สรุปงานสัมมนาของ บลจ วรรณ. Investment Forum
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 20, 2016 12:24 am
สรุปงานสัมมนาของ บลจ วรรณ. Investment Forum " Where is the opportunity "
Ms Alexis. Economist from Vanguard's Investment Strategy Group
มุมมองตลาดอเมริกา ไม่ได้คิดว่าเศรษฐกิจอเมริกาถดถอย
- คาด 2016 GDP โต 1.5-2.5% ซึ่งโตน้อยกว่าปี2015 ซึ่งตัวเลขจะต่ำกว่าสถาบันอื่น
- Fed ขึ้นดอกเบี้ยทุกๆ 2-3 meetings to 1% เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานดีขึ้น long term Fed fund rate ประมาณ3%. คาดอัตราการว่างงาน <5%. จากการsurvey. พบว่า โอกาสเติบโตมากกว่า1% คิดเป็น 67%
- US$ แข็งค่า กระทบการส่งออก แต่ดีกับ การบริโภค
- ตลาดหุ้น US ปรับตัวลงมา ไม่คิดว่าเป็น bear market เป็นโอกาสซื้อหุ้น US คาด market return 3-5% valuation ไม่แพงเกินไป แม้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับ L/T
- แนะนำลงทุนใน passive fund หรือ ETF มากกว่า Managed fund เนื่องจากตลาดหุ้น US หา Alpha ยาก
ผู้จัดการกองทุนที่เอาชนะindex fund มีค่อนข้างน้อย
ถ้าเป็นเงินส่วนตัวจะมาลงทุน จะลง index fund. มีการทำasset allocation. Base on market cap on country world
Core : Passive fund.
Sattalite : Active fund
European market - view from Mr Nicholas. JP Morgan Asset management ซึ่งมีมุมมองเชิงบวก
แต่การลงทุนอาจยังไม่บวก การบริโภคจะกลับมา
QE ช่วยในการบริหารอัตราแลกเปลี่ยน ช่วยในการปล่อยกู้เป็นปัจจัยในการฟื้นตัว
- Cycle EU ช้ากว่า US 4-5 ปี และ JP Morgan มองว่ากำไรสุทธิ ปรับขึ้นมาจาก
1. EU โดนเรื่องกฎหมายรัฐทำให้ต้องปรับตัวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นลดคนงาน หรือจ้างถูกลง
2. ต้นทุนการผลิตการกู้ยืมเงิน หรือต้นทุนพลังงานถูกลงเป็นปัจจัยห้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงก็มีเรื่อง อังกฤตอาจจะออกจากEUตอน ตคนี้ ซึ่งมีสาเหตุจาก ปัญหาเรื่องอพยพ เช่นซีเรีย
- PER 14x ไม่แพง
- แนะนำการลงทุนแบบ stock pick เน้นที่Earning เนื่องจากแต่ละประเทศและกลุ่มอุตสาหกรรมมีความแตกต่างกัน
- ชอบประเทศในยุโรปที่เคยมีปัญหา และอยู่รอบนอก เช่น Italy Spain Ireland เพราะจะเห็นการฟื้นตัวของกำไรชัดเจน
ถ้าลงทุนด้วยเงินส่วนตัวก็จะลงหุ้นในEU ตามนายจ้างคือ Morgan
Japan Market - View from Mr Wataru Nomura Asset Management
- คาด 2016 GDP โต 1% มาจากการลงทุน ค่าจ้าง การบริโภค และท่องเที่ยว ไทยอยู่อันดับ2ที่ไปเที่ยวสูงสุด
เงินเฟ้อจาก0ไป1% BOJ ไม่น่าจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่ม
