่ง่ายและเจอวงจรเศรษฐกิจไม่ดี
• ฟังรายการวิทยุมาว่า ถ้าทำอะไรแล้วไม่ประสบความสำเร็จ แล้วยังพิสูจน์ไม่ได้ อย่ายอมแพ้ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นในตัวเองไว้ จนกระทั่งเราสำเร็จ อย่าเปลี่ยนออกไปอย่างเป็นผู้แพ้
• หลังจากครึ่งปีนั้นก็เริ่มขายได้เพราะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นและเรารู้จักตลาดมากขึ้น
• ช่วงย้ายไปทำงานที่ไทยสงวนก็เรียนโท mba ไปด้วย รวมทั้งมีโอกาสได้ย้ายไปทำงานด้านการเงิน ได้ทุนไปเรียนโท Japanese study ที่ USA และได้ฝึกงานที่ญี่ปุ่น
• กลับมาเรียนปริญญาเอกที่เมืองไทย และได้มาเป็นอ.นิด้าด้วย ปัจจุบันทำงานที่บลจ.ทหารไทย
• เงินเดือนสามารถทำให้เราอยู่ได้แน่นอน ถ้าใช้ชีวิตแบบสมชีวิตา สมถะสมฐานะสมกับชีวิตขณะนั้น
• ถามผู้ดำเนินรายการบ้าง
o อ.ไพบูลย์ เงินเดือนเดือนแรกคือสอนหนังสือตอนอยู่ต่างประเทศได้ 3 พันกว่าเหรียญ กลับมาทำงานที่นิด้าเงินเดือน 4,950 บาท ก็ไม่พอแต่เป็นอ.ก็ได้เป็นที่ปรึกษาและได้ประสบการณ์มาสอนนักศึกษา
o อ.เสน่ห์ เงินเดือนแรก 3,500 บาท ที่โรงงานกล่องกระดาษของรุ่นพี่ หลังจากนั้นได้งานที่ esso เป็น 5,200 บาท เป็นวิศวกรเทคนิค อยู่มา 34 ปี การอยู่ในที่เติมเรามีโอกาสเติบโตและโอกาสพัฒนาได้เยอะ มีรายได้นอกเวลาก็เป็นงานพูดจนถึงจุดหนึ่งก็มากกว่าเงินเดือน
อุปสรรคมนุษย์เงินเดือนในการสร้างความมั่งคั่ง
คุณนุช
• คิดว่ามนุษย์เงินเดือนสร้างความมั่งคั่งได้ถ้าเราไม่หยุดอยู่กับที่ ในกระทรวงสาธารณสุข C2 ก็จะอยู่ในระดับต่ำสุดเลย คิดว่าเราจะไม่หยุดอยู่ตรงนี้ จะไปเรียนต่อ ก็ลงที่รามคำแหงเพราะเรียนและทำงานไปด้วยได้
• หารายได้เพิ่ม ช่วงที่เลิกงานก็ไปทำงานเพิ่มช่วงเย็นที่โรงงานด้วย และพร้อมรับเวรแทนเพื่อน ช่วงนั้นเคยได้รายได้ขึ้นเวรมากสุด 8,000 บาท
• เงินเดือนไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร กินข้าวที่บ้านเก็บได้เยอะ เก็บออกด้วยการหักเงินเข้าสหกรณ์
• ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเดือดร้อน เงินเดือนน้อยไม่สำคัญ หาน้อยใช้น้อย หามากใช้น้อยเงินจะเหลือ
• ช่วงแรกที่แต่งงานก็มีลำบากบ้างเพราะแฟนส่งเงินให้ที่บ้านเยอะและมีหนี้บัตรเครดิตอยู่ ก็เอาเงินเก็บไปเคลียร์หนี้บัตรเครดิตให้เพราะดอกเบี้ยสูง ก็ยอมกินอยู่ลำบากหน่อย จำได้แม่นว่าจะไม่ให้มีแบบนี้อีก
• ปัจจุบันลาออกจากงานแล้ว ส่วนสามียังมีความสุขกับงานก็ทำอยู่
• ช่วงหลังปลดหนี้ก็มีทำงานพิเศษด้วย ซื้อขนมมาขาย ซื้ออสังหาฯเป็นคอนโดให้เช่า ตอนนั้นมองอยากมี passive income และไปซื้อที่ดินอยากจะสร้างอพาร์ตเมนท์ พอมาเจอหุ้นในเดือนมีนาคม 2010 ก็ขายคอนโดกับที่ดินมาลงทุนในหุ้นแทน
• [เปิดคลิปวีดีโอ] จะสื่อว่าวันที่มีเงินเราจินตนาการไม่ออกว่าวันที่ไม่มีเงินจะเป็นอย่างไร การจะเป็นคนสูงอายุข้างหน้าก็ต้องสร้างอะไรรอไว้ให้เป็น passive จะเป็นเงินปันผลจากหุ้นหรือกองทุนอะไรก็ตาม
• อ.เสน่ห์ เสริมว่าไปบรรยายที่โรงงานยาสูบเป็นโครงการยาสูบยิ้ม สอนให้มีความสุขจัดการเงินให้ตั้งตัวได้ มีพนักงานคนหนึ่ง อายุ 32 ปี เงินเดือน 1.4 หมื่นบาท หนี้สิน 7 ล้านบาท เกิดจากการพนันต่างๆ จะมาเข้าโครงการ ทำงานคงใช้ไม่หมด
การสร้างความมั่งคั่ง
ดร.สมจินต์
• อยากพูดเรื่อง ความหวังใจ ศักยภาพที่มนุษย์เงินเดือนจะสร้างได้ วินัยการลงทุนที่มนุษย์เงินเดือนจะสร้างได้เพื่อยกระดับฐานะ
• สมมติจบปริญญาใหม่ๆเงินเลงทุน 5,000 บาท ลงทุนเพิ่มขึ้น 5% ทุกปี และได้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง 10% จนถึงอายุ 60 ปีแล้วเกษียณ จะมีเงินรวมที่ได้จากการทำงาน 5.4 ล้านบาท แต่ผลตอบแทนรวมที่ได้คือ 24.3 ล้านบาท เป็นผลตอบแทนจากการลงทุน = เงินรวม 29.8 ล้านบาท ยกระดับฐานะได้
• สิ่งสำคัญที่อยากฝาก
