หน้า 1 จากทั้งหมด 1

7 แหล่งข้อมูลการลงทุนหุ้นต่างประเทศ ที่อยากให้คุณลองศึกษาดู / Pocket investor

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 26, 2021 9:39 pm
โดย Pocket investor
สวัสดีทุกท่านครับ พบกับ Content เทคนิคและความรู้ในการพัฒนาการลงทุน เช่นเคยทุกปลายเดือน สำหรับวันนี้ผมไม่ได้จะมาคุยเรื่องหุ้นไทย แต่จะชวนทุกท่านขยาย "ขอบข่ายความรู้การลงทุน" และมาศึกษาการลงทุนต่างประเทศกันครับ!
.
การลงทุนในหุ้นต่างประเทศ เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆในหมู่นักลงทุนไทย โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีหลัง อนิสงฆ์จากที่ในยุคปัจจุบันเราสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้ง่ายมากๆ โดย สามารถเปิดพอร์ตการลงทุนผ่านโบรคเกอร์ไทยได้เลย ซึ่งใครที่สามารถศึกษาได้คุณก็จะขยายโอกาสในการลงทุนได้อีกมหาศาล เพราะยังมีบริษัทอีกนับ 10,000 บริษัท ที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้
.
แต่หลายๆท่านอาจจะกำลังมีหลายคำถามอยู่ในหัว...การศึกษาหุ้นต่างประเทศมันยากหรือเปล่าน้า? หุ้นไทยเรายังไม่ค่อยเก่งเลย จะไปลงทุนได้หรอ? เราไม่รู้จักหุ้นต่างประเทศดีเท่าหุ้นไทยหรือเปล่า? แล้วจะหาข้อมูลบริษัทอย่างไร?
.
ส่วนตัวคิดว่า จริงๆแล้ว เราอาจจะรู้จักบริษัทต่างประเทศหลายๆบริษัทเป็นอย่างดีเลยครับ เผลอๆดีกว่าหุ้นไทยด้วยซ้ำ เพราะจริงๆแล้วหุ้นต่างประเทศก็อยู่รอบตัวคุณนี่แหละ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะดื่มกาแฟ "Starbucks" ทุกวัน / โทรศัพท์ที่คุณใช้อาจจะเป็นค่าย "Apple" "Samsung" หรือ "Xiaomi" / อีกเดี๋ยวคุณกำลังจะเปิดดู Series ใหม่จาก "Netflix" หรือ เครื่องสำอางที่คุณใช้อยู่ คือ "Estee Lauder" เป็นต้น
.
ยังมีบริษัทต่างชาติอีกมากมายที่อยู่รอบตัวเรา...และถึงแม้ว่าจะมีหลายๆบริษัท ที่ยังไม่รู้จักมาก่อนเลย แต่ในยุคสมัยที่มีข้อมูลมากมายแบบนี้ เราสามารถทำความรู้จักกับบริษัทได้ง่ายมากๆผ่านการศึกษาในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะยากกว่าการศึกษาหุ้นไทยบ้าง โดยเฉพาะด้านภาษา แต่มันคงไม่ยากเกินความตั้งใจของคุณ คนอ่อนภาษาแบบผมยังทำได้เลย เชื่อว่าทุกคนต้องทำได้แน่นอน : )
.
ส่วนตัวผมเองก็ยังเป็นมือใหม่มากๆสำหรับการลงทุนต่างประเทศ และเชื่อว่าหลายๆท่านที่เป็นมือใหม่เหมือนกันหรือกำลังสนใจลงทุนต่างประเทศ อาจจะตั้งต้นไม่ถูกว่าจะศึกษาอย่างไร จกาที่ไหนดี วันนี้ผมก็เลยจะมาแชร์ 7 แหล่งข้อมูลการลงทุนหุ้นต่างประเทศ ที่ส่วนตัวผมใช้ศึกษาอยู่ครับ จะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันเลย!
.
1. สแกนรายชื่อหุ้นในแต่ละตลาดผ่าน “Tradingview”
.
เชื่อว่าคำถามแรกๆที่นักลงทุนผู้สนใจหุ้นต่างประเทศสงสัย คือ แต่ละประเทศมันมีหุ้นอะไรที่น่าสนใจบ้างนะ แล้วจะไปดูได้จากที่ไหน?
.
