ตลาดหุ้นไทยเริ่มเข้าสู่ยุค บูม สุดๆ แล้วหรือยัง ?

[ทศพร29]

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติในตลาดหุ้นแต่อย่างใด
ตั้งแต่การเมืองพันธมิตร + เสื้อแดงจบ ก็เริ่มเห็นคนเล่นหุ้นกันมากขึ้น จากเดิมที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน หรือคนที่จบจากสายที่เกี่ยวข้องกับการเงินการลงทุน กลายมาเป็นพนักงานบริษัท นักศึกษา ลูกจ้างทั่วไป ฯ ที่สำคัญคือ หน้าใหม่ที่แห่กันเข้ามาจะมีพฤติกรรมที่เน้นการเก็งกำไรซื้อขายกันอย่างรวดเร็วแบบรายวัน และมีทิศทางว่าจะทะยอยเข้ามากันมากขึ้น
อีกอย่างคือ 2 ปี มานี้ ตามร้านหนังสือมีหนังสือหุ้นวางเยอะมากจนน่าแปลกใจ บางเล่มถูกจัดขึ้นเป็นหนังสือเเนะนำ
และที่สำคัญคือ บริษัทหลักทรัพย์ได้สร้างแรงกระตุ้นให้หน้าใหม่เข้ามาเล่นเก็งกำไรกันมากขึ้น มีการให้คำปรึกษาแนวทางการลงทุนที่หลากหลาย ตั้งแต่ เทคนิก ปัจจัยพื้นฐาน เล่นรอบ เล่นข่าว และ DCA

ก็อย่างที่เห็นกันครับ ช่วงนี้หุ้นถูกเก็งกำไรกันอย่างร้อนแรง แค่ข่าวลือส่งเดชยังส่งผลต่อราคาหุ้นอย่างรุนแรง จนต้องออกมาตรการสกัดหุ้นร้อนเข้าไปแล้ว

*** มาถึงวันนี้ หนังช่อง 3 สร้างหนังเรื่องหุ้นมาเรียกเรทติ้ง โอ้โหหหห อะไรจะปานนั้น ***

[bing1992]

มีหนังด้วยเหรอครับ ถ้าบูมนี่สงสัยผมต้องถือแต่เงินสดครั้งใหญ่เป็นแน่แท้

ทุกวันนี้ผมสับสนสำนักข่าวบางสำนัก เช่น วันนี้หุ้นตกบอกนลท.มีความกังวลราคาน้ำมัน LTFยังไม่เข้า

พรุ่งนี้หุ้นขึ้นบอกเงินจากLTFไหลเข้าแล้วนลท.คายความกังวล555 สลับกันอย่างนี้แทบทุกวัน ผู้เขียนบางท่านมีความพยายามมากที่จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้น

สุดท้ายมันก็เพียงความผันผวนของตลาด (มันก็แค่ดีมาน ซับไพร์) ช่วงหลังมานี่ผมหาบทความการลงทุนแบบเน้นคุณค่าอ่านได้น้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อน

และในปีที่ผ่านมาแนวทางอื่นน่าจะทำกำไรได้ดีกว่าวีไอ(ในระยะเวลาหนึ่ง) นลท.ใหม่ๆบางท่านน่าจะปันใจไปในแนวทางอื่นบ้างแล้ว หรือไม่ก็บอกว่าตัวเองเป็นลูกผสมซะเลย
(จริงๆไปแนวทางอื่นแล้วแต่ขอเอียวชื่อวีไอไว้หน่อย)

ที่เห็นจะตอบโจทย์ชัดสุดว่าบูมรึไม่ คงเป็นเพจแนะนำบนเฟสบุค มีมากมายเหลือเกินและผมเห็นคนจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจ แม้แต่เพื่อนฝูงรอบข้างที่ไม่รู้เรื่องหุ้นเลย
(พ่อมดการลงทุน,ชี้ช่องรวย,รวยด้วยหุ้น,เล่นหุ้นเก่งจนสอนคนอื่นได้,ทำงานเพื่อเงินหรือให้เงินทำงาน,เล่นหุ้นสบายจะตายฯลฯ)
มันช่างจูงใจซะจริงๆ

สุดท้ายขอเก็บแรงไว้ตีลูกเบสบอลลูกต่อไป ลูกนี้ขอแกว่งไม้เล่นไปก่อน

[ดำ]

