หน้า 1 จากทั้งหมด 2
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 01, 2004 7:16 pm
โดย นักดูดาว
เอ.. หรือว่าคนเค้าเลิกดื่มน้ำดำไปดื่มชาเขียวกันหมด
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 01, 2004 7:23 pm
โดย คัดท้าย
ผมคนนึงครับ ที่ดื่มน้ำอัดลมน้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก ต้องยอมรับว่ากระแสสุขภาพตอนนี้มาแรงจริงๆนะครับ คนเริ่มไม่อยากทาน อยากดื่มอะไรที่ขัดต่อสุขภาพมากนัก โดยเฉพาะคนที่เข้าสู่วัยทำงานนะครับ
อย่าง มาม่า นี่ก็เหอะ ผมว่าผมเองก็กินน้อยลงเยอะหลังจากทำงาน เพราะห่วงสุขภาพ แต่ผมว่าถ้าราคามันตกเกินจริง ก็น่าสนใจนะ
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 01, 2004 10:00 pm
โดย +++unlog
55555555
หุ้นไร้สภาพคล่องแบบนี้
ถามหาเหตุผลคงลำบากมั๊งครับ
อยากรู้คงต้องถาม เมีย หรือแม่ยาย เจ้าของอ่ะ อิอิ...
แต่ผมว่า VI ส่วนใหญ่ จะยิ้มนะครับ อิอิ...
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 01, 2004 11:36 pm
โดย มือใหม่
เลือกธุรกิจ ที่โตทั้ง net profit และ market cap.
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 8:56 am
โดย huey
ค่ายน้ำดำเขาก็มีผลิตภัณฑ์ชาจำหน่ายด้วยนะครับ ค่ายนึงขายLIPTON อีกค่ายนึงขายNESTEA
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 9:09 am
โดย บุคคลทั่วไป
หุ้นตัวนี้เมือปีก่อนเป็นหุ้นที่ผมต้องการเป็นเจ้าของมาก แต่พอกระแสสุขภาพ
มาแรง เช่น ชาเขียว มาทำให้รู้สึกว่า คนน่าจะดื่มน้ำดำ น้อยลง กับตัวเราเอง
ยังดื่มน้อยลง ขนาดราคาตอนนี้ลงมาจากปีที่แล้วพอควร ก็ยังไม่อยางเป็น
เจ้าของเลย
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 12:09 pm
โดย someOne
คงต้องไปบอกให้เค้าทำน้ำดำเพื่อสุขภาพ หรือไม่ก็น้ำดำผสมชาเขียวเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่นมั้งครับ อาจจะดีขึ้น :lol:
เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 1:08 pm
โดย KokJ
ผมเห็นด้วยที่ตอนนี้มีกระแสอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเยอะมาก แต่ปัจจัยที่จะต้องพิจารณาคือบ.เสริมสุขนั้นมีผลิตภัณฑ์มากมายนอกจากเป๊ปซี่ ต้องยอมรับครับว่ารายได้หลักของบริษัทมาจากการผลิตและจำหน่ายเป๊ปซี่ แต่ตอนนี้บริษัทอาจจะมีโครงการขยายการผลิตไปสู่เครื่องดื่มประเภทอื่นก็ได้
