TGH เครือไทยโฮลดิ้งส์
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 26, 2019 10:16 am
‘อาคเนย์’ เตรียมปิดดีล ‘TIC’ ปี 62เปิดแผน 3 ปีมุ่งคุณภาพบริการ-ตัวแทน
จากเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาบริษัทเครืออาคเนย์ ในกลุ่มธุรกิจการเงินได้ทำการเข้าควบรวมกับ บมจ.ไทยประกันภัย (TIC) ซึ่งถือเป็นการขยายธุรกิจครั้งสำคัญ ขณะที่ด้านไทยประกันภัยมีการแจ้งต่อ SET ว่า คณะกรรมการ บริษัทฯ เห็นชอบแผนการดำเนินธุรกิจร่วมกันกับบริษัทเครืออาคเนย์ ตามที่เครืออาคเนย์ได้ส่งข้อเสนอการเข้า
เป็นพันธมิตร ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างกิจการ โดยให้บริษัทเข้าทำสัญญาร่วมลงทุนกับเครืออาคเนย์นั้น
ด้านนายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร อาคเนย์ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการพูดคุยกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ และในเร็วๆ นี้จะมีการประกาศบ้างอย่างออกมา ซึ่งจะเป็นการควบรวม บมจ. ไทยประกันภัยมาอยู่ด้วยกันกับอาคเนย์ทั้งหมด แต่นั้นจะไม่ได้ทำให้ บมจ.ไทยประกันภัย หายไป
ขณะที่ เรื่องโครงสร้างต่างๆ ยังคุยไม่ได้ในขณะนี้ เพราะกระบวนการต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินงาน แต่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ สำหรับเรื่องการควบรวมบริษัท แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ กลต. ว่าจะพิจารณาโดยใช้ระยะเวลาเท่าไรในการอนุมัติ และยังต้องส่งเรื่องเข้ามายังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อทำการพิจารณา จากนั้นทางอาคเน่ย์จึงจะทำการประกาศการควบรวมบริษัทดังกล่าวได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของอาคเน่ย์ดีขึ้น
“การควบรวมดังกล่าว อาคเน่ย์เองมองว่า ไทยประกันภัยเป็นบริษัทที่ดี ขณะที่เรื่องของอันดับในตลาดจะขึ้นมาเป็นอันดับ 4 หรือไม่นั้น อาคเนย์เองไม่ได้คาดหวัง หรืออันดับอะไร แม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในตลาดเป็นอันดับ 5 แต่อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่สำคัญของเรา คือ การมุ่งเน้นการเติบโต และการบริการที่ดี ซึ่งปีนี้เราถือเป็นปี corporation excellence ของอาคเนย์” นายโชติพัฒน์ กล่าว
ดังนั้น บริษัทเอง จึงมีกระบวนการที่เรียกว่า operation excellence ซึ่งเป็นการปรับปรุงกระบวนการดำเนินการทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเคลมประกัน ซึ่งอาคเนย์จะมีการนำเครื่องมือ Electronics เข้ามาช่วย ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การบริการที่ทันสมัย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะ core system ของอาคเนย์ คือ motor โดยบริษัทได้มีการปรับปรุงการดำเนินงานไปแล้ว แต่ทางด้าน non-motor อาคเนย์เองกำลังจะเข้ามาอยู่ในธุรกิจ และกำลังจะขับเคลื่อนต่อไป ดังนั้นการบวนการต่างๆ ของมอเตอร์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย
“เราถึงได้บอกว่าปีนี้ เป็นปีที่ทำให้เรียกว่า operation excellence คือเราจะใช้ระบบ core system มาช่วยจับ ทำให้กระบวนการเคลมประกันต่างๆ มีความรวดเร็ว และถูกต้องมากขึ้น และไม่ว่าจะเป็นลูกค้า หรืออู่ซ่อม ตรงนี้จะทำให้เกิดความพึงพอใจมากขึ้น” นายโชติพัฒน์ กล่าว
