Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมนำมาจากหนังสือ "ฤทธิ์อำนาจ ศาสตร์ลัดแห่งความสำเร็จ" ของ ดร.ไชย ณ พล กล่าวโดยย่อนะครับ

บุญ คือ การชำระ (เป้าหมายคือ ชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่ใช่การลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทน ) มีอาการ คือ การสละ (สละสิ่งที่เรา "คิดเอาเอง" ว่าเป็นของเรา เพื่อจิตใจไม่โดนยึดเหนี่ยวจากสิ่งต่างๆ เป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์)

การทำบุญนั้นขึ้นปัจจัย 3 ประการ คือ
1. ภาวะของผู้กระทำ หรือ เจตนาในการทำบุญ
ถ้าทำบุญเพราะเกรงใจ หรือ ทำอย่างเสียไม่ได้ จะได้บุญน้อยมาก ถ้าทำบุญเพราะคิดว่าจะได้สิ่งนั้นตอบแทนในอนาคต จะได้บุญน้อย ถ้าทำบุญเพราะ ทำแล้วสบายใจ อิมเิอิบใจจะได้บุญมาก ถ้าทำบุญเพื่อ สละ ชำระิจิตใจให้บริสุทธิ์จะไ้ด้บุญมากที่สุด
ถ้าทำบุญแล้วตั้งใจจะให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ผลบุญก็จะส่งให้ได้สิ่งนั้น แต่ต้องสะสมการทำบุญให้ถึง จึงจะได้

2. ภาวะของผู้ถูกกระทำ หรือ ระดับความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกระทำ
ถ้าทำบูญกับ คนชั่ว จะไม่ได้ผลอันใด ้ถ้าทำบุญกับพ่อแม่ ผู้มีพระคุณจะได้ผลมาก ถ้าทำบุญกับองค์กร ที่นำสิ่งที่เราให้ไปสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่จะได้มากบุญทียิ่งใหญ่ และถ้าทำบุญกับพระที่พร้อมด้วยศีลด้วยด้วยธรรมจะได้บุญที่บริสุทธิ์

3. ภาวะของสื่อ หรือ สิ่งที่เราให้
- โดยการได้มา ถ้าได้มาอย่างถูกต้อง ก็จะได้บุญสมบูรณ์
- โดยความเหมาะสม ให้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับผู้รับ รับแล้วนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงจัง โดยไม่เดือดร้อนตัวเอง
- โดยอัตราปริมาณ เช่น คนมีเงิน 1 ล้าน ทำบุญ 100 ได้บุญน้อยกว่า คนมีเงิน 100 ทำบุญ 50 บาท คือ สภาวะใจทีจะสละนั้นมันน้อยกว่ากัน ความบริสุทธิ์ของใจก็น้อยกว่า

ใครมีความรู้เพิ่มเติมช่วยแนะนำ้ด้วยครับ

แล้ววันนี้เพื่อนๆ ทำบุญกันหรือยังครับ?

ต่อเติมอีกหน่อยครับ

ทำบุญควรอธิฐาน เน้นลดความตระหนี่ของตัวเอง

เมื่อใจสละได้มาก จิตใจย่อมมีความสุข ศาสนาพุทธจริงเน้นให้ทำทานเป็นประการแรก ตามด้วยรักษาศีล และเจริญภาวนา (เพื่อชำระจิตใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์)

เป็นทางมาของความสุขครับ

จากประสบการณ์ที่ผมเคยเห็น เคยสัมผัส คนเราถ้าได้สะสมผลบุญมากๆ มันก็จะทำให้ชีวิตดำเนินไปด้วยความราบรื่น ทำอะไรก็ง่าย ไม่ติดขัด เพราะเหมือนมีอะไรมาช่วยเอาไว้ (invisible hand) ถ้าในทางวิยทาศาสตร์ก็เหมือนกับว่าเรา ทำดีกับคนอื่นๆ คนอื่นๆ ก็จะทำดีกับเรา และ สภาวะใจของคนที่ทำบุญไว้ ก็บริสุทธิ์ และ พร้อมจะตั้งใจทำงาน และใจกว้างกับเพื่อนร่วมงาน ก็เลยประสบความสำเร็จครับ

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ทำบุญต้องทำกับพระ ทำทานคือ ให้ข้าวของคนยากจน
จริง ๆ แล้วการให้ทานเป็น 1 ใน 10 ของการทำบุญเท่านั้น

1 ให้ทาน
2 รักษาศีล
3 สวดมนต์ เจริญภาวนา
4 อ่อนน้อม ถ่อมตน
5 ช่วยเหลือคนรอบข้าง
6 เปิดโอกาสให้คนอื่นร่วมทำบุญกับเรา
7 ยอมรับและยินดีในการทำความดี
8 ฟังธรรม
9 แสดงธรรม
10 ทำความห็นให้ถูกต้องเหมาะสม

การวัดว่าได้บุญมาก บุญน้อย
1 ผู้รับเป็นผู้มีศีล มีคุณธรรม ( เช่น ทำบุญกับพระสงฆ์ผู้เผยแพร่ศาสนาจึงถือว่าได้บุญมาก ขณะที่ให้อาหารสุนัขจรจัด แล้วมีแรงไปกัดผู้อื่นถือว่าบุญน้อย )
2 สิ่งของที่ให้ มีความบริสุทธิ์ ได้มาโดยสุจริต มีประโยชน์แก่ผู้รับจริง ๆ
( เช่น ตักบาตรด้วยน้ำขวด บุญน้อยเพราะน้ำหาได้ไม่ยาก และ มีน้ำหนักมากเป็นภาระแก่พระท่าน )
3 ผู้ให้มีศีล มีธรรม

