โค้ด: เลือกทั้งหมด
ตลาดหุ้นไทยในปี 2557 นี้ในช่วงครึ่งปีแรกดูเหมือนนักลงทุนจะถอดใจเพราะหุ้นไม่ได้ขยับไปไหน เนื่องจากสถานการ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน ความวุ่นวายในบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทั้งการเดินประท้วงรายวันของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและการต่อสู้กันของทั้งสองฝ่ายจนถึงกับมีการเสียเลือดเสียเนื้อกันเป็นจำนวนมาก นักลงทุนต่างชาติต่างทยอยขายหุ้นไทยออกเพื่อลดความเสี่ยงที่ไม่แน่นอนของประเทศไทยจนดัชนีตั้งแต่ต้นปีที่ 1,299 จุดนั้นย่ำอยู่กับที่มาตลอด
จนเมื่อทหารออกมาปฏิวัติยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการณ์เนื่องจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ในทางปฏิบัติ ดูเหมือนสถานการณ์ทางการลงทุนจะแย่ลงแต่ในที่สุดตลาดหุ้นไทยก็ปรับตัวขึ้นมาได้ถึงเกือบ 1,600 จุดในเดือนกันยายน นักลงทุนทั้งไทยและเทศต่างมองเห็นแสงสว่างปลายทางอุโมงค์ของการเมืองไทย ความไม่แน่นอนทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย การประท้วงลดน้อยถอยลงเพราะมีการใช้กฏอัยการศึกในการห้ามปรามการประท้วงอย่างได้ผล ประชาชนชาวไทยเริ่มปรับตัวและใช้ชีวิตเหมือนปกติสุขอีกครั้ง
ถึงแม้ตลาดหุ้นไทยจะขึ้นไปมากในปีนี้ แต่ยังมีนักลงทุนหลายท่านพบว่ายังขาดทุนหุ้นในพอร์ต บางคนอาจจะขาดทุนบางบริษัท บางคนทั้งพอร์ตอาจจะขาดทุนยังอยู่ถึงแม้ว่าดัชนีหุ้นจะเพิ่มขึ้นมามากแล้วก็ตาม สาเหตุอาจเกิดจากเข้าซื้อหุ้นที่ตอนดัชนีสูงสุดเกือบ 1,600 จุดเมื่อปีที่แล้ว 2556 หรือไม่ก็พบว่าหุ้นที่ซื้อมาไม่ได้ดีตามที่คาดการณ์ทำให้ราคาหุ้นลดต่ำกว่าที่ซื้อมามาก โดยส่วนใหญ่หุ้นที่ขาดทุนมักเป็นหุ้นที่ซื้อมาโดยยังไม่มีความเข้าใจในธุรกิจที่ซื้อมากนัก หลายบริษัทซื้อตามที่คนอื่นๆบอกมาว่าดี ถ้าเช่นนั้นถ้าดัชนีหุ้นขึ้นๆแบบนี้ แต่หุ้นที่เราถือขาดทุนอยู่จะทำอย่างไรดี
อันดับแรกควรหันมาดูพื้นฐานกิจการของบริษัทที่ซื้อมาว่าเป็นอย่างไร หลายบริษัทเป็นบริษัทที่ดีและยังมีอนาคต ผลประกอบการออกมาก็ไม่ได้เลวร้าย บางครั้งอาจะดีกว่าที่คาด นอกเหนือจากนั้นพื้นฐานของบริษัทก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ราคาที่ลดต่ำลงอาจเกิดจากนักลงทุนยังไม่ได้สนใจในหุ้นบริษัทนั้นมากนัก หรือบางโครงการยังไม่ได้เสร็จสมบูรณ์ซึ่งรายได้ยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ทำให้ตลาดไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ถ้าหุ้นที่ถืออยู่ยังมีพื้นฐานเหมือนเดิมตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ราคาหุ้นไม่ได้ขึ้นตามดัชนี ก็ไม่มีอะไรให้น่ากังวลมากนัก การถือหุ้นบริษัทนั้นต่อไปน่าจะเป็นกลยุทธที่ดี
แต่ถ้าพิจารณาแล้วพบว่าบริษัทนั้นมีพื้นฐานกิจการที่แย่ลง เช่น รายได้ลดลงเนื่องจากคู่แข่งเข้ามาแย่งตลาดมากขึ้น หรือกำไรลดลงเพราะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเป็นจำนวนมากหรือควบคุมต้นทุนไว้ไมได้และคาดการณ์ว่าในอนาคตจะแย่ลงกว่าเดิม ราคาที่ลดลงเป็นสัญญานที่บอกว่าหุ้นบริษัทนี้อาจจะไม่ดีเหมือนที่เราคิดไว้ ถ้าคิดว่าเราคิดผิดในการลงทุน การขายหุ้นออกไปไม่ว่าจะขาดทุนเท่าไหร่ก็ตามถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเพราะอนาคตราคาหุ้นอาจลดลงไปได้มากกว่าปัจจุบันได้อีก เช่น บริษัทเกมส์ออนไลน์ที่หลายปีก่อนมีผลประกอบการดีมาก ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นมาก แต่ระยะหลังพบว่าคนเล่นเกมส์ออนไลน์ในคอมพิวเตอร์น้อยลงโดยหันไปเล่นในแทปเลตแทน นอกเหนือจากนั้นบริษัทยังมีปัญหาเรื่องบุคคลากร การบริหารงานและเกมส์ที่ไม่ได้รับความนิยมเช่นในอดีต ทำให้รายได้และกำไรลดลงอย่างมาก ราคาหุ้นก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน บริษัทเช่นนี้จะเห็นว่าถึงแม้ดัชนีหุ้นจะเพิ่มขึ้นมากจากต้นปี แต่ราคาหุ้นของบริษัทนี้กลับลดลงทุกวัน
การเปลี่ยนบริษัทที่ถือจากหุ้นที่ไม่มีอนาคตไปเป็นบริษัทอื่นที่ดีกว่าก็เป็นทางเลือกหนึ่งของนักลงทุนที่ติดหุ้นอยู่ โดยส่วนใหญ่คนเล่นหุ้นมักไม่อยากขายขาดทุนเพราะเสียดายเงินที่ลงทุนไปและอยากจะรอให้ราคาหุ้นกลับมาเท่าทุนก่อนถึงจะทำใจขายได้ ซึ่งในความเป็นจริงราคาหุ้นหลายบริษัทอาจจะไม่กลับมาที่จุดเดิมอีกเลย ถ้าพื้นฐานของกิจการเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร ดังนั้นการขายหุ้นที่ขาดทุนไปซื้อหุ้นที่ดีมีอนาคตมากกว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดี ที่สำคัญต้องมั่นใจว่าบริษัทที่ซื้อมาใหม่ต้องดีกว่าบริษัทที่ขาดทุนอยู่ในพอร์ต ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นขายหมูไปซื้อควายเข้ามาแทน