สำหรับปี 2562 อาคเนย์ ได้มีการวางแผน 3 ปี ไว้แล้วโดยเริ่มตั้งแต่ปี 2562-2564 ซึ่งเป็นแผนระยะยาว โดยจะไม่ได้วางแผนระยะสั้นแบบปีต่อปีอีกต่อไป เพราะตนเองมองว่าในอนาคต อาคเนย์จะมีการเติบโต อย่างยั่งยืนและมั่นคง เพราะเมื่อเทียบในอดีต อาคเนย์ อยู่ในอันดับที่มากกว่า 10 แต่ปัจจุบันได้ขยับตัวเองมาอยู่ที่อันดับ 5 ได้ เพราะฉะนั้นอาคเนย์จึงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้วงการประกันภัยจะได้มีคุณภาพไปด้วยกัน เพราะเรามองว่าถ้าตัวเรามีคุณภาพ เพื่อนๆ เราก็น่าจะเติบโตได้อย่างมีคุณภาพเช่นกัน ซึ่งการเติบโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาคเนย์มุ่งใช้กลยุทธ์เรื่องราคาเป็นหลัก แต่วันนี้ เมื่ออาคเนย์มีฐานลูกค้าจำนวนมากแล้ว สิ่งที่เริ่มหันกลับมาพิจารณา นั่นคือ ดูว่าลูกค้าไหนเป็นฐานลูกค้าที่ดีมีคุณภาพ และฐานลูกค้าไหนต้องปรับปรุง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญและอาคเนย์มองว่า ถ้าบริษัทมีฐานข้อมูลของลูกค้าที่ดีแล้วนั้น การเติบโตต่อไปในวันข้างหน้าจะเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งปีนี้จะเน้นเรื่องคุณภาพลูกค้ามากขึ้น ขณะที่กลยุทธ์ทางด้านราคาต่อจากนี้ไป บริษัทจะดูถึงความเหมาะสม เรียกว่า on selecttive basic ขณะเดียวกันราคาเบี้ยเองอาคเนย์มีการปรับขึ้น และปรับลด อยู่แล้ว เพราะบ้างอย่างตนมองว่าถ้า loss ดีเราก็ลด แต่ถ้า loss ไม่ดีเราก็ขอเพิ่มเบี้ยหน่อย
“ต่อจากนี้ไป อาคเนย์เองมีประกันให้ลูกค้าได้เลือก ทั้งแบบประกันภัย และแบบประกันชีวิต เพราะลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นวันนี้ เราจึงบอกลูกค้าได้ว่าถ้าลูกค้าพอใจราคาและต้องการทำประกันด้านไหน กับบริษัทอะไรก็สามารถเลือกได้ ขณะที่ตัวแทนประกันเองนั้นถ้ามี license ก็สามารถขายได้ทั้งคู่ ซึ่งอาคเนย์เองพยายามที่จะอบรมให้ความรู้กับตัวแทน ทั้งประกันภัยและประกันชีวิต เพื่อให้สามารถขายได้ทั้ง 2 แบบ ซึ่งตอนนี้มีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรามุ่งเน้นให้ความสำคัญอย่างมาก” นายโชติพัฒน์ กล่าว
จากเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาบริษัทเครืออาคเนย์ ในกลุ่มธุรกิจการเงินได้ทำการเข้าควบรวมกับ บมจ.ไทยประกันภัย (TIC) ซึ่งถือเป็นการขยายธุรกิจครั้งสำคัญ ขณะที่ด้านไทยประกันภัยมีการแจ้งต่อ SET ว่า คณะกรรมการ บริษัทฯ เห็นชอบแผนการดำเนินธุรกิจร่วมกันกับบริษัทเครืออาคเนย์ ตามที่เครืออาคเนย์ได้ส่งข้อเสนอการเข้า
เป็นพันธมิตร ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างกิจการ โดยให้บริษัทเข้าทำสัญญาร่วมลงทุนกับเครืออาคเนย์นั้น
ด้านนายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร อาคเนย์ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการพูดคุยกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ และในเร็วๆ นี้จะมีการประกาศบ้างอย่างออกมา ซึ่งจะเป็นการควบรวม บมจ. ไทยประกันภัยมาอยู่ด้วยกันกับอาคเนย์ทั้งหมด แต่นั้นจะไม่ได้ทำให้ บมจ.ไทยประกันภัย หายไป
ขณะที่ เรื่องโครงสร้างต่างๆ ยังคุยไม่ได้ในขณะนี้ เพราะกระบวนการต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินงาน แต่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ สำหรับเรื่องการควบรวมบริษัท แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ กลต. ว่าจะพิจารณาโดยใช้ระยะเวลาเท่าไรในการอนุมัติ และยังต้องส่งเรื่องเข้ามายังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อทำการพิจารณา จากนั้นทางอาคเน่ย์จึงจะทำการประกาศการควบรวมบริษัทดังกล่าวได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของอาคเน่ย์ดีขึ้น
