สัมมนา Chula Value Investing Talk 2023
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 25, 2023 9:23 pm
สัมมนา Chula Value Investing Talk 2023
Theme: Basic Knowledge & Tips in investment
เชาว์ เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ
คุณเชาว์ บอกว่า ก่อนที่จะมาเป็นวีไอ หลายคนที่รู้จัก ก็ลองมาหลายแนว
แม้แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ยังเคยดูกราฟเลย
หลังจากลองมาหลายวิธี พบว่า การลงทุนให้ชนะในระยะยาว คือการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ถ้าเราตอบไม่ได้ว่า วิธีที่ใช้เหนือกว่าคนอื่นอย่างไร ก็จะไม่สามารถชนะคนอื่นได้
การดูกราฟ นึกไม่ออกว่าได้เปรียบตรงไหน เพราะ ทุกคนก็อ่านจากตำราเดียวกัน
ช่วงแรกก่อนการเข้ามาลงทุน ก็เป็นมนุษย์เงินเดือน หลังจากกลับมาเมืองไทย ก็ทำงานIB(Investment Banker)
ซึ่งทำงานหนักมาก ดังนั้นการลงทุนที่เหมาะกับงาน คือ ลงทุนแบบวีไอ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ เลือกหุ้นSuperstock
และเน้นถือ 5ปี , 10ปี ไม่ต้องคอยดูราคาตลอดเวลาเหมือนการใช้กราฟ แค่แกะงบรายไตรมาสเท่านั้น บางครั้ง
อาจไม่มีเวลาดูงบด้วย พอพอร์ตใหญ่ขึ้น เงินปันผลมากกว่าเงินเดือน ก็เลยเลิกทำงาน
คุณเชาว์ หลังจากศึกษาจบวิศวะที่จุฬา เรียนต่อโทMBAที่สหรัฐ ช่วงนั้นเจอวิกฤตต้มยำกุ้ง
เลยทำงานที่นั่นต่อเลย ได้มีโอกาสอ่าน Wallstreet Journal และไปสอบCFA ผ่านLevel3
อ่านและศึกษาเรื่องการลงทุน แต่ไม่รู้วิธีลงทุน จนกลับมาเมืองไทย อ่านหนังสือตีแตก ของดร นิเวศน์
จึงรู้จากหนังสือว่าการลงทุนอย่างไรให้ได้กำไร
หุ้นตัวแรก
เปิดพอร์ตในปี2005 พยายามหาหุ้นตัวแรกจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
เจอ 7-11 ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นCPALL แต่ถืออยู่เดือนนึงราคาไม่ไปไหน ก็เลยขายไป
ปีต่อมา เจอบริษัท BOL เป็นสิ่งที่เราใช้บริการข้อมูลอยู่พอดี ในการทำDue Deligent
เข้าใจว่าธุรกิจดี จึงศึกษาเพิ่มเติม ตอนซื้อนั้น market cap แค่160ลบ
ช่วงนั้นขาดทุนเล็กน้อย หรือ พึ่งBreakevenบ้าง ตอนนั้นสภาพคล่องหุ้นน้อยมาก
ซื้อได้วันละหมื่นกว่าบาท จนคิดเป็นสัดส่วน30%ของพอร์ต6ล้านบาท
ปี2553 พอร์ตโตแตะ100ลบ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 7 ปี ก็ early retireได้
ส่วนหุ้น10เด้งตัวที่สอง เจอจาก ตอนทำงานที่อโศก ช่วงเที่ยงก็ไปเดินทานข้าว
พบว่าเพื่อนผู้หญิงไปมุงเครื่องสำอาง แม่ค้าพูดและขายเก่งมาก
พลิกใต้ขวด พบว่าผู้ผลิตคือไดสตาร์ ซึ่งเคยเป็น FAให้ เลยโทรเข้าไปถาม
ได้ความว่าปีหน้ายอดขายโตเท่าตัว เลยซื้อหุ้นมาส่วนนึง
หลังจากนั้นมีโอกาสเข้าไปคุย เจอตัวลูกชายเจ้าของบริษัทออกมาคุยด้วย
