วิธีคัดหุ้นเทคโนโลยี | Global Investing โดย พี่โจ๊ก นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์

[amornkowa]

วิธีคัดหุ้นเทคโนโลยี | Global Investing Youtube Channel : Hidden Meaning พี่โจ๊ก นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
By Admin Page Seminar Know ledge

1. ให้Focus ในอุตสาหกรรมที่คิดว่าใช่ ที่คิดว่าเป็น Disruptor
Ark เลือกได้ดี 5 อุตสาหกรรมที่เลือกมา พี่โจ๊กชอบทุกตัว
• DNA sequencing
• Robotics
• Energy storage
• Artificial intelligence
• Blockchain technology

พี่โจ๊กยังชอบอีก 4-5 อุตสาหกรรมคือ
• อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ (Technology Driven)
• E-Learning (Technology Driven)
• Environmental
• Gaming
• Non-disrupted Old Economy

2. ให้ความสำคัญกับการเติบโต ดู Revenue เป็นหลัก ต้องโตแรง อย่างน้อย 15%ต่อปีและรักษาระดับนี้แม้เจอปีที่ยากลำบาก High Sustainable Sale Growth

3. หาก Sale Growth โตแรงจริง แต่ขาดทุนเยอะ และเยอะขึ้นเรื่อยๆ ขาดทุนต่อเนื่อง ควรชะลอการลงทุน ให้รอจนมันขาดทุนน้อยลง หรือ อย่างน้อย ขาดทุนคงที่ ค่อยพิจารณาลงทุน

4. จริงๆแล้วในงบการเงินจะไม่มีอะไรให้ดูเยอะนัก นอกจากดู Sale Growth และ ดูว่าอย่าขาดทุนหนักต่อเนื่อง จึงควรสนใจตัวเลข หรือ Indicator อื่นๆที่สำคัญมากกว่าตัวเลขในงบการเงิน

• เช่น MAU (Monthly Active User)Tech Company ที่เป็นPlatform ตัวเลขนี้สำคัญมากๆ เราต้องคอย Monitor อย่างใกล้ชิด บางครั้งบริษัทอยากจะรวบ User เข้ามาใน Platform Revenue อาจโตไม่มากนัก แต่ MAU กำลังพุ่งทะยาน นี่คือน่าสนใจ
• ARPU (Average Revenue Per User ) บอก Penetration Rate
• Head Count / รายได้ , Head Count / รายได้ เทียบกับบริษัทคู่แข่ง
• Revenue Break Down (ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน) จะทำให้เราเข้าใจโครงสร้างรายได้ของบริษัท

5. ให้ความสำคัญกับ Founderของบริษัทนั้น อดีตเป็นอย่างไร มี Profile แบบไหน ฉลาด มี Belief มีความสามารถ มี Passionate และ มี Vision หรือเปล่า ตามดู ตามฟัง และยังควรเป็น Founder + Owner + Operator อยู่จึงจะน่าสนใจ จริงๆแล้วบริษัทเทค อาจให้มืออาชีพเข้ามาเป็น CEO ก็ได้ เพราะบริษัท ถึงจุด Mature แต่นั่นอาจเลย Stage ที่น่าสนใจลงทุนไปละ

6. มี Moat หรือเปล่า ส่วนใหญ่ Moat ที่สำคัญของ บริษัท เทค คือ Net Work Effect การที่บริษัท มี User จำนวนมาก และ มากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ User แต่ละคนนั้น มี Switching Cost มากขึ้น การที่เราสามารถ Identify ได้ว่าบริษัทมี Moat เนี่ย ช่วยทำให้เรารู้ว่า ถ้าบริษัทโตไปถึงจุดนึงแล้วเนี่ย Margin ของบริษัทจะสูงขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งก็จะเป็นสิ่งที่เราต้องการเพราะว่า บางธุรกิจ User Growth ไปเรื่อยๆก็จริงแต่ Margin ไม่สูงขึ้นเลย สุดท้ายขาดทุนอยู่ดี ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะ Growth User ในตอนสุดท้าย

7. ธุรกิจ Scalable ไหม เช่น ธุรกิจ Platform การที่จะรับ User เพิ่มคนนงเนี่ย ต้นทุนเพิ่มนิดเดียวเอง แตกต่างจากบริษัทที่เป็น Consulting / ธุรกิจ โรงเรียน พวกนี้ Human Intensive โตยาก และพวก Capital Intensive ก็โตยากเช่นกัน ต้องหาเงินมาสร้าง โรงงานเพิ่มมากๆ หรือ หาเงินมาให้สินเชื่อ ลูกค้ามากๆ นี่ทำให้เริ่มน่าสนใจน้อยลง

8. ทำการ Competitive Analysis มีคู่แข่งคือใคร และบริษัทมีดี ( Advantage ) อะไรที่จะเอาไปสู้คู่แข่งบ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นเบอร์1 หรือ เบอร์ 2 ในอุตสาหกรรม แต่ต้องมี Advantage ที่เจ๋ง เด็ด และเหนือกว่าเบอร์1+2 อย่างชัดเจนจึงจะน่าสนใจ นอกจากนี้ ต้องดูไปถึงสิ่งทดแทนด้วยนะ เช่น มีอุตสาหกรรมใดที่อาจมาตอบสนองความต้องการ ของ ลูกค้าเราได้

9. ค้นหา Untapped Opportunity มีโอกาสอะไรที่บริษัท มี แต่ยังไม่ไปจับ และมีโอกาสที่จะกระโดดเข้าไปทำในอนาคต เช่น มีประเทศที่ยังไม่ได้ไป มีธุรกิจไลน์อื่นที่ยังไม่ได้ลงเล่น นี่จะเป็น BONUS การเติบโตในอนาคต

10. การลงทุนกับ Disruptor ต้องใช้เวลาและมีความผันผวนมาก ต้องศึกษาจนเชื่อมั่นได้ว่านี่คือ Disruptor จริงๆ จึงจะมี Belief และทนถือมันได้นานพอ

11. การValuation (มีต่อ คลิปถัดไป)