การที่บริษัทมีผลประกอบการขาดทุน แต่หุ้นขึ้น มันหมายความว่ายังไง

[Deksin]

เห็นข่าวออกมาว่าบริษัทแห่งหนึ่ง (หุ้นสนามบิน ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีครับ) ขาดทุนหนักพอควรในไตรมาสล่าสุด แต่หุ้นกลับขึ้น ในที่นี้มันเป็นเพราะตลาดรับรู้ไปแล้วว่ายังไงก็ขาดทุนแน่ๆ พองบออกมาขาดทุนจริงเลยไม่ได้ตกใจ หรือเป็นเพราะขาดทุนน้อยกว่าที่คิดครับ?

แล้วเพื่อๆ ชาว VI ถ้าสมมติว่าหุ้นมันขึ้นเพราะรับรู้ข่าวร้ายไปหมดแล้ว จะปรับเปลี่ยนการประเมินของตัวเองไหมครับ หรือไม่สนใจและให้ความสำคัญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตมากกว่า

[voratas]

ในมุมของผมตอนนี้ผมมองว่า
1. รับรู้ผลของการขาดทุนไปในเบื้องต้นแล้ว เพราะถ้าเทียบกับช่วงปลายปีก็ตกมาราวๆ 30-40เปอร์เซ็นแล้วครับ
2. เนื่องจากคนมองว่าประเทศเราอาศัยเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และประเทศเราก็ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวมากๆ ยังไงเมื่อ Covid-19 ผ่านไป ตัวนี้็ต้องกลับมาเพราะเป็นการผูกขาดอย่างชัดเจน
2.1 เราสร้างชื่อเสียงเรื่องการควบคุมโรคระบาดได้ดีมาก ทำให้ประเทศเราน่าจะเป็นประเทศต้นๆที่คนเลือกมาเที่ยว

ผมเข้าใจว่าคนน่าจะให้น้ำหนักกับข้อ 2 มากกว่าครับเพราะสังเกตุจะเด้งรับข่าวมีวัคซีน หรือการก้าวหน้าของวัคซีนตลอด แต่พอไม่มีข่าวกระเตื้องต่อเนื่องก็ค่อยๆซึมกลับมาที่เดิม แต่ถ้ามองในระยะยาวและในแง่ร้าย
คนจะไม่มั่นใจในการท่องเที่ยวเร็ว ต่อให้มีวัคซีนกว่าคนจะเริ่มมั่นใจก็คงใช้เวลาอีกเป็นปี ผมคิดว่างบยังต้องซึมไปอีกนาน แต่เนื่องจากความผูกขาด ทำให้หุ้นร่วงก็ไม่หนักมาก
บางสำนักคาดว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาเท่าเดิมปี 2566 แต่ เราก็ยังไม่เห็นวี่แววของวัคซีนอย่างชัดเจนสักที ทำให้ส่วนตัวผมยังไม่กล้าเข้าตอนนี้เพราะเปรียบ Covid เป็นพายุ hurricane และอุตสาหกรรมนี้อยู่ใจกลางพายุเลยครับ และตอนนี้ยังไม่มีท่าทีว่าพายุจะหยุด

ปล. ส่วนตัวกลัวว่าโรคนี้จะเหมือนโรคหลายๆโรคที่โลกเราไม่มีวัคซีนป้องกันเช่น HIV เพราะช่วงแรกๆข่าวออกว่ายาต้าน hiv ใช้ได้ผล เลยแอบคิดเองว่าขนาด HIV ยังไม่มีวัคซีนป้องกันเลย แล้วอันนี้จะเป็นยังไงก็ต้องติดตามต่อครับ

[SawScofield]

ตัวอย่างที่ชอบที่สุดช่วง Covid-19 ที่จำติดตาเลยคือข่าวของสายการบิน Delta Airlines ครับ
ทันทีที่งบ Q1/20 ประกาศราวเดือน พ.ค. จากนั้นอีก 1 เดือนหุ้นขึ้นราว 90% เฉียด 1 เด้ง

เหตุผลคือผลประกอบการแย่น้อยกว่าคาดนั่นแหละครับ

ที่เด็ดคือคาดว่ารายได้จะหายราว 90% แต่ประกาศมาหายจริงแค่ 88% !! ใช่ครับ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว 555 แม้ว่าหลังจากนั้นมาจะเริ่มซิกแซกออกข้างแต่ก็ถือว่าผลตอบแทนไม่ขี้เหร่เลยจากจุด bottom

แม้จะเป็นหุ้นต่างประเทศก็เป็นตัวอย่างที่ดีครับ นาทีนี้ผลตอบแทน YTD ยังอาจจะ -47% โดยประมาณแต่ก็ถือว่า turn จากจุด bottom ที่ -70% มาได้ประมาณนึง

ส่วนเรื่องราวการ price in ใช่แค่ข่าวร้ายครับ การไม่มีข่าวร้ายเพิ่มก็อาจเป็นข่าวดี ในขณะที่การไม่มีข่าวดีเพิ่มแล้วก็อาจเป็นข่าวร้ายเช่นกันครับ

นอกจากประเมินมูลค่าแล้ว risk/reward upside/downside โอกาส/ค่าเสียโอกาส ก็ควรถูกวัดอยู่สม่ำเสมอในกิจการที่คัดสรรเชิงคุณภาพมาแล้วเหมือนกันครับ

[romee]

แล้วเพื่อๆ ชาว VI ถ้าสมมติว่าหุ้นมันขึ้นเพราะรับรู้ข่าวร้ายไปหมดแล้ว จะปรับเปลี่ยนการประเมินของตัวเองไหมครับ หรือไม่สนใจและให้ความสำคัญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตมากกว่า

ส่วนใหญ่ที่เห็นคือ แย่น้อยกว่าที่คิด หุ้นจะขึ้นอย่างรุนแรง, หรือคาดเดาว่าไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว หุ้นก็พร้อมจะขึ้น

แต่บางทีที่โดนกับตัวเองคือ คิดว่าข่าวร้ายจบแล้ว แต่รายได้ก็ดันไม่ดีเท่าเดิม หักลบกันกลายเป็นกำไรหด อันนี้ที่เจอบ่อยๆครับ