MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงทุน

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
i-salmon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 293
ผู้ติดตาม: 0

MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงทุน

โพสต์ที่ 1

โพสต์

MoneyTalk@SET19Sep15

ช่วงที่ 2 สัมมนาหัวข้อ “เป้าหมายชีวิต พิชิตการลงทุน”
1) คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ผู้เสนอแนวคิด White Ocean
2) คุณพีรนาถ โชควัฒนา นักลงทุนเน้นคุณค่าอาวุโส
3) คุณพรชัย รัตนนนทชัยสุข นักเขียนนักลงทุนเน้นคุณค่า
4) ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ. เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ

ทำไมชีวิตต้องมีเป้าหมาย?
- คุณดนัย ต้องถามว่าอะไรคือเป้าหมายสูงสุดก่อนออกจากโลกใบนี้?
เราทุกคนต้องตาย ถ้าเราเห็นความจริง จะตอบได้ว่าอะไรคือเป้าหมาย ?
อยากได้อยากมีอยากเป็น คือ ของชั่วคราว โลกทรัพย์หรือโลกียะทรัพย์
เวลาไปโรงแรม check out เราต้องคืนอะไรบ้าง? คืนทุกอย่าง
เช่นกัน เวลาที่ checkout ออกจากโลกใบนี้ ต้องคืนอะไรบ้าง?
ของที่สะสมทุกอย่างไม่ใช่ของของเรา รวมถึงลมหายใจสุดท้ายก็ต้องคืนด้วย
จึงตั้งคำถามทิ้งไว้ว่าเราจะตั้งเป้าหมายอย่างไร?

- คุณพรชัย ถ้าเราเกิดมาเหมือนเรามา check in ในโลก
ถ้าเราตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่าวันหนึ่งต้อง checkout เราควรอยู่อย่างมีคุณค่า
เพราะเรารู้ว่าเวลามีจำกัด การอยู่แบบมีคุณค่า ไม่ใช่อยู่แบบงงๆ
ถ้าตื่นออกจากบ้านมารอรถเมล์ แต่ไม่รู้ขึ้นฝั่งไหน ขึ้นสายไหน
หรืออยากกินอาหาร แต่ไม่รู้ว่าอยากกินประเภทไหน ก็จะทำมั่วๆไป
ชีวิตมีช่วงเรียน เติบโต ทำงาน ถ้ามีเป้าหมายจะใช้ชีวิตแบบมีคุณค่า

- คุณพีรนาถ เป็นหัวข้อที่หนักใจ
ที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กชีวิตมีเป้าหมายมาโดยตลอด ทำให้รู้ว่าเราจะไปที่ไหน
ช่วงนี้รู้สึกเป้าหมายไม่ชัดเจน เหมือนกับจุดที่เราไม่ได้ลำบาก ไม่รู้จะตั้งเป้าหมายทำอะไรต่อ
สมัยเรียน มศ.3 ที่กรุงเทพคริสเตียน ไม่เคยมีเป้าหมายเลย
เรียนไม่เก่ง สอบได้ตรีโกณ 2 คะแนนจาก 100 พวกคิดเลขในใจก็ไม่เป็น
สอบเข้าเรียนต่อโรงเรียนตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นพ่อแม่จะส่งไปเมืองนอก
จึงเป็นครั้งแรกที่จะต้องสอบเข้าเตรียมให้ได้ แล้วก็ทำได้เพราะมีเป้าหมาย
พอเข้าไปได้ก็เริ่ม paranoid(วิตกไปไกล) ว่า ตอน entrance จะเข้าไม่ได้
ต้องโดนส่งไปเรียนต่างประเทศอีก จึงตั้งใจจะสอบเทียบให้ได้ จนได้ วิศวะจุฬาฯ
ซึ่งสอบได้ที่ 494 จาก 500 คน จึงเกิดความกลัวว่าจะเรียนไม่จบอีก
ที่ตอนนั้นตั้งเป้าหมายว่าจะเรียนให้ได้เกียรตินิยม คิดว่าตั้งเป้าหมายสูงๆไว้ก่อน
อย่างน้อยไปไม่ถึงก็ไม่เป็นไร ได้พยายามทำเต็มที่
กล้าบอกว่าไม่ได้เป็นคนเก่ง แค่เป็นคนมีความพยายาม กับมีเป้าหมายแน่ชัดว่าต้องการอะไร

- ดร.นิเวศน์ อาจจะเคยมีเป้าหมายสักครั้งหนึ่ง ตอนปี 40 ที่มีวิกฤติเศรษฐกิจ
ตอนนั้นตั้งเป้าหมายจะเป็นนักวิชาการที่บุกเบิก VI
ตอนนั้นตลาดหุ้นตกลงมามาก เป็นจังหวะที่เมืองไทยต้องเปลี่ยน
หลักการ vi ก็มีอยู่นานแต่ไม่ได้มีคนสนใจ
คิดย้อนที่ผ่านมาก็ตั้งแค่ว่าบ่ายนี้จะกินชาเขียว ปีนี้จะไปทำอะไร
อยากจะมีเงินเก็บมากขึ้น อยากเจริญขึ้น อยากดีขึ้นทุกปี
ซึ่งทุกปีชีวิตก็ดีขึ้นทุกปี มีแค่ไม่กี่ปีที่มีแย่ลงบ้าง
เช่น ปีที่เกิดวิกฤติ เงินน้อยลง ลำบากขึ้น
ไม่เคยตั้งเป้าหมายไกลๆ หรือเป้าหมายที่จะรวย
ตอนหลังมาอ่านชีวิตหลายคน อย่าง สตีฟ จ๊อบ บิล เกตต์
ชีวิตเขาไม่เคยมีเป้าหมาย แอปเปิ้ล ไมโครซอฟต์ไม่มีเป้าหมาย
ถ้ามีเป้าหมายเมื่อไรแสดงว่าตายแล้ว นวัตกรรม สิ่งใหม่ๆของโลกไม่เคยมีใครเจอ
อย่าง มาร์ค ซัคเคิลเบิร์ก เป็นคนหงึมๆ ฝรั่งไม่สนใจ
เขาทำ facebook ขึ้นมาด้วยความรู้สึกว่าตัวเองไม่ popular

