[การเป็นนักลงทุนเต็มเวลา ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน] : ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 11, 2022 10:57 pm
หากคุณตั้งเป้าหมายการลงทุนไปที่ความร่ำรวยอย่างรวดเร็ว นั่นอาจนำพาชีวิตไปสู่ทัศนคติที่ส่งผลให้คุณเผชิญกับการลงทุนอันเกินขอบเขตความสามารถของตนเอง จุดนี้เป็นส่วนที่ควรระมัดระวังให้มากที่สุด เรื่องการบริหารจัดการเงินส่วนบุคคล (Personal Financial Management) จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เหตุผลก็เพื่อให้ชีวิตทางการเงินของคุณเกิดความสมดุลระหว่างการเก็บออมเงินเพื่อความมั่นคง และสามารถสร้างอิสรภาพทางการเงินได้อย่างที่ใจปรารถนา
..............
อย่าทำสิ่งใดที่เกินไปกว่าขอบเขตความรู้ของตนเอง นักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาเรื่องการลงทุน อยากให้ลองเริ่มต้นด้วยวิธีการกลับไปคิดทบทวนตนเองดูสักครั้งว่า ณ ปัจจุบัน ด้วยสถานะทางการเงินส่วนบุคคล อายุ อาชีพ ความสามารถ และรายได้ คุณควรจัดสรรปันส่วนเงินที่มีอย่างไร บางคนทุ่มเทเวลาให้กับการลงทุนมาก ดูหุ้นตลอดเวลาจนเสียการเสียงาน ส่งผลให้ความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน อาชีพหลักที่สร้างรายได้ สร้างกระแสเงินสดมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทำได้อย่างไม่เต็มที่ .............
อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะเหมาะสมกับเส้นทางนี้ก็ได้ คงไม่มีใครรู้นอกจากตัวคุณเอง แต่ผมขอพูดตรงๆว่าคนส่วนใหญ่อาจไม่เหมาะ
“การเป็นนักลงทุนอาชีพ หรือนักลงทุนเต็มเวลา (Full time Investor) นั้นไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน” มีคนเพียงไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสม ชีวิตมีความสมดุล มีความสุข และสามารถประสบความสำเร็จได้ในเส้นทางดังกล่าว นักลงทุนผู้มั่งคั่ง หรือเหล่าเซียนหุ้นชื่อดังทั้งหลายที่เราพบเห็นผ่านสื่อต่างๆกันในทุกวันนี้คือคนส่วนน้อยในกลุ่ม 5 เปอร์เซ็นต์นั้น ส่วนกลุ่มคนที่เหลืออีก 95 เปอร์เซ็นต์ซึ่งนำเงินทั้งส่วนตัวและเงินกู้มาลงทุน จากนั้นก็เจ๊ง ขาดทุน และล้มหายตายออกจากตลาดหุ้นไป ก้มหน้าก้มตาทำงานเก็บเงินเพื่อประกอบสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่ พวกเขาไม่เคยมีโอกาสมานั่งเล่าเรื่องราวชีวิตอันสุดแสนขมขื่นให้คุณฟัง บางคนก็ไม่กล้าพอที่จะระลึกหรือกล่าวถึงความล้มเหลวของตนเอง
..........
เรื่องของการลงทุนนั้นเป็นสิ่งที่เราจะคาดหวังมากไปจนเกินตัวไม่ได้ คุณควรทำตามความสามารถ เท่าที่ความพยายามของคุณจะมีให้กับมัน การลงทุนหุ้นควรจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ลองประเมินสถานการณ์ดูก่อนว่าคุณมีความเหมาะสมหรือไม่ที่จะลงทุนด้วยตนเอง หากไม่แน่ใจหรือไม่มีความมั่นใจ ก็สามารถนำเงินที่มีไปซื้อกองทุนเพื่อฝากให้ผู้เชี่ยวชาญบริหารจัดการตามความเหมาะสม แต่หากคุณมีความมั่นใจในตนเองว่าจะสามารถบริหารจัดการการลงทุนได้ดีพอ ก็ควรต้องศึกษาหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ป้องกันความเสี่ยงให้ดี อย่าทุ่มสุดตัว อย่านำเงินกู้มาลงทุน ทำตามกำลังเท่าที่คุณแบกรับไหว บางคนอยากลงทุนในหุ้นด้วยตนเองมาก แต่ไม่มีความถนัดเรื่องตัวเลข การบัญชี อ่านงบการเงินก็ยังไม่เป็น อย่าทำเลยครับ ชีวิตคุณจะลำบากแน่นอน
..........
กำลังคุณมีแค่ไหน? ความรู้และความเชี่ยวชาญคุณมีแค่ไหน? คุณเป็นคนแบบไหน? เช่นคุณเป็นคนที่เก่งเรื่องศิลปะมาก แต่เรื่องตัวเลขไม่เก่งเลย ก็อย่ามาลงทุนหุ้นแบบเต็มเวลา มันไม่เหมาะกับชีวิตคุณ คุณมีเงินเท่าไหร่ต้องจัดสรรให้ดี มีเงินเผื่อสำรองฉุกเฉินหรือยัง มีเงินออมสำหรับเป้าหมายอื่นๆไหม อย่านำมาปะปนกัน มีการทำประกันภัยหรือประกันชีวิตต่างๆเพื่อกระจายความเสี่ยงไหม อย่ามองหุ้นเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ ตัวเลขราคาที่วิ่งขึ้นๆลงๆ เพราะนั่นคือการพนัน ไม่ได้เรียกว่าการลงทุน จะเรียกว่าการเก็งกำไรก็ยังไม่ได้เลย อย่านำตัวเองไปเผชิญกับความเสี่ยงที่มากเกินไปโดยไม่จำเป็น การขาดทุนนั้นจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจมากกว่าการได้กำไรมากมายนัก จดจำไว้ว่า “เสียดาย ดีกว่า เสียใจ เสมอ”
...........
