ลงทุน 100 ปี ไปกับแรงส่งจาก Network Effect
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2021 9:12 pm
ผมไปเจอเว็บที่ชื่อ nfx.com มาครับ ได้อ่าน ได้ฟัง ความรู้จากที่นี่แล้ว รู้สึกว่าทุกอย่างมันสว่างวาบ ภาพ ความเข้าใจ อะไรหลายๆ อย่างที่คลุมเคลือเกี่ยวกับ Network Effect ที่อยู่ในหัวมันกระจ่างชัดขึ้นมาก
NfX เป็น VC ที่เน้นลงทุนไปในกิจการ Startup ที่มี Network Effect สูง เค้าเลยทำองค์รู้เกี่ยวกับ Network Effect ขึ้นมาเพื่อฟูมฟักบริษัท Startup หรือคนที่สนใจ โดยเค้าได้ทำหนังสือ Bible เกี่ยวกับ Network Effect ออกมา โดยเค้าได้แบ่งแยกและอธิบาย Network Effect ออกเป็น 15 อย่าง (ตอนแรกมี 13 แล้วเพิ่ม Expertise กับ Tribal Network เข้ามาในภายหลัง)
คือ แบบว่ามันดีมากๆ ซะจน รู้สึกว่าต้องเข้ามาบอกต่อให้เพื่อนๆ ให้ลองเสพกันดู (สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยดูแล้ว หรือ รู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ผมก็ขออภัยที่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน ทำให้เสียเวลาเปล่าด้วยนะครับ) แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังอยากเข้าใจเรื่อง Network Effect แบบเร็วๆ คลิปนี้จะทำให้เราเข้าใจเรื่อง Network Effect แบบเร็วๆ ได้ใน 7 นาที
ความดีงามของเนื้อหา คือ คุณ James Currier และทีมงาน ได้ทำการแบ่งแยกพลังของ Network Effect ออกจาก พลังของการ Scale, Embedded และ Brand ออกจากกัน และเจาะลึกลงไปในพลวัฒน์ของ Network Effect แต่ละตัวให้เข้าใจและทำให้ผมมีมิติในการมอง Network Effect ที่แตกต่างออก
จากเดิมที่ผมเคยมอง Network Effect ของธุรกิจหนึ่งๆ ที่มีความผูกติดและคงที่ คุณ Currier ทำให้ผมมองว่า Network Effect เป็นพลังงานหรือคุณสมบัติที่ธุรกิจสามารถพัฒนาต่อยอดได้ ซึ่งที่ NfX เค้ามองว่าเป็นการเพิ่ม Defensibility ตัวอย่างที่คุณ Currier อธิบายให้เห็นภาพได้ชัดมากๆ คือ Uber
ผลกระทบจากการได้รับองค์ความรู้ใหม่นี้ ทำให้ผมกลับมาย้อนคิดถึงกลยุทธ์ในอดีตของตัวเอง ในการอยากจะหาหุ้นลงทุนร้อยปี เนื่องจากผมมีข้อจำกัดทางด้านเวลาที่มีให้กับการลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองมากเท่าไรกว่าทำไมผมถึงต้องปฏิเสธธุรกิจที่เป็น Disruptor หลายๆ กิจการ แต่มาวันนี้จากองค์ความรู้ในเว็บนี้ ทำให้ผมเริ่มที่จะเข้าใจประเด็นปัญหาในการถือระยะยาวของกิจการพวกนี้ได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจ พวก Retail หรือ e-Commerce ธุรกิจพวกนี้ ผมคิดว่าผมไม่สามารถลงทุนถือยาวได้เป็นร้อยปี เพราะ ธุรกิจพวกนี้สภาพการแข่งขันมันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ชนะในวันนี้ เป็นการชนะชั่วคราว ที่รอวันที่จะถูก Disrupt ในอนาคต เมื่อเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน ถ้า Disrupt ตัวเองทันก็รอด