อคติ vs การเรียนรู้ / โดย Dome Perth
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 28, 2017 4:26 pm
อคติ vs การเรียนรู้
คนเราหากยังไม่เคยกิน “บัวลอยไข่เค็มมะพร้าวอ่อน” ก็จะคิดว่า “ลอดช่องแตงไทย” อร่อยที่สุดในอาหารประเภทขนมหวานไทย หากยังไม่เคยเคี้ยว “บอระเพ็ด” ก็จะคิดว่า “มะระขี้นก” มันเป็นสิ่งที่ขมที่สุดแล้ว
ผมขอเปรียบเทียบในเรื่องของหนทางของการลงทุนว่า เราอย่าพึ่งไปตัดสินหรือปักใจ ต่อมุมมองความคิดของเราเป็นใหญ่ ทำให้มองหุ้นของตนในแต่ทางที่ตนชอบแล้วปักใจว่าเป็นหุ้นที่ดีที่สุด บางทีหากเราได้ฟังได้การวิเคราะห์มุมมอง เหตุผลของคนอื่น เราอาจมีได้เจอหุ้นที่ดีกว่าหุ้นของเราหรือหุ้นที่เราชอบก็ได้
จากประสบการณ์ของผม ได้เห็นได้อ่านกระทู้หุ้นรายตัว จากเวปบอร์ดต่างๆ โดยเฉพาะบอร์ดร้อยคนร้อยหุ้นในเวปไทยวีไอ ในช่วงเวลา 4-5 ปีก่อน เป็นช่วงหุ้นขาขึ้น เป็นช่วงกระทิงดุมากๆ แน่นอนว่ามันย่อมมีความผันผวนค่อยข้างสูงเช่นกัน ซึ่งมีดราม่าเกิดขึ้นกับหุ้นหลายตัวมากๆ เหตุจากการหลงรักหุ้นของตัวเอง อยากปกป้องไม่ให้ราคาหุ้นถูกกระทบในทางลบ ทำให้ปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลหรือความเห็นในทางลบโดยสิ้นเชิง
ตลอดระยะเวลา 10ปีที่ผ่านมา ผมได้เรียนรู้ว่าการปิดกั้น การไม่เปิดใจรับการเรียนรู้ ไม่ขยายขอบเขตความรู้ มันคือการปิดกั้นโอกาสที่จะเห็นสิ่งดีกว่าที่เรามีอยู่ สิ่งหนึ่งที่มันคอยขัดขวางอยู่การเรียนรู้ของเรา คือ ทิฐิมานะ หรือ น้ำเต็มแก้ว หรือ ความฝังใจในอะไรสักอย่าง ความโกรธ ความน้อยใจ ความผิดหวังเสียใจในอดีต หรือ ความหลงชอบ สิ่งเหล่านี้นี้แหละ มันคือ “อคติ” มันตัวทำให้ใจเราปิดกั้นการรับรู้ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ปิดกั้นการลองทำสิ่งที่แตกต่างจากเดิมที่เราทำอยู่คิดอยู่ เมื่อวันเวลามันผ่านไป ผมลองมองย้อนหลัง จะเห็นหลายเหตุการณ์ หากเรายังปิดกั้นตัวเองอยู่ตรงนั้น คงไม่ได้มายืนในจุดนี้ได้เป็นแน่
ผมเห็นว่า เราควรละวาง และก้าวข้าม อคติ หรือ ปัจจัยที่เป็นสิ่งกีดขวางพวกนี้ลงซะ แล้วเราน่าจะเบาตัวขึ้น เดินได้เร็วขึ้น …เรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ดีขึ้นเร็วขึ้น ซึ่งมันเป็นเหตุปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในลงทุน แม้กระทั่งการดำเนินชีวิต
ผมเชื่อว่าเราทุกคนมีเป้าหมายชีวิต เดียวกัน คือความสำเร็จในหน้าที่การงาน การลงทุน การนำทางไปสู่ความสุขสบายในวันข้างหน้า ของตนและครอบครัว
ซึ่งแต่ละคน อาจเลือกทางเดินไปได้หลายแบบ ตรงบ้าง โค้งบ้าง อุปสรรคบ้าง ราบรื่นบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรระลึกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเลือกเดินทางไหนมันไม่ได้ปูด้วยกลีบกุหลาบ หรือราบรื่นขนาดที่มันจะทำรันเวย์ให้คุณเทคออฟเหาะเหินเดินอากาศ ถึงเป้าหมายความสำเร็จได้ง่าย
เราต้องใช้ความใส่ใจพยายามหาความรู้สะสมประสบการณ์ มุ่งมั่น ลงมือทำสม่ำเสมอ และออดทนรอให้ได้ แล้วเป้าหมายมันจะเข้ามาใกล้เราเองในวันหนึ่ง สิ่งสำคัญระหว่าทาง ขอแค่อย่าให้มี “อคติ” ที่จะมาปิดกั้นการเรียนรู้ของเรา หากเราละวางมันลง เปิดใจกว้าง แล้วเราจะรู้ว่า ความสนุกและความสุข มันเกิดจากการได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น และมันไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเป้าหมาย มันเกิดขึ้นในระหว่างทางที่เรากำลังเดินนี่แหละ.