1) ในช่วงต้นชีวิต 1 สมอง 2 มือ คือ human capital ถ้าลงทุนในการศึกษา เช่นเรียนปริญญาโท/เอก การอ่านหนังสือ การทำงานอย่างหนัก คำว่ามนุษย์เงินเดือน นักวิชาชีพ คือมีความรู้ความชำนาญในวิชาการของเรา ถ้าเราใส่ใจศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม วิธีทำงานวิธีวางแผน ถ้าศึกษาทุกๆวันความสามารถของเราจะเพิ่มอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ถ้าเราสามารถสร้างความสามารถของเราจนเป็น top5 ของงานเราได้ ความพยายามทำงานเกินเงินเดือน ตื่นไปทำงานแต่เช้า เคยเห็น analyst ที่เก่งๆ ไปแต่เช้าไปย่อยข้อมูลแล้วไปเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟังก่อน 1 รอบที่จะได้ซ้อมก่อนไปเจอคนอื่นด้วย
2) ออมเงิน ต้องมีกลยุทธ์พอสมควร มี 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 สร้างกลไกภายนอก สิ่งที่สำคัญสุดคือพยายามลงทุนให้เป็นอัตโนมัติ ลงทุนต่อเนื่องเมื่อเงินเดือนออกก่อนที่เราจะเอาไปใช้ เช่นโปรแกรม AIT ของบลจ.ทหารไทย (คุณนุชสมัยทำงานก็หักเงินเดือนเข้าสหกรณ์ทุกเดือน, อ.นิเวศน์ก็เก็บเงินทุกเดือนเพราะใช้จ่ายน้อย)
แบบที่ 2 กลไกภายใน มีความสุขกับการพอเพียง ถ้าความสุขมาจากการใช้เงินไปซื้อจะออกได้ยาก คนที่มีตวามสุขง่ายๆจากความสบายไม่ต้องพึ่งเงินไปซื้อความสุข เป็นสิ่งที่ต้องฝึก เชื่อว่าพวกเราสามารถมีความสุขที่ลึกซึ้งกว่าการไปใช้เงิน ซึ่งต้องค้นหาเอง บางคนบอกว่าได้จากการไปนั่งกินบล้อมวงกับครอบครัว การไปเทียวต่างจังหวัดกับเพื่อนฝูง การได้รักษาคนไข้แล้วหายป่วย สิ่งเหล่านี้เกิดจากการแบ่งปันความรัก และวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วความจดจ่อของเราจะอยู่ที่งาน ถ้าเราเชื่อว่าการเป็น fund manager วัตถุประสงค์เราคือการบริหารเงินลูกค้าให้เติบโต บริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม การหาตัวเองให้พบว่า วัตถุประสงค์ของเราคืออะไร จะทำให้เราออมเงินได้ ทำงานได้ดีขึ้นและส่งมอบสิ่งที่มีคุณค่าให้ผู้เกี่ยวข้อง
3) การสร้างความมั่งคั่ง ต้องมีความหวังใจ ฐานะการเงินเราจะยกระดับได้
จริงๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเราจะสามารถให้สิ่งดีๆกับครอบครัว กับสังคมได้มากขึ้น องค์ประกอบการสร้างความมั่งคังจะบริบูรณ์ขึ้นมา
การหาเงิน การออมเงิน การลงทุน สิ่งสำคัญคือ
การหาเงิน : ความพากเพียร ความภาคภูมิคือสิ่งสำคัญ
การออมเงิน : ความพอเพียง ความสุขกับสิ่งที่มีคือสำคัญ
การลงทุน : การหวังใจ และกลยุทธ์ของการลงทุน
• ถ้าลงทุนประจำ 10,000 บาท ต่อเดือน ในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 44 จนมาถึงปัจจุบัน 13 ปีที่ผ่านมา เราจะได้กำไรเฉลี่ยปีละ 16.32% เป็นเส้นตรง ซึ่งที่จริงตลาดหลักทรัพย์มีขึ้นๆลงๆ แต่ถ้าเรามีวินัยสม่ำเสมอ หุ้นแพงเราก็ซื้อ หุ้นตกเราก็ซื้อได้ถูก ก็จะเป็นความได้เปรียบด้านต้นทุน
ดร.นิเวศน์
• ความมั่งคั่งมีสูตรที่จำง่าย คือออม 15% เงินเดือน แล้วลงทุนเฉพาะในหุ้นอย่างเดียว ใน SET50 หรือกองทุน SET50 ทหารไทย แล้วทิ้งไว้เฉยๆ เดือนหน้ามีเงินเดือนก็กันเงินออกมาทำแบบเดิม ห้ามเอาไปใช้ เงินก้อนแรกที่ลงไปเมื่อผ่านไป 30 ปี เกษียณออกมาเงินก้อนที่ฝากวันแรกจะมีค่าเป็น 2 หมื่นบาท ค่อยเอามาใช้ได้ในเดือนนั้น เดือนถัดๆไปก็จะมีเงินเอาไว้ใช้ได้ต่อเนื่องอีก 30 ปี นั่นคือผลตอบแทน 7% หลังหักเงินเฟ้อ
• ถ้าเก่งกว่านั้นก็เป็น VI เลือกหุ้นเก่งๆก็จะกลายเป็นคนรวยได้เลย
คุณนุช
• นักวางแผนการเงินมักจะแนะนำให้ออม 10% ของเงินเดือน ถ้าเงินเดือน 1 แสนบาท ออมแค่ 10% ก็ 10,000 บาท ที่เหลือจะเอาไปไหน ถ้าเงินเดือนมากขึ้นก็ควรต้องออม % ได้มากขึ้น
• อะไรที่เราได้แนะนำมากลางๆเป็นสำหรับค่าเฉลี่ยทั่วไป ต้องดูให้เหมาะสมกับตัวเรา
Money talk ครั้งต่อไป 14 Sep 2014
หัวข้อ 1 หุ้นเด่นดือนกันยายน SAWAD,KTIS,ICHI, และอีก 1 บริษัทตลท.กำลังเลือก
หัวข้อ 2 ตรวจสุขภาพการเงิน คุณชาย มโนภาส, คุณวรวรรณ ธาราภูมิ, ดร.นิเวศน์
*รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ติดตามเพิ่มเติมทาง facebook moneytalk เปิดจองที่นั่ง 6Sep2014
สุดท้ายขอบพระคุณอ.ไพบูลย์,พิธีกร,วิทยากร และทีมงาน money talk และผู้สนับสนุนทุกท่านที่จัดงานขึ้นครับ
ปล.วันนี้ทีมงานมาช่วยจัดที่นั่งกันขยันขันแข็งมากเลยครับ
ปล.2 ขอบคุณหมอเคที่ส่งคำถามมาให้ดูครับ เตรียมการบ้านมาดีมากๆ
ช่วงที่ 1 สัมมนาหัวข้อ "หุ้นเด่น set-mai (2014)"