- คุณพรชัย เสริมมองอีกอย่างว่า เป้าหมายมีที่เป็นเป้าหมายละเอียด กับ กว้างๆ
บิลเกตต์ หรือ สตีฟจ๊อบ มีเป้าหมายคือทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ แล้วให้มันพาไป
มีคนถามว่าอยากทำกิจการส่วนตัวเริ่มจากตรงไหน? เริ่มจากลงมือทำ
ทำไปก่อน แล้วมันจะมีทางไปต่อเอง
อย่าง อเมซอน ทีแรกขายหนังสืออย่างเดียว แล้วโอกาสเปิดกว้าง
ก็ทำอย่างอื่นอีกเยอะแยะ มีขาย cloud อะไรต่างๆอีก
เราเริ่มทำไปก่อน รายละเอียดไม่เจาะลึก แล้วเราอาจจะเห็นเอง
เหมือนอย่าง อ.นิเวศน์ก็บอกว่าชีวิตต้องดีขึ้นทุกปี
เป้าหมายทำให้เราโฟกัสว่าเวลา 24 ชม. สมองที่มีจะใช้เวลากับเรื่องอะไร
จะใช้ชีวิตไปแบบไม่มีรูปแบบ ขึ้นกับจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา
คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะทำหลายอย่างเยอะแยะไปหมด
อย่าง อ.เสน่ห์ ให้ความสำคัญกับการเป็นวิทยากร คือเรารู้ว่าเน้นอะไร ทำตรงนั้นให้ดี
บางครั้งเราบอกไม่มีเป้าหมาย แต่ไม่จริงเสมอไป
ทุกครั้งเราทำ เคยสำรวจไหม ว่าเราคิดวิเคราะห์แล้วมันใช่ หรือเป็นเป้าหมายที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
ถ้าเรียนได้ดีเราก็ต้องไปเรียนหมอ ทันตะ เป็นเป้าหมายที่อัตโนมัติ โดยสังคมหล่อหลอม
ไม่เชื่อว่าคนไม่มีเป้าหมาย ประเด็นคือ เป้าหมายที่คิดวิเคราะห์แล้ว
หรือเป็นเป้าหมายลวง ซึ่งทิศทางที่เหมือนมีแต่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการจริงๆ
อย่างคุณพีรนาถ มีความกลัวเรียนไม่จบ มีแรงกผลักดันมหาศาล ที่ทำให้เรียนดี
การตั้งเป้าหมายเป็นศิลปะ ต้องชัดเจน วัดผลได้จะได้รู้ว่าเข้าใกล้ขึ้นหรือเปล่า
มีหลายด้าน การเงิน สุขภาพ ความสัมพันธ์ การงาน ทางธรรม
บางครั้ง focus เงินมากจนลืมด้านอื่น
เคยไหมมีเป้าหมายจะตั้งใจเรียน หรือปีใหม่อยากทำอะไร แต่ผ่านไปไม่นานก็ลืมไม่ได้ทำแล้ว
คนแค่ 10% ทำได้ตามที่คิด 90% ล้มเหลว
เพราะ ตั้งเป้าหมายที่ไม่เป็นจริง ยากเกิน ตั้งเยอะเกินไป
กว้างมากจนไม่สามารถติดตามความคืบหน้า ต้องวัดผลได้
ถ้าเปรียบเทียบเรื่องเป้าหมายเป็นตะเกียบ ต้องเป็นคู่
เป้าหมายเป็นตะเกียบข้างเดียว ต้องหาอีกข้างหนึ่ง คือวินัย
ถ้ามีเป้าหมายไม่มีวินัย มีข้างเดียวจะไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้ามี 2 อย่างพร้อมกันก็จะคีบได้

คนไทย เน้นเชิงปริมาณเยอะ เน้นเชิงคุณภาพน้อย
อย่างคนเขียนหนังสือชอบบอกเขียนหนังสือมากี่เล่ม เขียนมากี่บทความ
ถ้าดูอย่างฝรั่ง Michael porter เขียน ทั้งชีวิตแค่ 4-5 เล่ม
การที่ตั้งเป้าหมาย ต้องดูว่าเป็นจุดที่สำคัญหรือเปล่า
บางทีไปยึดกับตัวเลข ว่าต้องเขียนบทความทุกวัน
สำคัญกับเราแต่สำคัญกับโลกหรือเปล่า เป็น ego ของเราคนเดียว
อย่างไปค้นหาชื่อตัวเองใน google เจอ 2,000 รายการ หรือเคยเขียน 200 บทความ
มีใครแคร์ มีความหมายอะไรกับโลก? มีอะไรที่ทำให้ชีวิตคนเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีได้?
ตัวอย่างในต่างประเทศ อ. ฟิลิป คอตเลอร์ ที่เป็นปรมาจารย์ด้านการตลาด
เทียบกับ อ.ไมเคิล พอร์ตเตอร์ ปรมาจารย์ด้านกลยุทธ์
อ.พอร์ตเตอร์ ออกหนังสือปีแรก 1980 หลังจากนั้นก็มีออกหนังสือใหม่มาบ้าง นานๆเขียนบทความที
แต่อ.คอตเลอร์ออกทุกปี ซึ่ง review หลังๆมันแย่ลงเรื่อยๆ
เพราะคนอ่านคาดหวังสูง อ่านแล้วรู้สึกไม่มีอะไร
คนเราไปเน้นปริมาณมากเกินไป จนตัวเราเองเสื่อมถอย
ไม่ใช่ทำสิ่งที่เป็นแก่น ซึ่งส่งผลอะไรให้กับคนอื่น

- คุณดนัย ในฐานะที่ทำงานเกี่ยวกับไมโครซอฟต์มา 3 ปี
ไม่ใช่บิล เกตต์ไม่มีเป้าหมาย บุคคลที่ประสบความสำเร็จจะตั้งเป้าหมายได้เร็วและชัดเจน
เขาเรียนฮาร์เวิร์ด 2 ปี แล้วเขาบอกไม่อนุญาตให้มหาวิทยาลัยขโมยเวลาเขาอีกต่อไป
เขาไม่จำเป็นต้องเอาความรู้มือสองมายัดใส่หัวเขา
เป้าหมายฝันเห็นโลกใบนี้มีคอมพิวเตอร์ในที่ทำงานทุกแห่ง บนโต๊ะทุกแห่ง บ้านทุกหลัง
มันคุยกันได้ ง่ายต่อการใช้ 30 ปีก่อนคอมพิวเตอร์ไม่ได้หน้าตาแบบนี้
เขากล้าฝัน คิดไกลใฝ่สูง ประสบความสำเร็จ
ตั้งเป้าหมายใหญ่ขนาดนั้นคนก็หัวเราะเยาะ
เขาไปขอโรงรถของพ่อ ไปเหลือบเห็นหน้าต่างเพื่อนบ้าน เป็นที่มาของ window
เขารู้แล้วว่าเขาทำเพื่ออะไร ให้ประโยชน์กับคนทั้งโลก เป็นกฏแรงดึงดูดที่ทำให้เขารวยประสบความสำเร็จ
ส่วนสตีฟ จ๊อบ โชคดีกว่าบิลเกต์อีก เขาเรียนต่อไม่ได้ พ่อแม่บุญธรรมไม่มีเงินจ่ายให้เรียน
เขาจึงลาออก ช่วงเวลา 6 เดือนที่เขาเรียน เขารู้วิชาที่ชอบที่สุดคือ วิชาประดิษฐ์ตัวอักษร
เขารู้ว่ารักอะไร และเลือกทำสิ่งที่รัก ถ้าเราทำงานแบบไม่มี ego จะมีพลังมาก
เขาเดินกลับไปที่บริษัทที่ตัวเองตั้งและโดนไล่ออกได้

ในประเทศไทย เราดูใครเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ พระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็น idol ของคนทั้งโลก
ทรงตั้งเป้าหมายเมื่ออายุราว 20 ต้นๆ เป้าหมายของท่านยิ่งใหญ่มาก
เราจะครองแผ่นดินโดยทำ เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่เหมือนที่คุณเวบบอกว่าเป็นตะเกียบต้องมีวินัย ประกาศและได้ทำด้วย
ตัวอย่างอีกท่าน ประสูติและตั้งเป้าหมายเลยคือ พระพุทธเจ้า
ท่านประสูติและประกาศเป้าว่าเกิดมาทำไม
ประกาศว่าชาตินี้เป็นชาติที่เจริญที่สุด ประเสริฐที่สุด เป็นเลิศที่สุด ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา การเกิดไม่มีอีกต่อไป

เป้าหมายส่วนตัวได้แรงบันดาลใจจากงานศพคุณพ่อ
เมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่งท่านไม่ได้เป็นคนที่สำคัญในสังคม ไม่มียศฐาบันดาศักดิ์
แต่คุณพ่อเป็นคนน่ารัก ให้ความสุขกับคน ซึ่งงานศพคุณพ่อ
คนมาร่วมเป็นพัน มาด้วยความเสียดาย ซึ่งบางคนมาร้องห่มร้องไห้ต้องคอยปลอบ
ที่ประทับใจได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พวงมาลาไว้หน้าหีบศพ ได้รับเชิญกระแสรับสั่ง
ขอให้คุณดนัยอย่าทำงานหนักมากเกินไป ถนอมสุขภาพ จะได้ดูแลประเทศชาติต่อไป
ทำให้เราเห็นว่า ความดีไม่มีวันศูนย์ แม้เราจะไม่ได้มีตำแหน่ง ยศฐาบรรดาศักดิ์
แต่ มีความอิ่มเอมใจที่เราได้
ถ้ามีคำจารึกหนึ่งคำ ที่อธิบายหนึ่งประโยคว่าเขาเป็นคนอย่างไร นั่นควรจะเป็นเป้าหมายของเรา