ถ้ากระแสสุขภาพแรงจริง เราอาจต้องไปถือหุ้นโรงพยาบาลและโออิชิแล้วมั้งครับ แต่ผมมองว่ากระแสสุขภาพนั้นมีอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วแค่ช่วงนี้ทางรัฐบาลได้ประกาศว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเซีย แต่ถึงอย่างนั้นการแพทย์และสิ่งประกอบต่างๆทางสุขภาพนั้นได้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานแล้วครับ เนื่องจากแพทย์ของไทยมีประสบการณ์ในการรักษาคนไข้ตั้งแต่เรียนอยู่ก่อนที่จะจบออกมาซะด้วยซ้ำแต่ในขณะที่ต่างประเทศกว่าแพทย์จะได้สัมผัสคนไข้ก็หลังจบซักระยะหนึ่งเลยหล่ะครับ
ขอสรุปของผมคือพวกเราชาวVIไม่ควรจะตามกระแสให้มากนะครับเพราะจากสถิติที่เห็นคืออุตสาหกรรมที่ถูกเมินนั้นมักจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเวลาผ่านไปครับ และอุตสาหกรรมที่เป็นกระแสนั้นเมื่อเวลาผ่านไปก็จะตกลงมาเนื่องจากราคาถูกถืบตัวขึ้นไปสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็นเพราะคนเรามักมองถึงความเป็นไปได้ที่อุตสาหกรรมเหล่านี้ที่จะเติบโต ขอยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ในช่วงปี 1997-1999 ที่สหรัฐอเมริกานั้นเกิดการ BOOM ของหุ้นเทคโนโลยีและหุ้น dot com อย่างมหาศาลแต่เนื่องจากหลายๆบริษัทนั้นขาดการเติบโตที่แท้จริงและราคาที่สูงเกินจริงจากการเติบโตของบริษัททำให้ในที่สุดในช่วงปี 1999-2000 นั้นเป็นช่วงที่หุ้นเทคโนโลยีและหุ้น dot com ลดมูลค่าลงมาต่ำกว่าราคาเริ่มต้นในต้นปี 1997 ซะอีก
ผมเห็นด้วยครับที่กระแสสุขภาพมากขึ้นจริงๆ แต่ก็อย่าลืมถึงมูลค่าของบริษัทที่แท้จริงด้วยนะครับ เพราะผมกลัวว่าเดี๋ยวเราจะเปลี่ยนจากVIกลายเป็น Speculator ไปซะครับ
ขอบคุณที่รับฟังความคิดเห็นของ "Baby VI" คนนี้ครับ
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 1:25 pm
โดย นักดูดาว
ผมว่านักลงทุนเน้นคุณค่าจริงๆแล้วเป็นพวกสวนกระแสนะครับ ถ้าหุ้นราคาตกมากๆเพราะเหตุผลชั่วคราวอย่างเช่นกระแสแฟชั่นนิยม น่าจะเป็นโอกาสดีที่เข้าซื้อ รอกระแสแฟชั่นหาย แล้วทำให้หุ้นกลับมาทำกำไรเหมือนเดิม เห็นด้วยกับคุณ KokJ ครับ
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 2:21 pm
โดย คัดท้าย
แต่อยากขอเตือนนิดนึงนะครับ บังเอิญศึกษาเรื่องกระแสสุขภาพมาพอควร
ผมว่า VI เองก็เหอะ ควรระวังมากๆนะครับ ถ้าหุ้นมันตกมาถึงจุดที่ถูกพอ ก็ดีครับ ถ้าจะรับ แต่ถ้าไม่ ก็ควรระวัง อย่าง SSC ผมบอกตรงๆ ผมกล้าเล่นแบบ VS แต่ถ้าให้ผมซื้อแบบ VI ผมไม่กล้าครับ
กระแสสุขภาพ ผมขอยืนยันว่า มันไม่ใช่แฟชั่นนิยมแบบวูบวาบนะครับ มันจะค่อนข้างยาวนานพอสมควร