1. คุณ บวร วงศ์สินอุดม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC
2. คุณ ทรงพล ชัญมาตรกิจ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD
3. คุณ เทพทัย ศิลา
กรรมการผู้จัดการ AUCT
4. คุณ อัญรัตน์ พรประกฤต
ประธานเจ้าหน้าบริหารการเงิน JUBILE
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ นพ.ศุภศักดิ์ หล่อธนวนิช ดำเนินรายการ
ประวัติความเป็นมา/แนวโน้มธุรกิจ/แผนงาน
Jubile
• เป็นค้าปลีกเครื่องประดับเพชร รายแรกและรายเดียวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเพชรมากว่า 90 ปี บริษัทเน้นนวัตกรรมเป็นผู้บุกเบิก เช่น
o ช่องทางจัดจำหน่าย : เป็นผู้บุกเบิกค้าผ่านห้างสรรพสินค้ามากว่า 20 ปีแล้ว ดั้งเดิมธุรกิจนี้เจ้าของเพชรจะขายผ่านหน้าร้านเอง ปัจจุบันมีช่องทางจำหน่าย 115 สาขาทั่วประเทศ เป้าหมายปี 57 จะมีจำนวน 130 สาขา ปี 58 เป้าหมาย 200 สาขา
o การสร้างมาตรฐาน : เรามีใบ certificate ทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการซื้อ มีการแนะนำผู้ซื้อว่าการซื้อเพชรในตลาดโลกต้องมีใบ certificate บางแบรนด์ก็มี certificate เหมือนกัน แต่ของเรามี certificate ของบริษัทด้วย แหวน 1 วง มีน้ำหนักเพชร น้ำหนักทองเท่าไร batch เดียวกัน เราเก็บเป็น serial lot size นิ้วแต่ละคนไม่เท่ากัน size แหวนไม่เท่ากัน เราจึงจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็น unique จุดที่มีเสน่ห์ของเพชรคือเกิดจากธรรมชาติ แม้จะน้ำหนักหรือสีเดียวกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน
• ช่วงก่อนบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2552 financial adviser มองว่าเป็นไปได้ยาก เพราะธุรกิจนี้ไม่มีตัว benchmark เครื่องประดับเป็นสิ่งที่เล็ก การสูญหายจะป้องกันความเสี่ยงได้อย่างไร ฯลฯ แต่ทางประธานเจ้าหน้าที่บริหารก็มุ่งมั่นผลักดันจนเข้าจดทะเบียนได้สำเร็จ ต้องยกเครดิตให้
• บริษัทมี inhouse designer นำเข้าวัตถุดิบเพชร จากเมือง Antwerp ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่ง head ของ designer ก็เป็นชาวเบลเยี่ยม และเรามีการทำ consumer insight หารูปแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้า มาออกแบบสินค้า
• การผลิต outsource ออกไป ไม่ได้ทำโรงงานเองเพราะเราสามารถได้ความเชี่ยวชาญจากหลากหลายโรงงานมาอยู่บนเครื่องประดับของเรา เช่น บางที่ฝังเพชร หรือทำรูปแบบตัวเรือนได้เก่งไม่เหมือนกัน
• ปลายเดือน ก.ย. 57 จะเปิด flagship store เป็น mall ขายเพชร อาคารมี 4 ชั้น จัดจำหน่ายเครื่องประดับเพชรของ jubilee ทั้งหมด เรามองโอกาสทางธุรกิจในอนาคตด้วย เช่น นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่ม, AEC กำลังจะเปิด จึงรองรับทั้งลูกค้าคนไทยและต่างประเทศด้วย
PTTGC
• ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียม ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์
o โรงกลั่น ผลิตน้ำมันเครื่องบิน ดีเซล แต่ไม่ผลิตเบนซิน
o ปิโตรเคมี
อโรเมติกส์ ทำเป็นขวด PET, โพลีเอสเตอร์ ทำเป็นส่วนประกอบในรถยนต์ คือผลิตวัตถุดิบตั้งต้นแล้วนำไปทำสินค้าอื่นต่อ
โอเลฟินส์ ทำเป็นถุง,ถัง,กะละมัง ต่างๆ
o เรามีการผลิตสินค้าเป็นพลาสติกจากข้าวโพดสำเร็จแล้ว กำลังทดลองไบโอพลาสติกจาก น้ำตาลจากอ้อย หรือมันสำปะหลังหมัก สามารถย่อยสลายได้
o ยอดขายต่อปี 5 แสนกว่าล้าน กำไรปีละ 3 หมื่นกว่าล้านบาท
o บริษัทมีโครงการที่จะเสร็จในปีหน้าหลายโครงการที่จะทำให้มี growth เพิ่มขึ้น
o ความยั่งยืนของบริษัทได้ DJSI เป็น top ten ของโลกในกลุ่มปิโตรเคมี
o มี 18 โรงงาน ที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ จึงได้ประโยชน์หลังควบรวมกิจการ เช่นมี gas จุดให้ความร้อนในเตามี C2, C3 ที่ให้พลังงาน ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบ หลังจากที่รวมธุรกิจเข้ามาได้ให้ไม่โดนกดราคาตรงนี้
o การปฏิรูปพลังงาน ราคาพลังงานต้องขยับขึ้น เช่น แก๊สหุงต้ม เอาไปใส่ในปิโตรเคมี อาจทำให้ของใช้ต่างๆแพงขึ้นได้ ราคาแปรงสีฟันอาจจะแพงขึ้น
o PTTGC ไม่เป็นเป็นแค่ แก๊สเบส ยังมีแนฟตาเบส, ลิควิดเบส
