กับดักหุ้น PE สูง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 04, 2021 7:55 pm
“ การซื้อของดีราคาถูก” เชื่อว่านักลงทุนแนว VI คงคุ้นเคยกับประโยคแบบนี้เป็นอย่างดี และหลายๆตำราก็สอนกันแบบนี้ทั้งนั้น จนนักลงทุนบางคนไม่กล้าที่จะซื้อหุ้น PE สูงเพราะคิดว่ามันแพง
แต่ผมอยากจะแชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวว่านี้คือกับดักอย่างนึง
ผมจะขอแยกประเด็นออกมาทีละส่วนแล้วกันนะครับ อย่างแรกคือ ของดี
- หากท่านไหนศึกษาการลงทุนมาสัก 1-2 ปี ผมว่าน่าจะพอรู้และเข้าใจว่าบริษัทไหนดีไม่ดี ฉะนั้นผมขอไม่พูดเรื่องนี้มากสักเท่าไหร่ แต่อย่าหลงกลเข้าใจว่าบริษัทดีคือการลงทุนที่ดีก็แล้วกัน เพราะบริษัทดีทำให้ขาดทุนได้เหมือนกัน
ประเด็นที่สอง ราคาถูก
- ราคาที่เหมาะสมของบริษัทมักจะเป็นเรื่องที่นักลงทุนปวดหัวที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนเป็นจำนวนมากที่ไม่รู้ และนำมาซึ่งการขาดทุนในที่สุด
- บางคนซื้อหุ้น PE ต่ำ เพราะคิดว่ามันถูก บางคนซื้อหุ้น PE สูง เพราะในอดีต PE มันเคยสูงแบบนี้ตลอด
- บางคนหลีกเลี่ยงหุ้น PE สูงทุกชนิดเพราะคิดว่ามันแพง แต่ราคามันก็ยังขึ้นไปได้เรื่อยๆ ในขณะที่เรา (คนไม่ซื้อหุ้น PE สูง) ก็นั่งแช่งอยู่ทุกวันว่าสักวันหนึ่งเดี๋ยวฟองสบู่ก็ระเบิด
- สรุปแบบไหน คือ หุ้นราคาถูก สำหรับผมแล้ว ผมถนัดที่จะดูราคาปัจจุบันเทียบกับมูลค่าของบริษัทในอนาคต เรียกง่ายๆว่าหุ้นเติบโตนั่นแหละ แต่หุ้นเติบโตมีทั้งหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีในระยะยาว ,ระยะสั้น ,ไม่ได้ไม่เสีย คือ ได้กำไรแล้วราคาตกลงมา และสุดท้ายขาดทุน
หน้าที่ของนักลงทุนแนวหุ้นเติบโต คือ เราต้องหาบริษัทที่จะเติบและทำกำไรในระยะยาว หรือไม่ก็ในระยะ 3-5 ปี ซึ่งแน่นอนว่าปัจจุบัน PE สูงลิ่ว ผมขอสรุปจากประสบการณ์ส่วนตัวไว้ดังนี้
- ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามูลค่าของบริษัทไม่ได้อยู่กับที่ มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดในแต่ละเดือน แต่ละปี ทั้งดีขึ้นและแย่ลง
- PE ในอดีตมีไว้เปรียบเทียบกับกิจการในปัจจุบัน แต่ไม่ได้หมายความว่า PE ของบริษัทจะเท่ากับในอดีต เช่น ถ้าพื้นฐานบริษัทไม่ได้เปลี่ยนแต่ PE ลดลง นั้นเป็นโอกาสซื้อ ซึ่งนานๆจะมีครั้ง เช่น มีข่าวร้ายกับบริษัทมากๆ แต่มีผลกระทบต่อบริษัทแค่ชั่วคราว หรือไม่ก็ในช่วงวิกฤต
- การประเมินมูลค่าหุ้นมีหลายวิธีมาก ปีเตอร์ ลินซ์ แบ่งหุ้นออกเป็นหมวดๆ และแต่ละหมวดปีเตอร์ ลินซ์ ไม่ได้ใช้วิธีเดียวกัน ลองไปศึกษาดูได้
- หุ้น PE สูงไม่ได้เป็นหุ้นแพงเสมอไป
- หุ้น PE สูง คุณต้องแยกมันออกมาว่ามันอยู่ช่วงไหนของการเติบโต ถ้า PE สูง แต่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต บางทีหุ้นแพงในวันนี้อาจจะเป็นหุ้นถูกในวันข้างหน้า
- หุ้น PE สูงบางตัว ผ่านการเติบโตมาสักระยะแล้ว ผมจะหลีกเลี่ยง เพราะโอกาสที่จะได้กำไรมากๆมีน้อย ในขณะที่โอกาสขาดทุนมีมากกว่าจากหลายปัจจัย