อย่า .... เอา กระแสชาเขียว มารวมกับกระแสสุขภาพ ผมว่ามันคนละเรื่องกัน เพราะเรื่องสุขภาพดี แล้วต้องดื่มชาเขียวนี่มันไม่ใช่ เพราะจริงๆ น้ำผลไม้ และชาประเภทต่างๆ จะเข้ามาแทนที่ในระยะยาวนะครับ ตามความคิดของผม
กระแสสุขภาพที่เค้าพูดๆกัน จากที่ผมสังเกต เช่น
1. ไม่ดื่ม หรือ รับประทาน สิ่งที่จะทำให้เสียสุขภาพ น้ำอัดลมผมเชื่อว่าเข้าข่าย อาหารฟาสฟูต นี่ก็เป็นอีกอันที่คงกระทบบ้าง
2. ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ หลีกเลี่ยงสารสังเคราะห์
3. ออกกำลังกายมากขึ้น
4. ทานเนื้อสัตว์ใหญ่น้อยลง (แต่ทำไมกินหูฉลามหว่า) ทานผักผลไม้มากขึ้น
5. ลดการใช้ยาลง เพิ่มการบำบัดโดยแพทย์ทางเลือก เช่น โยคะ ฝังเข็ม กลิ่นบำบัดหรืออโรมาเทอราปี้ การนวดกดจุด
ฯลฯ
ชาเขียวนี่ผมว่ามันแค่เศษๆของกระแสสุขภาพเท่านั้นเอง และก็เห็นด้วยว่ามันน่าจะเป็นแค่กระแส
สำหรับ SCC คงต้องจับตาดูว่า เค้าจะแก้ปัญหานี้ยังไง เค้าจะสร้างผลิตภัณฑ์อะไรขึ้นมาเสริมรายได้ที่ขาดไป และจะประสบความสำเร็จหรือไม่ อันนี้คงต้องจับตาดูครับ
ผมเชื่อว่าโลกทั้งใบนี่ คือ กระแส ..... กระแสลม กระแสน้ำ กระแสเงิน กระแสความนิยมของฝูงชน ... มันอยู่ที่ว่า กระแสนั้นกินเวลานานมั้ย แต่สำหรับกระแสสุขภาพนั้น ผมว่านานนะครับ ยังไงให้ความสำคัญหน่อยก็ดีครับ
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า SSC ไม่ดี แต่ว่าถ้าจะซื้อ ผมว่า Margin of Safty เยอะๆหน่อยก็คงดีนะครับ เพราะผมเชื่อว่า น้ำอัดลมก็จะยังคงขายได้ไปอีกนานแสนนานครับ เพราะกลุ่มที่ไม่สนใจเรื่องสุขภาพก็มี อย่างเพื่อนๆผมหลายคนนี่ก็กินโค้ก กินแป๊บซี่ตลอด แต่ยามหน้าคอนโดผมกินน้ำส้มทุกวันเลย :lol:
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 3:45 pm
โดย นักดูดาว
ถ้ากระแสสุขภาพมาจริงๆ หุ้นเบียร์ช้างก็คงหมดอนาคตเลยนะครับ ท่านคัดท้าย ในความเป็นจริงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำลายสุขภาพมากกว่าน้ำอัดลมเป็นไหนๆ ก็ยังขายดิบขายดีครับ
ผมขอมองต่างมุมว่ากระแสนี้เป็นแฟชั่น ที่ไม่น่าจะกระทบกับเครื่องดื่มพวกนี้อย่างมีนัยสำคัญครับ
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 5:26 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ทำไมหาดทิพย์ไม่ลงด้วยหล่ะ
ยอดขายตกมั๊ย ครับ
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 5:28 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ถ้าเป็นเรื่องกระแส ชาเขียว หรือเรื่องสุขภาพ ก็น่าจะตกด้วยมั๊ยครับ
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 6:41 pm
โดย Golden Stock.
