คุณลักษณะการเป็นวีไอ / Billionaire VI
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 08, 2018 10:00 pm
คุณลักษณะการเป็นวีไอ (ความคิดเห็นส่วนตัว)
การลงทุนแบบ Value Investor (VI) ยังคงเป็นหลักการลงทุนในหุ้นที่ผมยึดถือปฏิบัติมาตลอดในช่วงเกือบสิบปีที่ผ่านมา เพราะเป็นการลงทุนที่มีหลักเกณฑ์สร้างความร่ำรวยที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว
กำไรคือเจ้ามือของหุ้น กำไรขึ้นหุ้นก็ปรับตัวขึ้นในแนวทางเดียวกัน
และนั่นคือเหตุผลที่ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้มีโอกาสแชร์แนวคิดและประสบการณ์การลงทุนแบบวีไอให้เพื่อนๆทุกท่านได้ศึกษาและเรียนรู้ รวมทั้งแสดงความคิดเห็นในเพจนี้มาอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ผมอยากจะพูดถึงคุณลักษณะหลักๆ 7 ข้อของนักลงทุนวีไอเพื่อให้ทุกท่านได้เรียนรู้แล้วนำไปปฏิบัติเพื่อช่วยให้การลงทุนของทุกท่านดีขึ้น
1. วีไอเป็นกลุ่มคนที่ขยันศึกษาหาความรู้ในการลงทุนธุรกิจ ตื่นเช้ามาก็ติดตามข่าวทั้งในและต่างประเทศผ่านทางหนังสือพิมพ์ เปิดดูเว็บข่าวหุ้นหรือ Facebook ที่เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น
ระหว่างวันก็หาหนังสือหรือบทความมาอ่านเพื่อเพิ่มความรู้
อ่านรายงานประจำปีของบริษัทที่สนใจลงทุน
หาโอกาสนัดแนะเพื่อนฝูงมาเจอกันเพื่อคุยเรื่องหุ้นกับการลงทุน
ร่วมงานสัมมนา เช่น งานของ Moneytalk หรืองานอื่นๆ
สรุปคือถ้าเมื่อไหร่มีเวลาว่างก็จะศึกษาหาความรู้ตลอดเวลาเพราะการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ยิ่งเรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆก็ยิ่งช่วยให้การลงทุนมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
2. มีนิสัยไม่ชอบซื้อของที่แพงเกินกว่ามูลค่าและไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตเช่น
ไม่สนใจซื้อรถหรูราคาแพง แต่เน้นใช้รถเก่าหรือรถมือสอง
ก่อนซื้อของทุกครั้งต้องมั่นใจว่าะได้ใช้ประโยชน์จริงๆ
3. ไม่เชื่อถือข่าวหรือนักวิเคราะห์ที่แนะนำหุ้นให้ เน้นศึกษาและทำความเข้าใจและเลือกลงทุนด้วยตัวเองไม่ชอบซื้อตามข่าวลือเพราะนั่นอาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการลงทุนได้
4. การวิเคราะห์ธุรกิจถ้ามีปัจจัยหลักๆที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้และมีผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัทอย่างมากก็จะไม่ลงทุนในหุ้นตัวนั้น ยกตัวอย่างเช่นหุ้นพีทีจีทีกำไรแปรผันกับค่าการตลาดของน้ำมันซึ่งแม้กระทั่งผู้บริหารเองยังระบุว่าค่าการตลาดเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ลำบากมากๆ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจต้องขยายไปทำค้าปลีกมากขึ้น อย่างนี้จะเป็นหุ้นที่วีไอพยายามหลีกเลี่ยง