ขอแนะนำ www.tradingview.com ดูเหมือน Website นี้หลายๆท่านอาจจะคุ้นเคยกับ การดูกราฟเทคนิคหุ้น แต่ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้กราฟเทคนิคครับ แต่มี Function หนึ่งที่ผมคิดว่า Website นี้ดีมาก คือ "Stock Screener"
.
สำหรับ "Stock Screener" ใช้งานง่ายและดีมาก ที่สำคัญ คือ "ฟรี" 555+ โดย เราสามารถเห็นรายชื่อหุ้นทุกตัวในตลาด เรียงลำดับลงมา ซึ่งใน Website สามารถเลือกดูหุ้นในตลาดของแต่ละประเทศได้เลย ซึ่งมีมากถึง 50 ประเทศ! ครอบคลุมตลาดหลักๆ ไล่ตั้งแต่ USA / China / Hong Kong / Japan / England / France / Germany / Singapore / Vietnam และอื่นๆ
.
ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ การ Sort และ Filter ที่เราสามารถเลือกหมวดข้อมูลต่างๆมาดูได้ เช่น หมวดอุตสาหกรรม Market Cap. ตัวเลขทางการเงิน อัตราส่วนทางการเงินต่างๆ เป็นต้น
.
ส่วนตัวผมจึงเริ่มศึกษาจากการสแกนหุ้นผ่าน Trading view ซึ่งก็จะเจอบริษัทที่เรารู้จักหรือบริษัทที่ตัวเลขน่าสนใจ กรองหุ้นชุดหนึ่ง เพื่อไปศึกษาเชิงลึกต่อครับ
.
2. ศึกษาข้อมูลธุรกิจผ่าน Website “Investor relation” ของแต่ละบริษัท
.
เมื่อเราได้หุ้นกลุ่มหนึ่งที่เราสนใจแล้ว วิธีการศึกษาต่อ คือ "ทำความรู้จักบริษัท" ซึ่งเป็นพื้นฐานของการลงทุนแนว VI วิธีการก็ไม่ได้แตกต่างจากหุ้นไทยเลยครับ คือ แหล่งข้อมูลอยู่ใน Website ในหมวด IR ของแต่ละบริษัทนั่นแหละ
.
โดย องค์ประกอบก็ไม่ได้ต่างจากหน้าตา Web ของบริษัทไทยมากนัก คือ มีส่วนข้อมูลทั่วไปธุรกิจ เป้าหมาย กลยุทธ์ ข้อมูลทางการเงิน และรายงานวิเคราะห์ผลประกอบการที่ เรียกว่า "Earning call" รวมถึง Annual report และ Presentation ที่ทำให้เรารู้จักกับบริษัทมากขึ้น
.
การเข้าไปศึกษาผ่าน Website ของบริษัทจึงได้ข้อมูลภาพรวมบริษัทค่อนข้างครบและเชื่อถือได้
.
อย่างไรก็ตาม...คุณอาจจะเจออะไรที่ประหลาดใจที่ไม่เหมือนกับการลงทุนหุ้นไทยบ้าง โดยเฉพาะ คนที่ลงทุนในตลาดกำลังพัฒนา เช่น เวียดนาม เพราะ คุณจะพบว่าหลายๆบริษัท ยังไม่มี Website ของบริษัทเลย! OMG แล้วแบบนี้จะไปหาข้อมูลจากไหนดี! (รอหัวข้อที่ 4 นะ สำหรับสายเวียดนามโดยเฉพาะเลยครับ)
.
3. แหล่งข้อมูลงบการเงินย้อนหลัง “Jitta” / “Morningstar”
.
หลังจากเราศึกษาบริษัทและพอจะรู้จักแล้ว ก็คงต้องมาดูงบการเงินกันหน่อย ให้เห็นผลงานของบริษัทที่ผ่านๆมาว่าเป็นอย่างไร ซึ่งใน Website ของบริษัทก็มีข้อมูลงบการเงินอยู่บ้างแล้วอย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่อยู่ใน Website ของบริษัท อาจจะมีย้อนหลังได้ไม่กี่ปี หรือข้อมูลอยู่คนละหน้ากัน ทำให้ดูภาพยาวๆต่อเนื่องได้ยาก
.