ผมมองว่าปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การจะกินหรือดื่มอะไร ก็จะคำนึงถึงคุณประโยชน์มากกว่าเดิม โดยเฉพาะตั้งแต่คนวัยทำงานขึ้นมา
ผมมองว่าปรากฏการณ์นี้ ไม่ใช่กระแส แต่เป็นจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นของคน ซึ่งไม่ได้เกิดเพียงช่วงข้ามคืน แต่ค่อยๆ ปลูกฝังมานานนับปี ทั้งนี้มากจากการที่คนมีการเข้าถึงแหล่งความรู้ได้มากขึ้น มีการเผยแพร่ความรู้ในเรื่องโภชนาการต่างๆ ตามสื่อต่างๆ มากมายในปัจจุบัน
พูดถึงน้ำอัดลม การแข่งขันทางตรงก็ค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งขันน้อยราย แต่ถ้ามองถึงคู่แข่งขันทางอ้อม บอกได้เลยว่านับไม่ถ้วน อีกทั้งในปัจจุบันเครื่องดื่มที่เป็นคู่แข่งขันทางอ้อม และที่เป็นสินค้าทดแทนนั้น มีการจัดการและการตลาดที่ดีเยี่ยมกว่าเมื่อสมัยเป็นสิบปีก่อนนั้นมาก ก็ลองสังเกตุจากอัตราการเติบโตดูได้ว่าเมื่อสิบปีก่อนเป็นเท่าไหร่ ปัจจุบันเป็นเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมน้ำอัดลมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
จุดที่สังเกตอีกอย่างคือ ปัจจุบันราคาน้ำอัดลมไม่ขยับเลย ถึงแม้ว่าต้นทุนการผลิตต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้อาจตีความได้ว่า ในปัจจุบันการแข่งขันสูงมากทั้งทางตรงและทางอ้อม ถ้าขยับราคาขึ้น คนจะหันไปบริโภคน้ำดื่มประเภทอื่นกันจนกระทบต่อยอดขายค่อนข้างสูง
ส่วนที่ SSC เคยคุยถึงจุดแข็งในเรื่องการกระจายสินค้าของเขานั้น ก็เป็นแค่ P หนึ่งใน 4 P's ถ้าหากอีก 3 P's อ่อน ไม่ยากที่จะประสบความสำเร็จในด้านการตลาด ดังจะสังเกตได้จากผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลายตัว ที่ SSC ออกจำหน่ายไม่ได้ประสบความสำเร็จ (อาจจะถามว่าวัดจากอะไรที่ว่าไม่ประสบความสำเร็จ ก็วัดจากเป้าหมายทางการตลาดของบริษัทครับ ในสินค้าที่ออกมาแต่ละตัว ผู้บริหารออกมาบอกว่าจะต้องติด 1 ใน 3 ของตลาด)
สรุปผมมองว่า ความสำเร็จที่ผ่านมาของ SSC มาจากตราสินค้า PEPSI ที่ต่างประเทศเขาสร้างมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นการนำผลิตภัณฑ์เข้ามาก็ทำให้ง่ายขึ้น อีกทั้งเมื่อก่อนคู่แข่งขันมีน้อย อีกทั้งคู่แข่งขันส่วนใหญ่มีข้อจำกันในเรื่องของเงินทุน องค์ความรู้ เช่น การจัดการ การผลิต การตลาด แต่ในปัจจุบันปัจจัยต่างๆ เหล่านี้เปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ และรายได้ของ SSC ก็ไม่ได้แบบเต็ม ยังต้องแบ่งส่วนกำไร หรือค่าสิทธิ์ในการผลิตอีก ทำให้ผมมองว่า SSC ไม่ได้มีความน่าสนใจอะไรมากนัก เมื่อเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบัน
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นของผม การตัดสินใจกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคุณครับ
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 7:07 pm
โดย Golden Stock.
เสริมอีกนิดครับ
การแสดงความความเห็นของผมไม่ได้เป็นการเปรียบเทียบเป็ปซี่กับชาเขียวนะครับ แต่พูดถึงเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นคู่แข่งขันทางอ้อมของเป็ปซี่ เช่น น้ำผัก น้ำผลไม้ น้ำชาเขียว นม นมเปรี้ยว และอื่นๆ อีกมากมายครับ