- หุ้น PE สูง บางตัวแม้อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต แต่อยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ผมจะหลีกเลี่ยงเพราะตลาดแบบนี้หาผู้ชนะขาดยากมาก แม้จะเติบโตแต่จะเป็นการเติบโตแค่ชั่วคราว และเราไม่มีรู้ว่าเมื่อไหร่ยอดขายจะลดลงเพราะคู่แข่งใช้สงครามราคา เช่น เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และอื่นๆ
- ถ้าคุณซื้อหุ้น PE สูง ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น คุณต้องวิเคราะห์บริษัทอย่างละเอียด และหาความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อบริษัท แล้วประเมินว่าความเสี่ยงนี้มีโกาสเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีน้อยแสดงว่าโอกาสที่ผลประกอบการจะเติบโตอย่างต่อเนื่องก็มีสูงเช่นกัน
- หุ้น PE สูง ที่ผมสนใจจะอยู่ในอุตสาหกรรมที่แข่งขันไม่สูงมาก และสามารถกำหนดทิศทางตัวเองได้ รวมทั้งต้นทุนไม่ควรผันผวน
- หุ้น PE สูงที่ผมสนใจ กำไรต้องสามารถเติบโตได้เป็นเท่าตัวในระยะไม่เกิน 3 ปี
- ผู้บริหารเก่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการถือหุ้น PE สูง ในแง่ของผลการดำเนินงานบริษัท
จริงๆมีหลายข้อมาก แต่วันนี้คิดได้แค่นี้ หรือเพื่อนๆท่านไหนมีอะไรเพิ่มเติมก็ช่วยเสริมด้วยครับ
สรุปจากประสบการณ์ของผม คือ หุ้น PE สูงแต่คุณภาพบริษัทดีมาก จะให้ผลตอบแทนที่ดีและไม่ได้น่ากลัวเสมอไป แต่แน่นอนว่าผลตอบแทนจะแพ้หุ้น PE ต่ำ ที่คุณภาพบริษัทดีมาก ซึ่งหาค่อนข้างยากในตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ทั้งนั้นแนวทางการลงทุนของแต่ละท่านอาจจะแตกต่างกันไป แต่ในที่นี้อยากจะแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวจากคนที่ซื้อหุ้น PE สูง แต่มีผลตอบแทนที่ไม่ได้แย่เลย ซึ่งสไตล์การลงทุนแบบนี้ผมนำมาจาก Philip Fisher และนำมาปรับใช้อีกที ซึ่งให้ผลตอบแทนดีใช้ได้เลยทีเดียว
แต่ผมอยากจะแชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวว่านี้คือกับดักอย่างนึง
ผมจะขอแยกประเด็นออกมาทีละส่วนแล้วกันนะครับ อย่างแรกคือ ของดี
- หากท่านไหนศึกษาการลงทุนมาสัก 1-2 ปี ผมว่าน่าจะพอรู้และเข้าใจว่าบริษัทไหนดีไม่ดี ฉะนั้นผมขอไม่พูดเรื่องนี้มากสักเท่าไหร่ แต่อย่าหลงกลเข้าใจว่าบริษัทดีคือการลงทุนที่ดีก็แล้วกัน เพราะบริษัทดีทำให้ขาดทุนได้เหมือนกัน
ประเด็นที่สอง ราคาถูก
- ราคาที่เหมาะสมของบริษัทมักจะเป็นเรื่องที่นักลงทุนปวดหัวที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนเป็นจำนวนมากที่ไม่รู้ และนำมาซึ่งการขาดทุนในที่สุด
- บางคนซื้อหุ้น PE ต่ำ เพราะคิดว่ามันถูก บางคนซื้อหุ้น PE สูง เพราะในอดีต PE มันเคยสูงแบบนี้ตลอด
- บางคนหลีกเลี่ยงหุ้น PE สูงทุกชนิดเพราะคิดว่ามันแพง แต่ราคามันก็ยังขึ้นไปได้เรื่อยๆ ในขณะที่เรา (คนไม่ซื้อหุ้น PE สูง) ก็นั่งแช่งอยู่ทุกวันว่าสักวันหนึ่งเดี๋ยวฟองสบู่ก็ระเบิด
- สรุปแบบไหน คือ หุ้นราคาถูก สำหรับผมแล้ว ผมถนัดที่จะดูราคาปัจจุบันเทียบกับมูลค่าของบริษัทในอนาคต เรียกง่ายๆว่าหุ้นเติบโตนั่นแหละ แต่หุ้นเติบโตมีทั้งหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีในระยะยาว ,ระยะสั้น ,ไม่ได้ไม่เสีย คือ ได้กำไรแล้วราคาตกลงมา และสุดท้ายขาดทุน