แต่ถ้า Disrupt ตัวเองไม่ทันก็ตาย ซึ่งการลงทุนในกิจการพวกนี้ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ ถ้าลงทุนถูกก็จะกำไรดีมากในระยะสั้นและระยะกลาง แต่ผมไม่มั่นใจว่ามันจะอยู่รอดไปได้ 100 ปี เนื่องจากธุรกิจพวกนี้ เน้นไปที่ Brand และ Scale ซึ่งถ้ามี Network Effect ก็จะมีแบบอ่อนๆ ไม่ได้แข็งแรงแบบที่ลึกลงไปอยู่ที่ตัว Product หรือ Business Model ตรงๆ
ในขณะที่ผมจะไปอินกับ Platform บางประเภทอย่าง GOOG ที่มี Search, Maps, Android และ YouTube หรือ FB ที่มี Facebook, Instagram และ Whatsapp ซึ่งผมคิดว่าธุรกิจพวกนี้มี Network Effect ที่แข็งแรงมาก ตัวกิจการเอง เพียงแค่ Maintain ระบบให้ดี ไม่ต้องพัฒนาอะไรเพิ่มมากมาย แต่การใช้งานของ User ที่อยู่ใน Platform กำลังสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับตัว Platform อยู่ทุกวินาที โดยอัตโนมัติ การใช้งานของ User คนหนึ่ง จะไปทำประโยชน์ให้กับ User คนอื่นๆ ได้ประโยชน์ไปด้วย เป็นวงจรที่น่าอัศจรรย์ใจมาก ซึงมันหมายความว่า ต่อให้เอาคนไม่เก่งมาบริหารธุรกิจมันก็โตของมันได้เองโดยอัตโนมัติ
เท่าที่ผมสังเกตธุรกิจที่มี Network Effect แข็งแรงจริงๆ เค้าจะไม่ค่อยพูดเรื่องการแข่งขัน ผมเคยอ่านสัมภาษณ์ของ Larry Page ในช่วงปี 2012-2013 ประมาณว่า เค้าไม่รู้ว่าจะแข่งขันกันไปทำไม ในเมื่อสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่นี้เป็นแค่ 1% ของสิ่งที่เป็นไปได้ในอนาคต
Focus ของกิจการที่มี Network Effect แข็งจริงๆ จะเอาเวลาและความพยายามไปสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไปทำประโยชน์ให้กับลูกค้า ให้กับโลก โดยไม่ต้องมาเสียเวลาคิดกับการแข่งขันมากนัก เพราะ กิจการพวกนี้ มีลูกค้าเป็นเพื่อน มีลูกค้าเป็นพวกพ้อง ที่พยายามช่วยพัฒนาทำให้ธุรกิจมันดีขึ้นไปอยู่แล้ว มันเลยทำให้เค้าเลยมีทรัพยากรและเวลาที่จะไปสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ เช่น ทำอย่างไรให้คนที่อ่านหนังสือไม่ออก หรือ ตาบอด สามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ทำอย่างไรให้คนที่ยากลำบากห่างไกลเข้าเจริญได้เข้าถึงโอกาสได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม พอผมไปเจอธุรกิจที่ก้ำกึ่งๆ เหมือนจะมี Network Effect แต่ว่ามันเป็น Weak บ้าง หรือ Density มันต่ำบ้าง บางทีผมจะไปไม่เป็น ไม่สามารถวิเคราะห์แยกส่วนออกมาได้ว่า คุณภาพมันเป็นอย่างไร ในปัจจุบัน ในภาพของการพัฒนาธุรกิจ เสริมให้แข็งแรงขึ้นในอนาคตจะทำอย่างไร และเป็นอย่างไร
ซึ่งการมาเจอเว็บนี้ช่วยทำให้ผมเคลียร์ภาพและอะไรหลายๆ อย่างไปได้มาก และทำให้ผมมั่นใจในการวิเคราะห์หากิจการ 100 ปีมากยิ่งขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่ากิจการ 100 ปีนั้นจะต้องมี Network Effect อะไรหลายๆ อย่างที่สอดรับกัน ถักทอ จนเป็นตาข่ายที่มีเส้นใยแน่หนา เป็นเกราะที่แข็งแกร่ง ที่จะทำให้ธุรกิจเดินทางไปได้ตลอด 100 ปี
