ข้อคิดจากการอยู่ในตลาดหุ้นมา 14 ปี (สำหรับมือใหม่)
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 30, 2015 10:21 pm
สรุปข้อคิดเบื้องต้นที่ได้เรียนรู้จากการอยู่ในตลาดหุ้นตลอด 14 ปีที่ผ่านมา
(แต่รู้จัก VI แค่ 7 ปีหลัง)
เป็นแนวทางของผมครับ นำเสนอสำหรับมือใหม่เป็นทางเลือก ถ้าข้อไหนไม่เห็นด้วยหรือขัดกับแนวทางการลงทุนของบางท่าน ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อและทำตามครับ
ปล.2 ช่วงหลังไม่ค่อยได้โพสต์ในนี้ เพราะหลังๆมาใน thaivi.org มีแต่คนเก่งๆ กลัวว่าจะสอนจรเข้ว่ายน้ำ เอาเป็นว่า เน้นมือใหม่เป็นทางเลือกละกันนะครับ ^^
(แต่รู้จัก VI แค่ 7 ปีหลัง)
เป็นแนวทางของผมครับ นำเสนอสำหรับมือใหม่เป็นทางเลือก ถ้าข้อไหนไม่เห็นด้วยหรือขัดกับแนวทางการลงทุนของบางท่าน ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อและทำตามครับ
- 1. พอร์ตเล็กมีโอกาสทำกำไรได้สูงกว่าพอร์ตใหญ่
- 2. ไม่ว่าจะ VI หรือเทคนิก จะเล่นสั้นหรือยาว ถ้าศึกษารู้จริงล้วนสามารถทำกำไรสูงๆจนเป็นอิสระทางการเงินได้ทั้งนั้น
- 3. ถ้าต้องการจะเป็นอิสระทางเวลา และสบายใจไม่ต้องเครียดทุกๆวัน ควรลงทุนระยะยาว มองที่มูลค่ากิจการไม่ใช่ราคา
- 4. การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) กับการถือหุ้นยาวไม่เหมือนกัน การติดดอยไม่เรียกว่าการลงทุนแบบ VI ถ้าพื้นฐานแย่ลงก็ไม่ควรกอดหุ้นไว้
- 5. อดีตที่สวยหรูของบริษัท ไม่ได้รับประกันว่าอนาคตจะต้องดีด้วย การติดตามการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจเสมอๆเป็นสิ่งจำเป็น
- 6. ไม่มีใครรู้จริง ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ราคาหุ้น สภาวะตลาด หรือแม้แต่ผลประกอบการได้อย่างแม่นยำทุกครั้งไป สิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ การเผื่อใจวางแผนเตรียมรับมือกรณีฉุกเฉินเป็นสิ่งจำเป็น
- 7. หุ้นขึ้นแรงๆมีทุกวัน อย่าไปไล่ซื้อ เรารวยได้โดยไม่จำเป็นต้องไปมีส่วนร่วมในหุ้นทุกตัวที่ขึ้นแรง
- 8. ไม่มีงานสัมนาไหนที่จะเปลี่ยนคนให้ลงทุนเก่งขึ้นได้จริงแบบทันทีทันใด ดังนั้นอย่าเสียเงินแพงๆไปอบรมสัมนาหุ้นเพื่อหวังรวยเร็ว
- 9. การลงทุนคือการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร ไม่มี Short cut ไม่มีวิธีรวยเร็ว มีแต่ต้องทุ่มเทศึกษา สะสมความรู้และประสบการณ์เป็นเวลาหลายๆปี ผลตอบแทนที่ได้จะแปรผันตามความขยันทุ่มเทที่เราใส่ลงไป
- 10. การแลกเปลี่ยนความเห็นกับเพื่อนนักลงทุนจะช่วยให้มีโอกาสพบบริษัทที่น่าสนใจมากขึ้น ดังนั้นควรจะหาโอกาสไปเยี่ยมชมกิจการ หรือสัมนาฟรีบ้าง เพื่อเพิ่มความรู้และทำความรู้จักเพื่อนนักลงทุนใหม่ๆ