o แนวโน้มผลประกอบการ สถานการณ์โรงกลั่น OK อยู่ได้ การทำกำไรไม่หวือหวา ส่วนปิโตรเคมีไตรมาส 2 ตอนต้น อโรเมติกส์ราคาแย่ supply ใหม่เข้ามาเยอะ แต่พอช่วงปลายเริ่มดีขึ้น เพราะโครงการต่างๆขยับ ส่วนโอเลฟินส์ดีมาก ราคาเม็ดพลาสติกสูงขึ้น
TVD
• เป็น B2C ลูกค้าหลากหลาย การเข้าถึงผู้บริโภคจะต่างกันตามกลุ่มเป้าหมาย
o กลุ่ม BB บริโภคทีวี อ่านนสพ. ฟังวิทยุ ยังเป็น traditional media
o กลุ่ม Gen-X กึ่งๆทีวี จะเริ่มดูทีวีทาง internet ยังดูสื่อต่างๆ semi
o กลุ่ม Gen-Y อายุ 30 ปีลงไป เริ่มเป็น digital มากขึ้น จนไปถึงไม่ใช้ traditional media เช่น คนทำโปรโมชั่นขายคอนโด ถ้าแถมทีวีไม่มีคนซื้อ แต่จะมีสื่อหนึ่งที่เข้าถึงได้เสมอคือโทรศัพท์ Telemarking
• การทำงาน มีแกนหลักคือ database ที่เหลือเป็นจุดหมุนที่จะไปตามสื่อต่างๆที่ผุ้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป
• เราน่าจะเป็นคนแรกๆที่เข้าไปขายของใน satellite TV จนถึงตอนนี้เป็นช่วงปลายที่มีการเปลี่ยนแปลง Digital TV ก็จะเป็นตัวใหม่ที่เข้ามา
• ผู้บริโภคเริ่มจะไม่ดู TV จึงต้องมีกระบวนการรองรับตรงนี้
• TVD มีร้านค้าปลีก เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่สงสัยว่าซื้อแล้วจะได้ผลแบบใน TV หรือไม่ จึงมีสโลแกนของเราอันหนึ่งคือ สินค้าของ TVD พิสูจน์ได้ มีสาขาในห้าง 37 แห่ง stand alone 44 แห่ง รวมแล้ว 77 สาขา ในเดือนหน้าจะมีเพิ่มอีก 4 สาขา
• เรามีนโยบายซื้อแล้วคืนเงินได้ใน 30 วัน Best practice ของธุรกิจนี้คือการเป็น public offering แม้ว่าจะซื้อตัวที่ 1,2,3 แล้วมาคืนของ เราก็ไม่ blacklist ลูกค้ายังมีโอกาสมาซื้ออีก
• ช่วง 2-3 ปีนี้ ทางห้างก็จะไปเปิดตามหัวเมือง ไปในต่างจังหวัด เช่น เซ็นทรัลพลาซ่า,เฟสติวัล
• กระบวนการทำงานของเราต้องเป็น multi-channel หลายช่องทาง เพราะธุรกิจบ้านเราไม่เคยมีธุรกิจอะไรที่ได้โตเต็มที่ เช่น fiber optic พอมีดาวเทียมเข้ามาก็โตได้ไม่เต็มที่ internet ยังไม่เต็มที่ มือถือก็เข้ามาเต็มที่
• Home shopping มีทั้ง direct response, infomercial
o Home shopping ขาย 24 ชม. เอาพิธีกร 2 คนมานั่งคุยกัน โปรโมชั่นเยอะ
o Direct response พวก ควอนตัมเทเลวิชั่น หรือที่โฆษณาพระเจ้าจอร์จมันยอดมาก มีเป็น filler, air time, fit-in, tie-in
• การขายผ่านค้าปลีกต้องเสียค่าใช้จ่าย ค่าขาย front end ราว 20% , back end (ค่าใช้ software เปลี่ยนชื่อ) 10-15% อื่นๆ 5-8% เสียรวมๆ 40%
• สินค้า 5 อันดับขายดี
o จินนี่บรา เป็น flexible bra เป็นบรามหัศจรรย์ ใส่แล้วเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย รู้สึกสบายและยังรักษาทรวดทรงได้อยู่ คัพจะตรงคัพ
o ชุด shaper กระชับสัดส่วน full body, เสตรย์
o Eagle eyes แว่นเนตรอินทรี คือแว่นกันแดด ใช้เทคโนโลยีเดียวกันนาซ่า ตัดแสงเกรย์ แสงที่เข้าด้านข้างหรือกระทบสายตาตัดได้ 100%
o Stream mob เป็นไม้ถูพื้นไอน้ำ
o เซรั่มดูแลเส้นผม ขายมา 9 ปีแล้ว ขายได้เดือนละหลายหมื่นขวด
• แนวโน้มธุรกิจ Q1 ดีมาก Q2 กำลังพุ่งยกเว้นปลายเดือน 5 พอเริ่มมีสถานการณ์การเมืองกับจอดำ+มีเสียงเพลงขับกล่อม
• ช่องดาวเทียมเหลืออยู่ 50 ช่อง ก็จะช่วยให้ผู้บริโภคไปดู digital TV เพิ่มขึ้น ซึ่งเดิมเราทำเป็นแผน 2 เลยเปลี่ยนเป็นแผน 1
AUCT
• เป็น business model ใหม่ที่พัฒนาจากการศึกษาต่างประเทศ เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว จนเห็นช่องทาง
• เราเริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้ ช่วงท่านนายกอนันต์ทุบกำแพงภาษีรถยนต์ในประเทศไทย ทำให้ตลาดรถต้องปรับโครงสร้างภาษีใหม่ทั้งหมด ซึ่งเราอยู่ในตลาดรถมือ 2 อยู่แล้ว เมื่อก่อนสถาบันการเงิน ยึดรถมาแล้วประมูลเอง โชคดีที่เรามีสายสัมพันธ์กับสถาบันการเงินหลายที่ ทำให้ได้เป็นบริษัทที่ทำประมูลให้
• เราเปิดมา 20 กว่าปีแล้ว ช่วงเริ่มต้นปี 2534 ยอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาท เชื่อว่าในปีนี้น่าจะขายได้ราว 1 แสนคัน ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
