Themeการลงทุนในอนาคต1 วิเคราะห์ธุรกิจLogistic
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 06, 2019 5:46 pm
ประเทศไทยศูนย์กลางLogistic(การขนส่งสินค้า)แห่งอาเซียน ด้วยภูมิศาสตร์ที่ขึ้นเหนือไปก็เจอจีน ลงใต้ไปก็เจอสิงคโปร์ เลี้ยวซ้ายไปก็เจออินเดีย เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ไม่ว่าใครต่างก็อิจฉาในดินแดนแห่งนี้ รวมถึงอุดมไปด้วยทรัพยากรที่มีค่าเช่น ทะเล ภูเขา ข้าว ทุเรียน ฯลฯ
จากเหตุผลข้างต้นจะพบว่าธุรกิจนำเข้า ส่งออก ทั้งในและต่างประเทศ สามารถสร้างกำไรให้ผู้ประกอบการหลายๆรายเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ อาจด้วยเหตุผลช่วงต้มยำกุ้งที่ค่าเงินลอยตัวทำให้สกุลเงินดอลล่าห์แปลงเป็นบาทจาก 1 ดอลล่าร์ = 25 บาท เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็น 1 ดอลล่าร์ = 50 บาท ทำให้ธุรกิจไทยที่ส่งออกได้มีรายได้โตถึง 2 เท่า โดยที่ต้นทุนเท่าเดิม ประกอบกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังต้มยำกุ้ง ยิ่งเร่งให้ธุรกิจนี้บูมเป็นอย่างมากเติบโต 2 หลักมานับสิบปี
แต่เมื่อมาถึงจุดที่การเติบโตต่อได้สะดุดลงนับแต่ปี 2555 เป็นต้นไปการส่งออกของประเทศไทยแทบไม่โตขึ้นเลยมีเพียง 2 ปีล่าสุด(2560-2561)ที่ตัวเลขเติบโตเพียง 1 หลัก แต่มาจากการที่ปีก่อนหน้านั้นติดลบไปเยอะเท่านั้นเอง
ทีนี้นักลงทุนเริ่มวิเคราะห์แล้วว่าธุรกิจLogisticอาจมาถึงจุดอิ่มตัวแล้วการเติบโตอย่างดีคงไปเรื่อยๆตามเศรษฐกิจไทยปีละ 3-4% ทำให้หุ้นกลุ่มนี้ไม่ค่อยเป็นที่น่าสนใจเท่าใดนัก
แต่แล้วมีผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์ได้ค้นพบสิ่งที่จะพลิกให้ผลประกอบการเติบโต 2 หลักได้ด้วยการนำหุ้นบริษัทขาย ipo นำเงินเข้าสู่บริษัทไปใช้ซื้อกิจการ(M&A) ในต่างประเทศที่เป็นจุดสำคัญต่างๆ ข้อดีของ M&A (Merger and Acquisition) คือ
1. โอกาสเพิ่มผลประกอบการทั้ง Top line(รายได้) และ Bottom line(กำไรสุทธิ) มีสูงมาก
2. เสริมจุดแข็งในด้านที่ตัวเองไม่เด่น เช่น บริษัทเดิมมีรายได้จากการขนส่งทางทะเลเป็นหลัก ได้เข้าซื้อ กิจการที่เก่งด้านขนส่งทางอากาศ จะทำให้บริษัทเก่งทั้งเรือและอากาศนั่นเอง
3. การมีบริษัทต่างประเทศในที่เด่นๆย่อมเหมือนมีสาขาย่อยทำให้มีโอกาสที่จะ Synergy(ผนึกกำลัง) กันจากการที่แต่ละประเทศหาลูกค้าของตัวเองส่งผ่านให้บริษัทในเครือซึ่งกันและกัน
ด้วยกลยุทธ์ M&A ดังข้างต้นทำให้บริษัท Logistic ต่างมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ผู้เขียนเชื่อว่าตอนนี้แต่ละบริษัทยังไม่ถึงเดินทางไปไม่ถึงครึ่งเรื่องด้วยซ้ำการลงทุนในธุรกิจนี้เสียแต่เนิ่นๆ อาจให้ผลตอบแทนที่ดีได้ครับ
ตอนนี้เท่าที่นึกออกมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ทำธุรกิจประเภทนี้อยู่ 4 เจ้าด้วยกันซึ่งผู้เขียนไม่มีใบอนุญาตนักวิเคราะห์การลงทุนจึงไม่อาจชี้นำหุ้นเป็นตัวๆได้ ดังนั้นลูกเพจลองทำการบ้านแล้วหาหุ้นตัวนั้นกันนะครับ https://marketdata.set.or.th/mkt/sector ... ctor=TRANS
ปล. ธุรกิจ logistic ในที่นี้ คือ ตัวแทนดำเนินการขนส่งระหว่างประเทศไม่ใช่ Ecommerce เช่น Kerry,speedy,EMS อะไรพวกนี้นะครับ หลักๆจะประกอบด้วย Air Freigth(ขนส่งทางอากาศ), Sea Freight(ขนส่งทางทะเล), Land Freight(ขนส่งทางบก), Warehouse Management(รับบริหารสินค้าคงคลัง) ครับ