บุญ คือ การชำระ (เป้าหมายคือ ชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่ใช่การลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทน

โดยเป้าหมายนี้คงไม่ต้องคำนึงเรื่องบุญเล็ก บุญใหญ่ บุญมาก บุญน้อย มั้ง

เคยเจอคำพูดลักษณะเดียวกัน จาก พระที่บอกทำบุญที่นี่ได้บุญมากกว่า ก็เลยเลิกนับถือเลย

โดยส่วนตัวไม่เคยคิดทำบุญเลย ทุกครั้งที่ทำทานหรือบริจาค ก็คิดว่าเป็นการช่วยเหลือหรือการสนับสนุนให้ผู้รับนั้นดำเนินต่อไป

ในรอบหลายๆปีไม่เคยให้เงินกับวณิพกหรือนักขอข้างถนนเลย ตั้งแต่มีข่าวว่าการขอทานเป็นขบวนการเมื่อหลายๆปีก่อน จนกระทั่ง ครั้งล่าสุด ไปที่ตึกซีพีที่สีลม มีคนตาบอดมาเป่าแคบิเนตอยู่หน้าตึก ซึ่งฟังแล้วเพลินมาก ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นเป็นนักดนตรีที่สามารถมากมาย แต่ดีกว่าบรรดาที่เจอะเจอที่มาเป็นทั้งศิลปินเดียวหรือหมู่คณะที่นิยมจะมีเครื่องขยายเสียง ที่เปิดบรรเลงแบบดังมาก ผมเลยควักเงินให้เป็นการสนับสนุนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

เพื่อนที่ทำงานละแวกสีลมเล่าให้ฟังว่า นักเป่าแคบิเนตนั้น สร้างความเริงรมย์มาก ผู้คนโดยรวมน่าจะพอใจ เนื่องจากปริมาณที่ผู้คนทำทานนั้นสูงมาก เดาว่าวันนึงน่าจะได้เป็นพัน แต่เมื่อมีวณิพกตาบอดมาบรรเลงเพลงพร้อมเครื่องขยายเสียงปริมาณสเพื่อนผมสังเกตุว่าคนทำทานจะต่ำกว่ามาก

ยินดีกับทุกท่านครับ กับการทำบุญ เพื่อชำระล้างจิตใจ และได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ให้ในสิ่งที่เค้าต้องการและดีขึ้น

การใ้ห้ธรรมเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคนครับ ขอให้เพื่อนๆ ถ้ามีโอกาสช่วยกันบอกต่อคนรอบข้าง ให้ "ทำบุึญ" เพื่อ "ชำระจิตใจ" และ ช่วยเหลือสิ่งต่างๆ ให้สังคมเราดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ

ขอบคุณมากครับ

ที่รู้คือ ทำบุญ นั้นคือการทำกับผู้ทรงศีล ส่วนการให้คนหรือสัตว์ทั่วๆไปเรียกว่าการทำทาน

ทำกุศลคือการให้โดยไม่หวังผลตอนแทน ไม่หวังแม้ได้จะได้บุญ ไม่หวังที่จะได้อะไรจากการให้นั้น

ทำอะไรก็แล้วแต่ก็อย่าลืมเผื่อแผ่เมตตาให้ผู้อื่นๆด้วย

เงินปันผลที่พี่ๆได้มาก็อย่าลืมเอามาให้หนูด้วย ^.^

ดีใจครับ ที่ได้เห็นกระทู้แบบนี้ อ่านแล้วสบายใจดี

ขอให้ได้รับความสุขใจ สุขกายจากการทำบุญทุกท่านนะครับ

ผมกลับเข้าใจ(สงสัยจะผิดซะแล้ว)
คำว่า...............บุญ
แปลว่า.............การทำความดี
แต่อ่านโดยรวมคิดว่าแปลไปได้ไกลเลยน่าอ่านครับขอบคุณ

บุญกรรมมีจริงคร้าบ

เคยมีการพูดถึงกันนานมาแล้ว เรื่องนี้ คุณ hot น่าจะกระจ่างขึ้นนะครับ

วันนี้วัน มาฆบูชา นะครับ ท่าน ทำบุญ หรือยัง
ผมยัง ทำงานอยู่ครับ

copy Writer wrote:

วันนี้วัน มาฆบูชา นะครับ ท่าน ทำบุญ หรือยัง
ผมยัง ทำงานอยู่ครับ

ขยันจังเลยค่ะ เย็นๆแวะไปเวียนเทียนที่วัดเบญจมบพิตรสิคะ บุญคุ้มครองค่ะ
และจะรู้สึกสุขใจ อิ่มบุญจริงๆ

ได้บุญมากหรือน้อย ผมว่าอยูที่ใจครับ ไม่ใช่ว่าให้อะไีรมากน้อยแค่ไหน กับใคร
ทั้งบุญ ทั้งทาน ทำให้ผู้ให้และผู้รับเป็นสุขกายสุขใจ เราก็ได้บุญไปด้วย
และเรา ก็ควรจะทำทั้งบุญ ทั้งทาน ครับ
วันนี้วันพระ สวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญทำทานกันนะครับ

ป.ล. ผมเอง ตักบาตรทุกสัปดาห์อยู่แล้ว สบายใจดีจริงๆ นะ