- ดร.นิเวศน์ ถ้ามีงานของตัวเองอยากให้เขียนจารึกไว้ว่า The greatest father and husband of the world

- คุณพีรนาถ คิดย้อนดู เป้าหมายเกิดจากวิกฤติ ไม่มีที่เรียน กลัวว่าจะเรียนไม่จบ
เราตั้งเป้าหมายเกียรตินิยมเหรียญทอง โดยไม่เคยบอกใครเลย
ไม่อยากให้ใครคาดหวัง เพราะจะกดดันไม่เป็นตัวเรา
เริ่มบอกที่บ้านเมื่อเรียนจบปี 4 เทอม 1 ซึ่งค่อนข้างน่าจะทำได้แล้ว
ซึ่งเกรดที่เรียนได้มีทุกเกรด เป็นคนธรรมดาที่ใช้ความพยายาม
เช่น วิชาเทอโมไดนามิกส์ ซึ่งเรียนไม่รู้เรื่อง อ.ก็สอนไม่ได้สนใจ
แต่ถ้าเป้าหมายเราใหญ่พอ การที่เราเอาแต่ว่า อาจารย์ ก็ไม่ได้อะไร
ซึ่งเราก็เข้าไปหาอาจารย์ ซึ่งเราก็ได้เรียนรู้และรู้สึกดีกับเขา
พอมีอุปสรรคมาก็ต้องถามว่าจะ react กับอุปสรรคนั้นอย่างไร
เราต้องเข้าหาสิ่งที่เราไม่ชอบบ่อยๆ เราก็จะทำได้
ส่วนตัวมีเป้าหมายมากมายในชีวิตที่ทำไม่สำเร็จ
เช่น ตั้งเป้าหมายจะไปญี่ปุ่น จะต้องพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ซึ่งไม่เคยสำเร็จ
เราไม่ได้อยากมันได้จริงๆ ต่างกับเพื่อนที่จบปริญญาตรี แล้วจะไปเรียนโทที่ญี่ปุ่น
เขาก็ทำกันได้ปีเดียว เพราะจำเป็นกับชีวิตเขา
สมัยก่อนตอนเรียนจบแล้วทำงานไม่ต้องใช้เงินเดือน ซื้อหุ้นอะไรก็ถูกหมด
ก็หยิ่งผยอง ใช้ margin ใช้ OD ปี 40 เกิดวิกฤติก็เจ๊ง หมดตัว
เพื่อนที่ลงทุนรุ่นเดียวกัน ก็หายหมดเลย หมดตัวแบบเงินเดือนไม่พอจ่ายดอกเบี้ย
ทำให้เกิดการตัดสินใจครั้งต่อไป
ถ้ายอมแพ้ก็ทำงานใช้หนี้ไปเรื่อยๆ แต่เราคิดว่าต้องเอาคืน
ซึ่งถ้าใช้วิธีการทำเหมือนเดิมก็ได้ผลเหมือนเดิม
ทุกเสาร์อาทิตย์ไม่ออกไปไหน เปิดหนังสือพิมพ์ ดู pe, pbv หาหุ้น
มาซื้อ cd ข้อมูลย้อนหลัง มาตลาดหลักทรัพย์ดูข้อมูลบ้าง หนังสือหุ้นสมัยนั้นยังไม่มี
เมื่อก่อน มีคนมาบอกเราเชื่อเราก็ซื้อ ตอนนี้เราก็มีเป้าหมายชัดขึ้น จะไม่ทำผิดแบบเดิม
เป้าหมายตอนนั้นชัดเจนว่าจะสร้างตัวกลับมาจากการลงทุน
ช่วงนั้นซื้ออะไรไปก็มี tender ออกไป ก็มีเงินหมุนเวียน
หลังๆเป้าหมายที่ตั้งมันลอยๆ เพราะเราไม่ได้ใส่ความพยายามอย่างเพียงพอให้ไปถึงสิ่งที่เราต้องการ

- ดร.นิเวศน์ สตีฟ จ๊อบ เขาไม่เคยเห็นภาพปัจจุบันของแอปเปิล
ไม่ได้คิดว่าบริษัทจะเป็นอย่างไร เขาพูดสุนทรพจน์ที่แสตมป์ฟอร์ด ชีวิตเหมือนต่อจุด
การเขียนอักษรไม่เคยคิดว่าจะมาใช้ แต่ทำเพราะชอบ
สิ่งที่ทำมันบังเอิญต่อมาเป็นรูปร่างที่เห็น กำลังคิดว่าชีวิตตัวเองก็คล้ายๆกัน
คือทำๆไป พอถึงอายุ 50 ก็ไม่ค่อยได้ต่อจุดแล้ว

จะแนะนำคนอื่น ต้องวางเป้าอย่างไร เพื่อพิชิตการลงทุน?
- ดร.นิเวศน์ ตั้งเป้าน้อยหน่อย แต่ให้ดีขึ้นทุกปี
ถ้าขาดทุนอยู่ก็หาเรื่องอื่นมาชดเชย เช่น จีบแฟนสำเร็จ
มีความคิดง่ายๆว่าถ้าปีหนึ่งดีขึ้นนิดหน่อย แล้วทำให้มันไม่ตกต่ำลง
ทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเรื่อยๆ ชีวิตก็พาไปโชคชะตา

- คุณพรชัย ขอพูดเรื่องตะเกียบต่อ ฟังคุณพีรนาถตรงกับเรื่องที่จะพูด
หลายคนมีเป้าหมาย อาจจะเป็นเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เงิน
แต่ถ้าเราแค่ตั้งเป้าหมาย เราทำไม่ได้
เป้าหมายที่ดี ต้องมีเหตุผลที่ยิ่งใหญ่พอ ว่าทำไมต้องทำให้สำเร็จ
ชีวิตจะดีขึ้นอย่างไร ไม่สำเร็จ ชีวิตจะแย่ลงอย่างไร
ถ้ามีวินัย ไม่มีเป้าหมายจะเหมือนวิ่งผิดทิศ มันต้องคู่กัน
วินัยเป็นเรื่องยาก เหตุผลต้องยิ่งใหญ่พอ
ชีวิตคนเรามีหลายช่วง ถ้าเรายังปากกัดตีนถีบ ไม่มีเป้าหมายไม่ได้ ต้องทำให้ได้ พรุ่งนี้ต้องมีกิน
ต้องพยายามไม่ใช่ slow life ถ้ายังอยู่ในเฟสการอยู่รอด หรือทำตัวเองให้มั่นใจ
ถ้าเรา slow life ชีวิตจะ low life เอาให้ผ่านช่วงอยู่รอดกับมั่นคงก่อน
ตอนนี้ชีวิตก็ไม่มีเป้าหมาย ตอนนี้ขอมีความสุขในทุกสถานการณ์
สิ่งที่อยากได้อยากมี ก็มีแล้ว เพราะไม่ได้ต้องการเยอะ
ตอนที่อยู่ในระดับอยู่รอดกับชีวิตมั่นคงไม่ได้ มันต้องมีเงิน ดูแลคนอื่นได้
ชีวิตเป็นเฟส อย่าไปใช้ชีวิตตามคำคม มันมีข้อยกเว้น
อย่างที่อ.นิเวศน์บอกว่า สตีฟจ๊อบประดิษฐ์อักษร คนสำเร็จ มีสิ่งสำเร็จกับสิ่งที่เค้าทำ กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นเอง
อย่าง IBM กับ Microsoft ซึ่งตอนนั้น IBM forecast ว่า pc ไม่ได้ดีมาก
เลยไม่ได้แคร์ว่าใครจะทำ สุดท้าย power ไปอยู่ที่ microsoft
บางอย่างบิลเกตต์ทำ บางอย่าง IBM ทำ
ชีวิตคนเรามัน อย่างอ.นิเวศน์เจ๊งเป็นโชคดีก็ได้ โชคร้ายก็ได้
เป็นบทที่โลกเขียนให้เรา เราทำอะไรไม่ได้
อีกส่วนที่สำคัญกว่าคือ เราจะเขียนบทต่ออย่างไร
ถ้าเจ๊งแล้วเลิกก็หมดตัว อย่างคุณพีรนาถถ้าเลิกก็จะเป็นอย่างนั้นอยู่
สิ่งที่เกิดกับเรา บทที่โลกเขียนให้เรา
ไปตีโพยตีพายเปล่าประโยชน์ควรใช้สมองและเวลาที่มีน้อยๆ ไปโฟกัสให้ถูกเรื่อง
บทที่เขียนให้ตัวเองเล่น เขียนอย่างไร
คนอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน มีไม่กี่คนที่โดดเด่นประสบความสำเร็จ
แต่ต้องใช้ความคิด อย่างบิลเกตต์ถ้าทำ microsoft ไม่สำเร็จ ก็เรียนต่อเพราะเขา drop ได้
เป้าหมายเป็นดาบสองคม อย่างแรกเป็นทิศทาง แต่มองอีกมุมเป็นกรอบ
ถ้าเรามีทิศทางชัดเจนเกินไปจนไปทางนั้นอย่างเดียวจนละเลยสิ่งรอบข้าง
อย่างสตีฟจ๊อบอาจจะไม่เรียนประดิษฐ์อักษร บริษัทที่เจ๊งทั้งหลายเพราะมีทิศทางเดียวเกินไป
อย่าลืมมองสิ่งรอบข้างที่เกิดขึ้น อาจเป็นจุดหนึ่งที่เวลามาต่อแล้วลงตัวสวยงาม
สตีฟจ๊อบบอกไม่เคยมองไปข้างหน้าต่อจุดได้
แต่ต่อจุดจะเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว มองย้อนกลับมา
เราต้องมีความศรัทธาและมีความพยายาม
ความศรัทธาที่ไม่มีความพยายามกำกับ เป็นศรัทธาโง่ๆ ความฝันลมๆแร้งๆ
ความพยายามที่ไม่มีความศรัทธา เป็นความพยายามที่ขาดความมั่นใจ
ขาดพลัง ขาดความโฟกัส ขาดชีวิตชีวา ความสุข
ความพยายามอย่างหนักหน่วงขาดเราต้องมีศรัทธากำกับ
แล้วสุดท้ายถ้าชีวิตเราโชคร้ายเกินไป ชีวิตเราควรจะดี