ก็ขอให้เพื่อนๆ สนุก และได้ประโยชน์จากเว็บไซต์นี้ แบบที่ผมได้รับเช่นเดียวกันนะครับ
NfX เป็น VC ที่เน้นลงทุนไปในกิจการ Startup ที่มี Network Effect สูง เค้าเลยทำองค์รู้เกี่ยวกับ Network Effect ขึ้นมาเพื่อฟูมฟักบริษัท Startup หรือคนที่สนใจ โดยเค้าได้ทำหนังสือ Bible เกี่ยวกับ Network Effect ออกมา โดยเค้าได้แบ่งแยกและอธิบาย Network Effect ออกเป็น 15 อย่าง (ตอนแรกมี 13 แล้วเพิ่ม Expertise กับ Tribal Network เข้ามาในภายหลัง)
คือ แบบว่ามันดีมากๆ ซะจน รู้สึกว่าต้องเข้ามาบอกต่อให้เพื่อนๆ ให้ลองเสพกันดู (สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยดูแล้ว หรือ รู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ผมก็ขออภัยที่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน ทำให้เสียเวลาเปล่าด้วยนะครับ) แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังอยากเข้าใจเรื่อง Network Effect แบบเร็วๆ คลิปนี้จะทำให้เราเข้าใจเรื่อง Network Effect แบบเร็วๆ ได้ใน 7 นาที
ความดีงามของเนื้อหา คือ คุณ James Currier และทีมงาน ได้ทำการแบ่งแยกพลังของ Network Effect ออกจาก พลังของการ Scale, Embedded และ Brand ออกจากกัน และเจาะลึกลงไปในพลวัฒน์ของ Network Effect แต่ละตัวให้เข้าใจและทำให้ผมมีมิติในการมอง Network Effect ที่แตกต่างออก
จากเดิมที่ผมเคยมอง Network Effect ของธุรกิจหนึ่งๆ ที่มีความผูกติดและคงที่ คุณ Currier ทำให้ผมมองว่า Network Effect เป็นพลังงานหรือคุณสมบัติที่ธุรกิจสามารถพัฒนาต่อยอดได้ ซึ่งที่ NfX เค้ามองว่าเป็นการเพิ่ม Defensibility ตัวอย่างที่คุณ Currier อธิบายให้เห็นภาพได้ชัดมากๆ คือ Uber
ผลกระทบจากการได้รับองค์ความรู้ใหม่นี้ ทำให้ผมกลับมาย้อนคิดถึงกลยุทธ์ในอดีตของตัวเอง ในการอยากจะหาหุ้นลงทุนร้อยปี เนื่องจากผมมีข้อจำกัดทางด้านเวลาที่มีให้กับการลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองมากเท่าไรกว่าทำไมผมถึงต้องปฏิเสธธุรกิจที่เป็น Disruptor หลายๆ กิจการ แต่มาวันนี้จากองค์ความรู้ในเว็บนี้ ทำให้ผมเริ่มที่จะเข้าใจประเด็นปัญหาในการถือระยะยาวของกิจการพวกนี้ได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจ พวก Retail หรือ e-Commerce ธุรกิจพวกนี้ ผมคิดว่าผมไม่สามารถลงทุนถือยาวได้เป็นร้อยปี เพราะ ธุรกิจพวกนี้สภาพการแข่งขันมันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ชนะในวันนี้ เป็นการชนะชั่วคราว ที่รอวันที่จะถูก Disrupt ในอนาคต เมื่อเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน ถ้า Disrupt ตัวเองทันก็รอด แต่ถ้า Disrupt ตัวเองไม่ทันก็ตาย ซึ่งการลงทุนในกิจการพวกนี้ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ ถ้าลงทุนถูกก็จะกำไรดีมากในระยะสั้นและระยะกลาง แต่ผมไม่มั่นใจว่ามันจะอยู่รอดไปได้ 100 ปี เนื่องจากธุรกิจพวกนี้ เน้นไปที่ Brand และ Scale ซึ่งถ้ามี Network Effect ก็จะมีแบบอ่อนๆ ไม่ได้แข็งแรงแบบที่ลึกลงไปอยู่ที่ตัว Product หรือ Business Model ตรงๆ