ดังนั้น Website ที่มีผลประกอบการย้อนหลัง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรดูต่อ ส่วนตัวผมจะใช้ 2 Web หลักๆ คือ www.jitta.com และ www.morningstar.com ครับ โดยทั้ง 2 Website สามารถดูผลประกอบการย้อนหลังได้ถึง 10 ปี!
.
ส่วนตัวผมคิดว่าพอๆกัน ดูข้อมูลตัวเลขสำคัญครบเหมือนกัน ใช้ Web ไหนก็ได้ แล้วแต่ความชอบเลยครับ มีแค่รายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ เช่น Jitta อาจจะมีข้อมูลหุ้นเวียดนามมากกว่า หรือ Morningstar อาจจะครอบคลุมตลาดหลายประเทศกว่า เป็นต้น
.
การศึกษางบการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็อีกนั่นแหละ สำหรับสายเวียดนาม อาจจะยังไม่สามารถดูงบการเงินได้ทุกบริษัท จาก 2 แหล่งนี้ โดยเฉพาะ หุ้นที่จดทะเบียนในตลาด UpCoM
.
4. แหล่งข้อมูลหุ้นเวียดนามโดยเฉพาะ “finance.vietstock.vn”
.
Website นี้ เอาใจนักลงทุนสายเวียดนาม โดยเฉพาะเลยครับ เพราะข้อมูลที่หาจากแหล่งอื่นยากแสนยาก คุณสามารถดูผ่าน finance.vietstock.vn ได้เลย มีข้อมูลครบทุกบริษัทแน่นอน!
.
สำหรับ https://finance.vietstock.vn พูดง่ายๆก็เหมือน "Set" หรือ "Settrade" บ้านเรานั่นแหละครับ โดย มีข้อมูลภาพรวมตลาดและหุ้นรายตัว ทั้งข้อมูลทั่วไปธุรกิจ งบการเงินย้อนหลัง ได้ยาวนาน ข้อมูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ข่าวสารต่างๆข้อมูลของบริษัทนั้น รวมถึง Annual report เป็นต้น
.
อย่างไรก็ตามคุณจะพบเรื่องสนุกๆอีกแล้ว คือ ข่าวหรือ Annual report ของหลายๆบริษัท ชื่อหัวข้อก็เป็นภาษาอังกฤษ นั่นแหละ แต่กดเปิดเข้าไปเจอแต่ภาษาเวียดนามเต็มๆ ถึงกับงงกันไปเลย 555+
.
เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะไม่มีความรู้ด้านภาษาเวียดนาม ดังนั้น ตัวช่วยที่ดีที่สุดคงจะเป็น "Google translate" เหนื่อยหน่อยๆ แต่เชื่อว่าทุกท่านทำได้ครับ
.
5. ติดตามข้อมูลข่าวสารหุ้นผ่าน เพจ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนต่างประเทศ
.
สำหรับหลายๆท่านที่สนใจลงทุน และอาจจะไม่ได้มีเวลาติดตามหุ้นมากนัก ปัจจุบันมีพี่ๆนักลงทุนเก่งๆ ที่ใจดี แชร์ข้อมูลหุ้นและการลงทุนต่างประเทศ ผ่านเพจ Facebook ให้เราสามารถติดตามกันอย่างง่ายๆ
.
ยกตัวอย่าง เพจที่เชี่ยวชาญการลงทุนต่างประเทศ ที่ผมติดตาม เช่น "Billionaire VI" / "Club VI" / "BottomLiner - บทสรุปการลงทุน" หรือข้อมูลข่าวสารหุ้นเวียดนามอย่าง "Vietnam Value Investor หุ้นเวียดนาม" ที่นอกจากให้ความรู้ผ่านเพจแล้ว ยังมีจัดงานสัมมนาที่ได้ความรู้และมุมมองที่ดีมากๆ
.
นอกจากนี้ยังมีพี่ๆ เพื่อนๆนักลงทุนอีกหลายๆเพจ ที่ช่วยกันแชร์ความรู้การลงทุนและให้ข้อมูลหุ้นต่างประเทศ ซึ่งถ้าให้ยกมาทั้งหมดคงจะเขียนไม่หมด เป็นโชคดีของนักลงทุนไทยที่มีแหล่งความรู้ดีๆ ขอบคุณทุกๆเพจเลยครับ : )
.
6. อ่านบทวิเคราะห์หุ้นรายตัวผ่าน “Seeking Alpha”
.