- ดร.ไพบูลย์ อยากตอบคำถามที่คุณดนัยถามว่าจะสลักคำว่าอะไรที่โลง คำตอบคือไม่มี
เพราะศพไม่ได้ตั้ง ร่างกายก็บริจาค และตายไปก็ไม่ได้อะไร อย่าไปคิดเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของลูกเมีย
ตายไปแล้วก็จบ เราเป็นส่วนน้อยมากในโลก

- คุณดนัย อยากขอพูดถึงสตีฟ จ๊อบในความยิ่งใหญ่
เขาเป็นอเมริกันที่เป็นพุทธ และเขาเป็นมะเร็ง
พระพุทธเจ้าสอนให้เราอยู่กับความจริง มรณานุสติ
ไม่มีประโยชน์อะไรที่ทำให้เขาเป็นคนรวยที่สุดที่อยู่ในสุสาน
แต่ขอเป็นคนธรรมดาที่ทำทุกวันให้ยิ่งใหญ่ที่สุด
อย่างในเมืองไทย คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้ก่อต้องธนบุรี ประกอบรถยนต์
คุณเล็ก มีคำพูดบอกว่าวันนี้เป็นวันที่มีคุณค่าที่สุด
เพราะได้สละชีวิต 1 วันเป็นค่าทดแทนไปแล้ว
slow life ไม่ใช่ไม่ทำอะไร
ถ้าเทียบกับคนยุคนี้ส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิต เร่งรีบ ใช้ชีวิตตามแนวรถไฟฟ้า
ดูมือถือ ดู คอม ไปพร้อมกัน แต่ slow life มีเวลาอ่านหนังสือ สังเกตคนรอบข้าง
การตั้งเป้าหมายแบบวิถีพุทธ พระพุทธเจ้าบอกมี 3 ระดับ
ระดับแรก ชีวิตปัจจุบัน ชีวิตทางโลกทำให้ดีที่สุด มีอาชีพดี การงานดี ฐานะดี คื
อประโยชน์แบบปัจจุบัน โลกทรัพย์ โลกียะทรัพย์
ถัดมา ถ้าเราเชื่อบาปบุญคุณโทษ เวรกรรม ชาติต่อไปจะมีความดีตามมาด้วย
และสุดท้าย ทำอย่างไรไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก

อ.เสน่ห์ สรุปปิดท้าย
แต่ละคนมีเป้าหมายไม่เหมือนกันในชีวิต
เป้าหมายสำคัญคือพิชิตการลงทุนบนเส้นทางที่สุจริต
ชีวิตต้องทำประโยชน์ให้คนอื่นด้วย
เราโชคดีที่เกิดมาเป็นมนุษย์ 7.2 พันล้านคน
เราน่าจะเป็นคนหนึ่งที่ทำประโยชน์ไม่ใช่เป็นขยะมนุษย์
การลงทุนก็ควรเป็นการลงทุนที่มีความภาคภูมิใจ
ทำแล้วประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง มิใช่การลงทุนแบบทุจริต

ครั้งที่แล้วเดินทางไปต่างประเทศ กลับมายังป่วยอยู่ไว้ช่วงที่ 1 จะมาโพสต์ต่อพรุ่งนี้ครับ
ขอบพระคุณอ.ไพบูลย์,พิธีกร,วิทยากร, ทีมงาน money talk และผู้สนับสนุนทุกท่าน
ข้อมูลแชร์เพื่อแบ่งปันความรู้ หากผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยครับ ช่วยแก้ไข เสริมเพิ่มเติมได้เลยครับ

Money talk at SET ครั้งต่อไป เสาร์ที่ 17 ตุลาคม เปิดจองเสาร์ที่ 10 ตุลาคม
หัวข้อ 1 MBA ประตูสู่ความสำเร็จ จริงหรือ?
แขกรับเชิญ คุณวรวุฒิ อุ่นใจ กจก.COL, คุณพยนต์ พงศาวรี fund manager บลจ.ทหารไทย
รศ.พ.ต.ต.ดร.ดนุวศิน เจริญ เป็นรองคณบดี นิด้า business school และดร.นิเวศน์
อ.ไพบูลย์ กับ อ.เสน่ห์ ดำเนินรายการ
หัวข้อ 2 เลือกหุ้นจัดพอร์ตแบบมืออาชีพ เป็นหัวข้อสำคัญ ไม่ใช่แค่เน้น stock selction อย่างเดียว
แขกรับเชิญ ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กจก.บลจ.ทหารไทย, คุณวิน พรหมแพทย์ cio บลจ.cimb,
คุณประภาส ตัณพิบูลย์ cio บลจ.กรุงศรีฯ ปัจจุบันลาออกแล้ว กำลังตั้งบริษัทใหม่ และ ดร.นิเวศน์
ดร.ไพบูลย์, อ.เสน่ห์ ดำเนินรายการ
Go against and stay alive.
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2576
ผู้ติดตาม: 1

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ยังไม่นอนรออ่านของน้องบิ๊กก่อนครับ
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2576
ผู้ติดตาม: 1

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณที่แบ่งปัน ขอให้หายไวๆนะ
chakapun
Verified User
โพสต์: 266
ผู้ติดตาม: 0

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณครับ :D
ลูกหิน
Verified User
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 0

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณมากๆครับ ขอให้หายป่วยเร็วๆนะครับ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขอบคุณครับ

ขอแก้ไขนิดนึง

"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณมากเลยค่ะน้องบิ๊ก :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
i-salmon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 293
ผู้ติดตาม: 0