• เราเป็นคนกลาง ธุรกิจจะแข็งแรงมากโดยไม่มีความเสี่ยง ไม่มี stock ไม่มีดอกเบี้ย ทุกธนาคารไว้วางใจเรา ขายไม่ได้ก็เก็บกลับไป
• เต๊นท์รถยนต์ 90% เป็นลูกค้าเรา รถที่ซื้อจากเราไปก็เอาไปขายทั่วประเทศ
• ตลาดรถยนต์มีฟองสบู่ไม่ต่ำกว่า 5 แสนคัน supply มากกว่า demand ราคารถตกลง ถ้าเราแก้ปัญหานี้ไม่ได้ลูกค้าของเราที่เป็นพ่อค้ารถยนต์ก็จะเสียหายหลายเจ้า จึงต้องช่วยไปขายโดยตรงให้กับลูกค้า
• ตอนนี้เปิดขาย model ใหม่ที่ฝั่งธนบุรี เพื่อเข้าหา end-user ลงทุน 10 ล้านบาท คาดคืนทุนใน 4-6 เดือน
o สาขาเชียงใหม่ หางดงจะมีลงทุนบ้าง
o จะเปิดอุดร,อุบล,โคราช
o ตอนนี้มีทีมงานที่จะเปิดประมูลสัญจรไปได้ทุกจังวัด เดือนหนึ่งน่าจะมี 50 รอบ
• สาขาใหญ่สุดอยู่ที่ซอยเหม่งจ๋าย 40 ไร่ ที่รังสิตคลอง 8 มี 100 ไร่ มีรถเกรด B รถที่ประกันภัยยึดมา รถการเกษตร รถมอเตอร์ไซค์
• สหการประมูล ประมูลขายได้ทุกอย่าง เราเคยประมูลขายเฟอร์นิเจอร์, ผ้าหลา
• ตลาดอสังหาฯมีคนติดต่อเรามาหลายธนาคาร แต่ประเมินว่ายังไม่ถึงเวลาที่เราจะเข้าไป
• จุดแข็งของบริษัทคือเราเป็นคนไทย 100%(ช่วงหลังมีต่างชาติเข้ามาถือ) เราเข้าใจธุรกิจมือ 2 รถยนต์ในเมืองไทย ไม่เหมือนประเทศอื่นในโลกนี้ มี 3 บริษัทใหญ่ๆ มีจากอเมริกา ได้ market share 10% , มีบริษัทญี่ปุ่นที่จับมือกับธนาคารใหญ่ ได้ share ตลาด 10-20% market share ของเรา 53-55% เราเชื่อว่าปีหน้าจะเป็น 60% เพราะเรามีสาขาเพิ่มขึ้น , เรามีกระบวนการที่โปร่งใสและเป็นมืออาชีพ , ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเรามีความสามารถ เป็นเจ้าของร้าน chocolate ville กับ wine I love you
• รายจ่ายส่วนใหญ่ เป็นค่าจ้างพนักงานและค่าเช่าที่
วิกฤติการเมืองที่ผ่านมาส่งผลอย่างไร?
Jubile
• มีผลกระทบบ้างในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ตั้งแต่ Mar-14 ก็เริ่มกลับมาและเติบโตได้ดีในไครมาส 2 same store sale growth ของเราก็ดีขึ้นด้วย จึงควบคุมค่าใช้จ่ายได้
• ธุรกิจเราสร้าง demand เอง วางกลยุทธ์การตลาด สร้าง shopping experience เราไม่ได้ลงไปลูกค้าระดับล่างมาก demand จึงไม่กระทบเยอะ
• คนแต่ละ generation ก็มีพฤติกรรมไม่เหมือนกัน คนรุ่นเก่าหาเงินแล้วเก็บเงิน แต่คนรุ่นใหม่ชอบให้รางวัลตัวเอง จึงมีแนวโน้มที่ดี สินค้าเราเป็นราคาที่ affordable แหวนเพชรเริ่มต้นที่หมื่นกว่าบาท
• การซื้อเพชรสมัยนี้เป็นแฟชั่น สามารถเอามา mix and match กับเครื่องแต่งกาย มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังมีมูลค่าทางจิตใจด้วย เราทำ research พบว่าแหวนเพชรขายดีที่สุด ต่างหูหรือจี้คนอื่นมองเห็น แต่แหวนเพชรคนใส่ก็มองเห็น
• บางทีก็ไม่ได้ตั้งใจซื้อ แต่มองเห็นว่าสวย สามารถผ่อนชำระ ก็เกิดการซื้อขายได้ทันที
• ปลายเดือน Sep นี้จะมี big impact event เราจะมีร่วมมือกับต่างประเทศมาสร้างแบรนด์รวมถึง awareness ทั่วประเทศ ความไว้วางใจความมั่นใจเมื่อซื้อไปแล้ว
• ยอดขายปีนี้ ครึ่งปีหลังดีกว่าครึงปีแรก สัดส่วน 40% : 60% ซึ่งในครึ่งปีแรกเราก็ทำได้ดีทั้งยอดขายและกำไร
PTTGC
• ครึ่งปีแรก ไม่ค่อยดี แต่ครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่า ปัญหาถือว่าจบแต่ยังไม่สนิท โรงแยกแก๊สยังเดินได้ไม่เต็มที่ อาจจะส.ค.-ก.ย.น่าจะดีขึ้น
• โดยปกติปิโตรครึ่งหลังมักจะดีกว่าครึ่งแรก เช่น อากาศเย็นใช้เสื้อผ้าเยอะ คนต้องการของขวัญปีใหม่ , ส่วนน้ำมันต้นปีปลายปีจะดี กลางปีไม่ดี เช่น เป็นฤดูฝนดีมานด์ไม่ดี อากาศหนาวต้องใช้ heating
• ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น ยุโรปพอไหว จีนโตดีกว่าแผน ถ้าเศรษฐกิจโลกรวมดีขึ้นก็มีความต้องการพื้นฐานดีขึ้นอยู่แล้ว รวมทั้งพวกสินค้าฟุ่มเฟือยก็จะโต เราได้ประโยชน์ใช้พลาสติกเป้นพื้นฐาน
• ยังไม่มีแผนเพิ่มทุน ปกติลงทุน 4.5 billion US ต่อ 5 ปี(แสนกว่าล้านบาท)
TVD
• ในวงการ call center จะมีการแย่งตัวกัน บุคลากรในธุรกิจนี้หาไม่ได้ ต้องสร้างเอง แต่มีบริษัทอื่นมาซื้อตัวเสนอให้รายได้มากพอ ทำให้ telesales เราออกไป 100 กว่าคน จึงต้องเริ่ม build ใหม่