5. ชอบลงทุนซื้อหุ้นเมื่อตอนที่แย่สุดๆแต่ปัจจัยพื้นฐานยังดีอยู่ เช่นตอนที่ CPALL มีปัญหาเรื่องจริยธรรมของผู้บริหารทำให้ราคาหุ้นตกลงราคา 50 บาทลงมาเหลือ 38 บาทช่วงนั้นเป็นช่วงที่น่าลงทุนที่สุดเพราะว่าพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลงแค่มีข่าวเข้ามากระทบผู้บริหารเท่านั้น
ใครที่ลงทุนในช่วงนั้นก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้เกือบ 100% นับจนถึงวันนี้
6. ชอบลงทุนในหุ้นที่สุดแม้ว่าจะมีโอกาสลงทุนในสินทรัพย์อื่น เช่น ทองคำ ค่าเงิน ที่ดิน
วีไอเชื่อว่าในระยะยาวแล้วผลตอบแทนของธุรกิจย่อมสูงที่สุด เพราะต้นทุนของกิจการมาจากการกู้ยืมเงิน บวกด้วยค่าความเสี่ยงในการทำธุรกิจ จึงทำให้ผลตอบแทนที่ธุรกิจจะต้องทำได้สูงกว่า
จึงเป็นเหตุผลที่ว่าตลาดหุ้นอเมริกา S&P ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ในระยะเวลาหลายสิบปีซึ่งสินทรัพย์อื่นไม่สามารถสู้ได้
7. เป็นคนใจเย็น ไม่ตอบสนองต่อสิ่งรบกวนภานนอกอย่างรวดเร็ว
ประเด็นนี้สำคัญมากเพราะการลงทุนหุ้นระยะยาวต้องอาศัยความอดทน นิ่ง ต่อความผันผวนที่เข้ามากระทบการลงทุนตลอดเวลา
อย่างที่วอร์เรน บัฟเฟตต์กล่าวไว้ว่าถ้านักลงทุนไม่สามารถรับการขาดทุนกว่า 50% ของหุ้นตัวนั้นได้ ก็ควรจะหาการลงทุนแบบอื่นที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า
โดยสรุปตัวผมเองก็ไม่ใช่เซียนวีไอแค่คิดว่าแนวทางนี้เหมาะกับผม เลยอยากให้ทุกคนลองศึกษาดูว่าแนวทางนี้เหมาะสมกับตัวเองไหม
#นิสัยวีไอ
#หุ้นวีไอ
การลงทุนแบบ Value Investor (VI) ยังคงเป็นหลักการลงทุนในหุ้นที่ผมยึดถือปฏิบัติมาตลอดในช่วงเกือบสิบปีที่ผ่านมา เพราะเป็นการลงทุนที่มีหลักเกณฑ์สร้างความร่ำรวยที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว
กำไรคือเจ้ามือของหุ้น กำไรขึ้นหุ้นก็ปรับตัวขึ้นในแนวทางเดียวกัน
และนั่นคือเหตุผลที่ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้มีโอกาสแชร์แนวคิดและประสบการณ์การลงทุนแบบวีไอให้เพื่อนๆทุกท่านได้ศึกษาและเรียนรู้ รวมทั้งแสดงความคิดเห็นในเพจนี้มาอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ผมอยากจะพูดถึงคุณลักษณะหลักๆ 7 ข้อของนักลงทุนวีไอเพื่อให้ทุกท่านได้เรียนรู้แล้วนำไปปฏิบัติเพื่อช่วยให้การลงทุนของทุกท่านดีขึ้น
1. วีไอเป็นกลุ่มคนที่ขยันศึกษาหาความรู้ในการลงทุนธุรกิจ ตื่นเช้ามาก็ติดตามข่าวทั้งในและต่างประเทศผ่านทางหนังสือพิมพ์ เปิดดูเว็บข่าวหุ้นหรือ Facebook ที่เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น
ระหว่างวันก็หาหนังสือหรือบทความมาอ่านเพื่อเพิ่มความรู้
อ่านรายงานประจำปีของบริษัทที่สนใจลงทุน
หาโอกาสนัดแนะเพื่อนฝูงมาเจอกันเพื่อคุยเรื่องหุ้นกับการลงทุน
ร่วมงานสัมมนา เช่น งานของ Moneytalk หรืองานอื่นๆ