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ช่วงที่ 1 หัวข้อ "เจาะลึกหุ้นน้องใหม่ IPO"
1) คุณพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินกรุงเทพ จำกัด - (BA)
2) คุณสุรศักดิ์ เข็มทองคำ
กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอส 11 กรุ๊ป จำกัด - (S11)
3) คุณชูเดช คงสุนทร
กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด - (WICE)
4) คุณไพบูลย์ อังคณากรกุล
กรรมการผู้จัดการ บมจ. อาซีฟา จำกัด - (ASEFA)
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ นพ. ศุภศักดิ์ หล่อธนวนิช ดำเนินรายการ

Intro
หุ้น ipo น่าสนใจอย่างไร?
หมอเค นักลงทุน vi มีภาษาว่า ipo คือ it’s probability over price
แต่ถ้ามองในแง่ธุรกิจมีบางโอกาสที่จะขยายธุรกิจ
แม้ช่วงแรกจะมีการเก็งกำไรกันในราคา
แต่ระยะเวลาผ่านไปก็อาจจะมีจังหวะที่น่าสนใจในการลงทุน
อ.ไพบูลย์ เสริมก่อนซื้อต้องทำความรู้จักบริษัทให้ดี
หมอเคแนะนำบริษัท
BA ขณะที่สายการบินแข่ง low cost แต่ BA ไม่สน คว้ารางวัล จาก sky track world's best regional airline
S11 สินเชื่อ รถจักรยานยนต์น้องใหม่ ภาคตะวันออก แต่ประสบการณ์ไม่ใหม่ ต้องมาดูพัฒนาการหลังเข้าตลาดกัน
Asefa การเติบโตของไฟฟ้า บริษัทที่ผลิตและจำหน่าย สวิตซ์ บอร์ดไฟฟ้า
Wice logistics เป็นธุรกิจที่น่าสนใจ การขนส่งสินค้า ให้ผู้ขายผู้ซื้อ ซึ่งทำครบวงจร
อ.ไพบูลย์ เสริม ประเทศไทย logistic cost แพงระดับต้นๆของโลก เป็นสัดส่วน 15% ของ GDP

สรุปการดำเนินธุรกิจ ผลดำเนินงานและแนวโน้ม
BA
ประกอบธุรกิจเครื่องบิน ,ให้บริการสนามบิน และ catering บริการภาคพื้นต่างๆ
สนามบินมี3 แห่ง สมุย สุโขททัย ตราด โดยสมุย เป็นที่ทำสนามบินเอง อยู่ในกองทุน property fund
ให้บริการ จัดอาหาร catering ทำอาหารขึ้นเครื่องบริการสายการบินอื่นๆ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
และมีบริการภาคพื้น รถรับผู้เดินสาย อุปกรณ์ขนส่งของ ดูแลคลังสินค้าได้สัมปทานมา

สัดส่วนรายได้หลัก สายการบิน 80% , สนามบิน 3-4%, catering บริการลานจอด คลังสินค้า 13-15%
ที่เหลือรายได้เล็กน้อยอื่นๆ

เส้นทางบิน หลักการคือสร้างเครือข่ายให้มีความสะดวกในการเดินทาง
ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ แสกนดิเนเวีย ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไต้หวัน ออสเตรเลีย
ซึ่งคนเหล่านี้สนใจเดินทางมาไทยหรือประเทศใกล้เคียง
เราจึงวางเครือข่ายให้ครอบคลุม กรุงเทพ ไป ย่างกุ้ง,มัณฑเล, เนปิดอว์, เวียงจันทร์, หลวงประบาง, พนมเปญ, เสียมเรียบ
วางเส้นทางเป็นจุดเด่นของเรา ในช่วงแรกมีจำนวนสายการบินน้อยที่เข้าไปในเส้นทางเหล่านี้
พอระยะหลังมีความนิยมมากขึ้น อย่างเช่น กัมพูชาเปิดให้มีสายการบินอื่นเข้ามาเพิ่มด้วย เช่น บินตรงมาจากเกาหลี

สนามบิน เราเป็นผู้จัดการและซื้อที่เดินเอง ทำการก่อสร้าง และขออนุญาตใช้เอง ไม่ได้มีสัมปทาน

รายได้ที่สมุยเข้ากองทุนหมด ซึ่งเราถือกองทุนอยู่ส่วนหนึ่ง ราว 28-29% ได้รับปันผล
กองทุน หมดอายุในอีก 20 กว่าปี

Catering ให้บริการสายการบินอื่นๆ ด้วยเช่น กาตาร์, เอมิเรตต์ ฯลฯ มี market share ราว 25%
market share หลักๆ 70% เป็นการบินไทย ซึ่งมี catering ของตัวเอง
รายได้โตตามเที่ยวบินที่เข้าประเทศ ไม่เกี่ยวกับ BA สามารถขยายได้โดยไม่ต้องเกี่ยวกับสายการบินเรา
ธุรกิจที่ทำ Profit margin ธุรกิจสายการบินน้อยสุด เนื่องจากการแข่งขัน และใช้อุปกรณ์ราคาสูง
เช่น ซีลที่ใส่ในเครื่องบิน 5 เหรียญ ใส่รถยนต์ 5 บาท

ทุกวันนี้มีเครื่องบิน 30 ลำ มีทั้งซื้อและเช่า เป็นของเรา 4 ลำ และจะทยอยมีเพิ่มเข้ามาอีก
ลำใหม่ล่าสุดเพิ่งเข้ามาถึง เป็นเครื่องบินใบพัด atr 72 รุ่น 600 เป็นรุ่นใหม่สุดของผู้ผลิต จุได้ 70 ท่าน
ใช้บินในเส้นทางที่ผู้โดยสารยังไม่เยอะ ต้องการความถี่ เส้นทางสั้นๆ
ส่วนเครื่องบินไอพ่น ใช้ในเส้นทางผู้โดยสารมากขึ้น และบินไกลขึ้น

เที่ยวบินที่ฮิตที่สุด คือ สมุย เช่น จากกรุงเทพ จากภูเก็ต ฮ่องกง สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์
ที่เหลือก็เส้นทางในประเทศ ไปภูเก็ต เชียงใหม่ หรือไปเพื่อนบ้าน เช่น ย่างกุ้ง พนมเปญ
อายุเฉลี่ย แอร์โอสเตส 30 ต้นๆ

รางวัล world's best regional airline จุดเด่นต่างจากสายการบินอื่น
เน้นเรื่องการบริการ เอาใจใส่ดูแลผู้โดยสาร
ตั้งแต่ เริ่มมาถึง ใช้เลาจน์ สามารถใช้ได้ทุกคน ผู้โดยสารทุกท่านถือว่าเป็น vip
แต่ในบางที่พื้นที่น้อย ต้องดูว่าเราจัดได้มากสุดแค่ไหน อาจจะจัดเป็นคีออส หรือรถให้บริการ
ในระดับชั้นสูงขึ้น premier เรามีห้องรับรองให้อีกต่างหาก มีความเป็นส่วนตัวขึ้น

แนวทางของเรา ไม่แข่งขันเรื่องราคา ตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้วที่เริ่มมี low cost เข้ามา
เราก็มีการหารือกันว่าเราจะเน้น ลูกค้ากลุ่มที่ต้องการได้ความมั่นใจในการเดินทาง เน้นการให้บริการ

Cabin factor จำนวนผู้โดยสารต่อที่นั่ง อัตราการใช้บริการ 65-66% ขึ้นไปก็กำไร
สายการบินต้นทุนต่ำ อาจจะ 80-85 ขึ้นไป
สายการบิน low cost ที่ลดต้นทุนได้ อาจจะให้ราคาถูก แต่เปลี่ยนไม่ได้
หรือน้ำหนักกระเป๋ามากต้องเพิ่มราคา อาหารต้องซื้อเพิ่ม
ถ้าผู้โดยสารบอกไม่รับประทานอาหารก็ได้ ถือกระเป๋าเองก็ได้ไปไม่กี่วัน
ระบบเชื่อมโยงก็มีความต่างกัน ของเราเชื่อมโยงกับระบบสายการบินอื่นได้

เหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ เป็นสิ่งที่เราก็คอยติดตามดู
ก่อนวันที่ระเบิด ในระบบการจองเราสามารถนับยอดการจอง
จากวันนี้ไป 330 วันข้างหน้าได้ จะรู้ว่าผู้โดยสารสนใจจองเข้ามามากหรือน้อยแค่ไหน
ถ้าเทียบกับปลายปีที่แล้ว มียอดอยู่ประมาณ 1 ล้านคน
ถ้าเทียบกับครึ่งปีแรก เราก็มียอดจองอยู่ประมาณ 9 แสน – 1 ล้าน คน
แต่จากเหตุการณ์นั้นกระทบบ้างนิดหน่อย ซึ่งหลังจากนั้นไม่มีเหตุการณ์อะไรตามมา
ความมั่นใจของนักท่องเที่ยวน่าจะกลับมาแล้ว
ตัวเลขจากนี้ถึงปลายปีก็มีการเติบโต ไตรมาสแรกของปี 59 โตมากกว่าไตรมาส 4 ของปี 58
โดยปกติไตรมาส 1 กับ 4 เป็นช่วง พีค

ผลดำเนินงาน เปรียบเทียบครึ่งปีแรกของปี 57 กับ 58
จากเดิมผู้โดยสาร 2.3 ล้านคน ปี 58 2.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7-8%
รายได้ครึ่งปี 57 1.098 หมื่นล้าน ปี 58 1.23 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 12%
EBITDA margin ปี 57 19%,ปี 58 22.9%
กำไรครึ่งปี 57 187 ล้านบาท ปี 58 1.1 พันล้านบาท
เนื่องจากปีก่อนยังมีเรื่องการสวนสนาม ส่งผลกับเรื่องราคา
จึงทำให้ yield และราคาไม่สูงเท่าไร
ประกอบกับต้นทุนน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ สูง
อย่างต้นปีก่อนน้ำมันราคายังสูงกว่าระดับ 100 เหรียญ แต่ปีนี้แค่ 40-50 เหรียญ ตอนนี้ 60-70 เหรียญ
ปีนี้ทำราคาได้ดี และต้นทุนน้ำมันดีขึ้น
ต้นทุนน้ำมันเป็นต้นทุนสูงลำดับแรก คิดเป็นสัดส่วนราว 30%
ครึ่งปีหลัง 58 เห็นจากการจองในระบบ 330 วันข้างหน้า ผู้โดยสาร
มียอดราว 9 แสนกว่าคน ซึ่งเลขนี้จะเป็นตัวแทนราว 20% ของวันที่เดินทางจริง
เทียบกับปีก่อนช่วงเดียวกันยังไม่ถึง 9 แสนคน เพิ่มขึ้น 10-15%
สนามบิน กับ catering ก็แปรตามเที่ยวบินที่มี
ครึ่งปีหลังมีแผนจะใช้สนามบินสมุยมากขึ้น และเส้นทางที่เชื่อมต่อกับที่อื่น
เส้นทางที่จะเพิ่มคือ ภูเก็ต เชื่อมกับหาดใหญ่
ถ้ารถยนต์เดินทางน่าจะใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง ตรงนี้จะเป็นจุดที่ให้ความสะดวกกับลูกค้ามากขึ้น


Asefa
สวิตซ์บอร์ดไฟฟ้าเป็นแผงตัดต่อควบคุมไฟฟ้าใช้สำหรับ ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
และกระจายไฟฟ้าไปสู่ส่วนต่างๆที่ต้องใช้งาน
เป็นอุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยชีวิตและเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ ในทุกบ้านต้องมี
สินค้าของ asefa ไม่ได้ทำขนาดเล็ก แต่เป็นสวิตซ์บอร์ดขนาดใหญ่
ใช้สำหรับโรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสูง อาคารใหญ่
มีทั้งแรงดันปานกลาง 33 kV หรือ 24 kV, 22 kV เป็นระดับแรงดันจากโรงไฟฟ้า
อย่างภาคใต้บ้านเราก็ใช้เป็น 33 kV
ก่อนเข้าหม้อแปลงต้องมี สวิตซ์บอร์ดไฟฟ้าเพื่อป้องกัน หลังจากมีหม้อแปลงปรับแรงดันลงมา
เข้าบ้านเป็น 220V, 380 V มีหม้อแปลงก็จะมีสวิตซ์บอร์ดไฟฟ้า
อย่างตึก CTW มีสวิตซ์บอร์ดราว 500 ล้านบาท เพราะมีทั้งโรงแรม ชอปปิ้งมอล
หรือ คอนโด 20ชั้น ต้องดูขนาด จำนวนห้อง spec. ที่ใช้ก็รองลงมา มูลค่าน่าจะเป็นหลักสิบล้านบาท

เรามีทั้งขายตรงให้ผู้ใช้งาน ขายผู้รับเหมางานก่อสร้าง วางระบบ
แบรนด์ของ asefa เอง และมีผลิตภัณฑ์ที่เราได้รับลิขสิทธิ์จาก ชไนเดอร์อิเลกทริค
มีหลายแบรนด์เช่น square d อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
อย่างคอนโด สวิตซ์บอร์ด มีทุกชั้น ทุกห้องตั้งแต่ main distribution board
ไปแผงจ่ายไฟย่อยแต่ละชั้น และไฟในห้อง ก็มีอีก ส่วนใหญ่เราจะทำแต่ตัว main

สัดส่วน ผลิตและจัดจำหน่าย 65% ซื้อมาขายไป 20%
(อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ทองแดง,รางสายไฟ) ที่เหลืองานบริการ

จุดเด่น เราเป็นผู้นำในการผลิต มีครบวงจร หลากหลายรุ่น และสินค้ามีคุณภาพ ที่ได้รับลิขสิทธิ์
มี know how ต่างๆ มีหน่วยวางแผนวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราเอง
โรงงานได้ลิขสิทธิ์ชไนเดอร์ มี 4 model
มีแบรนด์หนึ่งชื่อ โซโคเมค เป็นของฝรั่งเศสเช่นกัน เป็น ATS bypass
ใช้ในโครงการ พวก data center ที่ต้องการความปลอดภัย
เป็นการตัดต่อสลับ load ต้องมี generator
อย่างพวกโรงไฟฟ้าชีวมวล ก็ต้องใช้งานสวิตซ์บอร์ดแน่นอน

ส่วนแบ่งการตลาดราว 10 กว่า % ในประเทศไทย เราเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในตลาด
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นประเทศไทย มีขายเพื่อนบ้านบ้าง หรือไปถึงดูไบก็มี
ปัจจัยในการสร้างรายได้ ขึ้นกับ เศรษฐกิจ การลงทุน ภาครัฐ เอกชน รวมถึงโครงการพลังงานไฟฟ้าทดแทน

ธุรกิจ รื้อถอนโรงไฟฟ้า เนื่องจากเราเกี่ยวกับธุรกิจไฟฟ้า และมีพันธมิตร เป็นลูกค้าที่มาชักชวน
ธุรกิจที่ยังไม่แข่งขันสูงนัก เป็นการรื้อถอนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ได้มีการหมดอายุและตัดออกจากระบบ
เช่น โรงไฟฟ้า บางปะกง ใหญ่ระดับ 720 MW การไฟฟ้าก็ประกาศขายพร้อมรื้อถอน
ซึ่งพวกอุปกรณ์ที่รื้อถอนบางส่วนก็ขายได้
ในอนาคตคงมีการรื้อถอนตามมาเรื่อยๆ 25-30 ปี เสื่อมสภาพก็มีการรื้อถอน