ขอบคุณพี่นักลงทุนใจดี Dome Perth
คนเราหากยังไม่เคยกิน “บัวลอยไข่เค็มมะพร้าวอ่อน” ก็จะคิดว่า “ลอดช่องแตงไทย” อร่อยที่สุดในอาหารประเภทขนมหวานไทย หากยังไม่เคยเคี้ยว “บอระเพ็ด” ก็จะคิดว่า “มะระขี้นก” มันเป็นสิ่งที่ขมที่สุดแล้ว
ผมขอเปรียบเทียบในเรื่องของหนทางของการลงทุนว่า เราอย่าพึ่งไปตัดสินหรือปักใจ ต่อมุมมองความคิดของเราเป็นใหญ่ ทำให้มองหุ้นของตนในแต่ทางที่ตนชอบแล้วปักใจว่าเป็นหุ้นที่ดีที่สุด บางทีหากเราได้ฟังได้การวิเคราะห์มุมมอง เหตุผลของคนอื่น เราอาจมีได้เจอหุ้นที่ดีกว่าหุ้นของเราหรือหุ้นที่เราชอบก็ได้
จากประสบการณ์ของผม ได้เห็นได้อ่านกระทู้หุ้นรายตัว จากเวปบอร์ดต่างๆ โดยเฉพาะบอร์ดร้อยคนร้อยหุ้นในเวปไทยวีไอ ในช่วงเวลา 4-5 ปีก่อน เป็นช่วงหุ้นขาขึ้น เป็นช่วงกระทิงดุมากๆ แน่นอนว่ามันย่อมมีความผันผวนค่อยข้างสูงเช่นกัน ซึ่งมีดราม่าเกิดขึ้นกับหุ้นหลายตัวมากๆ เหตุจากการหลงรักหุ้นของตัวเอง อยากปกป้องไม่ให้ราคาหุ้นถูกกระทบในทางลบ ทำให้ปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลหรือความเห็นในทางลบโดยสิ้นเชิง
ตลอดระยะเวลา 10ปีที่ผ่านมา ผมได้เรียนรู้ว่าการปิดกั้น การไม่เปิดใจรับการเรียนรู้ ไม่ขยายขอบเขตความรู้ มันคือการปิดกั้นโอกาสที่จะเห็นสิ่งดีกว่าที่เรามีอยู่ สิ่งหนึ่งที่มันคอยขัดขวางอยู่การเรียนรู้ของเรา คือ ทิฐิมานะ หรือ น้ำเต็มแก้ว หรือ ความฝังใจในอะไรสักอย่าง ความโกรธ ความน้อยใจ ความผิดหวังเสียใจในอดีต หรือ ความหลงชอบ สิ่งเหล่านี้นี้แหละ มันคือ “อคติ” มันตัวทำให้ใจเราปิดกั้นการรับรู้ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ปิดกั้นการลองทำสิ่งที่แตกต่างจากเดิมที่เราทำอยู่คิดอยู่ เมื่อวันเวลามันผ่านไป ผมลองมองย้อนหลัง จะเห็นหลายเหตุการณ์ หากเรายังปิดกั้นตัวเองอยู่ตรงนั้น คงไม่ได้มายืนในจุดนี้ได้เป็นแน่
ผมเห็นว่า เราควรละวาง และก้าวข้าม อคติ หรือ ปัจจัยที่เป็นสิ่งกีดขวางพวกนี้ลงซะ แล้วเราน่าจะเบาตัวขึ้น เดินได้เร็วขึ้น …เรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ดีขึ้นเร็วขึ้น ซึ่งมันเป็นเหตุปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในลงทุน แม้กระทั่งการดำเนินชีวิต
ผมเชื่อว่าเราทุกคนมีเป้าหมายชีวิต เดียวกัน คือความสำเร็จในหน้าที่การงาน การลงทุน การนำทางไปสู่ความสุขสบายในวันข้างหน้า ของตนและครอบครัว
ซึ่งแต่ละคน อาจเลือกทางเดินไปได้หลายแบบ ตรงบ้าง โค้งบ้าง อุปสรรคบ้าง ราบรื่นบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรระลึกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเลือกเดินทางไหนมันไม่ได้ปูด้วยกลีบกุหลาบ หรือราบรื่นขนาดที่มันจะทำรันเวย์ให้คุณเทคออฟเหาะเหินเดินอากาศ ถึงเป้าหมายความสำเร็จได้ง่าย
เราต้องใช้ความใส่ใจพยายามหาความรู้สะสมประสบการณ์ มุ่งมั่น ลงมือทำสม่ำเสมอ และออดทนรอให้ได้ แล้วเป้าหมายมันจะเข้ามาใกล้เราเองในวันหนึ่ง สิ่งสำคัญระหว่าทาง ขอแค่อย่าให้มี “อคติ” ที่จะมาปิดกั้นการเรียนรู้ของเรา หากเราละวางมันลง เปิดใจกว้าง แล้วเราจะรู้ว่า ความสนุกและความสุข มันเกิดจากการได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น และมันไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเป้าหมาย มันเกิดขึ้นในระหว่างทางที่เรากำลังเดินนี่แหละ.
ขอบคุณพี่นักลงทุนใจดี Dome Perth