Mr Messenger Talk EP 29 FED เลือกท่ายาก กลับตัวก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ไปไม่ถึง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2022 10:12 am
Mr Messenger Talk EP 29
FED เลือกท่ายาก กลับตัวก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ไปไม่ถึง
ดร มิ่งขวัญ บลจ บัวหลวง
ภาพรวม
Recession ถ้ามองจากในอดีต เหมือนขับรถมองกระจกหลัง ยังไม่เห็นสัญญาณrecession
ถ้าถามว่ามันอยู่ข้างหน้าหรือเปล่า ถ้าดูจากสัญญาณเศรษฐกิจ ก็ดูที่คุณพาว์เวล ประธานเฟด
ดร มิ่งขวัญ พูดต่อว่า ฉายภาพจากในอดีต การทำให้เงินเฟ้อลดลง ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น2เท่า
ของCore CPE (ล่าสุด 4.6%) ดังนั้น ถ้าต้องการเอาเงินเฟ้อลงให้ได้ ต้องขึ้นดอกเบี้ย 9-10%
ถามว่าจะขึ้นได้ขนาดนั้นหรือเปล่า ดร บอกต่อว่า หลังจากขึ้นดอกเบี้ยไปสักพัก มีคนเดือดร้อน
ทำให้นโยบายการเงินไปไม่สุด อยู่ในสภาวะ กลืนไม่เข้า คลายไม่ออก หาทางออกไม่ได้ เหมือน
กับเพลงของพี่เบิร์ด
“ กลับตัวก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ไปไม่ถึง”
Policy Shift (การเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบาย) อาจจะเกิดขึ้น ก็เป็นโอกาสในการลงทุน
วิธีสังเกตว่าจะเกิด Policy Shift ดูได้จาก
1.เสียงเรียกร้องของประชาชนสหรัฐ เราอยู่ไกลจากสหรัฐ ข้อดีอาจดูยาก
2.ดูจากราคาบ้านและNPL ตอนปี2020 คนที่ได้เช็คมา3ใบประมาณ 1ล้านบาท เอาเงินไปซื้อบ้านหรือรถ
คนเหล่านี้ พอดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ก็จะส่งเสียงออกมา เพราะต้องผ่อนต่อเดือนเพิ่มขึ้น
3.ภาคการจ้างงาน Non Farm Payroll ลงเมื่อไหร่ แรงงานก็ชะลอตัวลง ก็ไม่รู้ว่าFEDจะขึ้นดอกเบี้ยต่อไปทำไม
นโยบายการคลังที่เคยsupportสมัยก่อน ก็มี เช่น ยกหนี้ กศน ให้ถึงสิ้นปี65
แต่มีโอกาสต่ออายุหรือเปล่า ต้องดูอีกที เพราะว่า usมีวินัยทางการคลังสูงรวมถึงเรื่องDebt Ceiling
ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจ แต่ก็มีโอกาสที่จะใช้นโยบายการคลังต่อ แต่ค่อนข้างจำกัด
อีกเรื่องที่ต้องจับตาคือ การคิด Corporate Tax 15%
บริษัทใหญ่หลายบริษัทใน S&P500 เช่น พลังงาน มีการจ่ายภาษีต่ำกว่า 15%
ปีหน้ารัฐบาลอยากเก็บภาษีเพิ่มขึ้น จึงจะเก็บขั้นต่ำ 15% สำหรับบริษัทที่กำไรเกิน 1Billion$
ดังนั้นบริษัทจะมีการเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อไม่ให้กำไรเกิน
ส่วนเรื่อง Debt Ceiling ซึ่งเลื่อนมาพิจารณา ในเดือน มีค-เมษายน 66
ต้องระวัง เพราะถ้าตกลงกันไม่ได้ แรงงานที่จ้างนอกระบบ ต้องถูกเลิกจ้างช่วงนึงเลย
ดอกเบี้ยนโยบาย FED FUND RATE ดร มิ่งขวัญ บอกตรงนี้เป็นจุดที่เหมาะสม
คือ 2.25% แต่FED จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมคราวหน้า แปลว่า การปรับฐานในตลาดหุ้นยังคงมีอยู่
โดยดูจาก Dollar index ที่ 108. หรือ Bond Yield 10 Years เกิน3%
ถ้าเห็นสองอย่างนี้ ให้รอการลงทุนไปก่อน ซึ่งตรงกับช่วงนี้พอดี
โอกาสในการลงทุน
ดร มิ่งขวัญ บอกว่า อยากให้เราเปิดใจกว้าง ลงทุนนอกจาก US, Growth stock บ้าง
อย่างช่วงนี้ค่าเงิน$แข็งค่าขึ้น ถ้าเราลงทุนใน Global Bondจะได้กำไรจาก$ที่แข็งค่าขึ้น
หุ้นไทย ซึ่งขึ้นมาสักเดือนนึง เพราะตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือน กค 65 เริ่มขยับเกิน1ล้านคนแล้ว
หรือ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ถ้าใครซื้อตอน อดีตนายกอาเบะเสียชีวิต ตอนนี้ได้ไป 10%แล้ว