สรุปคือถ้าเมื่อไหร่มีเวลาว่างก็จะศึกษาหาความรู้ตลอดเวลาเพราะการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ยิ่งเรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆก็ยิ่งช่วยให้การลงทุนมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
2. มีนิสัยไม่ชอบซื้อของที่แพงเกินกว่ามูลค่าและไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตเช่น
ไม่สนใจซื้อรถหรูราคาแพง แต่เน้นใช้รถเก่าหรือรถมือสอง
ก่อนซื้อของทุกครั้งต้องมั่นใจว่าะได้ใช้ประโยชน์จริงๆ
3. ไม่เชื่อถือข่าวหรือนักวิเคราะห์ที่แนะนำหุ้นให้ เน้นศึกษาและทำความเข้าใจและเลือกลงทุนด้วยตัวเองไม่ชอบซื้อตามข่าวลือเพราะนั่นอาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการลงทุนได้
4. การวิเคราะห์ธุรกิจถ้ามีปัจจัยหลักๆที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้และมีผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัทอย่างมากก็จะไม่ลงทุนในหุ้นตัวนั้น ยกตัวอย่างเช่นหุ้นพีทีจีทีกำไรแปรผันกับค่าการตลาดของน้ำมันซึ่งแม้กระทั่งผู้บริหารเองยังระบุว่าค่าการตลาดเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ลำบากมากๆ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจต้องขยายไปทำค้าปลีกมากขึ้น อย่างนี้จะเป็นหุ้นที่วีไอพยายามหลีกเลี่ยง
5. ชอบลงทุนซื้อหุ้นเมื่อตอนที่แย่สุดๆแต่ปัจจัยพื้นฐานยังดีอยู่ เช่นตอนที่ CPALL มีปัญหาเรื่องจริยธรรมของผู้บริหารทำให้ราคาหุ้นตกลงราคา 50 บาทลงมาเหลือ 38 บาทช่วงนั้นเป็นช่วงที่น่าลงทุนที่สุดเพราะว่าพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลงแค่มีข่าวเข้ามากระทบผู้บริหารเท่านั้น
ใครที่ลงทุนในช่วงนั้นก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้เกือบ 100% นับจนถึงวันนี้
6. ชอบลงทุนในหุ้นที่สุดแม้ว่าจะมีโอกาสลงทุนในสินทรัพย์อื่น เช่น ทองคำ ค่าเงิน ที่ดิน
วีไอเชื่อว่าในระยะยาวแล้วผลตอบแทนของธุรกิจย่อมสูงที่สุด เพราะต้นทุนของกิจการมาจากการกู้ยืมเงิน บวกด้วยค่าความเสี่ยงในการทำธุรกิจ จึงทำให้ผลตอบแทนที่ธุรกิจจะต้องทำได้สูงกว่า
จึงเป็นเหตุผลที่ว่าตลาดหุ้นอเมริกา S&P ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ในระยะเวลาหลายสิบปีซึ่งสินทรัพย์อื่นไม่สามารถสู้ได้
7. เป็นคนใจเย็น ไม่ตอบสนองต่อสิ่งรบกวนภานนอกอย่างรวดเร็ว
ประเด็นนี้สำคัญมากเพราะการลงทุนหุ้นระยะยาวต้องอาศัยความอดทน นิ่ง ต่อความผันผวนที่เข้ามากระทบการลงทุนตลอดเวลา
อย่างที่วอร์เรน บัฟเฟตต์กล่าวไว้ว่าถ้านักลงทุนไม่สามารถรับการขาดทุนกว่า 50% ของหุ้นตัวนั้นได้ ก็ควรจะหาการลงทุนแบบอื่นที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า
โดยสรุปตัวผมเองก็ไม่ใช่เซียนวีไอแค่คิดว่าแนวทางนี้เหมาะกับผม เลยอยากให้ทุกคนลองศึกษาดูว่าแนวทางนี้เหมาะสมกับตัวเองไหม
#นิสัยวีไอ
#หุ้นวีไอ