• ตอนเข้าตลาดเราใส่ระบบเข้าไปเยอะมาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินสดและ stock เราใส่ระบบต่างๆเข้าไปเยอะจนความเป็นคนก็ลดไป ตอนนี้ก็กำลังค่อยๆฟื้นคืน ได้ทีมงานที่มีความหลากหลายมากขึ้น ใช้ระบบทดแทนได้พอสมควร มีpayout อะไรที่ดีขึ้น
• Home shopping ไม่ง่ายอย่างที่คิด การ run ช่อง 24 ชั่วโมงมีเทคนิควิธีการ จึงหา partner momo home shopping จัดตั้ง TVD shopping เป็นธุรกิจร่วมกัน พอแยก operation ตรงนี้ออกไปชีวิตดีขึ้นเยอะ เป็นธุรกิจ retail ซึ่งต้องคิดอีกแบบ ทำให้ทีมงานทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งทางบัญชีต้องบันทึกขายกิจการออกจะมีรายได้พิเศษ 125 ล้านในเดือนมิ.ย. ซึ่งปกติเราจะมีปันผลระหว่างกาลอยู่แล้ว ก็จะปันผลราว 70%
• เป้าปี 57 2500 ล้าน ส่วนปีต่อไปจะเติบโตยิ่งขึ้น
• ตอนนี้มีบริษัทญี่ปุ่น อิโตชู ที่กำลังทำดีลกับซีพีอยู่จะมาดีลกับเรา ซึ่งพาร์ตเนอร์เขาคือฟูจิทีวี ที่ญี่ปุ่นทุกสถานีมี tv shopping ของตัวเอง, มีฟูจิไดเรคมาร์เก็ตติ้ง สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่เงินแต่เป็น strategic partner
o จากที่คุยกัน มีสิ่งที่เราทำได้เลย เช่น เป็น distribution ให้ อิโตชู มีสินค้าหลายอย่าง หรือ e-commerce ใช้ infrastructure ของเรา
o ใน 8-9 ปีข้างหน้า ศูนย์รวมความบันเทิงก็จบที่ออนไลน์ แต่ห้างก็ไม่ได้หายไปไหน คนจะทำเป็น sector ของตัวเอง
AUCT
• ผลดำเนินงาน 2 ไตรมาสรายได้ของเราโต400%จากปีก่อน ครึ่งปีแรกทำกำไรได้มากกว่าปีที่แล้วทั้งปี
• ครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก และปีหน้าจะดีกว่าปีนี้
• แนวโน้มธนาคารต่างๆจะเอารถยนต์มาให้เราประมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
• สมัยก่อนเรามีสาขาจำนวนน้อย พอเข้าตลาดจึงเริ่มปรับ model ธุรกิจ อะไรต่างๆต่อไปก็อาจจะมีการเก็บค่าจอดรถได้
• โครงการรถคันแรก สถาบันการเงินยังไม่อยากยึดรถ ใช้วิธีขยายหนี้แทน
• เรามอง model เรื่องการขยายแฟรนไชส์ พอระบบ IT เราเสร็จในเดือนต.ค.จะสามารถเติบโตได้มากขึ้น
• มีบริษัทต่างประเทศสนใจมาซื้อรถต่อจากเราเป็นล้านคัน
• มี stock รถทั่วประเทศ 23 แห่ง กำลังจะปรับจากโกดังเป็นโชว์รูม แทนที่จะจอดอย่างเดียวไม่มีรายได้ก็จัดประมูลด้วย ไม่ต้องขนย้ายรถด้วย
• มีหลายๆธนาคารต้องการมาปล่อย finance กับเรา ซึ่งจะได้ commission ด้วย
• จัดประมูลรถนางฟ้า คือ รถที่สภาพดีพร้อมใช้เลย ก็จะพยายามดึง end-user มาประมูล จะได้ราคาดี และผู้เช่าซื้อก็ไม่โดนฟ้องร้อง
• ประมูลรถหรูของกรมศุลฯ ทางผู้ใหญ่ก็ต้องปรับระบบให้โปร่งใส ซึ่งพิจารณาแล้วว่าทาง auct น่าจะเหมาะสมซึ่งกำไรเราอาจจะได้ไม่มาก แต่เป็นการทำให้สังคม ตอนนี้ได้สัญญา 2 ปี
• ความเสี่ยงของเราคือน้ำท่วมกับไฟไหม้ ซึ่งเราก็ดูพื้นที่ที่เช่ารถว่าน้ำไม่ท่วม หรือถมดินเพิ่ม ส่วนไฟไหม้ก็มีประกันภัยเอาไว้
• บริษัทไม่ได้ใช้เงินทุน กำไรปันผล 90%
ช่วงที่2 สัมมนาหัวข้อ “เส้นทางสู่ความมั่งคั่งของมนุษย์เงินเดือน”
1. ดร.สมจินต์ ศรไพศาล
กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย
2. คุณ ตรีนุช วงศ์สารคาม
กรรมการสมาคมไทยวีไอ
3. ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
ช่วงเริ่มต้นทำงาน
ดร.นิเวศน์
• อ.นิเวศน์เงินเดือนเดือนแรก 3,000 บาท เมื่อราว 40 ปีที่แล้ว ที่โรงงานน้ำตาล จ.กาญจนบุรี
• ทำงานบ.น้ำตาล 2 ปี เรียนต่อ 2 ปี ทำงาน 2 ปี แล้วไปเรียนต่อ 4 ปี ดังนั้นช่วงแรกเน้นลงทุนด้านการศึกษาก็ยังไม่มีเงินเก็บเลยเพราะทำไปใช้ไปก็หมด ซึ่งสมัยก่อนยังไม่ต้องลงทุนเพราะฝากธนาคารดอกเบี้ย 10%
• เงินเดือนหลังจบปริญญาเอกกลายเป็น 3 หมื่นบาท ย้ายงานเงินเดือนก็เพิ่มขึ้นและได้ benefit เพิ่ม เช่น โบนัสหรือได้หุ้น
คุณนุช
• เริ่มรับราชการเงินเดือน 2880 บาท เป็นระดับ C2 ตอนเรียนก็วางแผนไปทำงานอำเภอที่บ้านตัวเองอยู่ที่อ.สามโก้ จ.อ่างทอง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
• ย้ายที่ทำงานบ่อย โดยย้ายตามที่ทำงานสามี
ดร.สมจินต์
• เริ่มงานเป็น sales engineer เงินเดือน 5,300 บาท มี commission นิดหน่อย เรียนจบปี 27 เศรษฐกิจตกต่ำพอดี แท่นพิมพ์ก็ขายยาก ช่วง 6 เดือนแรกไม่มี commission ก็ท้อแท้เหมือนกันว่าประสบความสำเร็จในการเรียน แต่ชีวิตจริงไม่ง่ายและเจอวงจรเศรษฐกิจไม่ดี