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณแบงค์ และ ดร มิ่งขวัญ มากเลยครับที่มาให้ข้อมูล
FED เลือกท่ายาก กลับตัวก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ไปไม่ถึง
ดร มิ่งขวัญ บลจ บัวหลวง
ภาพรวม
Recession ถ้ามองจากในอดีต เหมือนขับรถมองกระจกหลัง ยังไม่เห็นสัญญาณrecession
ถ้าถามว่ามันอยู่ข้างหน้าหรือเปล่า ถ้าดูจากสัญญาณเศรษฐกิจ ก็ดูที่คุณพาว์เวล ประธานเฟด
ดร มิ่งขวัญ พูดต่อว่า ฉายภาพจากในอดีต การทำให้เงินเฟ้อลดลง ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น2เท่า
ของCore CPE (ล่าสุด 4.6%) ดังนั้น ถ้าต้องการเอาเงินเฟ้อลงให้ได้ ต้องขึ้นดอกเบี้ย 9-10%
ถามว่าจะขึ้นได้ขนาดนั้นหรือเปล่า ดร บอกต่อว่า หลังจากขึ้นดอกเบี้ยไปสักพัก มีคนเดือดร้อน
ทำให้นโยบายการเงินไปไม่สุด อยู่ในสภาวะ กลืนไม่เข้า คลายไม่ออก หาทางออกไม่ได้ เหมือน
กับเพลงของพี่เบิร์ด
“ กลับตัวก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ไปไม่ถึง”
Policy Shift (การเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบาย) อาจจะเกิดขึ้น ก็เป็นโอกาสในการลงทุน
วิธีสังเกตว่าจะเกิด Policy Shift ดูได้จาก
1.เสียงเรียกร้องของประชาชนสหรัฐ เราอยู่ไกลจากสหรัฐ ข้อดีอาจดูยาก
2.ดูจากราคาบ้านและNPL ตอนปี2020 คนที่ได้เช็คมา3ใบประมาณ 1ล้านบาท เอาเงินไปซื้อบ้านหรือรถ
คนเหล่านี้ พอดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ก็จะส่งเสียงออกมา เพราะต้องผ่อนต่อเดือนเพิ่มขึ้น
3.ภาคการจ้างงาน Non Farm Payroll ลงเมื่อไหร่ แรงงานก็ชะลอตัวลง ก็ไม่รู้ว่าFEDจะขึ้นดอกเบี้ยต่อไปทำไม
นโยบายการคลังที่เคยsupportสมัยก่อน ก็มี เช่น ยกหนี้ กศน ให้ถึงสิ้นปี65
แต่มีโอกาสต่ออายุหรือเปล่า ต้องดูอีกที เพราะว่า usมีวินัยทางการคลังสูงรวมถึงเรื่องDebt Ceiling
ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจ แต่ก็มีโอกาสที่จะใช้นโยบายการคลังต่อ แต่ค่อนข้างจำกัด
อีกเรื่องที่ต้องจับตาคือ การคิด Corporate Tax 15%
บริษัทใหญ่หลายบริษัทใน S&P500 เช่น พลังงาน มีการจ่ายภาษีต่ำกว่า 15%
ปีหน้ารัฐบาลอยากเก็บภาษีเพิ่มขึ้น จึงจะเก็บขั้นต่ำ 15% สำหรับบริษัทที่กำไรเกิน 1Billion$
ดังนั้นบริษัทจะมีการเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อไม่ให้กำไรเกิน
ส่วนเรื่อง Debt Ceiling ซึ่งเลื่อนมาพิจารณา ในเดือน มีค-เมษายน 66
ต้องระวัง เพราะถ้าตกลงกันไม่ได้ แรงงานที่จ้างนอกระบบ ต้องถูกเลิกจ้างช่วงนึงเลย
ดอกเบี้ยนโยบาย FED FUND RATE ดร มิ่งขวัญ บอกตรงนี้เป็นจุดที่เหมาะสม
คือ 2.25% แต่FED จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมคราวหน้า แปลว่า การปรับฐานในตลาดหุ้นยังคงมีอยู่
โดยดูจาก Dollar index ที่ 108. หรือ Bond Yield 10 Years เกิน3%
ถ้าเห็นสองอย่างนี้ ให้รอการลงทุนไปก่อน ซึ่งตรงกับช่วงนี้พอดี
โอกาสในการลงทุน
ดร มิ่งขวัญ บอกว่า อยากให้เราเปิดใจกว้าง ลงทุนนอกจาก US, Growth stock บ้าง
อย่างช่วงนี้ค่าเงิน$แข็งค่าขึ้น ถ้าเราลงทุนใน Global Bondจะได้กำไรจาก$ที่แข็งค่าขึ้น
หุ้นไทย ซึ่งขึ้นมาสักเดือนนึง เพราะตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือน กค 65 เริ่มขยับเกิน1ล้านคนแล้ว
หรือ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ถ้าใครซื้อตอน อดีตนายกอาเบะเสียชีวิต ตอนนี้ได้ไป 10%แล้ว
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณแบงค์ และ ดร มิ่งขวัญ มากเลยครับที่มาให้ข้อมูล