- คาดกำไรของบริษัทจะโตถึง 15% ในปีนี้
- คาดเงินเยนจะแข็งค่าจาก 115 to 110/US$ ไม่คิดว่ามี QE เพิ่ม
แต่ BOJ จะเพิ่มการถือหุ้น และซื้อพันธบัตรอายุยาวขึ้น
- คาด market return 8-9% ในปีนี้ + currency gain อีก
- sector ที่น่าสนใจ คือ retails & Telecom ซึ่งมีผู้เล่นหลัก3ราย รวมถึงExportบางกลุ่ม
ส่วนถ้าลงทุนเอง จะลงทุนคล้ายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีหุ้นรวมหุ้นจีนด้วย 50%
เน้นหุ้นมีDiv สูงๆ
China market - view from Mr Gordon Head of Fix income. Taikang Asset Management
- เมื่อก่อนเติบโตเฉลี่ย10.6% คาด ปี2016 GDP โต 6.5% เปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ จากที่เติบโตสูง ต่อมา เติบโตลดลงเหมอนกัน. โดยการเติบโตของเศรษฐกิจจีนเปลี่ยนจากการผลิตเป็นการบริการเช่น IT. ไม่ต้องลงทุนเยอะ ความเชื่อมั่นช่วยเรื่องการบริโภค ดังนั้นรัฐบาลพยายามสร้างความเชื่อมั่น
- Inflationลดลง , CPI ตกลงจากค่าเฉลี่ย 2.6%. เหลือ1-2%
- ไม่คิดว่าจีนจะเกิด hard landing
- ราคาหุ้นปรับตัวลง เป็นโอกาสซื้อหุ้น เพราะเชื่อว่าทางการจีนจะพยายามรักษาเสถียรภาพของตลาดเอาไว้
- ใช้ bottom up strategy เลือกหุ้นที่มีการเติบโตของกำไรที่ดี
- คาด market return 5-10% ถ้าตลาด rebound ตามคาด ให้ Take profit แล้ว switch มาลงทุนใน fixed income ที่มี risk/return profile ที่ดีกว่าหุ้น
ถ้าต้องลงทุนด้วยเวินตัวเองจะลงในChina fix income และ เงินสดบางส่วน
การออมเป็นการป้องกันInflation. เพิ่มกำลังซื้อ เป็นแผนการออม
Ms Alexis. Economist from Vanguard's Investment Strategy Group
มุมมองตลาดอเมริกา ไม่ได้คิดว่าเศรษฐกิจอเมริกาถดถอย
- คาด 2016 GDP โต 1.5-2.5% ซึ่งโตน้อยกว่าปี2015 ซึ่งตัวเลขจะต่ำกว่าสถาบันอื่น
- Fed ขึ้นดอกเบี้ยทุกๆ 2-3 meetings to 1% เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานดีขึ้น long term Fed fund rate ประมาณ3%. คาดอัตราการว่างงาน <5%. จากการsurvey. พบว่า โอกาสเติบโตมากกว่า1% คิดเป็น 67%
- US$ แข็งค่า กระทบการส่งออก แต่ดีกับ การบริโภค
- ตลาดหุ้น US ปรับตัวลงมา ไม่คิดว่าเป็น bear market เป็นโอกาสซื้อหุ้น US คาด market return 3-5% valuation ไม่แพงเกินไป แม้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับ L/T
- แนะนำลงทุนใน passive fund หรือ ETF มากกว่า Managed fund เนื่องจากตลาดหุ้น US หา Alpha ยาก
ผู้จัดการกองทุนที่เอาชนะindex fund มีค่อนข้างน้อย
ถ้าเป็นเงินส่วนตัวจะมาลงทุน จะลง index fund. มีการทำasset allocation. Base on market cap on country world
Core : Passive fund.