• ฟังรายการวิทยุมาว่า ถ้าทำอะไรแล้วไม่ประสบความสำเร็จ แล้วยังพิสูจน์ไม่ได้ อย่ายอมแพ้ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นในตัวเองไว้ จนกระทั่งเราสำเร็จ อย่าเปลี่ยนออกไปอย่างเป็นผู้แพ้
• หลังจากครึ่งปีนั้นก็เริ่มขายได้เพราะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นและเรารู้จักตลาดมากขึ้น
• ช่วงย้ายไปทำงานที่ไทยสงวนก็เรียนโท mba ไปด้วย รวมทั้งมีโอกาสได้ย้ายไปทำงานด้านการเงิน ได้ทุนไปเรียนโท Japanese study ที่ USA และได้ฝึกงานที่ญี่ปุ่น
• กลับมาเรียนปริญญาเอกที่เมืองไทย และได้มาเป็นอ.นิด้าด้วย ปัจจุบันทำงานที่บลจ.ทหารไทย
• เงินเดือนสามารถทำให้เราอยู่ได้แน่นอน ถ้าใช้ชีวิตแบบสมชีวิตา สมถะสมฐานะสมกับชีวิตขณะนั้น
• ถามผู้ดำเนินรายการบ้าง
o อ.ไพบูลย์ เงินเดือนเดือนแรกคือสอนหนังสือตอนอยู่ต่างประเทศได้ 3 พันกว่าเหรียญ กลับมาทำงานที่นิด้าเงินเดือน 4,950 บาท ก็ไม่พอแต่เป็นอ.ก็ได้เป็นที่ปรึกษาและได้ประสบการณ์มาสอนนักศึกษา
o อ.เสน่ห์ เงินเดือนแรก 3,500 บาท ที่โรงงานกล่องกระดาษของรุ่นพี่ หลังจากนั้นได้งานที่ esso เป็น 5,200 บาท เป็นวิศวกรเทคนิค อยู่มา 34 ปี การอยู่ในที่เติมเรามีโอกาสเติบโตและโอกาสพัฒนาได้เยอะ มีรายได้นอกเวลาก็เป็นงานพูดจนถึงจุดหนึ่งก็มากกว่าเงินเดือน
อุปสรรคมนุษย์เงินเดือนในการสร้างความมั่งคั่ง
คุณนุช
• คิดว่ามนุษย์เงินเดือนสร้างความมั่งคั่งได้ถ้าเราไม่หยุดอยู่กับที่ ในกระทรวงสาธารณสุข C2 ก็จะอยู่ในระดับต่ำสุดเลย คิดว่าเราจะไม่หยุดอยู่ตรงนี้ จะไปเรียนต่อ ก็ลงที่รามคำแหงเพราะเรียนและทำงานไปด้วยได้
• หารายได้เพิ่ม ช่วงที่เลิกงานก็ไปทำงานเพิ่มช่วงเย็นที่โรงงานด้วย และพร้อมรับเวรแทนเพื่อน ช่วงนั้นเคยได้รายได้ขึ้นเวรมากสุด 8,000 บาท
• เงินเดือนไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร กินข้าวที่บ้านเก็บได้เยอะ เก็บออกด้วยการหักเงินเข้าสหกรณ์
• ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเดือดร้อน เงินเดือนน้อยไม่สำคัญ หาน้อยใช้น้อย หามากใช้น้อยเงินจะเหลือ
• ช่วงแรกที่แต่งงานก็มีลำบากบ้างเพราะแฟนส่งเงินให้ที่บ้านเยอะและมีหนี้บัตรเครดิตอยู่ ก็เอาเงินเก็บไปเคลียร์หนี้บัตรเครดิตให้เพราะดอกเบี้ยสูง ก็ยอมกินอยู่ลำบากหน่อย จำได้แม่นว่าจะไม่ให้มีแบบนี้อีก
• ปัจจุบันลาออกจากงานแล้ว ส่วนสามียังมีความสุขกับงานก็ทำอยู่
• ช่วงหลังปลดหนี้ก็มีทำงานพิเศษด้วย ซื้อขนมมาขาย ซื้ออสังหาฯเป็นคอนโดให้เช่า ตอนนั้นมองอยากมี passive income และไปซื้อที่ดินอยากจะสร้างอพาร์ตเมนท์ พอมาเจอหุ้นในเดือนมีนาคม 2010 ก็ขายคอนโดกับที่ดินมาลงทุนในหุ้นแทน
• [เปิดคลิปวีดีโอ] จะสื่อว่าวันที่มีเงินเราจินตนาการไม่ออกว่าวันที่ไม่มีเงินจะเป็นอย่างไร การจะเป็นคนสูงอายุข้างหน้าก็ต้องสร้างอะไรรอไว้ให้เป็น passive จะเป็นเงินปันผลจากหุ้นหรือกองทุนอะไรก็ตาม
• อ.เสน่ห์ เสริมว่าไปบรรยายที่โรงงานยาสูบเป็นโครงการยาสูบยิ้ม สอนให้มีความสุขจัดการเงินให้ตั้งตัวได้ มีพนักงานคนหนึ่ง อายุ 32 ปี เงินเดือน 1.4 หมื่นบาท หนี้สิน 7 ล้านบาท เกิดจากการพนันต่างๆ จะมาเข้าโครงการ ทำงานคงใช้ไม่หมด
การสร้างความมั่งคั่ง
ดร.สมจินต์
• อยากพูดเรื่อง ความหวังใจ ศักยภาพที่มนุษย์เงินเดือนจะสร้างได้ วินัยการลงทุนที่มนุษย์เงินเดือนจะสร้างได้เพื่อยกระดับฐานะ
• สมมติจบปริญญาใหม่ๆเงินเลงทุน 5,000 บาท ลงทุนเพิ่มขึ้น 5% ทุกปี และได้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง 10% จนถึงอายุ 60 ปีแล้วเกษียณ จะมีเงินรวมที่ได้จากการทำงาน 5.4 ล้านบาท แต่ผลตอบแทนรวมที่ได้คือ 24.3 ล้านบาท เป็นผลตอบแทนจากการลงทุน = เงินรวม 29.8 ล้านบาท ยกระดับฐานะได้
• สิ่งสำคัญที่อยากฝาก