โชคดีว่า เจ้าของบริษัทก็ออกมาคุยด้วย เพราะแปลกใจว่าไม่เคยมีคนมา
ถาม 10ปีแล้ว เคยบอกญาติ หรือเพื่อน ก็ไม่มีใครเชื่อมาซื้อหุ้น
คุณเชาว์เป็นคนแรกที่เข้ามาคุย ก็เลยได้รู้ข้อมูลอย่างละเอียด
และตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นจนได้หลายสิบเด้งในเวลาต่อมา
จากที่เคยเป็น IB เลยคุ้นเคยกับการโทรหาลูกค้า โดยทำList รายชื่อเพื่อโทรคุย
เนื้อหาที่เราจะได้หลังทำDue Diligence
รู้ว่าเจ้าของเป็นคนอย่างไร ได้คุยกับเพื่อนที่เป็นdealer พบว่าเจ้าของเป็นคนเขี้ยว ประหยัด ถือว่าดีต่อบริษัท
คุณเชาว์ถือหุ้น มองเป็นระยะยาว หวัง10เด้ง ดังนั้น ก็ไม่ซื้อๆขายๆ เพื่อหวังผลตอบแทนระยะสั้น
แต่บางครั้ง ก็เจอราคาหุ้นขึ้นและลงหลายรอบ ซึ่งจะรู้สึกเซ็งบ้าง เพราะพอร์ตสวิงหลักร้อยล้านบาทเลย
Home run ถ้าเราเลือกถูกตัวเท่านั้น จึงได้10เท่า แต่ระยะหลัง มีขายออกไปบ้าง หลังเรียนรู้จากรอบแรก
ด้วยวิธีแบบนี้ จึงไม่ค่อยโดน หรือโดนเล็กน้อย เพราะลงทุนแค่ 2%ของพอร์ต
แต่มีสิ่งนึง พลาดเยอะมาก คือทำงานเยอะมากจนไม่มีเวลา
มีหุ้นหลายเด้ง ถ้าศึกษาเยอะหน่อย ก็มีโอกาสได้10เด้ง
มี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์
มี่บอกว่า เข้ามาเป็นนักลงทุนแบบวีไอโดยบังเอิญ และมาฝึกฝนจนชำนาญ
มองย้อนกลับไป พบว่า ยังเลือกลงทุนแบบวีไอ เพราะตอบโจทย์ลงทุนแบบจริงจัง
องค์ประกอบในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ
1.กำไร
2.ปลอดภัย
3.มีความสุข
ตอนเรียนจบ ม3 มาขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง เพราะมีคนมาบอกว่ารายได้ดี
ต่อมาเปิดร้านเกมส์ ที่Big ลาดพร้าว ทำให้เก็บเงินได้หลายแสนบาท
พอเจ้าของที่มาไล่ ทำให้ตัดสินใจเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
มี่ บอกว่า หุ้นตัวแรกที่ลงทุน น่าจะเป็นThai แต่ตัวที่ได้กำไรอย่างมีนัยยะคือHMPRO
ซื้อ5บาท เจอราคาลงมาเหลือ 2บาท แล้วถือยาว ได้มา20-30เท่า
เจอหุ้นตัวนี้ เพราะตอนนั้น จะตกแต่งบ้าน เลยไปดูที่HMPRO
พบว่า มีการทำห้องน้ำ ห้องครัวตัวอย่างให้ลูกค้าชมด้วย
ช่วงsubprime ถือหุ้น8-9ตัว ขาดทุน เลยขายออกมา และไปซื้อหุ้นHMPROไว้เลย
มี่ถือตัวนี้จนได้2เท่า ก็ขายไปเพื่อซื้อตัวอื่นต่อ
ตลาดหุ้นมีการrotationในแต่ละกลุ่ม เปลี่ยนหุ้นเล่น
มี่รู้จักหุ้นเยอะ ตามหุ้นเยอะ ดังนั้นเวลาขายตัวเก่าไป และหาตัวใหม่ไปเล่นต่อ
หุ้นมีสองประเภท
1.หุ้นถูกจริง
2.หุ้นราคาถูก เพราะมันมีเหตุผล
เคสที่พลาดจริงๆ เช่นซื้อXioami ตอนราคา 9-10$ และราคาขึ้นไป 36-37$
ไม่ได้ขายตอนพีค
แต่ถ้าวิเคราะห์ระยะยาว ธุรกิจXiaomiชนะแน่
เรื่องIOT เชื่อว่า XiaomiชนะApple คิดเองว่า IOT ไม่มีใครจ่ายPremiumแน่
เพราะไม่ใช่อุปกรณ์ต้องใส่show เหมือนมือถือ