Sattalite : Active fund
European market - view from Mr Nicholas. JP Morgan Asset management ซึ่งมีมุมมองเชิงบวก
แต่การลงทุนอาจยังไม่บวก การบริโภคจะกลับมา
QE ช่วยในการบริหารอัตราแลกเปลี่ยน ช่วยในการปล่อยกู้เป็นปัจจัยในการฟื้นตัว
- Cycle EU ช้ากว่า US 4-5 ปี และ JP Morgan มองว่ากำไรสุทธิ ปรับขึ้นมาจาก
1. EU โดนเรื่องกฎหมายรัฐทำให้ต้องปรับตัวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นลดคนงาน หรือจ้างถูกลง
2. ต้นทุนการผลิตการกู้ยืมเงิน หรือต้นทุนพลังงานถูกลงเป็นปัจจัยห้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงก็มีเรื่อง อังกฤตอาจจะออกจากEUตอน ตคนี้ ซึ่งมีสาเหตุจาก ปัญหาเรื่องอพยพ เช่นซีเรีย
- PER 14x ไม่แพง
- แนะนำการลงทุนแบบ stock pick เน้นที่Earning เนื่องจากแต่ละประเทศและกลุ่มอุตสาหกรรมมีความแตกต่างกัน
- ชอบประเทศในยุโรปที่เคยมีปัญหา และอยู่รอบนอก เช่น Italy Spain Ireland เพราะจะเห็นการฟื้นตัวของกำไรชัดเจน
ถ้าลงทุนด้วยเงินส่วนตัวก็จะลงหุ้นในEU ตามนายจ้างคือ Morgan
Japan Market - View from Mr Wataru Nomura Asset Management
- คาด 2016 GDP โต 1% มาจากการลงทุน ค่าจ้าง การบริโภค และท่องเที่ยว ไทยอยู่อันดับ2ที่ไปเที่ยวสูงสุด
เงินเฟ้อจาก0ไป1% BOJ ไม่น่าจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่ม
- คาดกำไรของบริษัทจะโตถึง 15% ในปีนี้
- คาดเงินเยนจะแข็งค่าจาก 115 to 110/US$ ไม่คิดว่ามี QE เพิ่ม
แต่ BOJ จะเพิ่มการถือหุ้น และซื้อพันธบัตรอายุยาวขึ้น
- คาด market return 8-9% ในปีนี้ + currency gain อีก
- sector ที่น่าสนใจ คือ retails & Telecom ซึ่งมีผู้เล่นหลัก3ราย รวมถึงExportบางกลุ่ม
ส่วนถ้าลงทุนเอง จะลงทุนคล้ายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีหุ้นรวมหุ้นจีนด้วย 50%
เน้นหุ้นมีDiv สูงๆ
China market - view from Mr Gordon Head of Fix income. Taikang Asset Management
- เมื่อก่อนเติบโตเฉลี่ย10.6% คาด ปี2016 GDP โต 6.5% เปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ จากที่เติบโตสูง ต่อมา เติบโตลดลงเหมอนกัน. โดยการเติบโตของเศรษฐกิจจีนเปลี่ยนจากการผลิตเป็นการบริการเช่น IT. ไม่ต้องลงทุนเยอะ ความเชื่อมั่นช่วยเรื่องการบริโภค ดังนั้นรัฐบาลพยายามสร้างความเชื่อมั่น
- Inflationลดลง , CPI ตกลงจากค่าเฉลี่ย 2.6%. เหลือ1-2%
- ไม่คิดว่าจีนจะเกิด hard landing
- ราคาหุ้นปรับตัวลง เป็นโอกาสซื้อหุ้น เพราะเชื่อว่าทางการจีนจะพยายามรักษาเสถียรภาพของตลาดเอาไว้
- ใช้ bottom up strategy เลือกหุ้นที่มีการเติบโตของกำไรที่ดี
- คาด market return 5-10% ถ้าตลาด rebound ตามคาด ให้ Take profit แล้ว switch มาลงทุนใน fixed income ที่มี risk/return profile ที่ดีกว่าหุ้น
ถ้าต้องลงทุนด้วยเวินตัวเองจะลงในChina fix income และ เงินสดบางส่วน
การออมเป็นการป้องกันInflation. เพิ่มกำลังซื้อ เป็นแผนการออม