ปล. พอดีได้อ่านเต็มๆ แล้วรู้สึกว่าพิมพ์ผิดพิมพ์ไปหลายตัวเหมือนกัน ^_^
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 8:26 pm
โดย harry
นักดูดาว เขียน:ถ้ากระแสสุขภาพมาจริงๆ หุ้นเบียร์ช้างก็คงหมดอนาคตเลยนะครับ ท่านคัดท้าย ในความเป็นจริงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำลายสุขภาพมากกว่าน้ำอัดลมเป็นไหนๆ ก็ยังขายดิบขายดีครับ
ผมขอมองต่างมุมว่ากระแสนี้เป็นแฟชั่น ที่ไม่น่าจะกระทบกับเครื่องดื่มพวกนี้อย่างมีนัยสำคัญครับ
เห็นด้วยๆๆๆๆ ไปไหนก็เจอแต่คนกินเหล้า เบียร์ ถ้าคนพร้อมใจไม่กิน แล้วบริษัทเหล้า เบียร์พวกนี้จะมีเงินมาสนับสนุน บอล มวย ยกน้ำหนัก ได้งัยอ่ะ นักกีฬาก็ไม่มีกำลังใจสิ
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 9:17 pm
โดย ประจวบ
หุ้นเป๊ปซี่เป็นหุ้นแนวviแนวชั้นดีตัวนึงครับ
เป๊ปซี่อยู่มานานมากในบ้านเราก่อนมี มาม่าและ ตลาดหุ้นซะอีก
ตั้งแต่ผมยังเด็กๆ(นานมากแล้วครับ)จำได้ว่า
ที่บ้านจะซื้อไว้2ลัง หมดหามาเติมใหม่
เพราะอาม่าอยากให้หลานกินของอร่อย(อาม่าก็ชอบ)
ราคาตอนนั้นขวดละ1.5บาท(เท่าก๊วยเตี๊ยว1ชาม)
ไม่ใช่เฉพาะเด็กๆหรือผู้ใหญ่ชอบกินนะครับ
จ้าว ก็ชอบ เวลาไหว้จ้าวทีไร ต้องซื้อเพิ่มเป็น4ลังมาไหว้ทุกครั้ง
เป๊ปซี่ผ่านร้อน ผ่านหนาว
น้ำตาลถูก น้ำตาลแพง น้ำมันขึ้นราคา ค่าขนส่งเพิ่ม
ปฎิวัติ 14ตค 6ตค พค .ทมิฬ จิ๋วลอยค่าเงินบาท.....
เค้าก็ผ่านมาแล้วทั้งนั้นในบททดสอบของกาลเวลา
ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและมีกำไรมาตลอด ไม่เคยขาดทุน
โดยเฉพาะปันผล
ผมลองย้อนดูข้อมูลได้ถึงปี2534
เค้าปันผลทุกปี เว้นแค่ปีเดียวคือปี2541
ที่พี่จิ๋วลอยค่าเงินบาทหมาดๆเว้นไปเพียงปีเดียว
ถ้าซื้อตามราคาตลาด ณ.ปัจจุบัน จะได้ปันผล4%
ที่ผมเขียนนี้ไม่ได้เชียซื้อแต่ประการใดครับ
แต่เวลาที่พวกเราดูเหตุการณ์ใด
มักจะมองเป็น "จุด" ไม่ได้มองเป็นช่วงยาวๆๆๆ
กระแสชาเขียว หรือสุขภาพหรือน้ำมันแพง..อื่นๆก็มีมาเรื่อยๆครับ
ผู้บริหารก็ต้องปรับตัวไปตามเหตุ
แต่อย่างน้อยเค้าก็มีผลงานให้เราได้ผ่านตามาแล้ว
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 03, 2004 12:40 pm
โดย อืมม์
เห็นด้วยว่าคนรุ่นใหม่เริ่มใส่ใจสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ญาติผมหลาย ๆ คนแต่ก่อนติดน้ำอัดลมกันมาก เดี๋ยวนี้พอเริ่มอายุสามสิบ ทุกคนหันกลับมาใส่ใจสุขภาพ หลีกเลี่ยงน้ำอัดลมกันแทบทั้งนั้น หันมาดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ น้ำชา ฯลฯ กัน
น้ำอัดลมมันเป็นน้ำทางเลือกนะครับ จะเทียบกับพวกเบียร์เหล้าซึ่งเป็นน้ำเสพติดที่มีคนบางกลุ่มยังเสพติดอยู่ รวมทั้งใช้เฮฮาสังสรรกันคงไม่ตรงนัก
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 03, 2004 2:42 pm
โดย tk
ลองมาคิดดูอีกที คุณเคยเห็นร้านไหนที่ขายแต่น้ำเพื่อสุขภาพอย่างเดียวไหม แล้วคุณเคยเห็นร้านที่ขายแต่น้ำจาก ssc เท่านั้นไหม
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 03, 2004 6:41 pm
โดย MO101
ผมคิดว่าไม่ได้เกิดจาก ชาเขียวเพียงอย่างเดียวครับ
พวกขนมถุง(junk food) ก็มีการแข่งขั้นมากขึ้นนะครับ
เป็นโอกาสดีที่จะเก็บ ครับ
-----------------------
