Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เมื่อปีที่แล้วผมเพิ่งเข้าวงการ ช่วงครึ่งปีหลังจำได้ว่าครึ่งปีแรกตลาดก็ร้อนแรงดี (แต่น้อยกว่าปีนี้) แต่พอครึ่งปีหลังก็ถอยๆไป ปีนี้พี่ๆคิดว่าจะเหมือนกันมั้ยครับ ผมคิดว่าอัตราดอกเบี้ยที่เตี้ยติดดินน่าจะช่วยให้ตลาดคึกคักไปอีกนานพอสมควรใช่มั้ยครับ

เอก เขียน:เมื่อปีที่แล้วผมเพิ่งเข้าวงการ ช่วงครึ่งปีหลังจำได้ว่าครึ่งปีแรกตลาดก็ร้อนแรงดี (แต่น้อยกว่าปีนี้) แต่พอครึ่งปีหลังก็ถอยๆไป ปีนี้พี่ๆคิดว่าจะเหมือนกันมั้ยครับ ผมคิดว่าอัตราดอกเบี้ยที่เตี้ยติดดินน่าจะช่วยให้ตลาดคึกคักไปอีกนานพอสมควรใช่มั้ยครับ

ผลประกอบการไตรมาส2 จะสะท้อนให้เห็นถึงราคาหุ้นครับ
ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีกับตลาด
น่าจะดีไปจนถึงไตรมาส4
เพราะมีหุ้นเข้ามาเพิ่มในตลาดเรื่อยๆ
แต่เรื่องแกว่งขึ้นแกว่งลงก็เป็นธรรมดา

เพราะเท่าที่สังเกตดู รายใหญ่จุดพลุ
รายย่อยก็เฮตามกันไป
ตามหลังมาอีกกลุ่มคือ พวกจับเสือมือเปล่า(นักเล่นเนท.......)
แล้วในเมื่อคนส่วนใหญ่เหล่านี้ มี65%ของตลาด
ความผันผวน ความโลภ ความกลัว มอบตัว คัทล๊อต
มีให้เห็นทุกวัน

จากนักลงทุนมาเป็นนักเก็งกำไร และ จากนักเก็งกำไรมาเป็นนักลงทุน

วันนี้ไม่มีแล้วคำว่า.....หุ้นดี หรือ หุ้นเน่า
วันนี้มีแต่คำว่า..........หุ้นขึ้น กับ หุ้นลง
เราก็ต้องเข้าใจตัวเองว่า...เราเหมาะกับเส้นทางสายไหน
เอารวยแบบถาวร อยู่ได้อีกนาน
หรือรวยแบบผ่อนส่ง และอาจจนแบบถาวร(ถ้ารอบไม่จัดพอและตามเกมส์ไม่ทัน)

ทุกคนมีปัญญา ความคิด มีเงิน
ก็คงบริหารเงินของตนให้มั่นคงที่สุด
และสร้างผลตอบแทนต่อยอดเงินให้เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม

ขอให้ร่ำรวยกันทุกคนนะครับ
อย่าตั้งตนอยู่บนความประมาท

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ ผมก็อยากรวยแบบยั้งยืน ไม่อยากรวยขึ้นและจนลงอย่างรวดเร็วหรอกครับ ผมขอปีละ 8-15% ก็พอใจครับ

แค่ปีละ15%ก็ทำให้เงินทุนเริ่มต้นโตได้เท่าตัวภายในเวลาประมาณ 5 ปีแล้วครับ

หากเรารักษาระดับผลตอบแทนได้โดยเฉลี่ย 15% สมมุติว่ามีเงินเริ่มต้น 1,000,000บาท ภายใน5ปีเราจะมี เพิ่มอีก หนึ่งล้านเป็นสองล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามกฎ power of compounding ที่พี่ธันวาได้แสดงเอาไว้ หากเราทำได้ดีกว่านั้นถือว่าเป็นbonusครับ