“การควบรวมดังกล่าว อาคเน่ย์เองมองว่า ไทยประกันภัยเป็นบริษัทที่ดี ขณะที่เรื่องของอันดับในตลาดจะขึ้นมาเป็นอันดับ 4 หรือไม่นั้น อาคเนย์เองไม่ได้คาดหวัง หรืออันดับอะไร แม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในตลาดเป็นอันดับ 5 แต่อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่สำคัญของเรา คือ การมุ่งเน้นการเติบโต และการบริการที่ดี ซึ่งปีนี้เราถือเป็นปี corporation excellence ของอาคเนย์” นายโชติพัฒน์ กล่าว
ดังนั้น บริษัทเอง จึงมีกระบวนการที่เรียกว่า operation excellence ซึ่งเป็นการปรับปรุงกระบวนการดำเนินการทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเคลมประกัน ซึ่งอาคเนย์จะมีการนำเครื่องมือ Electronics เข้ามาช่วย ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การบริการที่ทันสมัย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะ core system ของอาคเนย์ คือ motor โดยบริษัทได้มีการปรับปรุงการดำเนินงานไปแล้ว แต่ทางด้าน non-motor อาคเนย์เองกำลังจะเข้ามาอยู่ในธุรกิจ และกำลังจะขับเคลื่อนต่อไป ดังนั้นการบวนการต่างๆ ของมอเตอร์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย
“เราถึงได้บอกว่าปีนี้ เป็นปีที่ทำให้เรียกว่า operation excellence คือเราจะใช้ระบบ core system มาช่วยจับ ทำให้กระบวนการเคลมประกันต่างๆ มีความรวดเร็ว และถูกต้องมากขึ้น และไม่ว่าจะเป็นลูกค้า หรืออู่ซ่อม ตรงนี้จะทำให้เกิดความพึงพอใจมากขึ้น” นายโชติพัฒน์ กล่าว
สำหรับปี 2562 อาคเนย์ ได้มีการวางแผน 3 ปี ไว้แล้วโดยเริ่มตั้งแต่ปี 2562-2564 ซึ่งเป็นแผนระยะยาว โดยจะไม่ได้วางแผนระยะสั้นแบบปีต่อปีอีกต่อไป เพราะตนเองมองว่าในอนาคต อาคเนย์จะมีการเติบโต อย่างยั่งยืนและมั่นคง เพราะเมื่อเทียบในอดีต อาคเนย์ อยู่ในอันดับที่มากกว่า 10 แต่ปัจจุบันได้ขยับตัวเองมาอยู่ที่อันดับ 5 ได้ เพราะฉะนั้นอาคเนย์จึงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้วงการประกันภัยจะได้มีคุณภาพไปด้วยกัน เพราะเรามองว่าถ้าตัวเรามีคุณภาพ เพื่อนๆ เราก็น่าจะเติบโตได้อย่างมีคุณภาพเช่นกัน ซึ่งการเติบโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาคเนย์มุ่งใช้กลยุทธ์เรื่องราคาเป็นหลัก แต่วันนี้ เมื่ออาคเนย์มีฐานลูกค้าจำนวนมากแล้ว สิ่งที่เริ่มหันกลับมาพิจารณา นั่นคือ ดูว่าลูกค้าไหนเป็นฐานลูกค้าที่ดีมีคุณภาพ และฐานลูกค้าไหนต้องปรับปรุง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญและอาคเนย์มองว่า ถ้าบริษัทมีฐานข้อมูลของลูกค้าที่ดีแล้วนั้น การเติบโตต่อไปในวันข้างหน้าจะเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งปีนี้จะเน้นเรื่องคุณภาพลูกค้ามากขึ้น ขณะที่กลยุทธ์ทางด้านราคาต่อจากนี้ไป บริษัทจะดูถึงความเหมาะสม เรียกว่า on selecttive basic ขณะเดียวกันราคาเบี้ยเองอาคเนย์มีการปรับขึ้น และปรับลด อยู่แล้ว เพราะบ้างอย่างตนมองว่าถ้า loss ดีเราก็ลด แต่ถ้า loss ไม่ดีเราก็ขอเพิ่มเบี้ยหน่อย
“ต่อจากนี้ไป อาคเนย์เองมีประกันให้ลูกค้าได้เลือก ทั้งแบบประกันภัย และแบบประกันชีวิต เพราะลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นวันนี้ เราจึงบอกลูกค้าได้ว่าถ้าลูกค้าพอใจราคาและต้องการทำประกันด้านไหน กับบริษัทอะไรก็สามารถเลือกได้ ขณะที่ตัวแทนประกันเองนั้นถ้ามี license ก็สามารถขายได้ทั้งคู่ ซึ่งอาคเนย์เองพยายามที่จะอบรมให้ความรู้กับตัวแทน ทั้งประกันภัยและประกันชีวิต เพื่อให้สามารถขายได้ทั้ง 2 แบบ ซึ่งตอนนี้มีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรามุ่งเน้นให้ความสำคัญอย่างมาก” นายโชติพัฒน์ กล่าว