ผมมีส่วนได้สวนเสียกับ HTC อยู่นะครับอย่าเชื่อมาก อิอิ
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 03, 2004 8:39 pm
โดย harry
อืมม์ เขียน:เห็นด้วยว่าคนรุ่นใหม่เริ่มใส่ใจสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ญาติผมหลาย ๆ คนแต่ก่อนติดน้ำอัดลมกันมาก เดี๋ยวนี้พอเริ่มอายุสามสิบ ทุกคนหันกลับมาใส่ใจสุขภาพ หลีกเลี่ยงน้ำอัดลมกันแทบทั้งนั้น หันมาดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ น้ำชา ฯลฯ กัน
น้ำอัดลมมันเป็นน้ำทางเลือกนะครับ จะเทียบกับพวกเบียร์เหล้าซึ่งเป็นน้ำเสพติดที่มีคนบางกลุ่มยังเสพติดอยู่ รวมทั้งใช้เฮฮาสังสรรกันคงไม่ตรงนัก
เห็นร้านอาหารทั่วไป จะขายน้ำอัดลม กับน้ำเปล่าอย่างเดียว ซึ่งเป็นของบริษัทเสริมสุขครับ เช่นร้านนี้รับเป๊ปซี่ ไม่รับโค้ก พอสั่งโค้ก บางร้านบอกเป๊ปซี่ได้มั้ย บางร้านเอาเป๊ปซี่มาให้เลย ไม่ถามด้วย
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 04, 2004 9:02 am
โดย **kisana**
สำหรับผมคิดว่า SSC ถือได้ตลอดชีวิต ราคาที่คุณซื้อเป็นตัวกำหนดกำไรในอนาคตว่าน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน PB ประมาณ 1 ผมคิดว่าถูกครับ บริษัทมีความแข็งแกร่างแบบนี้ ซื้อทั้งกิจการ 5 พันกว่าล้าน กำไรปีละ 5-6 ร้อยล้าน กำไรสะสม 3-4 พันล้าน ต่อให้เกิดวิกฤต บริษัทก็ไม่เจ๊งง่ายๆๆ ok ครับ แถมมีแบรนด์ดีๆๆที่หาตัวจับยากอีก ราคานี้น่าสนใจ ถ้าราคาลงมาเห็นเลข 1* ยิ่งน่าสนครับ
adas
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 04, 2004 6:09 pm
โดย asdas
adsas
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 05, 2004 5:12 pm
โดย เซียน
หุ้นตัวนี้ ในเร็วๆนี้จะประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นแน่
ดูจากกำไรครึ่งปีและcash flow ส่วนสาเหตุที่ราคาลงมา
น่าจะมีการขายเพื่อกดเอาของ ของคนบางกลุ่ม
โดยรวม สำหรับVI น่าจะทยอยเข้าซื้อ ราคาน่าจะยืนอยู่ที่ราคาเหมาะสม
บริเวณ25 +/- ได้ไม่ยาก
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 05, 2004 5:26 pm
โดย ยาหม่อง
ผม ssc ยังไปได้อีกไกลครับ เพราะว่ามีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งไปได้ทุกพื้นที่ในประเทศ ส่วนชาเขียวเท่าที่สังเกตุ จะมีอยู่แต่บริเวณ หัวเมืองซึ่งการกระจายสินค้าไม่ทั่วถึง แล้วก็ถ้าดูกันดีๆ ราคาแพงกว่ามาก แล้วก็หลายคนติดน้ำอัดลมแล้วครับ เช่น เวลาทำอะไรเหนื่อยๆ มา ส่วนมากจะเลิกที่จะดื่มน้ำอัดลมมากกว่า
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 05, 2004 5:32 pm
โดย เสพติด
ผมคนหนึ่งครับที่ติดเป๊ปซี่
โค้ก ไม่อร่อยเลย ไปไหนก็ติดปากว่าเป๊ปซี่
ตรุษจีน เช็งเม้งก็ไหว้เป๊ปซี่
ดูๆแล้ว เป๊ปซี่ไม่มีวันตายครับ
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 06, 2004 2:12 pm
โดย Tongue
เช้า กลางวัน ทานสลัด กับ ชาเขียว ตอนเย็นไปเตะบอล เตะเสร็จ โอ้ย ยังไงก็ต้องเป็ปซี่ กับน้ำแข็งเย็นเย็น
ก็เรามันไม่ใช่นักรักษาสุขภาพมืออาชีพนี่นา
ซื้อทั้งตลาด 5-6 พันล้าน กำไรสะสมประมาณ ครึ่งหนึ่ง, EPS 5 years ave ประมาณ 2 บาทกว่า กว่า, มีตลาดแน่นอน แบรนด์แข็งแกร่ง อืม อืม....