ผลดำเนินการ H158 ยอดขาย 1 พันล้านต้นๆ กำไรสุทธิ 71 ล้านบาท
โดยปี 55-56 มียอดขายทั้งปีแตะ 2 พันล้าน
ซึ่งปี 57 มียอดตกลงมาเหลือ 1.7 พันล้าน ซึ่งผลกระทบจากการเมือง
แนวโน้ม H2 58 backlog 1.5 พันล้าน คิดว่ารับรู้ 1.1-1.2 ล้านบาท
สูงกว่า H158 นิดหน่อย และ margin น่าจะดีขึ้นบ้าง
ต้นทุนหลัก อุปกรณ์ไฟฟ้า circuit breaker 40%
งานโลหะ งานสวิตซ์บอร์ด งานอุปกรณ์ประกอบ 30 กว่า %
ที่เหลือค่าแรงนิดหน่อย
อุปกรณ์หลักจากต่างประเทศต้องนำเข้าจากต่างประเทศ supplier หลักคือชไนเดอร์
ได้เงินตอนเข้าตลาด 555 ล้านบาท
- ใช้ขยายโรงงาน 130 ล้าน กำลังผลิตคาดว่าเพิ่ม 50%
- การชำระหนี้ ราว 280 ล้านบาท
- มีใช้เงินไปลงทุนซื้อโรงไฟฟ้าที่บางปะกงมารื้อ 295 ล้าน
น่าจะขายได้ 400 กว่าล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายอีก 100 กว่าล้าน
เป็นรายได้เสริม และแนวธุรกิจใหม่ที่ต้องดูต่อไป

อัตราการผลิต เดิมที่ใช้ 70-80% ตอนนี้น่าจะราว 90%
เป็นค่าเฉลี่ยของ 2 กะ ทำงานถึง เที่ยงคืน เป็น ยอดขายมีการเติบโต
มีแผนขยายไปตามภูมิภาคราว 10 สาขา บางส่วนใกล้ ลาว พม่า เขมร

อนาคต 2-3 ปีข้างหน้า แผนที่ตั้งเป้ารายได้จะเติบโต อย่างน้อย 15% ต่อปี
ส่วนกำไรหวังว่าจะเติบโตดี เพราะ utilize facilities มากขึ้น

S11
สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อย่างเดียว เป็นรถใหม่ แต่มีสัดส่วนรถเก่าน้อยมาก ราว1%
รถบิ๊กไบค์ยังไม่ได้ทำ เน้น รีเทลไฟแนนซ์ อย่างวินมอเตอร์ไซค์ลูกค้าสำคัญ
เราให้เช่าซื้อ แล้วลูกค้าเอาไปทำให้เกิดรายได้ เป็นลูกค้าตัวจริง
ผ่อนได้สูงสุดไม่เกิน 36 เดือน ผ่อนเฉลี่ยเดือนละ 2500 บาท
รถที่ปล่อยกู้ ทำทุกยี่ห้อ market share เยอะก็รับมาเยอะ

NPL มีราว 8% วิธีคิดคือไม่ชำระเดิน 90 วันเป็น NPL
หนี้เสีย สำคัญต้องดู 6 เดือนแรก ดูการจ่ายเงิน
ถ้าจ่ายทุกเดือนเดือนละ 50% ลูกค้าบางรายจ่ายเดือนเว้นเดือน
แบบนี้ยัง ok มีเจตนาจ่ายเงิน
แต่ถ้าเป็นประเภท3 เดือนไม่จ่ายติดกัน ต้องรีบจัดการ
ตัวเลขกู้เงินจากธนาคารห้าม NPL เกิน 15%
วิธีวัด NPL ของ leasing วัดเหมือนกัน แต่กลยุทธ์ปล่อยสินเชื่อแต่ละที่ต่างกัน
ของ S11 ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง

ลูกค้าไม่ค่อยรู้จัก S11 แต่เค้ารู้ว่าซื้อรถร้านไหน ก็ไปจ่ายเงินร้านนั้น
ซึ่งเราก็มี incentive ให้กับทางร้านค้า ก็มีหลายสินเชื่อหลายเจ้าแข่งขัน
ซึ่งจุดหนึ่งร้านจะตัดสินใจว่าชอบ finance เจ้าไหน ซึ่งไม่ใช่ตัดสินแค่ incentive อย่างเดียว

ชื่อ S11 S เป็นสัญลักษณ์ ดอลลาร์ $

ลูกค้ามี 2 กลุ่ม มีเงินเดือน และไม่มีเงินเดือน
ซึ่งลูกค้าเราส่วนใหญ่ไม่มีเงินเดือน แม่ค้าขายส้มตำ ค้าขายตลาดนัด วินมอเตอร์ไซค์

การควบคุม NPL หน้าด่านสำคัญคือ เจ้าหน้าที่สินเชื่อ สกรีนเบื้องต้น
ดูพฤติกรรมลูกค้า ใครซื้อ ใครใช้ ใครผ่อน ทำอาชีพอะไร เก็บเงินไม่ได้ จะไปเอารถที่ไหน
ถ้าเสียหายต้องเอารถ กลับมาให้เร็วที่สุด

การขอสินเชื่อ ถ้ามนุษย์เงินเดือน บัตรประชาชน+slip เงินเดือน
ถ้าไม่มีรายได้ประจำ ใช้บัตรประชนชนอย่างเดียว ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ขึ้นกับเงินดาวน์
ถ้ารถราคา 5 หมื่น ดาวน์ประมาณ 1 หมื่นก็ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
พื้นที่ให้บริการ กรุงเทพ 70% 30% ต่างจังหวัด อยุธยา ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา บริเวณขอบๆกรุงเทพ
สำหรับเราไม่ใช้สาขา แต่ไปอยู่ตามหน้าร้าน ราว 130 กว่าแห่ง

มีหน้าร้านหลายประเภท ให้เราคนเดียว มีแบ่งๆกันไปกับเจ้าอื่น
มีแข่งขันใครจ่ายมากกว่าให้คนนั้นก่อน
การซื้อมอเตอร์ไซค์เงินสด อย่างในกรุงเทพ ราว 20% เท่านั้น
การยึดรถ มีหลายระดับ หลายขั้นตอน พนักงานที่โทรศัพท์ก็คุยกัน ก่อน ไหวไหม?
ลืมอะไรหรือเปล่า? ทีมที่ 2 ก็เริ่มเข้มขึ้น ไปพบกับเจ้าตัว ยึดรถมาก็มาประมูลขายที่บริษัท

ขนาดของสินเชื่อ 3,200 ล้านบาท

ธุรกิจนี้คู่แข่งมาก แต่อัตรากำไรเราสูงกว่าเจ้าอื่น
เรามีอายุ 4 ปีเหมือนยังเด็ก แต่ทำงานมา 20 กว่าปี ทำให้รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ทำ
คือเราทำให้สิ่งที่ต้องทำ ปล่อยสินเชื่อได้เร็วไม่สำคัญ
เช่น ที่อื่นเจ้าหน้าที่มีรายได้จากสินเชื่อ ได้ แต่ S11 เจ้าหน้าที่สินเชื่อมีรายได้จากปล่อยแล้วเก็บเงินได้

คนที่ทำธุรกิจเดียวกันในตลาด Leasing ที่เห็นอยู่ราว 13 แห่ง ในตลาดมี Tk, gl, s11
S11 ที่แยกมาจากที่เดิม เพราะคิดไม่เหมือนกัน วิถีทางไม่เหมือนกัน โครงสร้าง และลูกค้าจึงไม่เหมือนกัน

ผลดำเนินงาน H258 รายได้ 500 ล้านบาท เติบโต 22%
กำไร 158 ล้าน โต 53% npm 30 กว่า %