หน้าที่ของนักลงทุนแนวหุ้นเติบโต คือ เราต้องหาบริษัทที่จะเติบและทำกำไรในระยะยาว หรือไม่ก็ในระยะ 3-5 ปี ซึ่งแน่นอนว่าปัจจุบัน PE สูงลิ่ว ผมขอสรุปจากประสบการณ์ส่วนตัวไว้ดังนี้
- ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามูลค่าของบริษัทไม่ได้อยู่กับที่ มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดในแต่ละเดือน แต่ละปี ทั้งดีขึ้นและแย่ลง
- PE ในอดีตมีไว้เปรียบเทียบกับกิจการในปัจจุบัน แต่ไม่ได้หมายความว่า PE ของบริษัทจะเท่ากับในอดีต เช่น ถ้าพื้นฐานบริษัทไม่ได้เปลี่ยนแต่ PE ลดลง นั้นเป็นโอกาสซื้อ ซึ่งนานๆจะมีครั้ง เช่น มีข่าวร้ายกับบริษัทมากๆ แต่มีผลกระทบต่อบริษัทแค่ชั่วคราว หรือไม่ก็ในช่วงวิกฤต
- การประเมินมูลค่าหุ้นมีหลายวิธีมาก ปีเตอร์ ลินซ์ แบ่งหุ้นออกเป็นหมวดๆ และแต่ละหมวดปีเตอร์ ลินซ์ ไม่ได้ใช้วิธีเดียวกัน ลองไปศึกษาดูได้
- หุ้น PE สูงไม่ได้เป็นหุ้นแพงเสมอไป
- หุ้น PE สูง คุณต้องแยกมันออกมาว่ามันอยู่ช่วงไหนของการเติบโต ถ้า PE สูง แต่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต บางทีหุ้นแพงในวันนี้อาจจะเป็นหุ้นถูกในวันข้างหน้า
- หุ้น PE สูงบางตัว ผ่านการเติบโตมาสักระยะแล้ว ผมจะหลีกเลี่ยง เพราะโอกาสที่จะได้กำไรมากๆมีน้อย ในขณะที่โอกาสขาดทุนมีมากกว่าจากหลายปัจจัย
- หุ้น PE สูง บางตัวแม้อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต แต่อยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ผมจะหลีกเลี่ยงเพราะตลาดแบบนี้หาผู้ชนะขาดยากมาก แม้จะเติบโตแต่จะเป็นการเติบโตแค่ชั่วคราว และเราไม่มีรู้ว่าเมื่อไหร่ยอดขายจะลดลงเพราะคู่แข่งใช้สงครามราคา เช่น เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และอื่นๆ
- ถ้าคุณซื้อหุ้น PE สูง ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น คุณต้องวิเคราะห์บริษัทอย่างละเอียด และหาความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อบริษัท แล้วประเมินว่าความเสี่ยงนี้มีโกาสเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีน้อยแสดงว่าโอกาสที่ผลประกอบการจะเติบโตอย่างต่อเนื่องก็มีสูงเช่นกัน
- หุ้น PE สูง ที่ผมสนใจจะอยู่ในอุตสาหกรรมที่แข่งขันไม่สูงมาก และสามารถกำหนดทิศทางตัวเองได้ รวมทั้งต้นทุนไม่ควรผันผวน
- หุ้น PE สูงที่ผมสนใจ กำไรต้องสามารถเติบโตได้เป็นเท่าตัวในระยะไม่เกิน 3 ปี
- ผู้บริหารเก่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการถือหุ้น PE สูง ในแง่ของผลการดำเนินงานบริษัท
จริงๆมีหลายข้อมาก แต่วันนี้คิดได้แค่นี้ หรือเพื่อนๆท่านไหนมีอะไรเพิ่มเติมก็ช่วยเสริมด้วยครับ
สรุปจากประสบการณ์ของผม คือ หุ้น PE สูงแต่คุณภาพบริษัทดีมาก จะให้ผลตอบแทนที่ดีและไม่ได้น่ากลัวเสมอไป แต่แน่นอนว่าผลตอบแทนจะแพ้หุ้น PE ต่ำ ที่คุณภาพบริษัทดีมาก ซึ่งหาค่อนข้างยากในตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ทั้งนั้นแนวทางการลงทุนของแต่ละท่านอาจจะแตกต่างกันไป แต่ในที่นี้อยากจะแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวจากคนที่ซื้อหุ้น PE สูง แต่มีผลตอบแทนที่ไม่ได้แย่เลย ซึ่งสไตล์การลงทุนแบบนี้ผมนำมาจาก Philip Fisher และนำมาปรับใช้อีกที ซึ่งให้ผลตอบแทนดีใช้ได้เลยทีเดียว