Black Swan EP4 คุณ สถาพร งามเรืองพงศ์ หรือ เซียนฮง เส้นทางการลงทุน สู่พอร์ตหลายพันล้านบาท
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 28, 2022 9:38 am
Black Swan EP4 คุณ สถาพร งามเรืองพงศ์ หรือ เซียนฮง
เส้นทางการลงทุน สู่พอร์ตหลายพันล้านบาท
สรุปตามความเข้าใจของadmin Page Seminar Knowledge Page
เริ่มเข้ามาลงทุนตั้งแต่ตอนเรียนในมหาวิทยาลัยปี1 ตอนปี2004 แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
เพื่อนชักชวนไปทำธุรกิจขายตรง , 1ปีผ่านไป กลับมาลงทุนจริงจังอีกครั้ง
ตอนนั้นเห็นเพื่อนที่พอร์ตโตมากในช่วงปี2003-2004 เลยเข้าไปสอบถามเหตุผลของหุ้นที่ถืออยู่
ปรากฏว่าไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ดังนั้นจึงไปศึกษาเองเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของ
วอร์เรน บัฟเฟตต์ และ แนวทางการลงทุนของปีเตอร์ ลินซ์ ซึ่งแนะนำสำหรับ
นักลงทุนที่เข้ามาใหม่ให้ศึกษาจาก ทั้งสองท่านก่อน
ช่วงแรกไปสอบถามความรู้จาก Web board Thaivi ซึ่งได้รับความรู้มากมาย
เหตุการณ์ที่พอร์ตลดลงร้ายแรงสุดตามความคิดของ คุณฮง
ปรากฏว่า ไม่ใช่เหตุการณ์ Hamburger Crisis เพราะตอนปี2008 พอร์ตลดลงเพียง15%
ช่วงที่แย่สุดเป็นเหตุการณ์ตอนปี2011 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในไทย
หลังจากที่พอร์ตเติบโตอย่างมากในปี 2009-2010 แล้ว เริ่มมั่นใจมากขึ้น
แต่กลยุทธ์การลงทุนที่เคยใช้ก่อนหน้า ใช้ไม่ได้ในปี2011
ตอนนั้นลงทุนในwarrant ของหุ้นอสังหาริมทรัพย์ เพราะมั่นใจว่าราคาจะขึ้นอีกหลายเท่า
ปรากฏว่าเจอเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ทำให้ราคาหุ้นและWarrant ลดลงอย่างรวดเร็ว เลยรีบขายออกไป
Portเคยขึ้นไปถึง200ลบ เพียงไม่นานก็กลับมาที่เดิมคือ 100 ลบ
ถ้าตอนนั้น แค่คิดได้ว่า เปลี่ยนจากwarrant เปลี่ยนหุ้นแม่ ก็ได้ปันผลมากกว่า10%เพราะราคาลงมาเยอะ
แต่กลับขายถือเงินสด ทำให้ราคาwarrantหลังจากนั้น1ปี ขึ้นไปเลยราคาที่คำนวณได้ ทำให้เสียโอกาสไป
ปี2012 เป็นปีที่มีการประมูลคลื่น3G คุณฮงมองว่าบริษัทสื่อสารจะได้ประโยชน์จากประหยัดค่าใช้จ่าย
ที่เดิมต้องจ่ายสัมปทาน 25% เป็นจ่ายค่าประมูลใบอนุญาต ซึ่งทำให้รายจ่ายลดลงอย่างมาก
ก็เลยเข้าไปถือหุ้นสื่อสารบริษัทนึง รวมถึงการใช้marginด้วย
แรกๆ ราคาหุ้นก็ขึ้นจาก70ไปเกือบ100บาทแต่หลังจากนั้นราคาก็ร่วงลงมาจนอยู่ต่ำกว่า60บาท
เพราะ ผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามที่คำนวณไว้เพราะลูกค้าจะต้องย้ายสัญญาจากเดิมมาทำสัญญาใหม่
ก็เลยต้องจัดโปร แถมมือถือ ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก และ รายได้ใหม่เข้ามาช้ากว่าที่คาด
สุดท้ายคุณฮงก็เลยออกจากหุ้นตัวนี้ไปหาหุ้นใหม่ คือ KTC ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก
จนพอร์ตเป็นหลักหลายพันล้านบาท
บทเรียนที่ได้จากการลงทุน
1.จิตใจต้องหนักแน่น
ช่วงที่ถือwarrantในปี2011 ที่เจอน้ำท่วมใหญ่ มีวิธีแก้ คือเปลี่ยนเป็นถือหุ้นแม่แทน ปันผลดีมาก
และมีโอกาสทำกำไรหลังจากนั้นได้
2.ต้องรับฟังความคิดเห็นของคนรอบข้างด้วย
ช่วงที่ถือหุ้นสื่อสาร นั้นทำประมาณการงบการเงิน โดยเน้นไปที่ Voiceเยอะ ซึ่งมีเพื่อนนักลงทุนทักว่า
Non voiceจะเพิ่มขึ้น แต่ยังยึดว่าVoiceยังดีอยู่ เป็นจุดที่พลาดในการคำนวณมูลค่าที่แท้จริง
3.ศึกษาแนวทางการลงทุนของนักลงทุนท่านอื่นที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน
4.เวลามีกำไรยิ่งมาก ต้องยิ่งอ่อนน้อม และพิจารณาว่า กำไรที่ได้มาจากอะไร จะได้มีทางหนีทางไล่ได้
5.ต้องเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจ และ ทำการBack Test พร้อมกับคู่แข่ง
6.ทำการจดบันทึกเป็นพันหน้าเกี่ยวกับการลงทุน ศึกษาพฤติกรรมของผู้บริหารในแต่ละธุรกิจ พูดคุยกับนักลงทุนท่านอื่น