ปัญหาธุรกิจนี้คือความสามารถในการเก็บหนี้ เป็นธุรกิจที่ใช้คน
ความเข้าใจที่ต้องออกแบบกระบวนการให้น้องทำงาน
เช่น เงินเดือน 1 หมื่นบาท ถ้าเก็บหนี้ได้ให้เงิน 2 หมื่นบาท ก็จะลงมือได้เหมาะสม
ต้อง balance ความเหมาะสมกับลูกหนี้
ถ้าชำระต่อเนื่องก็ไม่ควรใส่แรงมาก แต่พวกที่ค้างชำระก็ต้องใส่แรงอีกแบบ
ไม่ใช่แค่ดู margin ต้องดูกระบวนการด้วย ไม่ใช่ focus แค่จะเอายอดกี่คัน
แต่เงินเก็บไม่ได้หายไประหว่างทาง

หลายบริษัทมุ่งเน้นไปปล่อยสินเชื่อต่างประเทศ ซึ่งของเราถามบ้านเราก่อนว่าถึงที่สุดหรือยัง
ยอดขายบ้านไป 1.6-1.7 ล้านคัน ซึ่งเรามี share 2%
พนักงาน 250 คน แต่ส่วนมากอายุงานยังน้อย ยังขาดคนระหว่าง generation

น้ำท่วมที่ทางตะวันออก น้ำมาเร็วและไปเร็ว ไม่ได้ใช้เวลานาน เป็นเรื่องที่เฉยๆ
การเติบโต ตลาดปี 58 ยอดขายจยย.ประมาณการณ์จะลดลง 5%
ปี 58 1.67 ล้านคัน จากปี 57 1.75 ล้านคัน แต่ตัวเราได้ share +10%
อีกครึ่งปีที่เหลือ เราคิดว่าเก็บคองอเข่าดีๆ ยังไปได้


Wice
ก่อตั้งมา 23 ปีแล้ว logistics กว้างมาก เราเน้น ระหว่างประเทศ
ทำในส่วนขนส่ง จากประตูโรงงาน จากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่ง
sea freight, air freight เป็นงานหลัก และรับจัดการ logistics ให้แบบ door to door
เป็นงานที่ add value service ให้ลูกค้า
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมรายกลางถึงรายใหญ่ตามนิคมอุตสาหกรรม
จะมีการนำเข้าและส่งออกวัตถุดิบ สินค้า ไปทั่วโลก
เริ่มทำตั้งแต่วางแผน design logistic routing ให้คำแนะนำ
เชคเรื่องสิทธิภาษี สิทธิพิเศษ trade agreement
ซึ่งบางทีผู้นำเข้าไม่รู้ว่าจะใช้สิทธิประโยชน์อย่างไรให้ได้สูงสุด ให้บริการลูกค้าสะดวก ประหยัด แข่งขันได้

ลูกค้าล้อไปกับการส่งออกนำเข้าของบ้านเรา
สินค้า อิเลคทรอนิกส์, auto part, food, steel construction,
ส่วนใหญ่เข้าตู้คอนเทนเนอร์ มีพวก frame aluminium กระจก
สินค้าเกษตรไม่ได้ทำ
Air freight เป็นลูกค้าพวกนิคมอุตสาหกรรมทางอยุธยา กลุ่ม อิเลคทรอนิกส์ แผงวงจร
Sea freight เป็นพวก Auto part, อาหาร, steel construction

ให้บริการพวกพิธีการศุลกากร และ land freight ขนส่งในประเทศด้วย
ในอนาคต จะทำขนส่งไปประเทศเพื่อนบ้านด้วย
เราเป็น third party logistics เน้น solution ให้ลูกค้า
ไม่ได้มี asset ที่ดินหรือเครื่องบินของตัวเอง เยอะ
ถ้าไม่รู้วิธีการที่ดีค่าใช้จ่ายจะมาก และป้อนสินค้าไม่ทันเวลา
ออฟฟิศอยู่ที่กรุงเทพ ,มีที่สนามบินสุวรรณภูมิ และแหลมฉบัง และมีลานรถ

คู่แข่งในอุตสาหกรรมมีเยอะ ผู้เล่นสว่นใหญ่เป็นรายใหญ๋ในต่างประเทศ
เช่น DHL เป็นยักษ์ใหญ่ มีการแข่งขัน แต่ลูกค้ากลุ่มของเขา ก็อาจเป็น network ในต่างประเทศ
ซึ่งลูกค้าไม่ใหญ่มาก อาจจะไม่ได้ลงมา focus
ผู้ถือหุ้นใหญ่มีจากสิงค์โปร์และฮ่องกง บริษัทลูก sun express Thailand
ตั้งปี 2002 ร่วมมือกับ partner ทำ air freight air cargo
ซึ่งพอจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จึงเชิญเขามาถือหุ้น wice ด้วย ราว 10%

ผลดำเนินงาน H1 58 เทียบ H157 รายได้โต 4%
ซึ่งตลาดนำเข้าส่งออกไทยไม่ค่อยดี แต่เรากระจายหลายตลาด
ส่วนใหญ่เป็น US ซึ่งเริ่มฟื้นกลับมา รองมาเป็น จีน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, ฮ่องกง
แต่กำไรลดลง เพราะ US มี strike ใหญ่ตอนต้นปี สินค้า door to door เคลียร์ไม่ได้
เกิดค่าใช้จ่ายที่ท่า จึงมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
อีกส่วนต้นปี ตลาด air freight air cargo ลดลง ซึ่ง margin ส่วนนี้สูงกว่า
แม้ sea freight จะดีขึ้น ทำให้กำไรลดลง

ผลดำเนินการ ขึ้นกับการนำเข้าส่งออก ขึ้นกับสภาวะเศรษฐกิจโลก buyer ซื้อมากหรือน้อย
ส่วน cost ของ air, sea fireght อยู่ที่ 70-75% ของที่ขายให้ลูกค้าอยู่แล้ว
ถ้าเพิ่มขึ้นเราก็ charge ลูกค้า มีการพูดคุยในการ quote ราคา

Contract สายเรือ ระหว่างประเทศ ส่วนใหญ่ sign เป็นปี มีลูกค้าหลากหลายแล้วแต่ต่อรอง
เข้าตลาดปลายเดือน ก.ค. 58 ระดมเงิน 385 ล้านบาท เห็นโอกาสขยาย
รายได้ระหว่างประเทศ 80% ในประเทศ 20%
ซึ่งจะขยายงานในประเทศมา balance ระดมทุนสร้างคลังสินค้า และทำ distribution ให้ลูกค้า
อนาคตอาจเป็น cross border รองรับ aec
ที่จะเปิดการขนส่งใน region จะเพิ่ม และมีการขนส่ง land freight

ปัจจุบันมี freight รถอยู่แล้ว แต่จะขยายเพิ่ม เป็นลักษณะ milk run
เข้าไปผูกกับโรงงานลูกค้าเป็น contract logistics ซึ่งตอนนี้ผู้เล่นเป็นต่างชาติส่วนใหญ่

ลูกค้าตอนนี้ทำ B2B เป็นหลัก ส่วน B2C มีโอกาส
ถ้าเข้าไปจัดการในส่วนคลังสินค้า และจัดส่งให้ลูกค้า อาจเป็นโอกาสในอนาคต
Go against and stay alive.
ภาพประจำตัวสมาชิก
i-salmon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 293
ผู้ติดตาม: 0

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 9

โพสต์

@amornkowa @ลูกหิน ขอบคุณครับ กำลังพยายามหายป่วยอยู่
@Jeng ขอบคุณที่ช่วยแก้ไขครับ
@chakapun @theenuch ขอบคุณครับ :D
Go against and stay alive.
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2576
ผู้ติดตาม: 1

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอบคุณอีกครั้งครับ ได้อ่านบริษัทที่พึ่งเข้าตลาดแล้ว เห็นหมอเคบอกว่าน่าสนใจ
Mauymahachai
Verified User
โพสต์: 8
ผู้ติดตาม: 0

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอบคุณค่ะ
Noinar
Verified User
โพสต์: 136
ผู้ติดตาม: 1

Re: MoneyTalk@SET19Sep15หุ้นใหม่ipo&เป้าหมายชีวิตพิชิตการลงท

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ขอบคุณครับ :D
" Risk comes from not knowing what you’re doing " Warrent Buffett
โพสต์โพสต์