เดอะมอลล์เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 15, 2017 12:14 pm
‘แมทธิว’รั้งCEOกลุ่มเดอะมอลล์
“แมทธิว กิจโอธาน” รีเทิร์นนั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเดอะ มอลล์ กรุ๊ป ดีเดย์ 1 มกราคม 2561 หวังพลิกโฉมรับค้าปลีกยุค 4.0 พร้อมแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ระดมทุนผุดบิ๊กโปรเจ็กต์ทั้งแบงค็อก มอลล์ บลูเพิร์ล ภูเก็ต
นายไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารเดอะ มอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เปิดเผยว่า เดอะ มอลล์ กรุ๊ปเตรียมแต่งตั้งนายแมทธิว กิจโอธาน อดีตนักการตลาดและผู้บริหารระดับสูงของหลายองค์กร ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท เดอะ มอลล์ กรุ๊ป จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ M Transformation ในการยกระดับกลุ่มเดอะ มอลล์ กรุ๊ปให้มีความพร้อมก้าวเข้าสู่การเปลี่ยน แปลงของค้าปลีกยุค4.0 และเตรียมความพร้อมในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย
“คุณแมทธิวมีความรู้เรื่องคอร์ปอเรต ไฟแนนซ์ เหมาะกับช่วงเวลาที่บริษัทจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก ทั้งมีความเชี่ยวชาญในด้านการวิเคราะห์ การตัดสินใจที่รวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้เดอะ มอลล์ ก้าวไปข้าง หน้าเป็น To be number one ตาม แผนงานที่วางไว้ได้อย่างเต็มที่”
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อนำเงินมาลงทุนในโครงการใหม่ที่วางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็นแบงค็อก มอลล์, บลูเพิร์ล ภูเก็ต ซึ่งแต่ละโครงการจะใช้เงินลงทุนในตั้งแต่ 7,000-12,000 ล้านบาท รวมทั้งการซื้อที่ดินเพื่อการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคต อย่างไรก็ดีนอกจากคุณแมทธิว แล้วยังมีผู้บริหารอื่นที่จะเข้ามาร่วมทีมเสริมให้เดอะ มอลล์แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย
ด้านแผนลงทุนในระยะสั้นนี้บริษัทเตรียมทุบศูนย์การค้าเดอะ มอลล์ 2 รามคำแหงทิ้งในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เพื่อพัฒนาเป็นคอมเพล็กซ์ใหม่สูง 7-8 ชั้น เบื้องต้นใช้งบลงทุน 5,000-6,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างต่อทันที และแล้วเสร็จในปี 2563 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนปรับปรุงสาขาท่าพระ งามวงศ์วาน และบางแค เพื่อให้ทันสมัยและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ขณะที่ความคืบหน้าในการก่อสร้างศูนย์การค้าดิ เอ็ม สเฟียร์ จะเริ่มมีความชัดเจนในปีหน้า เนื่องจากเป็นศูนย์การค้าสแตนด์อะโลน ที่เน้นความเป็นไลฟ์สไตล์และต้องสร้างให้เชื่อมต่อกับดิ เอ็มโพเรียมและดิ เอ็มควอเทียร์ จึงเป็นการยากที่จะต้องหาจุดที่เหมาะสมและลงตัว
แมทธิว กิจโอธาน
แมทธิว กิจโอธาน
“เดอะ มอลล์เตรียมพัฒนาพื้นที่บริเวณด้านหลังศูนย์การค้าเดอะ มอลล์ โคราช บนพื้นที่ 20-30 ไร่ริมแม่นํ้าลำตะคอง ให้เป็นแหล่งนัดพบแห่งใหม่ ที่พักผ่อนหย่อนใจ ตลาดนัด และศูนย์รวมอาหารจากฟูดทรัก 50-60 คัน ซึ่งจะเป็นแม็กเนตใหม่ ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะสร้างความแตกต่างให้กับค้าปลีกเมืองโคราช ที่ปัจจุบันมีการแข่งขันรุนแรงจากการเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดีมานด์ยังเท่าเดิม”
อนึ่งนายแมทธิว กิจโอธาน โลดแล่นอยู่ในองค์กรธุรกิจข้ามชาติทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ลีเวอร์บราเธอร์ (ยูนิลีเวอร์ในปัจจุบัน), เป๊ปซี่-โคล่าในฮ่องกงและนิวยอร์ก, รองประธาน บริษัท ยิลเลตต์ ประเทศไทยฯ, ซีอีโอ บมจ. ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น, กรรม การผู้จัดการ โออิชิ กรุ๊ป ก่อนที่จะลาออกไปนั่งเก้าอี้ ซีอีโอ ดูแลด้านพัฒนาธุรกิจให้กับเดอะ มอลล์ กรุ๊ป แต่ก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะมานั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บมจ. เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,304 วันที่ 12 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560