1) ในช่วงต้นชีวิต 1 สมอง 2 มือ คือ human capital ถ้าลงทุนในการศึกษา เช่นเรียนปริญญาโท/เอก การอ่านหนังสือ การทำงานอย่างหนัก คำว่ามนุษย์เงินเดือน นักวิชาชีพ คือมีความรู้ความชำนาญในวิชาการของเรา ถ้าเราใส่ใจศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม วิธีทำงานวิธีวางแผน ถ้าศึกษาทุกๆวันความสามารถของเราจะเพิ่มอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ถ้าเราสามารถสร้างความสามารถของเราจนเป็น top5 ของงานเราได้ ความพยายามทำงานเกินเงินเดือน ตื่นไปทำงานแต่เช้า เคยเห็น analyst ที่เก่งๆ ไปแต่เช้าไปย่อยข้อมูลแล้วไปเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟังก่อน 1 รอบที่จะได้ซ้อมก่อนไปเจอคนอื่นด้วย
2) ออมเงิน ต้องมีกลยุทธ์พอสมควร มี 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 สร้างกลไกภายนอก สิ่งที่สำคัญสุดคือพยายามลงทุนให้เป็นอัตโนมัติ ลงทุนต่อเนื่องเมื่อเงินเดือนออกก่อนที่เราจะเอาไปใช้ เช่นโปรแกรม AIT ของบลจ.ทหารไทย (คุณนุชสมัยทำงานก็หักเงินเดือนเข้าสหกรณ์ทุกเดือน, อ.นิเวศน์ก็เก็บเงินทุกเดือนเพราะใช้จ่ายน้อย)
แบบที่ 2 กลไกภายใน มีความสุขกับการพอเพียง ถ้าความสุขมาจากการใช้เงินไปซื้อจะออกได้ยาก คนที่มีตวามสุขง่ายๆจากความสบายไม่ต้องพึ่งเงินไปซื้อความสุข เป็นสิ่งที่ต้องฝึก เชื่อว่าพวกเราสามารถมีความสุขที่ลึกซึ้งกว่าการไปใช้เงิน ซึ่งต้องค้นหาเอง บางคนบอกว่าได้จากการไปนั่งกินบล้อมวงกับครอบครัว การไปเทียวต่างจังหวัดกับเพื่อนฝูง การได้รักษาคนไข้แล้วหายป่วย สิ่งเหล่านี้เกิดจากการแบ่งปันความรัก และวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วความจดจ่อของเราจะอยู่ที่งาน ถ้าเราเชื่อว่าการเป็น fund manager วัตถุประสงค์เราคือการบริหารเงินลูกค้าให้เติบโต บริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม การหาตัวเองให้พบว่า วัตถุประสงค์ของเราคืออะไร จะทำให้เราออมเงินได้ ทำงานได้ดีขึ้นและส่งมอบสิ่งที่มีคุณค่าให้ผู้เกี่ยวข้อง
3) การสร้างความมั่งคั่ง ต้องมีความหวังใจ ฐานะการเงินเราจะยกระดับได้
จริงๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเราจะสามารถให้สิ่งดีๆกับครอบครัว กับสังคมได้มากขึ้น องค์ประกอบการสร้างความมั่งคังจะบริบูรณ์ขึ้นมา
การหาเงิน การออมเงิน การลงทุน สิ่งสำคัญคือ
การหาเงิน : ความพากเพียร ความภาคภูมิคือสิ่งสำคัญ
การออมเงิน : ความพอเพียง ความสุขกับสิ่งที่มีคือสำคัญ
การลงทุน : การหวังใจ และกลยุทธ์ของการลงทุน
• ถ้าลงทุนประจำ 10,000 บาท ต่อเดือน ในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 44 จนมาถึงปัจจุบัน 13 ปีที่ผ่านมา เราจะได้กำไรเฉลี่ยปีละ 16.32% เป็นเส้นตรง ซึ่งที่จริงตลาดหลักทรัพย์มีขึ้นๆลงๆ แต่ถ้าเรามีวินัยสม่ำเสมอ หุ้นแพงเราก็ซื้อ หุ้นตกเราก็ซื้อได้ถูก ก็จะเป็นความได้เปรียบด้านต้นทุน
ดร.นิเวศน์
• ความมั่งคั่งมีสูตรที่จำง่าย คือออม 15% เงินเดือน แล้วลงทุนเฉพาะในหุ้นอย่างเดียว ใน SET50 หรือกองทุน SET50 ทหารไทย แล้วทิ้งไว้เฉยๆ เดือนหน้ามีเงินเดือนก็กันเงินออกมาทำแบบเดิม ห้ามเอาไปใช้ เงินก้อนแรกที่ลงไปเมื่อผ่านไป 30 ปี เกษียณออกมาเงินก้อนที่ฝากวันแรกจะมีค่าเป็น 2 หมื่นบาท ค่อยเอามาใช้ได้ในเดือนนั้น เดือนถัดๆไปก็จะมีเงินเอาไว้ใช้ได้ต่อเนื่องอีก 30 ปี นั่นคือผลตอบแทน 7% หลังหักเงินเฟ้อ
• ถ้าเก่งกว่านั้นก็เป็น VI เลือกหุ้นเก่งๆก็จะกลายเป็นคนรวยได้เลย
คุณนุช
• นักวางแผนการเงินมักจะแนะนำให้ออม 10% ของเงินเดือน ถ้าเงินเดือน 1 แสนบาท ออมแค่ 10% ก็ 10,000 บาท ที่เหลือจะเอาไปไหน ถ้าเงินเดือนมากขึ้นก็ควรต้องออม % ได้มากขึ้น
• อะไรที่เราได้แนะนำมากลางๆเป็นสำหรับค่าเฉลี่ยทั่วไป ต้องดูให้เหมาะสมกับตัวเรา
Money talk ครั้งต่อไป 14 Sep 2014
หัวข้อ 1 หุ้นเด่นดือนกันยายน SAWAD,KTIS,ICHI, และอีก 1 บริษัทตลท.กำลังเลือก
หัวข้อ 2 ตรวจสุขภาพการเงิน คุณชาย มโนภาส, คุณวรวรรณ ธาราภูมิ, ดร.นิเวศน์
*รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ติดตามเพิ่มเติมทาง facebook moneytalk เปิดจองที่นั่ง 6Sep2014
สุดท้ายขอบพระคุณอ.ไพบูลย์,พิธีกร,วิทยากร และทีมงาน money talk และผู้สนับสนุนทุกท่านที่จัดงานขึ้นครับ
ปล.วันนี้ทีมงานมาช่วยจัดที่นั่งกันขยันขันแข็งมากเลยครับ
ปล.2 ขอบคุณหมอเคที่ส่งคำถามมาให้ดูครับ เตรียมการบ้านมาดีมากๆ