ผมรู้จัก "Seeking Alpha" จากคำแนะนำของ พี่โต Billionaire VI ต้องบอกว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีมากๆที่จะได้มุมมองและข้อมูลเชิงลึกในการลงทุนมากกว่า แค่ข้อมูลทั่วๆไปของบริษัท
.
โดย บทวิเคราะห์หุ้นรายบริษัทที่อยู่ใน Seeking Alpha เป็นการเขียนวิเคราะห์ โดย นักวิเคราะห์หรือนักลงทุน ต่างประเทศเก่งๆมากมาย ซึ่งมักจะได้มุมมองที่น่าสนใจเสมอๆ และเข้าใจว่า "อ๋อ เค้ามองกันแบบนี้นี่เอง"
.
Seeking Alpha มีทั้งรูปแบบ Website และ Application ในมือถือ สามารถใช้ ฟรี ได้แต่มีข้อจำกัดที่อาจจะดูได้ไม่ครบ ซึ่งสามารถจ่ายค่าบริการรายเดือนที่ 29.99 ดอลลาร์/เดือน หรือแบบรายปีที่ 19.99 ดอลลาร์/เดือน ก็จะสามารถดูข้อมูลได้ครบ
.
แน่นอน สำหรับนักลงทุนผู้(ดูเหมือน)จะมุ่งมั่นอย่างผม ต้องใช้แบบฟรี! แน่นอนครับ 555 (สายเขียมๆ)
.
7. ศึกษา/แลกเปลี่ยนมุมมองการลงทุน Webboard “Thaivi”
.
อีกแหล่งข้อมูลที่ดีมากๆ ที่ทำให้นักลงทุนไทยเข้าไปแลกเปลี่ยนความรู้และมุมมองในการลงทุน คือ Webboard "Thaivi.org" หรือ สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ที่เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ด้านการลงทุนแบบ VI ที่ดีที่สุดในประเทศไทย
.
นอกจากหุ้นไทยแล้ว สมาคมยังมีห้อง Webboard ที่เกี่ยวกับการลงทุนหุ้นต่างประเทศอย่าง "ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ" ที่มีข้อมูลหุ้นรายตัวเลย หรือ "ห้องไอเดียหุ้นเด้ง" ที่มีพี่ๆนักลงทุนเก่งๆหลายๆท่าน เข้ามาแชร์ Idea ในการลงทุนหุ้นต่างประเทศ
.
รวมถึงบทความ ความรู้ในการลงทุน เช่น "การประเมินมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่ขาดทุน" เป็นต้น ซึ่งเป็นความรู้ที่ถ่ายทอดจากพี่ๆนักลงทุนตัวจริง ที่หาอ่านไม่ได้จากที่อื่น
.
สำหรับ Webboard "Thaivi" สามารถเข้าไปทดลองใช้ได้ฟรี 30 วัน และต่ออายุสมาชิกได้ครับ ที่สำคัญ คือ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ทางสมาคมฯได้รับ หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปใช้ทำประโยชน์เพื่อสังคมทั้งหมดเลย เรียกได้ว่าได้ความรู้และได้ทำประโยชน์ด้วย : )
.
ครบแล้วครับกับ 7 แหล่งข้อมูลการลงทุนหุ้นต่างประเทศ หวังว่าทุกท่าน น่าจะสามารถนำไปปรับใช้ในการศึกษาการลงทุนได้นะครับ หรือถ้าใครมีแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆ สามารถ Comment มาบอกได้เลยครับ
.
อย่างที่บอกว่า ผมยังเป็นมือใหม่มากๆกับการลงทุนต่างประเทศ และยังมีอะไรที่ไม่รู้อีกเยอะ (โดยเฉพาะความรู้เรื่องหุ้นเทคฯ) แต่เชื่อว่าหลายๆท่านที่ลงทุนหุ้นไทยมานาน การออกไปเปิดโลก น่าจะทำให้รู้สึกสนุกและตื่นเต้น เหมือนกับเราได้กลับไปเริ่มศึกษาการลงทุนใหม่ๆ มีอะไรที่ยังไม่รู้ให้ศึกษาอีกเยอะมากๆ
.
ซึ่งถ้าผมรู้อะไรเพิ่มและคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการลงทุน วันหลังจะมาเขียนแชร์อีกนะครับ