“แมทธิว กิจโอธาน” รีเทิร์นนั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเดอะ มอลล์ กรุ๊ป ดีเดย์ 1 มกราคม 2561 หวังพลิกโฉมรับค้าปลีกยุค 4.0 พร้อมแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ระดมทุนผุดบิ๊กโปรเจ็กต์ทั้งแบงค็อก มอลล์ บลูเพิร์ล ภูเก็ต
นายไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารเดอะ มอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เปิดเผยว่า เดอะ มอลล์ กรุ๊ปเตรียมแต่งตั้งนายแมทธิว กิจโอธาน อดีตนักการตลาดและผู้บริหารระดับสูงของหลายองค์กร ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท เดอะ มอลล์ กรุ๊ป จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ M Transformation ในการยกระดับกลุ่มเดอะ มอลล์ กรุ๊ปให้มีความพร้อมก้าวเข้าสู่การเปลี่ยน แปลงของค้าปลีกยุค4.0 และเตรียมความพร้อมในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย
“คุณแมทธิวมีความรู้เรื่องคอร์ปอเรต ไฟแนนซ์ เหมาะกับช่วงเวลาที่บริษัทจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก ทั้งมีความเชี่ยวชาญในด้านการวิเคราะห์ การตัดสินใจที่รวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้เดอะ มอลล์ ก้าวไปข้าง หน้าเป็น To be number one ตาม แผนงานที่วางไว้ได้อย่างเต็มที่”
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อนำเงินมาลงทุนในโครงการใหม่ที่วางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็นแบงค็อก มอลล์, บลูเพิร์ล ภูเก็ต ซึ่งแต่ละโครงการจะใช้เงินลงทุนในตั้งแต่ 7,000-12,000 ล้านบาท รวมทั้งการซื้อที่ดินเพื่อการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคต อย่างไรก็ดีนอกจากคุณแมทธิว แล้วยังมีผู้บริหารอื่นที่จะเข้ามาร่วมทีมเสริมให้เดอะ มอลล์แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย
ด้านแผนลงทุนในระยะสั้นนี้บริษัทเตรียมทุบศูนย์การค้าเดอะ มอลล์ 2 รามคำแหงทิ้งในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เพื่อพัฒนาเป็นคอมเพล็กซ์ใหม่สูง 7-8 ชั้น เบื้องต้นใช้งบลงทุน 5,000-6,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างต่อทันที และแล้วเสร็จในปี 2563 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนปรับปรุงสาขาท่าพระ งามวงศ์วาน และบางแค เพื่อให้ทันสมัยและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ขณะที่ความคืบหน้าในการก่อสร้างศูนย์การค้าดิ เอ็ม สเฟียร์ จะเริ่มมีความชัดเจนในปีหน้า เนื่องจากเป็นศูนย์การค้าสแตนด์อะโลน ที่เน้นความเป็นไลฟ์สไตล์และต้องสร้างให้เชื่อมต่อกับดิ เอ็มโพเรียมและดิ เอ็มควอเทียร์ จึงเป็นการยากที่จะต้องหาจุดที่เหมาะสมและลงตัว
แมทธิว กิจโอธาน
แมทธิว กิจโอธาน
“เดอะ มอลล์เตรียมพัฒนาพื้นที่บริเวณด้านหลังศูนย์การค้าเดอะ มอลล์ โคราช บนพื้นที่ 20-30 ไร่ริมแม่นํ้าลำตะคอง ให้เป็นแหล่งนัดพบแห่งใหม่ ที่พักผ่อนหย่อนใจ ตลาดนัด และศูนย์รวมอาหารจากฟูดทรัก 50-60 คัน ซึ่งจะเป็นแม็กเนตใหม่ ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะสร้างความแตกต่างให้กับค้าปลีกเมืองโคราช ที่ปัจจุบันมีการแข่งขันรุนแรงจากการเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดีมานด์ยังเท่าเดิม”
อนึ่งนายแมทธิว กิจโอธาน โลดแล่นอยู่ในองค์กรธุรกิจข้ามชาติทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ลีเวอร์บราเธอร์ (ยูนิลีเวอร์ในปัจจุบัน), เป๊ปซี่-โคล่าในฮ่องกงและนิวยอร์ก, รองประธาน บริษัท ยิลเลตต์ ประเทศไทยฯ, ซีอีโอ บมจ. ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น, กรรม การผู้จัดการ โออิชิ กรุ๊ป ก่อนที่จะลาออกไปนั่งเก้าอี้ ซีอีโอ ดูแลด้านพัฒนาธุรกิจให้กับเดอะ มอลล์ กรุ๊ป แต่ก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะมานั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บมจ. เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,304 วันที่ 12 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560