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 07, 2004 11:55 am
โดย โป้ง
นักดูดาว
ถ้ากระแสสุขภาพมาจริงๆ หุ้นเบียร์ช้างก็คงหมดอนาคตเลยนะครับ ท่านคัดท้าย ในความเป็นจริงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำลายสุขภาพมากกว่าน้ำอัดลมเป็นไหนๆ ก็ยังขายดิบขายดีครับ
เหล้า , เบียร์ ไม่ดีแน่ครับ แต่ที่คนยังบริโภคกัน
เพราะมันเป็นสารเสพติด , ค่านิยม , ความมันแบบเมาๆ
ตอนนี้เห็นราคาร่วงเอา ถ้า ssc เหลือ 20 บาทก็วิเศษครับ
เป็ปซี่ผมก็ถือว่าเป็นน้ำเสพติดเหมือนกันครับ (หลายๆคนก็ติดเป็ปซี่)
ส่วนค่านิยมเรื่องสุขภาพ ผมเห็นว่าเป็นพักๆๆๆ อย่างเมื่อก่อนชีวจิตฮิตๆกัน จนแถบบ้านทุกหลัง ต้องกินข้าวกล้อง มีเครื่องแยกกากน้ำผักแครอท KFC ซบเซาไปเลย มาถึงตอนนี้เงียบหมดแล้ว KFC ก็ยังขายดีเหมือนเดิม
ถ้ามันถูกมากๆซื้อเก็บไว้ดีกว่าครับ (ผมไม่มีหุ้น ssc อยู่นะ)
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 07, 2004 12:04 pm
โดย ลุงขวด
น้ำอัดลมหรือ ชาเขียว ต่าง ก็ มีส่วน ผสม ของ คาเฟอิน.......วันก่อน ได้ เห็นขวด ชาเขียว ของบริษัทฯ หนึ่ง เขียนไว้ ข้างขวดเลยว่า มีส่วนผสมของ คาเฟอิน อยู่ ยัง งง เหมือนกัน ว่า มีกับเขาด้วยหรือ............ผมเลย สรุปว่า ทุกอย่าง มี เติมแต่ง ก็มี ส่วนผสมของ ยาเสพติดทั้งนั้น คาเฟอิน ผมถือเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง แต่ ไม่มี โทษเท่านั้นเอง ปัจจุบัน ผมก็ยังดื่มกาแฟและ ชา อยู่เหมือนเดิม
ssc เห็นกำไร จากน้ำ เปล่า สูงขึ้นนะครับ แต่ น้ำอัดลมลดลงตามภาวะตลาดที่แย่ลง........คิดว่า ปัจจัยพื้นฐาน ยังคงไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ ดีนะครับ ที่เขามีน้ำเปล่า มาช่วย แต่ถ้า ถามว่า ถ้าเขาเริ่มทำ ชาเขียวกับเขาด้วย อะไรจะเกิดขึ้นครับ ???????
หุ้นเป๊ปซี่
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 07, 2004 1:20 pm
โดย CK
ชาเขียวมีคาเฟอีนประมาณ 10-50 มิลลิกรัมต่อหนึ่งถ้วย 6 ออนซ์ (ขึ้นอยู่
กับวิธีชงด้วย)
ชาเขียวร้อนมีประโยชน์มาก ชาเขียวเย็น (เข้าใจว่า) ไม่ค่อยมีประโยชน์