- 11. ภาพใหญ่ของธุรกิจสำคัญกว่าภาพเล็ก การเข้าไปจ้องมองระยะใกล้ๆในภาพเล็กเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้มองไม่เห็นภัยคุกคามที่กำลังจะมาถึง ตรงกันข้ามถ้ามองภาพใหญ่ออก ถึงภาพเล็กจะมองผิดไปบ้างก็ไม่ได้เสียหายนัก
- 12. ซื้อหุ้นคือซื้ออนาคต ถ้ามองอนาคตไม่ออกก็ไม่ควรซื้อ
- 13. หุ้นที่ขึ้นแรงๆมีทั้งหุ้นที่พื้นฐานดีและหุ้นที่พื้นฐานไม่ดี แต่ถ้าจะหาหุ้นที่ขึ้นแรงและยืนได้มั่นคงจะต้องมีพื้นฐานที่ดีรองรับ
- 14. หุ้นขนาดใหญ่ไม่ได้แปลว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดี
- 15. หุ้นราคาต่ำบาทไม่ได้แปลว่าถูกกว่าหุ้นราคาหลักพัน ความถูกความแพงต้องเทียบราคาหุ้นกับมูลค่ากิจการที่ควรเป็น
- 16. จะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนดีต้องลงทุนในหุ้นเติบโต การลงทุนในหุ้นที่เน้นปันผลแต่กำไรในอนาคตไม่เติบโตจะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
- 17. หุ้นของกิจการที่ดี แข็งแกร่ง และเติบโตสูงๆ อาจจะให้ผลตอบแทนที่แย่ได้หากซื้อมาด้วยราคาที่แพง
- 18. ถึงแม้จะถือหุ้นครั้งละไม่กี่เดือน แต่ก็ต้องมองภาพอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าให้ออก
- 19. อ่านบทวิเคราะห์ ไม่ต้องสนใจราคาเป้าหมาย ส่วนใหญ่เชื่อไม่ได้ ให้เลือกดูเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท และนำมาประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสมเอง
- 20. ยิ่งโลภยิ่งจน
- 21. "กล้าเมื่อคนส่วนใหญ่กลัว และกลัวเมื่อคนส่วนใหญ่กล้า" พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะคำว่า "ส่วนใหญ่" นั้นวัดยาก
- 22. อิสระทางเวลามีค่ามากกว่าอิสระทางการเงิน
- 23. เซียนหุ้นทุกคนล้วนแต่เคยผิดพลาด และทุกวันนี้ก็ยังทำผิดพลาดอยู่เรื่อยๆ
- 24. วิเคราะห์ให้ถี่ถ้วน กล้าทุ่มเงินซื้อเมื่อพบโอกาส เมื่อซื้อแล้วให้ระแวงและทบทวนเสมอ
- 25. เจ้ามือที่แท้จริงคือ "ผลประกอบการ" (เครดิต พี่โจ ลูกอิสาน)
- 26. ราคาเป้าหมายต้องหาให้เป็น แต่อย่ายึดติดตัวเลข ถ้าหุ้นขึ้นมาเร็วใกล้เป้าหมายแล้วหมดแรง ต้องขายให้เป็น ในตลาดมีหุ้นอีกมากมายที่ราคายังห่างไกลเป้าหมายมากกว่า
- 27. ไม่ต้องพยายามซื้อที่จุดต่ำสุด ขายที่จุดสูงสุด พอใจในกำไรหรือขาดทุนที่ได้จากการทำตามแผนเสมอ
- 28. เมื่อพบหุ้นที่มีพื้นฐานดี upside เยอะ เคาะขวาทันที ไม่ต้องรอเกี่ยงราคาไม่กี่ช่อง
- 29. อย่าถือหุ้นจำนวนหลายตัวจน มากเกินไปจนไม่สามารถดู วิเคราะห์ และติดตามธุรกิจ ได้ครบทุกบริษัท
- 30. หลีกเลี่ยงลงทุนในหุ้นพิมพ์นิยมที่ใครๆก็พูดถึง ใครๆก็มีกัน
ปล.2 ช่วงหลังไม่ค่อยได้โพสต์ในนี้ เพราะหลังๆมาใน thaivi.org มีแต่คนเก่งๆ กลัวว่าจะสอนจรเข้ว่ายน้ำ เอาเป็นว่า เน้นมือใหม่เป็นทางเลือกละกันนะครับ ^^