ดังนั้นจึงไม่ได้ขายตอนXiaomiราคา30กว่า$ ถือว่าเป็นความผิดพลาด
Theme: Basic Knowledge & Tips in investment
เชาว์ เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ
คุณเชาว์ บอกว่า ก่อนที่จะมาเป็นวีไอ หลายคนที่รู้จัก ก็ลองมาหลายแนว
แม้แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ยังเคยดูกราฟเลย
หลังจากลองมาหลายวิธี พบว่า การลงทุนให้ชนะในระยะยาว คือการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ถ้าเราตอบไม่ได้ว่า วิธีที่ใช้เหนือกว่าคนอื่นอย่างไร ก็จะไม่สามารถชนะคนอื่นได้
การดูกราฟ นึกไม่ออกว่าได้เปรียบตรงไหน เพราะ ทุกคนก็อ่านจากตำราเดียวกัน
ช่วงแรกก่อนการเข้ามาลงทุน ก็เป็นมนุษย์เงินเดือน หลังจากกลับมาเมืองไทย ก็ทำงานIB(Investment Banker)
ซึ่งทำงานหนักมาก ดังนั้นการลงทุนที่เหมาะกับงาน คือ ลงทุนแบบวีไอ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ เลือกหุ้นSuperstock
และเน้นถือ 5ปี , 10ปี ไม่ต้องคอยดูราคาตลอดเวลาเหมือนการใช้กราฟ แค่แกะงบรายไตรมาสเท่านั้น บางครั้ง
อาจไม่มีเวลาดูงบด้วย พอพอร์ตใหญ่ขึ้น เงินปันผลมากกว่าเงินเดือน ก็เลยเลิกทำงาน
คุณเชาว์ หลังจากศึกษาจบวิศวะที่จุฬา เรียนต่อโทMBAที่สหรัฐ ช่วงนั้นเจอวิกฤตต้มยำกุ้ง
เลยทำงานที่นั่นต่อเลย ได้มีโอกาสอ่าน Wallstreet Journal และไปสอบCFA ผ่านLevel3
อ่านและศึกษาเรื่องการลงทุน แต่ไม่รู้วิธีลงทุน จนกลับมาเมืองไทย อ่านหนังสือตีแตก ของดร นิเวศน์
จึงรู้จากหนังสือว่าการลงทุนอย่างไรให้ได้กำไร
หุ้นตัวแรก
เปิดพอร์ตในปี2005 พยายามหาหุ้นตัวแรกจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
เจอ 7-11 ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นCPALL แต่ถืออยู่เดือนนึงราคาไม่ไปไหน ก็เลยขายไป
ปีต่อมา เจอบริษัท BOL เป็นสิ่งที่เราใช้บริการข้อมูลอยู่พอดี ในการทำDue Deligent
เข้าใจว่าธุรกิจดี จึงศึกษาเพิ่มเติม ตอนซื้อนั้น market cap แค่160ลบ
ช่วงนั้นขาดทุนเล็กน้อย หรือ พึ่งBreakevenบ้าง ตอนนั้นสภาพคล่องหุ้นน้อยมาก
ซื้อได้วันละหมื่นกว่าบาท จนคิดเป็นสัดส่วน30%ของพอร์ต6ล้านบาท
ปี2553 พอร์ตโตแตะ100ลบ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 7 ปี ก็ early retireได้
ส่วนหุ้น10เด้งตัวที่สอง เจอจาก ตอนทำงานที่อโศก ช่วงเที่ยงก็ไปเดินทานข้าว
พบว่าเพื่อนผู้หญิงไปมุงเครื่องสำอาง แม่ค้าพูดและขายเก่งมาก
พลิกใต้ขวด พบว่าผู้ผลิตคือไดสตาร์ ซึ่งเคยเป็น FAให้ เลยโทรเข้าไปถาม
ได้ความว่าปีหน้ายอดขายโตเท่าตัว เลยซื้อหุ้นมาส่วนนึง
หลังจากนั้นมีโอกาสเข้าไปคุย เจอตัวลูกชายเจ้าของบริษัทออกมาคุยด้วย
โชคดีว่า เจ้าของบริษัทก็ออกมาคุยด้วย เพราะแปลกใจว่าไม่เคยมีคนมา