ลองเทียบดูครับ

10 ปีก่อนดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารเท่าไหร่ ตอนนี้เท่าไหร่ ถามคนรู้จักที่มีเงินหลายสิบถึงร้อยล้านดูว่า 10 ปีก่อนเอาเงินไว้ที่ไหน ตอนนี้ไว้ที่ไหน ถามคนวัยเริ่มทำงานดูว่าทุกวันนี้สนใจฝากธนาคารไว้ออมเงินมั้ย แล้วคนอายุ 40-50 ปีที่เป็นวัยที่มีรายได้สูงเค้าสนใจเรื่องการลงทุนยังไงบ้าง

บางทีการที่คนรุ่นใหม่หันมาลงทุนเพิ่มขึ้นมากๆ อาจไม่ใช่แค่กระแสก็ได้นะครับ มันอาจเป็น Mega Trend อย่าลืมว่าสัดส่วนจำนวนเงินที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เทียบกับเงินออมในประเทศของไทยอยู่ที่กี่ % เทียบกับประเทศอื่นๆ ที่กี่ % (เห็นเวลาวิเคราะห์หลายอุตสาหกรรมก็ใช้วิธีเทียบแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ)

[ดำ]

ทุกวันนี้ผมสับสนสำนักข่าวบางสำนัก เช่น วันนี้หุ้นตกบอกนลท.มีความกังวลราคาน้ำมัน LTFยังไม่เข้า

พรุ่งนี้หุ้นขึ้นบอกเงินจากLTFไหลเข้าแล้วนลท.คายความกังวล555 สลับกันอย่างนี้แทบทุกวัน ผู้เขียนบางท่านมีความพยายามมากที่จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้น

สุดท้ายมันก็เพียงความผันผวนของตลาด (มันก็แค่ดีมาน ซับไพร์)

ขออนุญาตแย้งนะครับ เรื่องนี้ผมเห็นมาเป็น 10 ปีแล้วครับ แล้วคาดว่าก็จะเห็นต่อไปอีกเรื่อยๆ ในอนาคต แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะในไทยนะครับ ลองอ่านดูที่ Wall Street ก็แบบนี้เหมือนกันครับ

[ดำ]

ที่เห็นจะตอบโจทย์ชัดสุดว่าบูมรึไม่ คงเป็นเพจแนะนำบนเฟสบุค มีมากมายเหลือเกินและผมเห็นคนจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจ แม้แต่เพื่อนฝูงรอบข้างที่ไม่รู้เรื่องหุ้นเลย
(พ่อมดการลงทุน,ชี้ช่องรวย,รวยด้วยหุ้น,เล่นหุ้นเก่งจนสอนคนอื่นได้,ทำงานเพื่อเงินหรือให้เงินทำงาน,เล่นหุ้นสบายจะตายฯลฯ)
มันช่างจูงใจซะจริงๆ

ไหนๆ แล้วก็ขอแย้งอีกซักประเด็นนะครับ

ผมว่าจำนวนเพจในเฟสบุ๊คมันก็มากขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปีนะครับ ทั้งเรื่องครีมหน้าเด้ง ขายเสื้อผ้า ขายเครื่องประดับ อาหารเสริม แฟนคลับดารา การสร้างธุรกิจ การสร้างแรงบันดาลใจ ท่องเที่ยว แม้แต่ธรรมะ ก็เห็นว่ามันมากขึ้นทั้งนั้นนะครับ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องหุ้นมั้งครับ

[bing1992]

น้อมรับความเห็นขัดแย้งครับ ต้องขออภัยหาการสื่อสารด้านการพิมพ์ไม่ครบถ้วน

[pipatc]

ละครเรื่อง แอบรักออนไลน์ ใช่ไหมครับ

[sci]

จำได้คราวๆว่าตอนที่หุ้น อเมริกาขึ้นออย่งบ้าคลั่งบัตเฟตต้อง เลิกกองทุน แล้วนั่งทับมือ ถึง 3ปีนะครับ

ตอนนี้คนที่สนใจรอบข้างยังแค่ถามหรือสนใจ ต้องขนาดเปิดพอร์ท เอาเงินเก็บมาเล่นเลย
และ ถึงขนาดแนะนำหุ้นให้เราด้วย

นั้นน่าจะถึงช่วง บูม และคงลากยาวไปอีกสักระยะครับ

[kissme]