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
…………………………………………………..........
ขอขอบคุณภาพประกอบและข้อมูลบางส่วนจาก
“BLACK SWAN วันมืดมิด ในชีวิตการลงทุน” EP.5 โดย ลงทุนแมน และสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
..............
อย่าทำสิ่งใดที่เกินไปกว่าขอบเขตความรู้ของตนเอง นักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาเรื่องการลงทุน อยากให้ลองเริ่มต้นด้วยวิธีการกลับไปคิดทบทวนตนเองดูสักครั้งว่า ณ ปัจจุบัน ด้วยสถานะทางการเงินส่วนบุคคล อายุ อาชีพ ความสามารถ และรายได้ คุณควรจัดสรรปันส่วนเงินที่มีอย่างไร บางคนทุ่มเทเวลาให้กับการลงทุนมาก ดูหุ้นตลอดเวลาจนเสียการเสียงาน ส่งผลให้ความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน อาชีพหลักที่สร้างรายได้ สร้างกระแสเงินสดมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทำได้อย่างไม่เต็มที่ .............
อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะเหมาะสมกับเส้นทางนี้ก็ได้ คงไม่มีใครรู้นอกจากตัวคุณเอง แต่ผมขอพูดตรงๆว่าคนส่วนใหญ่อาจไม่เหมาะ
“การเป็นนักลงทุนอาชีพ หรือนักลงทุนเต็มเวลา (Full time Investor) นั้นไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน” มีคนเพียงไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสม ชีวิตมีความสมดุล มีความสุข และสามารถประสบความสำเร็จได้ในเส้นทางดังกล่าว นักลงทุนผู้มั่งคั่ง หรือเหล่าเซียนหุ้นชื่อดังทั้งหลายที่เราพบเห็นผ่านสื่อต่างๆกันในทุกวันนี้คือคนส่วนน้อยในกลุ่ม 5 เปอร์เซ็นต์นั้น ส่วนกลุ่มคนที่เหลืออีก 95 เปอร์เซ็นต์ซึ่งนำเงินทั้งส่วนตัวและเงินกู้มาลงทุน จากนั้นก็เจ๊ง ขาดทุน และล้มหายตายออกจากตลาดหุ้นไป ก้มหน้าก้มตาทำงานเก็บเงินเพื่อประกอบสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่ พวกเขาไม่เคยมีโอกาสมานั่งเล่าเรื่องราวชีวิตอันสุดแสนขมขื่นให้คุณฟัง บางคนก็ไม่กล้าพอที่จะระลึกหรือกล่าวถึงความล้มเหลวของตนเอง
..........
เรื่องของการลงทุนนั้นเป็นสิ่งที่เราจะคาดหวังมากไปจนเกินตัวไม่ได้ คุณควรทำตามความสามารถ เท่าที่ความพยายามของคุณจะมีให้กับมัน การลงทุนหุ้นควรจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ลองประเมินสถานการณ์ดูก่อนว่าคุณมีความเหมาะสมหรือไม่ที่จะลงทุนด้วยตนเอง หากไม่แน่ใจหรือไม่มีความมั่นใจ ก็สามารถนำเงินที่มีไปซื้อกองทุนเพื่อฝากให้ผู้เชี่ยวชาญบริหารจัดการตามความเหมาะสม แต่หากคุณมีความมั่นใจในตนเองว่าจะสามารถบริหารจัดการการลงทุนได้ดีพอ ก็ควรต้องศึกษาหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ป้องกันความเสี่ยงให้ดี อย่าทุ่มสุดตัว อย่านำเงินกู้มาลงทุน ทำตามกำลังเท่าที่คุณแบกรับไหว บางคนอยากลงทุนในหุ้นด้วยตนเองมาก แต่ไม่มีความถนัดเรื่องตัวเลข การบัญชี อ่านงบการเงินก็ยังไม่เป็น อย่าทำเลยครับ ชีวิตคุณจะลำบากแน่นอน
..........
กำลังคุณมีแค่ไหน? ความรู้และความเชี่ยวชาญคุณมีแค่ไหน? คุณเป็นคนแบบไหน? เช่นคุณเป็นคนที่เก่งเรื่องศิลปะมาก แต่เรื่องตัวเลขไม่เก่งเลย ก็อย่ามาลงทุนหุ้นแบบเต็มเวลา มันไม่เหมาะกับชีวิตคุณ คุณมีเงินเท่าไหร่ต้องจัดสรรให้ดี มีเงินเผื่อสำรองฉุกเฉินหรือยัง มีเงินออมสำหรับเป้าหมายอื่นๆไหม อย่านำมาปะปนกัน มีการทำประกันภัยหรือประกันชีวิตต่างๆเพื่อกระจายความเสี่ยงไหม อย่ามองหุ้นเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ ตัวเลขราคาที่วิ่งขึ้นๆลงๆ เพราะนั่นคือการพนัน ไม่ได้เรียกว่าการลงทุน จะเรียกว่าการเก็งกำไรก็ยังไม่ได้เลย อย่านำตัวเองไปเผชิญกับความเสี่ยงที่มากเกินไปโดยไม่จำเป็น การขาดทุนนั้นจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจมากกว่าการได้กำไรมากมายนัก จดจำไว้ว่า “เสียดาย ดีกว่า เสียใจ เสมอ”
...........
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
…………………………………………………..........
ขอขอบคุณภาพประกอบและข้อมูลบางส่วนจาก
“BLACK SWAN วันมืดมิด ในชีวิตการลงทุน” EP.5 โดย ลงทุนแมน และสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)