Disclaimer : บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ได้ชี้นำไปถึงหุ้นตัวใดตัวหนึ่งแต่อย่างใด
อ้างอิงตัวเลขการส่งออก : http://www.ops3.moc.go.th/infor/thtrade ... report.asp
Credit แฟนเพจ ; Zoodที่รัก นักลงทุน
จากเหตุผลข้างต้นจะพบว่าธุรกิจนำเข้า ส่งออก ทั้งในและต่างประเทศ สามารถสร้างกำไรให้ผู้ประกอบการหลายๆรายเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ อาจด้วยเหตุผลช่วงต้มยำกุ้งที่ค่าเงินลอยตัวทำให้สกุลเงินดอลล่าห์แปลงเป็นบาทจาก 1 ดอลล่าร์ = 25 บาท เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็น 1 ดอลล่าร์ = 50 บาท ทำให้ธุรกิจไทยที่ส่งออกได้มีรายได้โตถึง 2 เท่า โดยที่ต้นทุนเท่าเดิม ประกอบกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังต้มยำกุ้ง ยิ่งเร่งให้ธุรกิจนี้บูมเป็นอย่างมากเติบโต 2 หลักมานับสิบปี
แต่เมื่อมาถึงจุดที่การเติบโตต่อได้สะดุดลงนับแต่ปี 2555 เป็นต้นไปการส่งออกของประเทศไทยแทบไม่โตขึ้นเลยมีเพียง 2 ปีล่าสุด(2560-2561)ที่ตัวเลขเติบโตเพียง 1 หลัก แต่มาจากการที่ปีก่อนหน้านั้นติดลบไปเยอะเท่านั้นเอง
ทีนี้นักลงทุนเริ่มวิเคราะห์แล้วว่าธุรกิจLogisticอาจมาถึงจุดอิ่มตัวแล้วการเติบโตอย่างดีคงไปเรื่อยๆตามเศรษฐกิจไทยปีละ 3-4% ทำให้หุ้นกลุ่มนี้ไม่ค่อยเป็นที่น่าสนใจเท่าใดนัก
แต่แล้วมีผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์ได้ค้นพบสิ่งที่จะพลิกให้ผลประกอบการเติบโต 2 หลักได้ด้วยการนำหุ้นบริษัทขาย ipo นำเงินเข้าสู่บริษัทไปใช้ซื้อกิจการ(M&A) ในต่างประเทศที่เป็นจุดสำคัญต่างๆ ข้อดีของ M&A (Merger and Acquisition) คือ
1. โอกาสเพิ่มผลประกอบการทั้ง Top line(รายได้) และ Bottom line(กำไรสุทธิ) มีสูงมาก
2. เสริมจุดแข็งในด้านที่ตัวเองไม่เด่น เช่น บริษัทเดิมมีรายได้จากการขนส่งทางทะเลเป็นหลัก ได้เข้าซื้อ กิจการที่เก่งด้านขนส่งทางอากาศ จะทำให้บริษัทเก่งทั้งเรือและอากาศนั่นเอง
3. การมีบริษัทต่างประเทศในที่เด่นๆย่อมเหมือนมีสาขาย่อยทำให้มีโอกาสที่จะ Synergy(ผนึกกำลัง) กันจากการที่แต่ละประเทศหาลูกค้าของตัวเองส่งผ่านให้บริษัทในเครือซึ่งกันและกัน
ด้วยกลยุทธ์ M&A ดังข้างต้นทำให้บริษัท Logistic ต่างมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ผู้เขียนเชื่อว่าตอนนี้แต่ละบริษัทยังไม่ถึงเดินทางไปไม่ถึงครึ่งเรื่องด้วยซ้ำการลงทุนในธุรกิจนี้เสียแต่เนิ่นๆ อาจให้ผลตอบแทนที่ดีได้ครับ
ตอนนี้เท่าที่นึกออกมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ทำธุรกิจประเภทนี้อยู่ 4 เจ้าด้วยกันซึ่งผู้เขียนไม่มีใบอนุญาตนักวิเคราะห์การลงทุนจึงไม่อาจชี้นำหุ้นเป็นตัวๆได้ ดังนั้นลูกเพจลองทำการบ้านแล้วหาหุ้นตัวนั้นกันนะครับ https://marketdata.set.or.th/mkt/sector ... ctor=TRANS
ปล. ธุรกิจ logistic ในที่นี้ คือ ตัวแทนดำเนินการขนส่งระหว่างประเทศไม่ใช่ Ecommerce เช่น Kerry,speedy,EMS อะไรพวกนี้นะครับ หลักๆจะประกอบด้วย Air Freigth(ขนส่งทางอากาศ), Sea Freight(ขนส่งทางทะเล), Land Freight(ขนส่งทางบก), Warehouse Management(รับบริหารสินค้าคงคลัง) ครับ
Disclaimer : บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ได้ชี้นำไปถึงหุ้นตัวใดตัวหนึ่งแต่อย่างใด
อ้างอิงตัวเลขการส่งออก : http://www.ops3.moc.go.th/infor/thtrade ... report.asp
Credit แฟนเพจ ; Zoodที่รัก นักลงทุน