ถ้าพูดว่าบูมสุดๆ แล้วรึยัง ยังแน่นอนครับ
แต่ถ้าทำว่าเก็งกำไรกันอย่างเมามัน อันนี้ใช่ครับ อาจจะเหมือนแต่ต่างกัน
เทียบกันง่ายๆ ต้องเทียบหุ้นกับทองคำ อันนี้ชัดมาก
ทองคำนี่แน่นอน บูมสุดขีดไปแล้ว แม้ราคาจะตกลงมาอย่างมาก คนก็จะไม่กลัว
คนทุกระดับชั้น เชื่อสนิทใจว่าสินค้าตัวนี้มันมีค่ามาก แม้ราคาจะตก แต่มีคุณค่าทางจิตใจ
ถ้ามีเงินก็จะซื้อเก็บไว้ ดีกว่าเอาไปทำอย่างอื่น อย่างน้อยก็เอาไว้ดูชื่นชม
และไม่มีใครเชื่อ ว่าวันนึงมันจะไร้ค่า

แต่หุ้นไม่ใช่ ยังมีคนจำนวนมาก และ เป็นส่วนใหญ่ของประเทศนี้ด้วย มองว่าหุ้นเป็นการพนัน
หมายถึงคนนอกวงการหุ้นนะครับ ที่ไม่คิดจะลงทุนหุ้น เค้ามองว่าหุ้นคือหวยของคนรวย
และเชื่อว่าวันนึงอาจหมดตัว ล้มละลาย ภาพยุค 40 ที่เศรษฐีฆ่าตัวตายจากหุ้นตกมันฝังหัว

เป็นเพียงเทรนของคนรุ่นใหม่เท่านั้น ที่มองว่าหุ้นคือหนทางแห่งความร่ำรวย
แต่ถ้าวันใดก็ตาม คนยุคเก่า อายุ 30 ขึ้นไป ส่วนมาก หรือ คนที่ไม่มีเงินจะลงทุนเลยแต่
เริ่มมีทัศนคติที่ดีต่อตลาดหุ้น มองว่าตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่ดี มีเกียรติ น่าสนใจ ไม่ใช่การพนัน
ผมว่าถ้าถึงตอนนั้น นั่นคือหายนะของตลาดหุ้น !!!
ตลาดหุ้นนี่มันแปลก มันจะสวนทางกับความรู้สึกคนเสมอ
ตอนที่เราไม่ระวังตัว จะโดนมันเล่นงานหนัก แต่ไม่ใช่ช่วงเวลาแบบนี้
ตอนนี้ ผมเห็นนักลงทุนทุกคนระวังตัวกันมาก น่าจะยังไม่สุดครับ แต่จุดนี้เสียวมากพูดเลย

[ดำ]

เป็นเพียงเทรนของคนรุ่นใหม่เท่านั้น ที่มองว่าหุ้นคือหนทางแห่งความร่ำรวย
แต่ถ้าวันใดก็ตาม คนยุคเก่า อายุ 30 ขึ้นไป ส่วนมาก หรือ คนที่ไม่มีเงินจะลงทุนเลยแต่
เริ่มมีทัศนคติที่ดีต่อตลาดหุ้น มองว่าตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่ดี มีเกียรติ น่าสนใจ ไม่ใช่การพนัน
ผมว่าถ้าถึงตอนนั้น นั่นคือหายนะของตลาดหุ้น !!!
ตลาดหุ้นนี่มันแปลก มันจะสวนทางกับความรู้สึกคนเสมอ
ตอนที่เราไม่ระวังตัว จะโดนมันเล่นงานหนัก แต่ไม่ใช่ช่วงเวลาแบบนี้
ตอนนี้ ผมเห็นนักลงทุนทุกคนระวังตัวกันมาก น่าจะยังไม่สุดครับ แต่จุดนี้เสียวมากพูดเลย

เสริมท่าน kissme นิดครับ

บางทีอาจไม่ใช่ภาพที่คนยุคเก่าจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตลาดหุ้น แต่เป็นภาพในอนาคตที่คนรุ่นเก่าถ่ายโอนทรัพย์สิน มรดก อำนาจบริหารจัดการ มาสู่คนรุ่นใหม่ครับ ตอนนี้ก็เริ่มเห็นบ้างแล้ว