ในขณะที่ผมจะไปอินกับ Platform บางประเภทอย่าง GOOG ที่มี Search, Maps, Android และ YouTube หรือ FB ที่มี Facebook, Instagram และ Whatsapp ซึ่งผมคิดว่าธุรกิจพวกนี้มี Network Effect ที่แข็งแรงมาก ตัวกิจการเอง เพียงแค่ Maintain ระบบให้ดี ไม่ต้องพัฒนาอะไรเพิ่มมากมาย แต่การใช้งานของ User ที่อยู่ใน Platform กำลังสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับตัว Platform อยู่ทุกวินาที โดยอัตโนมัติ การใช้งานของ User คนหนึ่ง จะไปทำประโยชน์ให้กับ User คนอื่นๆ ได้ประโยชน์ไปด้วย เป็นวงจรที่น่าอัศจรรย์ใจมาก ซึงมันหมายความว่า ต่อให้เอาคนไม่เก่งมาบริหารธุรกิจมันก็โตของมันได้เองโดยอัตโนมัติ
เท่าที่ผมสังเกตธุรกิจที่มี Network Effect แข็งแรงจริงๆ เค้าจะไม่ค่อยพูดเรื่องการแข่งขัน ผมเคยอ่านสัมภาษณ์ของ Larry Page ในช่วงปี 2012-2013 ประมาณว่า เค้าไม่รู้ว่าจะแข่งขันกันไปทำไม ในเมื่อสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่นี้เป็นแค่ 1% ของสิ่งที่เป็นไปได้ในอนาคต
Focus ของกิจการที่มี Network Effect แข็งจริงๆ จะเอาเวลาและความพยายามไปสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไปทำประโยชน์ให้กับลูกค้า ให้กับโลก โดยไม่ต้องมาเสียเวลาคิดกับการแข่งขันมากนัก เพราะ กิจการพวกนี้ มีลูกค้าเป็นเพื่อน มีลูกค้าเป็นพวกพ้อง ที่พยายามช่วยพัฒนาทำให้ธุรกิจมันดีขึ้นไปอยู่แล้ว มันเลยทำให้เค้าเลยมีทรัพยากรและเวลาที่จะไปสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ เช่น ทำอย่างไรให้คนที่อ่านหนังสือไม่ออก หรือ ตาบอด สามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ทำอย่างไรให้คนที่ยากลำบากห่างไกลเข้าเจริญได้เข้าถึงโอกาสได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม พอผมไปเจอธุรกิจที่ก้ำกึ่งๆ เหมือนจะมี Network Effect แต่ว่ามันเป็น Weak บ้าง หรือ Density มันต่ำบ้าง บางทีผมจะไปไม่เป็น ไม่สามารถวิเคราะห์แยกส่วนออกมาได้ว่า คุณภาพมันเป็นอย่างไร ในปัจจุบัน ในภาพของการพัฒนาธุรกิจ เสริมให้แข็งแรงขึ้นในอนาคตจะทำอย่างไร และเป็นอย่างไร
ซึ่งการมาเจอเว็บนี้ช่วยทำให้ผมเคลียร์ภาพและอะไรหลายๆ อย่างไปได้มาก และทำให้ผมมั่นใจในการวิเคราะห์หากิจการ 100 ปีมากยิ่งขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่ากิจการ 100 ปีนั้นจะต้องมี Network Effect อะไรหลายๆ อย่างที่สอดรับกัน ถักทอ จนเป็นตาข่ายที่มีเส้นใยแน่หนา เป็นเกราะที่แข็งแกร่ง ที่จะทำให้ธุรกิจเดินทางไปได้ตลอด 100 ปี
ก็ขอให้เพื่อนๆ สนุก และได้ประโยชน์จากเว็บไซต์นี้ แบบที่ผมได้รับเช่นเดียวกันนะครับ