ถาม 10ปีแล้ว เคยบอกญาติ หรือเพื่อน ก็ไม่มีใครเชื่อมาซื้อหุ้น
คุณเชาว์เป็นคนแรกที่เข้ามาคุย ก็เลยได้รู้ข้อมูลอย่างละเอียด
และตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นจนได้หลายสิบเด้งในเวลาต่อมา
จากที่เคยเป็น IB เลยคุ้นเคยกับการโทรหาลูกค้า โดยทำList รายชื่อเพื่อโทรคุย
เนื้อหาที่เราจะได้หลังทำDue Diligence
รู้ว่าเจ้าของเป็นคนอย่างไร ได้คุยกับเพื่อนที่เป็นdealer พบว่าเจ้าของเป็นคนเขี้ยว ประหยัด ถือว่าดีต่อบริษัท
คุณเชาว์ถือหุ้น มองเป็นระยะยาว หวัง10เด้ง ดังนั้น ก็ไม่ซื้อๆขายๆ เพื่อหวังผลตอบแทนระยะสั้น
แต่บางครั้ง ก็เจอราคาหุ้นขึ้นและลงหลายรอบ ซึ่งจะรู้สึกเซ็งบ้าง เพราะพอร์ตสวิงหลักร้อยล้านบาทเลย
Home run ถ้าเราเลือกถูกตัวเท่านั้น จึงได้10เท่า แต่ระยะหลัง มีขายออกไปบ้าง หลังเรียนรู้จากรอบแรก
ด้วยวิธีแบบนี้ จึงไม่ค่อยโดน หรือโดนเล็กน้อย เพราะลงทุนแค่ 2%ของพอร์ต
แต่มีสิ่งนึง พลาดเยอะมาก คือทำงานเยอะมากจนไม่มีเวลา
มีหุ้นหลายเด้ง ถ้าศึกษาเยอะหน่อย ก็มีโอกาสได้10เด้ง
มี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์
มี่บอกว่า เข้ามาเป็นนักลงทุนแบบวีไอโดยบังเอิญ และมาฝึกฝนจนชำนาญ
มองย้อนกลับไป พบว่า ยังเลือกลงทุนแบบวีไอ เพราะตอบโจทย์ลงทุนแบบจริงจัง
องค์ประกอบในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ
1.กำไร
2.ปลอดภัย
3.มีความสุข
ตอนเรียนจบ ม3 มาขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง เพราะมีคนมาบอกว่ารายได้ดี
ต่อมาเปิดร้านเกมส์ ที่Big ลาดพร้าว ทำให้เก็บเงินได้หลายแสนบาท
พอเจ้าของที่มาไล่ ทำให้ตัดสินใจเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
มี่ บอกว่า หุ้นตัวแรกที่ลงทุน น่าจะเป็นThai แต่ตัวที่ได้กำไรอย่างมีนัยยะคือHMPRO
ซื้อ5บาท เจอราคาลงมาเหลือ 2บาท แล้วถือยาว ได้มา20-30เท่า
เจอหุ้นตัวนี้ เพราะตอนนั้น จะตกแต่งบ้าน เลยไปดูที่HMPRO
พบว่า มีการทำห้องน้ำ ห้องครัวตัวอย่างให้ลูกค้าชมด้วย
ช่วงsubprime ถือหุ้น8-9ตัว ขาดทุน เลยขายออกมา และไปซื้อหุ้นHMPROไว้เลย
มี่ถือตัวนี้จนได้2เท่า ก็ขายไปเพื่อซื้อตัวอื่นต่อ
ตลาดหุ้นมีการrotationในแต่ละกลุ่ม เปลี่ยนหุ้นเล่น
มี่รู้จักหุ้นเยอะ ตามหุ้นเยอะ ดังนั้นเวลาขายตัวเก่าไป และหาตัวใหม่ไปเล่นต่อ
หุ้นมีสองประเภท
1.หุ้นถูกจริง
2.หุ้นราคาถูก เพราะมันมีเหตุผล
เคสที่พลาดจริงๆ เช่นซื้อXioami ตอนราคา 9-10$ และราคาขึ้นไป 36-37$
ไม่ได้ขายตอนพีค
แต่ถ้าวิเคราะห์ระยะยาว ธุรกิจXiaomiชนะแน่
เรื่องIOT เชื่อว่า XiaomiชนะApple คิดเองว่า IOT ไม่มีใครจ่ายPremiumแน่
เพราะไม่ใช่อุปกรณ์ต้องใส่show เหมือนมือถือ
ดังนั้นจึงไม่ได้ขายตอนXiaomiราคา30กว่า$ ถือว่าเป็นความผิดพลาด