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณฮง และ น้องทีน่า น้องฟืนจาก พิธีกรThaivi และ ลงทุนแมนครับ
เส้นทางการลงทุน สู่พอร์ตหลายพันล้านบาท
สรุปตามความเข้าใจของadmin Page Seminar Knowledge Page
เริ่มเข้ามาลงทุนตั้งแต่ตอนเรียนในมหาวิทยาลัยปี1 ตอนปี2004 แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
เพื่อนชักชวนไปทำธุรกิจขายตรง , 1ปีผ่านไป กลับมาลงทุนจริงจังอีกครั้ง
ตอนนั้นเห็นเพื่อนที่พอร์ตโตมากในช่วงปี2003-2004 เลยเข้าไปสอบถามเหตุผลของหุ้นที่ถืออยู่
ปรากฏว่าไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ดังนั้นจึงไปศึกษาเองเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของ
วอร์เรน บัฟเฟตต์ และ แนวทางการลงทุนของปีเตอร์ ลินซ์ ซึ่งแนะนำสำหรับ
นักลงทุนที่เข้ามาใหม่ให้ศึกษาจาก ทั้งสองท่านก่อน
ช่วงแรกไปสอบถามความรู้จาก Web board Thaivi ซึ่งได้รับความรู้มากมาย
เหตุการณ์ที่พอร์ตลดลงร้ายแรงสุดตามความคิดของ คุณฮง
ปรากฏว่า ไม่ใช่เหตุการณ์ Hamburger Crisis เพราะตอนปี2008 พอร์ตลดลงเพียง15%
ช่วงที่แย่สุดเป็นเหตุการณ์ตอนปี2011 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในไทย
หลังจากที่พอร์ตเติบโตอย่างมากในปี 2009-2010 แล้ว เริ่มมั่นใจมากขึ้น
แต่กลยุทธ์การลงทุนที่เคยใช้ก่อนหน้า ใช้ไม่ได้ในปี2011
ตอนนั้นลงทุนในwarrant ของหุ้นอสังหาริมทรัพย์ เพราะมั่นใจว่าราคาจะขึ้นอีกหลายเท่า
ปรากฏว่าเจอเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ทำให้ราคาหุ้นและWarrant ลดลงอย่างรวดเร็ว เลยรีบขายออกไป
Portเคยขึ้นไปถึง200ลบ เพียงไม่นานก็กลับมาที่เดิมคือ 100 ลบ
ถ้าตอนนั้น แค่คิดได้ว่า เปลี่ยนจากwarrant เปลี่ยนหุ้นแม่ ก็ได้ปันผลมากกว่า10%เพราะราคาลงมาเยอะ
แต่กลับขายถือเงินสด ทำให้ราคาwarrantหลังจากนั้น1ปี ขึ้นไปเลยราคาที่คำนวณได้ ทำให้เสียโอกาสไป
ปี2012 เป็นปีที่มีการประมูลคลื่น3G คุณฮงมองว่าบริษัทสื่อสารจะได้ประโยชน์จากประหยัดค่าใช้จ่าย
ที่เดิมต้องจ่ายสัมปทาน 25% เป็นจ่ายค่าประมูลใบอนุญาต ซึ่งทำให้รายจ่ายลดลงอย่างมาก
ก็เลยเข้าไปถือหุ้นสื่อสารบริษัทนึง รวมถึงการใช้marginด้วย
แรกๆ ราคาหุ้นก็ขึ้นจาก70ไปเกือบ100บาทแต่หลังจากนั้นราคาก็ร่วงลงมาจนอยู่ต่ำกว่า60บาท
เพราะ ผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามที่คำนวณไว้เพราะลูกค้าจะต้องย้ายสัญญาจากเดิมมาทำสัญญาใหม่
ก็เลยต้องจัดโปร แถมมือถือ ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก และ รายได้ใหม่เข้ามาช้ากว่าที่คาด
สุดท้ายคุณฮงก็เลยออกจากหุ้นตัวนี้ไปหาหุ้นใหม่ คือ KTC ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก
จนพอร์ตเป็นหลักหลายพันล้านบาท
บทเรียนที่ได้จากการลงทุน
1.จิตใจต้องหนักแน่น
ช่วงที่ถือwarrantในปี2011 ที่เจอน้ำท่วมใหญ่ มีวิธีแก้ คือเปลี่ยนเป็นถือหุ้นแม่แทน ปันผลดีมาก
และมีโอกาสทำกำไรหลังจากนั้นได้
2.ต้องรับฟังความคิดเห็นของคนรอบข้างด้วย
ช่วงที่ถือหุ้นสื่อสาร นั้นทำประมาณการงบการเงิน โดยเน้นไปที่ Voiceเยอะ ซึ่งมีเพื่อนนักลงทุนทักว่า
Non voiceจะเพิ่มขึ้น แต่ยังยึดว่าVoiceยังดีอยู่ เป็นจุดที่พลาดในการคำนวณมูลค่าที่แท้จริง
3.ศึกษาแนวทางการลงทุนของนักลงทุนท่านอื่นที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน
4.เวลามีกำไรยิ่งมาก ต้องยิ่งอ่อนน้อม และพิจารณาว่า กำไรที่ได้มาจากอะไร จะได้มีทางหนีทางไล่ได้
5.ต้องเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจ และ ทำการBack Test พร้อมกับคู่แข่ง
6.ทำการจดบันทึกเป็นพันหน้าเกี่ยวกับการลงทุน ศึกษาพฤติกรรมของผู้บริหารในแต่ละธุรกิจ พูดคุยกับนักลงทุนท่านอื่น
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณฮง และ น้องทีน่า น้องฟืนจาก พิธีกรThaivi และ ลงทุนแมนครับ